พูดถึง อุทยานแห่งชาติภูกระดึง
สิ่งที่จะคิดถึงคือ ความสวยงามของธรรมชาติ ที่ต้องแลกมาด้วยความเหนื่อย แต่แสนจะคุ้มค่า

ทริปนี้เริ่มจากที่มีพี่ที่รู้จักกันท่านหนึ่ง ชวนไปขึ้นภูกระดึง

ทำให้คิดถึง ทริปภูกระดึงล่าสุดเมื่อ ปี 2532 ที่ไปกับเพื่อน เป็นเวลา 24 ปีแล้ว นะนั้น
ในใจคิดอยากไปอีกสักครั้ง แต่ก็มีโปรแกรม สวิสเซอร์แลนด์ ที่มองๆ อยู่ ว่าจะพาลูกไปช่วงปิดเทอม
ลึกๆ ในใจก็กลัวตัวเองจะไม่ไหว เพราะครั้งหลังที่ขึ้น เป็นต้นขาเป็นตะคริวทั้ง 2 ข้าง
แล้วตอนนี้ อายุ และ น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นกว่าเดิมอีกด้วย

แต่ด้วยความอยากไป เลยลองถามๆ สมาชิกที่บ้าน ได้ขอสรุปว่า ไปภูกระดึง
ด้วยเหตุผลที่ว่า พ่อกับแม่ แก่กว่านี้ ก็ยังน่าจะไปสวิสได้ แต่ไปภูกระดึง อาจจะไม่ไหว
ส่วนภรรยา ก็บอกว่าค่อยๆ ขึ้น เหนื่อยก็พัก ไม่ต้องรีบ น่าจะไหว ถ้าไม่ไหวจริงๆ ก็เดินลงมาหาที่พักด้านล่าง
เลยตอบตกลงไปกับพี่เขา




ตกลงวันเดินทาง 15.10.56
นอนบนภูกระดึง 16-18.10.56 จำนวน 3 คืน บ้านพัก พี่ เขาเป็นธุระทำการจองให้ ล่วงหน้าประมาณ 2 เดือน
วันที่ 19.10.56 เดินลง และ กลับ กทม.คืนนั้น

ช่วงเดือนกว่าๆ ก่อนเดินทาง
สรุปการเดินทางใช้ รถ บขส. VIP ไป-กลับ ส่วนพี่อีกกลุ่มขับรถไปเอง

การจองตั๋ว ว่าจะจองผ่านเวป เข้าไปก็ งงๆ ไม่เห็นมี ปลายทางภูกระดึง
โทรไป Call Center ก็ได้ข้อมูลไม่ชัดเจน ขัดแย้งกับข้อมูลจากเพื่อนๆ ในพันทิป
เลยต้องไปจองที่หมอชิต เพื่อจะได้สอบถามเจ้าหน้าที่ ให้ชัดเจนดีกว่า
ไปถึงเจ้าหน้าที่ยัง งงๆ คิดว่าได้แค่ เดือนเดียว ก็เลยบอกไปว่า ดูบนเวป เปิดจองแล้วนะ
สรุปจองล่วงหน้าได้ 2 เดือน และจองไปกลับได้เลย แต่ให้แจ้งเจ้าหน้าที่บนรถว่าลง ร้านเจ๊กิม ผานกเค้า
ส่วนเที่ยวกลับก็ควรจะแจ้งทางต้นทางว่ารอขึ้นรถที่ร้านเจ๊กิม ผานกเค้า



จากนั้นก็วางแผนการเดินเที่ยว เตรียมอุปกรณ์ ที่ต้องใช้บนภูกระดึง
จนใกล้วันเดินทาง สมาชิกที่บ้านป่วย เป็นไข้หวัดใหญ่ กัน 2 คน แต่โชคดีที่หายทัน