สวัสดีครับ วันนี้ผมนั่งทำรีวิวแกะกล่องมือถือรุ่นใหม่ Nokia Lumia 1520 ตัวนี้สเปคแรง ถือว่าจัดเต็มมาก ๆ
รีวิวในส่วนแรกจะเป็นการแกะกล่องนะครับ (จริง ๆ อยากจะรวมเป็นกระทู้เดียว แต่ว่ายาวเกิน ทำเสร็จทีแทบสลบ)
ผมจะพยายามรีวิวให้ละเอียดนะ เพราะผมเป็นคนชอบตามอ่านรีวิวในรุ่นที่สนใจ ซึ่งบางอย่างเขาจะไม่รีวิวกัน
ผมได้มือถือมารีวิวแล้วก็จะพยายามให้เกิดประโยชน์กับคนอ่านมากที่สุดนะครับ
ปล. วันนี้พิเศษกว่าคราวก่อนมีฟีเจอร์บอร์ดมาทำพื้นหลังด้วย ^^"
ตัว Lumia 1520 จะมีทั้งหมด 4 สี นะครับ คือ แดง, เหลือง, ขาว และ ดำ
สเปคคร่าว ๆ
- จอ IPS LCD 6 นิ้ว Full HD ให้สีตรงเป็นธรรมชาติกว่า AMOLED
- CPU ใช้ Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- RAM 2 GB
- รันด้วยระบบ Windows Phone 8 (Lumia Black Update)
- รองรับทั้ง 2G 3G 4G ทุกค่ายในไทย
- กล้องความละเอียด 20MP กล้องหน้า 1.2MP
- ถ่ายวิดีโอ Full HD
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
- รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 64 GB
- แบตเตอรี่ Li-Ion 3400 mAh แบตอึดมาก ๆ
- ใช้ Nano SIM แบบใน iPhone 5
- น้ำหนัก 209 กรัม
ส่วนสเปคอย่างละเอียดอ่านได้จากใน Link ด้านล่างครับ
http://www.thaimobilecenter.com/spec/Nokia-Lumia-1520.asp
กล่องของ Lumia 1520 วางเทียบกับของ Lumia 1020
ความยาวและความกว้างมากกว่าของ Lumia 1020
ส่วนความสูงจะน้อยกว่า ตัวกล่องของ Lumia 1520 จะเท่ากับของ Lumia 925
อุปกรณ์ภายใน
- มือถือ Nokia Lumia 1520
- สาย Micro USB
- ที่ชาร์จ (ในรูปเป็นของยุโรปนะครับ ของไทยจะอีกแบบหนึ่ง)
- หูฟัง พร้อมจุกยางอีก 3 ขนาด
- ที่เปิดซิมและเมมการ์ด
- คู่มือ
ที่ชาร์จใช้ของเหมือนกับ 1020 นะครับ มี Output เท่ากัน (ดูที่ Output เป็นหลักนะครับ ไม่ต้องดูลักษณะภายนอก)
ที่ชาร์จของ Lumia 1520 และ 1020 มี Output ออกมามากกว่ารุ่นก่อนหน้าคือ DC 5V, 1.5A
Lumia 1520 + ที่ชาร์จของ Lumia 1520 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 2 ชั่วโมง 30 นาที กว่า ๆ (จากแบตเหลือ 1% ถึง 100%)
Lumia 1020 + ที่ชาร์จของ Lumia 1020 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 1 ชั่วโมง 25 นาที (จากแบตเหลือ 2% ถึง 100%)
Lumia 925 + ที่ชาร์จของ Lumia 925 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 2 ชั่วโมง 15 นาที (จากแบตเหลือ 2% ถึง 100%)
หมายเหตุ :
ทั้ง 1020 และ 925 ใช้ CPU Snapdragon S4 Plus ตัวเดียวกัน ซึ่งจะมี
Quick Charge 1.0 ช่วยในการชาร์จเร็ว และมีแบต 2,000 mAh
ส่วน Lumia 1520 ใช้ CPU Snapdragon 800 ซึ่งจะมี
Quick Charge 2.0 ช่วยในการชาร์จเร็วกว่ารุ่นก่อน และมีแบต 3,400 mAh
ตัวหูฟังจะเหมือนของ 1020, 925, 920 พอเบิร์น 50-100 ชม. เสร็จ เสียงก็พอใช้ได้
ตัวปุ่มควบคุม 1 ปุ่ม ใช้สำหรับคำสั่งต่าง ๆ
- กด 1 ที หยุดเพลง เล่นเพลงต่อ
- กด 2 ที เปลี่ยนเพลง
- กด 3 ที ถ้ากดตอนต้นเพลงคือย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า ถ้ากดกลางเพลงคือเริ่มเล่นเพลงเดิมซ้ำใหม่
- กดค้าง คำสั่งเสียง
ส่วนที่เปิดซิมและเมมการ์ดจะแตกต่างจากของเดิม
ถ้าชอบฟังเพลงจริง ๆ แนะนำให้ซื้อหูฟัง
Monster ที่ใช้คู่กับ Nokia Lumia
เสียงจะออกมาดีกว่า กำลังขับดีกว่า ใช้คุยโทรศัพท์ได้เหมือนกัน คุณจะมีความสุขในการฟังเพลงมาก ๆ
มีแผ่นพลาสติกใสใส่กันช่องใส่ซิมไว้ ตอนใช้งานครั้งแรกจะได้ใส่ง่าย ๆ
รุ่นนี้ใช้ซิมแบบ Nano SIM เหมือนใน iPhone 5 ดังนั้นตอนซื้อไปเปลี่ยนซิมที่ศูนย์ด้วยนะครับ
ช่องใส่เมมจะอยู่ด้านซ้าย ใส่ได้สูงสุด 64GB ส่วนช่องใส่ซิมจะอยู่ด้านขวา ใช้ Nano SIM นะครับ
ใช้เข็มจิ้มเพื่อเปิดนะครับ
ด้านหน้า วางเทียบระหว่าง Lumia 1020 (4.5 นิ้ว) และ 1520 (6 นิ้ว)
เทียบด้านหลัง ตัวกล้องของ Lumia 1520 จะนูนเหมือนกับ Lumia 925
เทียบด้านข้าง ตัวเครื่องของ Lumia 1520 บางกว่า Lumia 1020
ตำแหน่งปุ่มจะวางเหมือนกัน
รุ่นนี้มีไมโครโฟนแบบ HAAC (High Amplitude Audio Capture) ถึง 4 ตัว ใส่มามากกว่ารุ่นก่อนนะครับ
ใช้สำหรับสนทนา ตัดเสียงรบกวน บันทึกเสียง ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ
ส่วนตำแหน่งของไมโครโฟนดูได้จากด้านล่างครับ
ด้านบน จะมีช่องใส่หูฟัง, เซ็นเซอร์วัดแสง-ตรวจวัตถุที่บังหน้าจอ, ไมโครโฟน, ลำโพงสนทนา, กล้องหน้า
ด้านล่าง จะมีช่อง Micro USB, ไมโครโฟนสนทนา, ปุ่มเมนู
ด้านหลัง จะมีช่องลำโพง, ไมโครโฟนอีก 2 ตัว, กล้องเซ็นเซอร์ความละเอียด 20MP, ไฟแฟลช
ลำโพงถือว่าเสียงดังใช้ได้ แต่ความดังและคุณภาพเสียงของ Lumia 1020 จะดีกว่า
มาถึงอุปกรณ์เสริม เป็นเคสพร้อมที่ปิดหน้าจอ
วิธีใส่เคสให้ใส่ที่มุมล่างซ้ายก่อน จากนั้นเอียงมือถือใส่มุมขวาบนและขวาล่าง จากนั้นถึงค่อยกดมือถือที่มุมซ้ายบนลงไป
ด้านใน
เมื่อใส่โทรศัพท์
เมื่อปิดฝา
ตัวเคสจะมีช่องสำหรับให้เสียงจากลำโพงออกมา เวลาวางก็จะไม่โดนบังลำโพง
เวลาดูหนังแนวนอนเสียงก็จะมาแต่ทางด้านขวา แต่ถ้าถือแนวตั้งเสียงก็ดีไม่ได้มีปัญหาอะไร
ตัวฝาปิดด้านในจะนุ่ม ๆ
ส่วนฝาปิดด้านนอกจะเหมือนยางกันลื่น
ส่วนปุ่มกดไม่ได้รับการป้องกันอะไร มีแค่ตรงมุมที่ป้องกันไว้
เมื่อใส่เคส เวลาเปลี่ยนซิมยังพอได้
ส่วนเมมการ์ดควรถอดเคสออกมุมหนึ่งก่อนถึงจะเอาออกได้ (ติดขอบฝานิด ๆ)
ด้านหลังของเคสเป็นพลาสติกเนื้อดี มีเจาะรูสำหรับกล้อง ไฟแฟลช และไมโครโฟน
เมื่อพับฝาสามารถทำเป็นที่ตั้งมือถือได้
ด้านข้าง เห็นฐานเล็ก ๆ แต่มั่นคงดี
จากการใช้งานมา 2-3 วัน
- แบตอึดดีมาก นี้ขนาดอยู่ในช่วงที่เซลแบตกระตุ้นไม่เต็มที่ยังอึดขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะใส่แบตมาเยอะและตัวเครื่องประหยัดพลังงาน
- หน้าจอ 6 นิ้วใหญ่มาก ดูง่ายดี พอใช้สักพักเริ่มชิน คราวนี้พอกลับมาหาเครื่องเก่ารู้สึกจอเล็กไปเลย
- พื้นที่ใช้งานเยอะดี ใส่ LiveTile ให้แสดงรายละเอียดได้เยอะ
- กล้องใช้งานได้ดี สีตรง แต่ถ่ายในที่มืดไม่สว่างเวอร์เท่ารุ่นก่อน น่าจะเป็นเพราะ รูรับแสง F/2.4
- ใช้เวลาชาร์จมากกว่า Lumia 925 ไม่นานมาก ทั้งที่ใส่แบตมาเยอะกว่ามาก ๆ
- เหมาะกับการดูทีวีและวิดีโอมาก ๆ ใช้คู่กับแอพ MoliPlayer Pro แจ่มเลย
- จอ LCD สีตรงเป็นธรรมชาติดี สีตรงกว่าจอ AMOLED
- เครื่องทำงานได้ลื่นไหลดีเหมือน WP8 ตัวอื่น ๆ
- อื่น ๆ ก็ดีเหมือน Nokia Lumia ตัวอื่นครับ เช่น แผนที่ วัสดุ งานประกอบ หน้าจอ ฯลฯ
ขอบคุณครับ
[SR] [ตอนที่ 1] แกะกล่อง Nokia Lumia 1520 กล้องชัด หน้าจอใหญ่ แบตเยอะ
รีวิวในส่วนแรกจะเป็นการแกะกล่องนะครับ (จริง ๆ อยากจะรวมเป็นกระทู้เดียว แต่ว่ายาวเกิน ทำเสร็จทีแทบสลบ)
ผมจะพยายามรีวิวให้ละเอียดนะ เพราะผมเป็นคนชอบตามอ่านรีวิวในรุ่นที่สนใจ ซึ่งบางอย่างเขาจะไม่รีวิวกัน
ผมได้มือถือมารีวิวแล้วก็จะพยายามให้เกิดประโยชน์กับคนอ่านมากที่สุดนะครับ
ปล. วันนี้พิเศษกว่าคราวก่อนมีฟีเจอร์บอร์ดมาทำพื้นหลังด้วย ^^"
ตัว Lumia 1520 จะมีทั้งหมด 4 สี นะครับ คือ แดง, เหลือง, ขาว และ ดำ
สเปคคร่าว ๆ
- จอ IPS LCD 6 นิ้ว Full HD ให้สีตรงเป็นธรรมชาติกว่า AMOLED
- CPU ใช้ Qualcomm MSM8974 Snapdragon 800 ความเร็วในการประมวลผล 2.2 GHz
- RAM 2 GB
- รันด้วยระบบ Windows Phone 8 (Lumia Black Update)
- รองรับทั้ง 2G 3G 4G ทุกค่ายในไทย
- กล้องความละเอียด 20MP กล้องหน้า 1.2MP
- ถ่ายวิดีโอ Full HD
- หน่วยความจำภายในขนาด 32 GB
- รองรับ microSD Card ได้สูงสุด 64 GB
- แบตเตอรี่ Li-Ion 3400 mAh แบตอึดมาก ๆ
- ใช้ Nano SIM แบบใน iPhone 5
- น้ำหนัก 209 กรัม
ส่วนสเปคอย่างละเอียดอ่านได้จากใน Link ด้านล่างครับ
http://www.thaimobilecenter.com/spec/Nokia-Lumia-1520.asp
กล่องของ Lumia 1520 วางเทียบกับของ Lumia 1020
ความยาวและความกว้างมากกว่าของ Lumia 1020
ส่วนความสูงจะน้อยกว่า ตัวกล่องของ Lumia 1520 จะเท่ากับของ Lumia 925
อุปกรณ์ภายใน
- มือถือ Nokia Lumia 1520
- สาย Micro USB
- ที่ชาร์จ (ในรูปเป็นของยุโรปนะครับ ของไทยจะอีกแบบหนึ่ง)
- หูฟัง พร้อมจุกยางอีก 3 ขนาด
- ที่เปิดซิมและเมมการ์ด
- คู่มือ
ที่ชาร์จใช้ของเหมือนกับ 1020 นะครับ มี Output เท่ากัน (ดูที่ Output เป็นหลักนะครับ ไม่ต้องดูลักษณะภายนอก)
ที่ชาร์จของ Lumia 1520 และ 1020 มี Output ออกมามากกว่ารุ่นก่อนหน้าคือ DC 5V, 1.5A
Lumia 1520 + ที่ชาร์จของ Lumia 1520 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 2 ชั่วโมง 30 นาที กว่า ๆ (จากแบตเหลือ 1% ถึง 100%)
Lumia 1020 + ที่ชาร์จของ Lumia 1020 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 1 ชั่วโมง 25 นาที (จากแบตเหลือ 2% ถึง 100%)
Lumia 925 + ที่ชาร์จของ Lumia 925 ใช้เวลาชาร์จทั้งหมด 2 ชั่วโมง 15 นาที (จากแบตเหลือ 2% ถึง 100%)
หมายเหตุ :
ทั้ง 1020 และ 925 ใช้ CPU Snapdragon S4 Plus ตัวเดียวกัน ซึ่งจะมี Quick Charge 1.0 ช่วยในการชาร์จเร็ว และมีแบต 2,000 mAh
ส่วน Lumia 1520 ใช้ CPU Snapdragon 800 ซึ่งจะมี Quick Charge 2.0 ช่วยในการชาร์จเร็วกว่ารุ่นก่อน และมีแบต 3,400 mAh
ตัวหูฟังจะเหมือนของ 1020, 925, 920 พอเบิร์น 50-100 ชม. เสร็จ เสียงก็พอใช้ได้
ตัวปุ่มควบคุม 1 ปุ่ม ใช้สำหรับคำสั่งต่าง ๆ
- กด 1 ที หยุดเพลง เล่นเพลงต่อ
- กด 2 ที เปลี่ยนเพลง
- กด 3 ที ถ้ากดตอนต้นเพลงคือย้อนกลับไปเพลงก่อนหน้า ถ้ากดกลางเพลงคือเริ่มเล่นเพลงเดิมซ้ำใหม่
- กดค้าง คำสั่งเสียง
ส่วนที่เปิดซิมและเมมการ์ดจะแตกต่างจากของเดิม
ถ้าชอบฟังเพลงจริง ๆ แนะนำให้ซื้อหูฟัง Monster ที่ใช้คู่กับ Nokia Lumia
เสียงจะออกมาดีกว่า กำลังขับดีกว่า ใช้คุยโทรศัพท์ได้เหมือนกัน คุณจะมีความสุขในการฟังเพลงมาก ๆ
มีแผ่นพลาสติกใสใส่กันช่องใส่ซิมไว้ ตอนใช้งานครั้งแรกจะได้ใส่ง่าย ๆ
รุ่นนี้ใช้ซิมแบบ Nano SIM เหมือนใน iPhone 5 ดังนั้นตอนซื้อไปเปลี่ยนซิมที่ศูนย์ด้วยนะครับ
ช่องใส่เมมจะอยู่ด้านซ้าย ใส่ได้สูงสุด 64GB ส่วนช่องใส่ซิมจะอยู่ด้านขวา ใช้ Nano SIM นะครับ
ใช้เข็มจิ้มเพื่อเปิดนะครับ
ด้านหน้า วางเทียบระหว่าง Lumia 1020 (4.5 นิ้ว) และ 1520 (6 นิ้ว)
เทียบด้านหลัง ตัวกล้องของ Lumia 1520 จะนูนเหมือนกับ Lumia 925
เทียบด้านข้าง ตัวเครื่องของ Lumia 1520 บางกว่า Lumia 1020
ตำแหน่งปุ่มจะวางเหมือนกัน
รุ่นนี้มีไมโครโฟนแบบ HAAC (High Amplitude Audio Capture) ถึง 4 ตัว ใส่มามากกว่ารุ่นก่อนนะครับ
ใช้สำหรับสนทนา ตัดเสียงรบกวน บันทึกเสียง ซึ่งให้คุณภาพเสียงที่ดีมาก ๆ
ส่วนตำแหน่งของไมโครโฟนดูได้จากด้านล่างครับ
ด้านบน จะมีช่องใส่หูฟัง, เซ็นเซอร์วัดแสง-ตรวจวัตถุที่บังหน้าจอ, ไมโครโฟน, ลำโพงสนทนา, กล้องหน้า
ด้านล่าง จะมีช่อง Micro USB, ไมโครโฟนสนทนา, ปุ่มเมนู
ด้านหลัง จะมีช่องลำโพง, ไมโครโฟนอีก 2 ตัว, กล้องเซ็นเซอร์ความละเอียด 20MP, ไฟแฟลช
ลำโพงถือว่าเสียงดังใช้ได้ แต่ความดังและคุณภาพเสียงของ Lumia 1020 จะดีกว่า
มาถึงอุปกรณ์เสริม เป็นเคสพร้อมที่ปิดหน้าจอ
วิธีใส่เคสให้ใส่ที่มุมล่างซ้ายก่อน จากนั้นเอียงมือถือใส่มุมขวาบนและขวาล่าง จากนั้นถึงค่อยกดมือถือที่มุมซ้ายบนลงไป
ด้านใน
เมื่อใส่โทรศัพท์
เมื่อปิดฝา
ตัวเคสจะมีช่องสำหรับให้เสียงจากลำโพงออกมา เวลาวางก็จะไม่โดนบังลำโพง
เวลาดูหนังแนวนอนเสียงก็จะมาแต่ทางด้านขวา แต่ถ้าถือแนวตั้งเสียงก็ดีไม่ได้มีปัญหาอะไร
ตัวฝาปิดด้านในจะนุ่ม ๆ
ส่วนฝาปิดด้านนอกจะเหมือนยางกันลื่น
ส่วนปุ่มกดไม่ได้รับการป้องกันอะไร มีแค่ตรงมุมที่ป้องกันไว้
เมื่อใส่เคส เวลาเปลี่ยนซิมยังพอได้
ส่วนเมมการ์ดควรถอดเคสออกมุมหนึ่งก่อนถึงจะเอาออกได้ (ติดขอบฝานิด ๆ)
ด้านหลังของเคสเป็นพลาสติกเนื้อดี มีเจาะรูสำหรับกล้อง ไฟแฟลช และไมโครโฟน
เมื่อพับฝาสามารถทำเป็นที่ตั้งมือถือได้
ด้านข้าง เห็นฐานเล็ก ๆ แต่มั่นคงดี
จากการใช้งานมา 2-3 วัน
- แบตอึดดีมาก นี้ขนาดอยู่ในช่วงที่เซลแบตกระตุ้นไม่เต็มที่ยังอึดขนาดนี้ น่าจะเป็นเพราะใส่แบตมาเยอะและตัวเครื่องประหยัดพลังงาน
- หน้าจอ 6 นิ้วใหญ่มาก ดูง่ายดี พอใช้สักพักเริ่มชิน คราวนี้พอกลับมาหาเครื่องเก่ารู้สึกจอเล็กไปเลย
- พื้นที่ใช้งานเยอะดี ใส่ LiveTile ให้แสดงรายละเอียดได้เยอะ
- กล้องใช้งานได้ดี สีตรง แต่ถ่ายในที่มืดไม่สว่างเวอร์เท่ารุ่นก่อน น่าจะเป็นเพราะ รูรับแสง F/2.4
- ใช้เวลาชาร์จมากกว่า Lumia 925 ไม่นานมาก ทั้งที่ใส่แบตมาเยอะกว่ามาก ๆ
- เหมาะกับการดูทีวีและวิดีโอมาก ๆ ใช้คู่กับแอพ MoliPlayer Pro แจ่มเลย
- จอ LCD สีตรงเป็นธรรมชาติดี สีตรงกว่าจอ AMOLED
- เครื่องทำงานได้ลื่นไหลดีเหมือน WP8 ตัวอื่น ๆ
- อื่น ๆ ก็ดีเหมือน Nokia Lumia ตัวอื่นครับ เช่น แผนที่ วัสดุ งานประกอบ หน้าจอ ฯลฯ
ขอบคุณครับ