เคยสงสัยไหมว่า "หุ้นที่เราถืออยู่ติดอันดับมูลค่าการขายชอร์ต" หมายความว่าอย่างไร และส่งผลอย่างไรต่อหุ้นตัวนั้น
- ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกับ "ธุรกรรม SBL" กันก่อนค่ะ
SBL คือ ธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ Securities Bollowing and Lending โดยการทำธุรกรรมมี 2 ฝ่าย คือ
1. ผู้ให้ยืม (Lender)
2. ผู้ยืม (Borrower)
ประโยชน์จากการทำ SBL คือ
1. สำหรับผู้ให้ยืม ที่มีหุ้นใน SET 50 Index ในลักษณะการลงท...ุนเพื่อรับปันผล สามารถให้บริษัทหลักทรัพย์ยืมได้ โดยผู้ให้ยืมจะได้รับค่าธรรมเนียมการให้ยืม เป็นการเพิ่มรายได้ในการลงทุนอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการรับเงินปันผล
2. สำหรับผู้ยืม ขณะที่ตลาดมีทิศทางขาลง นักลงทุนผู้ยืมที่ไม่มีหุ้นในพอร์ต สามารถยืมหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ จากนั้นทำการขายชอร์ต (เป็นการขายแพง แล้วซื้อถูก) โดยเสียค่าธรรมเนียมการยืมหุ้น ซึ่งสามารถเลือกที่จะซื้อแล้วขายเป็นรอบๆ ตามต้องการ หรือเลือกที่จะซื้อคืนเพื่อปิดสถานะการยืม ก็จะเป็นการเพิ่มรายได้จากการลงทุนอีกทางหนึ่ง (กรณีที่คาดทิศทางของตลาดถูกต้อง)
- หุ้นที่เราถืออยู่ติดอันดับมูลค่าการขายชอร์ต แสดงว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดมีทิศทางขาลงและราคาหุ้นตัวนั้นมีโอกาสลงตามตลาด หรือราคาหุ้นในปัจจุบันสูงเกินไปและคาดว่าจะปรับตัวลงในอนาคต นักลงทุนจึงทำการยืมหุ้นตัวนั้นจากโบรกเกอร์เพื่อไปขายไว้ก่อนและเงินค่าขายนั้นก็จะกลายเป็นต้นทุน เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงตามความคาดการณ์จึงเข้าไปซื้อหุ้น (จำนวนหุ้นเท่ากับที่ยืมมา แต่ในราคาที่ถูกกว่า) เพื่อไปคืนโบรกเกอร์ที่ให้ยืมหุ้นนั้น ส่วนต่างระหว่างค่าขายและค่าที่เข้าไปซื้อคืนในภายหลังก็คือ กำไร
แต่ถ้าหากหุ้นที่คาดว่าราคาจะลดลงกลับขึ้น ราคาที่ต้องเข้าไปซื้อคืน (จำนวนหุ้นเท่ากับที่ยืมมา แต่ในราคาที่สูงกว่า)ให้กับโบรกเกอร์ก็จะมากกว่าต้นทุนค่าขายที่ได้มาก็ ขาดทุนได้เหมือนกันค่ะ
- แล้วส่งผลอย่างไรต่อหุ้นตัวนั้น
พอคนส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเดียวกันว่าราคาหุ้นจะลง และยืมหุ้นมาชอร์ตเยอะๆ ราคาก็มีโอกาสลงเยอะเช่นกัน (ขายมากกว่าซื้อ ราคาก็ลง)
ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99/481984365250838?ref=hl 
เคยสงสัยไหมว่า "หุ้นที่เราถืออยู่ติดอันดับมูลค่าการขายชอร์ต" หมายความว่าอย่างไร และส่งผลอย่างไรต่อหุ้นตัวนั้น
- ก่อนอื่นเราต้องทำความเข้าใจกับ "ธุรกรรม SBL" กันก่อนค่ะ
SBL คือ ธุรกรรมยืมและให้ยืมหลักทรัพย์ Securities Bollowing and Lending โดยการทำธุรกรรมมี 2 ฝ่าย คือ
1. ผู้ให้ยืม (Lender)
2. ผู้ยืม (Borrower)
ประโยชน์จากการทำ SBL คือ
1. สำหรับผู้ให้ยืม ที่มีหุ้นใน SET 50 Index ในลักษณะการลงท...ุนเพื่อรับปันผล สามารถให้บริษัทหลักทรัพย์ยืมได้ โดยผู้ให้ยืมจะได้รับค่าธรรมเนียมการให้ยืม เป็นการเพิ่มรายได้ในการลงทุนอีกทางหนึ่ง นอกเหนือจากการรับเงินปันผล
2. สำหรับผู้ยืม ขณะที่ตลาดมีทิศทางขาลง นักลงทุนผู้ยืมที่ไม่มีหุ้นในพอร์ต สามารถยืมหุ้นกับบริษัทหลักทรัพย์ จากนั้นทำการขายชอร์ต (เป็นการขายแพง แล้วซื้อถูก) โดยเสียค่าธรรมเนียมการยืมหุ้น ซึ่งสามารถเลือกที่จะซื้อแล้วขายเป็นรอบๆ ตามต้องการ หรือเลือกที่จะซื้อคืนเพื่อปิดสถานะการยืม ก็จะเป็นการเพิ่มรายได้จากการลงทุนอีกทางหนึ่ง (กรณีที่คาดทิศทางของตลาดถูกต้อง)
- หุ้นที่เราถืออยู่ติดอันดับมูลค่าการขายชอร์ต แสดงว่านักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า ตลาดมีทิศทางขาลงและราคาหุ้นตัวนั้นมีโอกาสลงตามตลาด หรือราคาหุ้นในปัจจุบันสูงเกินไปและคาดว่าจะปรับตัวลงในอนาคต นักลงทุนจึงทำการยืมหุ้นตัวนั้นจากโบรกเกอร์เพื่อไปขายไว้ก่อนและเงินค่าขายนั้นก็จะกลายเป็นต้นทุน เมื่อราคาหุ้นปรับตัวลดลงตามความคาดการณ์จึงเข้าไปซื้อหุ้น (จำนวนหุ้นเท่ากับที่ยืมมา แต่ในราคาที่ถูกกว่า) เพื่อไปคืนโบรกเกอร์ที่ให้ยืมหุ้นนั้น ส่วนต่างระหว่างค่าขายและค่าที่เข้าไปซื้อคืนในภายหลังก็คือ กำไร
แต่ถ้าหากหุ้นที่คาดว่าราคาจะลดลงกลับขึ้น ราคาที่ต้องเข้าไปซื้อคืน (จำนวนหุ้นเท่ากับที่ยืมมา แต่ในราคาที่สูงกว่า)ให้กับโบรกเกอร์ก็จะมากกว่าต้นทุนค่าขายที่ได้มาก็ ขาดทุนได้เหมือนกันค่ะ
- แล้วส่งผลอย่างไรต่อหุ้นตัวนั้น
พอคนส่วนใหญ่มองไปในทิศทางเดียวกันว่าราคาหุ้นจะลง และยืมหุ้นมาชอร์ตเยอะๆ ราคาก็มีโอกาสลงเยอะเช่นกัน (ขายมากกว่าซื้อ ราคาก็ลง)
ข้อมูลจาก
https://www.facebook.com/pages/%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B9%84%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%B8%E0%B9%89%E0%B8%99/481984365250838?ref=hl