บทความนี้ เขียนขึ้นด้วยความเข้าใจการเมือง และ ลักษณะนิสัยใจคอของประชาชนชาวไทย ติดตามการเมืองมานานทั้งวงใน วงนอกตั้งแต่หลัง ปี 2516 บทความนี้ไม่มีพวกทักษิณ ไม่มีพวกเปรม ไม่มีพวกทุนนิยม ไม่มีพวกอำมาตยาธิปไตย

บทความนี้ยาว อยากให้เซฟเอาไว้ โพสไปในหลายๆ ที่ ที่ท่านมีกำลังจะโพส เพราะในราชดำเนิน มันจะตกไปอย่างรวดเร็ว

บทความนี้มุ่งหวังความสงบสุข โดยให้คนที่กำลังทะเลาะกันอยู่อย่างเอาเป็นเอาตาย โดยสร้างเรื่องต่างๆ มาเพื่อประโยชน์แห่งตน โดยไม่เห็นประโยชน์ของชาติได้หวนคิดดูบ้างว่า หากเกิดสงครามกลางเมือง หรือถึงขั้นปฏิวัติประชาชน อะไรจะเกิดขึ้น มีนักคิดหลายท่านบอกว่า นิสัยคนไทยไม่น่าจะทำได้ แต่หากเกิดผู้นำอย่าง วิลเวียม วอลเลสเล่า อะไรจะเกิดขึ้น

ก่อนอื่น ผมขอนิยาม คำว่า อำนาจเก่า กับ อำนาจใหม่เสียก่อน

อำนาจเก่าในความหมายของผม ไม่เหมือนกับที่สื่อต่างๆ และหลายๆ คนพูดถึง และผมก็ไม่เคยเรียกตามสื่อ อำนาจเก่าในความหมายของผม คือ อำนาจโบราณที่เกาะกุมประเทศไทย และเป็นผู้กำหนดทิศทางของประทศมาอย่างยาวนาน ตั้งแต่ ยุคหลัง ปี 2475 หรือที่กูรู หลายท่านให้คำกำจัดความไว้ว่า อำมาตยาธิปไตย

อำนาจใหม่ในความหมายของผม ที่จริงยังไม่มี แต่ดูเหมือนว่า รัฐบาลของคุณทักษิณจะเป็นผู้ริเริ่มอย่างจริงจัง แต่ก็ยังไม่ใช่ เพราะยังมีเรื่องผลประโยชน์ทับซ้อนมาเกี่ยวข้องด้วย ประเทศกำลังอยู่ในช่วงถ่ายเลือด แต่ถ่ายไม่ทัน เพราะอำนาจเก่ารวมหัวกันให้ทหารทำรัฐประหารเสียก่อน

อำนาจใหม่ในมุมมองของผมจริงๆ แล้ว ควรจะเป็นอำนาจของประชาชนจริงๆ ที่จะกำหนดบทบาทของตนเองได้ ว่าจะเอาอะไร ไม่เอาอะไร และ รัฐบาลเป็นผู้สนองความต้องการนั้น ใครสนองความต้องการของคนส่วนใหญ่ของประเทศมากกว่า คนนั้นก็จะได้รับความไว้วางใจให้มีบริหารต่อไป และนี่คือหลักการประชาธิปไตยแบบสากล

ทักษิณเข้ามาในปี 44 เหมือนเป็นอัศวินผู้กอบกู้ และเป็นความหวังของคนทั้งชาติ เพื่อฝ่าฟันวิกฤติต้มยำกุ้ง เรื่องอื่นไว้ทีหลัง อำนาจเก่าเองก็ไว้วางใจ แม้แต่เจอกรณีซุกหุ้นยังรอดมาได้ อำมาตย์ไม่นึกว่า ตนเองจะโดนลองของ เพราะตอนนั้นธุรกิจของทุนเก่ายอบแยบเต็มทน ภายหลังมีปัญหา ก็ค่อยเขี่ยทิ้งเหมือนที่แล้วๆ มา

ปัญหาของทักษิณ และเป็นปัญหาใหญ่ที่สุดคือ ดันเก่งคนเดียว และไม่เอาอำนาจเก่า การไม่เอาตัวแทนอันทรงอิทธิพลของอำนาจโบราณ คือปฐมบทของการที่คนไทยทั้ง ประชาชน และ ทหารต้องตายไป ไม่ว่าสีเหลือง สีแดง จนมาเป็นหลากสีอย่างในปัจจุบัน และใกล้จะเกิดสงครามกลางเมืองอยู่รอมร่อ

อย่ามาพูดเรื่อง โกงโน่นโกงนี่ให้เสียเวลา ผมเกิดมา 50 ปี มันก็โกงกันมาทุกรัฐบาล จริงๆ โกงก่อนหน้านั้นอีกด้วย

คนไทยที่รักชาติ มีจิตใจที่เป็นกลาง และมีสติในการพินิจพิเคราะห์ ยึดหลัก กาลามสูตร คงจะทราบเป็นอย่างดีว่า ทั้งเสื้อเหลือง และ เสื้อแดง ถูกจัดตั้งด้วยกันทั้งคู่ในช่วงเริ่มแรกของการรวมตัว

เสื้อเหลืองเริ่มแรก คือ พวกอกหักจากทักษิณ รวมกับพวกหมั่นไส้ทักษิณ

เสื้อแดงเริ่มแรก คือ พวกหวังให้ผลประโยชน์ที่ได้สมัย ประชานิยมกลับคืนมา

อำนาจเก่า ไม่มีทางชนะเพราะประชาชนไม่เอาและรับไม่ได้กับเผด็จการ โดยมีแนวร่วมคนรุ่นใหม่ นักรบไซเบอร์ และทุนใหม่ให้การสนับสนุน

ประชาชนก็ไม่ชนะอำนาจเก่า อย่างน้อยก็ในช่วงนี้ เพราะมีอำนาจสื่อ กับ นักวิชาการโบราณคอยเป็นกระบอกเสียง และทุนเก่าสนับสนุน

อำนาจโบราณ+ทุนเก่า+ทหารเก่า เสียเปรียบ เพราะรากหญ้าที่นิยมทุนนิยมใหม่มีจำนวนมากกว่า เลือกตั้งกี่ทีก็แพ้ แต่ก็พยายามยื้ออย่างไม่ยอมลดราวาศอก เหมือนกัน เพราะทุนใหม่โหด ตัวเองสู้ไม่ไหว ต้องอาศัยการสนับสนุนม็อบกดดัน ประโคมข่าวทางสื่อ อำนาจเก่าส่งคนแทรกซึมไปทั่วทุกวงการมาช้านาน ไม่ว่าจะเป็นสื่อ ด้านความมั่นคง ตุลาการ รัฐวิสาหกิจ หน่วยราชการ ทหาร ตำรวจ ไม่เว้นแม้แต่องค์กรเอกชนใหญ่ๆ

สิ่งที่อำนาจเก่ากลัวที่สุดคือ...............................

ไม่ใช่คุณทักษิณ ไม่ใช่คนเสื้อแดง แต่เป็น…………..

การสะพรึงกลัว กระแสของวิธีคิดของมวลชนกลางๆ ที่เป็นส่วนใหญ่ทั้งประเทศ

ยุทธวิธีที่ใช้มานาน และพยายามนำมาใช้ ในตอนนี้อีก คือ การโปรปากันด้า ว่า พวกเสื้อแดง เป็น พวกไม่รักชาติ ต้องการล้มล้างราชบัลลังค์ โดยจับเอาประเด็นคนกลุ่มน้อยๆ ในเสื้อแดง ที่มีแนวคิดซ้ายจัด และประโคมข่าวว่าพวกเสื้อแดงต้องการล้มประเทศ และสร้างรัฐใหม่

สุเทพทำม็อบเองได้หรือ หากไม่มีทุน ไม่มีแบ็ค

ในทางกลับกัน นปช. อยู่ได้อย่างไร หากไม่มีการจัดตั้ง ไม่ใช่ผมไม่รู้ว่า จตุพร ณัฐวุฒิ ก่อแก้ว และอีกหลายคน อู้ฟู่ขนาดไหน

สงครามกลางเมือง แบบรวันดา เกิดแน่ หากเรายังพูดจากันคนละภาษา ที่พูดเช่นนี้ เพราะกระแสความเสื่อมในคนที่เคยเป็นหลักให้บ้านให้เมืองมันมาถึงจุดที่เกือบจะเรียกว่าสุดๆ แล้ว ไม่มีคนกลางที่น่านับถืออีกแล้วในประเทศนี้

การดิ้นเฮือกสุดท้าย ด้วยการใช้กำลังทหาร เป็นสิ่งสุดท้ายที่ อำนาจเก่า จำเป็นต้องทำเพื่อรักษาสภาพให้อยู่เหนือประชาชนไว้ได้ต่อไป อีก 48 ชม. อะไรก็เกิดขึ้นได้

สิ่งที่น่าเสียดาย คือ คนไทย อีกมากที่มองวิกฤติครั้งนี้ แบบตื้นเขิน มองเพียงมิติเดียว หรือ สองมิติ คนส่วนใหญ่ของประเทศเข้าใจว่า ก็เพราะทักษิณโกง ฉันเลยยอมทิ้งอุดมการณ์ให้ ทหารออกมาทำรัฐประหาร และ เพราะ ทักษิณต้องการทวงขุมทรัพย์คืนจึงป่วนเมือง บางคน กระทั่งยอมทิ้งคุณค่าของความเป็นคน สนับสนุนทหารอีกครั้ง เพื่อใช้กำลังยึด

น่าเสียดายวิธีคิดเช่นนี้จริงๆ และนี่ทำให้ ประเทศไทยไปไม่ถึงไหน และ นี่คือสิ่งที่อำนาจเก่าปรารถนาให้มันดำรงคงอยู่ตราบนานเท่านาน

สื่อทั้งหลายอย่าทำเป็นแกล้งโง่ หรือแทงกั๊ก เรื่องความเป็นความตายแบบนี้ อย่าเอาประเทศชาติมาเสี่ยง คนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพอย่างผมให้ความสำคัญกับทักษิณน้อยแล้ว จริงๆ แล้ว สำนึก ขบถในการต่อต้านความไม่ยุติธรรมในบ้านในเมืองมีอยู่กับคนไทยทุกคน เพียงแต่หลายๆ คนยังไม่ได้ยืนอยู่ในมุมของกระจกที่มองเห็นสภาพความเป็นจริงเท่านั้นเอง

หลายคนอาจแย้งว่า แล้วทำไมไม่แยกตัวจาก เสื้อแดง เพื่อไล่อำนาจเก่าแบบเพียวๆ ความคิดเช่นนี้น่ะมีอยู่แน่ แต่คนไทยที่มีแนวคิดจัดการกับ อำนาจเก่าแบบบริสุทธิ์หมดจด เขารอได้  ตอนนั้นอาจเกิดผู้นำที่เข้มแข็งและจัดการกับ อำนาจเก่าเพื่อชาติโดยไม่มีผลประโยชน์แอบแฝง

สื่อทั้งหลาย พวกท่านรู้อยู่แก่ใจ ว่าอะไรเป็นอะไร กำจัดทักษิณได้แล้วไง ประชาชนมีความเป็นอยู่ดีขึ้นหรือ สมัยพวกโกง ปรส เป็นเงินหลายแสน ล้าน เหตุใดยังเฉิดฉายอยู่ได้ ผมตอบให้ก็ได้ว่า อำนาจลึกลับมันมีคุณค่ากับพวกคุณมากกว่า ประชาชน

สื่อทั้งหลาย เปลี่ยนมาอยู่ข้างประชาชนได้แล้ว ไม่มีข้างทักษิณ ไม่มีข้างอำนาจเก่า ประเทศไทยไม่ใช่มีแค่นี้ เงยหน้าดูฟ้า สูดลมหายใจลึกๆ และให้เวลาสมองได้คิดถึงคุณค่าที่ได้เกิดมาเป็นมนุษย์ มนุษย์ที่อาศัยอยู่ในแผ่นดินไทย หยุดทำร้ายประเทศเสียที

ทุกคนไม่มีใครอยู่ค้ำฟ้า จะหัวหงอก หน้าแหลม หัวโต หัวเถิก หน้าเหลี่ยมก็ตายทั้งนั้น คนที่แก่กว่าก็เสียเปรียบ ผมทำงานบริษัทข้ามชาติ มีผลกระทบบ้างกับเศรษฐกิจของไทย แต่นั่นไม่ใช่ประเด็น ประเด็นคือ ประเทศไทยเราจะไปทางใดกันแน่ ลูกหลานเราจะอยู่กันอย่างไร หากยังยื้อกันอยู่อย่างนี้ ให้เวียดนาม เขมร และลาว แซงหน้าเราไป