ข้าพเจ้าเป็นพยานฝ่ายพระเจ้า และเริ่องต่อไปนี้ก็เรื่องจริง สมัยที่ข้าพเจ้ายังเด็กครอบครัวและญาติพี่น้องล้วนนับถือในศาสนาพุทธทุกท่าน แต่ข้าพเจ้าคิดว่าไม่ใช่ชาวพุทธที่ถูกต้องเลย เพราะมีการนับถือ ผี* บรรพบุรุษอีก ก็เขานับถือกันแบบนั้น พระก็ไหว้ ผีก็ไหว เจ้าพ่อเจ้าแม่ ศาลต่างๆ กราบไหว้หมด
ข้าพก็เคยนับถือ เคารพและกราบไหว้มัน เพราะคิดว่า ผี พวกนี้ช่วยเราได้ อาจเป็นเพราะสังคมตอนนั้น พูดถึงเรื่องเหล่านี้มากๆ และข้าพเจ้า
ก็ไม่เคยรับรู้เรื่องราวของพระเจ้าเลย
ต่อมา ข้าพเจ้าได้รู้จักพระเจ้าเมื่อตอน มํธยมต้น และ ข้าพเจ้าเริ่มสงสัยว่า พระองค์ทรงมีจริงๆ หรือไม่ เรื่องราวของพระเยชูมีจริงๆหรอ พระเจ้าก็มีจริงๆในโลกนี้หรือ นั้นคือคำถามที่คิดในใจ แต่เมื่อฟังเรื่องราวต่างๆ จากพี่น้องคริสเตียน จึงได้ลองเปิดใจ และ อธิฐานกับพระเจ้าดู เพราะถ้าพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ไม่มีจริง เราก็ไม่ได้มีอะไรเสีย แต่ถ้ามีจริงละ เราจะได้มีองค์พระเจ้าผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า พระองค์ใด จะดีกว่าไหม ? ผมจึงเริ่มคุยกับพระเจ้า
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อข้าพเจ้าตัดสินใจหันหน้าเข้าหาพระเจ้า และหันหลังต่อพวกผีต่างๆที่เคย เคารพมัน ในคืนนั้นเอง ผมนอนอยู่ข้างๆแม่ของข้าพเจ้า รู้สึกอึดอัด เริ่มหายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ ผมพยามลืมตาได้เพียบน้อยนิด สิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อนคือ เงาคล้ายมนุษย์สีดำ กำลังนั่งคล่อมตัวข้าพเจ้าอยู่ มันน่ากลัวมาก แต่ช้าพเจ้าไม่รู้จะทำอย่างไร ได้เพียงแต่พยายามขยับ สักพัก มันก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่ ทั้งคืน เป็นไปได้ว่า มันกำลังจะมาเพื่อไม่ต้องการให้เราเข้าหาพระเจ้า ( อันนี้เรื่องราวของวิญญาญนะครับ ) นั้นเหลาะวิญญาณเหล่านี้ก็ฝ่ายซาตานแน่นอน เพราะหน้าที่ของซาตานคือทำให้มนุษญ์ ปฎิเสธในพระเจ้า
ผมจึงเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ครูศาสนาที่โรงเรียนฟัง ท่านแนะนำให้เราลองอธิฐานไล่มันในนามของพระเยชูคริสต์เจ้า หลังจากนั้น สองสามวัน เกิดอาการเหมือนเดิม คือ ผีอำ แน่นอน แต่ข้าพก็ไม่กล้าลืมตาดูมันอีก จึงลองอธิฐานขับไล่ผีตนนั้นไป ในพระนามพระเยชู เพียงสิ้นคำอธิฐานเท่านั้น มันกลับหายไป จนทุกวันนี้ ก็ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนั้นอีกเลย
นั้นเหลาะครับ ผมจึงเริ่มศึกษาเรื่องราวของพระเจ้า และ พระเยชูเรื่อยๆ มีเหตุการอัศจรรย์มากมาย ยิ่งทำให้ข้าพมั่นใจได้ว่า มีพระองค์อยู่จริงแท้
แต่ครอบครัวของข้าพระเจ้า ยังตกเป็นทาสของพวกผีอยู่ เพราะผี มันไม่ได้สร้างประโยชน์อันใด นอกเสียจากเราต้องเอาอาหารไปถวายมัน ถ้ามันต้องการ เพราะ คนเราไม่สามารถบังคับให้มันทำตามได้ ถ้าเราไม่ถวายเครื่องบูชา จนมันพอใจ ก่อน
หลังจากนั้น ผมเริ่มศึกษาพระธรรมคำสอนของพระเจ้า และ ตัดสินใจจะรับ พิธีบัพติศมา คือหมายถึง การจะประกาศว่าตนเป็นคริสเตียน เป็นพิธีกรรมทางศาสนาของคริสเตียน นะครับ แน่นอนว่า จากคนที่เคยนับถือพวกผี และมาร กำลังจากเข้ามาอยู่ฝ่ายพระเจ้า มันคงไม่ยอมง่ายๆ และข้าพเจ้าก็ได้คิดเช่นนั้นอยู่ไว้แล้ว คือ ถ้าวันใดที่ข้าพเจ้ารับพิธีบัพติศมา มันต้องมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าได้รับพิธีบัพติศมาแน่
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ ในวันที่ 28 ธันวาคม มีพิธีพิธีบัพติศมาสำหรับข้าพเจ้า ในระหว่างพิธี เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากคุณพ่อโทรมา
บอกว่า คุณอา โดนรถชน อาการหนักมาก น้ำเสียงของพ่อดูตกใจ และ ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งผมอยู่โบสถ์ซึ่งห่างจากบ้านมาก (เหตุรถชนเกินหน้าบ้านครับ) ส่วนคุณอา ข้าพเจ้ารักมาก เขาเลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนแม่อีกคนตั้งแต่เด็กแล้ว ทำอย่างไรดีละทีนี้ แต่ด้วยความหนักแน่นในความเชื่อ ผมจึงอธิฐานขอให้พระเจ้าดูแลคุณอา และผมก็จะตั่งใจรับพิธีบัพติศมาอย่างแน่นอน พอผมรับพิธีบัพติศมาเรียบร้อยแล้ว ก็รีบไปหาคุณอาที่โรงพยาบาล สุดท้ายคือ คุณอาก็ปลอดภัย ถ้าวันนั้นผมไม่หนักแน่นพอ ผมคงตันสินใจไม่รับพิธีบัพติศมาไปแล้ว เพราะเวลานั้น คูณพ่อ คุณแม่ และพี่ชาย โทรมาตามให้ไปที่โรงพยาบาลแบบไม่ขาดสาย เพราะเขาไม่รู้เหตุผลของการรับพิธีบัพติศมาด้วยซ้ำไป
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการทดลองใจ สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากบอกคือ การที่เราได้รู้จักพระเจ้า และเชื่อในพระเจ้า ก็คือการหันหลัง และ เป็นศัตรูกับซาตาน ผี มาร และ การเป็นทาสของซานตานด้วย และมันจะทำทุกอย่าง ให้เราล้มลง
แต่เราจะกลัวอะไรละ เราฝ่ายพระเจ้า ผู้ทรงฤทธิที่สุด
พี่น้องทั้งหลายครับ ผมไม่ได้เชื่อเรื่องราวของพระเจ้า เพราะผมงมงาย ไม่ได้เชื่อเพราะครอบครัว บรรพบุรุษเขาเชื่อมาก่อน ไม่ได้เชื่อเพราะมีคนเล่าให้ฟัง แต่ผมเชื่อเพราะ ผมได้สำผัสกับพระเจ้าจริงๆ พระองค์ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์มีชัยเหนือความตาย อยากเชิญชวนพี่น้อง ลองเปิดใจดูนะครับ เหมือนที่บอกแต่เริ่มเรื่อง ไม่มีอะไรเสียหาย แต่จะดีไหมถ้าคุณจะได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้จริงๆเหมือนข้าพเจ้า
เหตุการณ์นี้ เพียงเล็กน้อยสำหรับชีวิตของข้าพเจ้า และ เพื่อนๆคริสเตียน ถ้าคุณเชื่อ จะได้เห็นถึงการณ์อัศจรรย์
ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม
ขอเป็นพยานฝ่ายพระเจ้า จากทาสผี สู่ ลูกพระเจ้า
ข้าพก็เคยนับถือ เคารพและกราบไหว้มัน เพราะคิดว่า ผี พวกนี้ช่วยเราได้ อาจเป็นเพราะสังคมตอนนั้น พูดถึงเรื่องเหล่านี้มากๆ และข้าพเจ้า
ก็ไม่เคยรับรู้เรื่องราวของพระเจ้าเลย
ต่อมา ข้าพเจ้าได้รู้จักพระเจ้าเมื่อตอน มํธยมต้น และ ข้าพเจ้าเริ่มสงสัยว่า พระองค์ทรงมีจริงๆ หรือไม่ เรื่องราวของพระเยชูมีจริงๆหรอ พระเจ้าก็มีจริงๆในโลกนี้หรือ นั้นคือคำถามที่คิดในใจ แต่เมื่อฟังเรื่องราวต่างๆ จากพี่น้องคริสเตียน จึงได้ลองเปิดใจ และ อธิฐานกับพระเจ้าดู เพราะถ้าพระเจ้าผู้ทรงยิ่งใหญ่ไม่มีจริง เราก็ไม่ได้มีอะไรเสีย แต่ถ้ามีจริงละ เราจะได้มีองค์พระเจ้าผู้ที่ยิ่งใหญ่กว่า พระองค์ใด จะดีกว่าไหม ? ผมจึงเริ่มคุยกับพระเจ้า
หลังจากนั้นไม่นาน เมื่อข้าพเจ้าตัดสินใจหันหน้าเข้าหาพระเจ้า และหันหลังต่อพวกผีต่างๆที่เคย เคารพมัน ในคืนนั้นเอง ผมนอนอยู่ข้างๆแม่ของข้าพเจ้า รู้สึกอึดอัด เริ่มหายใจไม่ออก ขยับตัวไม่ได้ ผมพยามลืมตาได้เพียบน้อยนิด สิ่งที่ไม่เคยพบมาก่อนคือ เงาคล้ายมนุษย์สีดำ กำลังนั่งคล่อมตัวข้าพเจ้าอยู่ มันน่ากลัวมาก แต่ช้าพเจ้าไม่รู้จะทำอย่างไร ได้เพียงแต่พยายามขยับ สักพัก มันก็หายไป แล้วก็กลับมาใหม่ ทั้งคืน เป็นไปได้ว่า มันกำลังจะมาเพื่อไม่ต้องการให้เราเข้าหาพระเจ้า ( อันนี้เรื่องราวของวิญญาญนะครับ ) นั้นเหลาะวิญญาณเหล่านี้ก็ฝ่ายซาตานแน่นอน เพราะหน้าที่ของซาตานคือทำให้มนุษญ์ ปฎิเสธในพระเจ้า
ผมจึงเอาเรื่องนี้ไปเล่าให้ครูศาสนาที่โรงเรียนฟัง ท่านแนะนำให้เราลองอธิฐานไล่มันในนามของพระเยชูคริสต์เจ้า หลังจากนั้น สองสามวัน เกิดอาการเหมือนเดิม คือ ผีอำ แน่นอน แต่ข้าพก็ไม่กล้าลืมตาดูมันอีก จึงลองอธิฐานขับไล่ผีตนนั้นไป ในพระนามพระเยชู เพียงสิ้นคำอธิฐานเท่านั้น มันกลับหายไป จนทุกวันนี้ ก็ไม่เคยเจอกับเหตุการณ์เช่นนั้นอีกเลย
นั้นเหลาะครับ ผมจึงเริ่มศึกษาเรื่องราวของพระเจ้า และ พระเยชูเรื่อยๆ มีเหตุการอัศจรรย์มากมาย ยิ่งทำให้ข้าพมั่นใจได้ว่า มีพระองค์อยู่จริงแท้
แต่ครอบครัวของข้าพระเจ้า ยังตกเป็นทาสของพวกผีอยู่ เพราะผี มันไม่ได้สร้างประโยชน์อันใด นอกเสียจากเราต้องเอาอาหารไปถวายมัน ถ้ามันต้องการ เพราะ คนเราไม่สามารถบังคับให้มันทำตามได้ ถ้าเราไม่ถวายเครื่องบูชา จนมันพอใจ ก่อน
หลังจากนั้น ผมเริ่มศึกษาพระธรรมคำสอนของพระเจ้า และ ตัดสินใจจะรับ พิธีบัพติศมา คือหมายถึง การจะประกาศว่าตนเป็นคริสเตียน เป็นพิธีกรรมทางศาสนาของคริสเตียน นะครับ แน่นอนว่า จากคนที่เคยนับถือพวกผี และมาร กำลังจากเข้ามาอยู่ฝ่ายพระเจ้า มันคงไม่ยอมง่ายๆ และข้าพเจ้าก็ได้คิดเช่นนั้นอยู่ไว้แล้ว คือ ถ้าวันใดที่ข้าพเจ้ารับพิธีบัพติศมา มันต้องมีเหตุการณ์ร้ายๆ เกิดขึ้นเพื่อไม่ให้ข้าพเจ้าได้รับพิธีบัพติศมาแน่
เหตุการณ์นั้นเกิดขึ้นจริงๆ ในวันที่ 28 ธันวาคม มีพิธีพิธีบัพติศมาสำหรับข้าพเจ้า ในระหว่างพิธี เสียงโทรศัพท์ดังขึ้น เป็นสายจากคุณพ่อโทรมา
บอกว่า คุณอา โดนรถชน อาการหนักมาก น้ำเสียงของพ่อดูตกใจ และ ทำอะไรไม่ถูก ซึ่งผมอยู่โบสถ์ซึ่งห่างจากบ้านมาก (เหตุรถชนเกินหน้าบ้านครับ) ส่วนคุณอา ข้าพเจ้ารักมาก เขาเลี้ยงดูข้าพเจ้าเหมือนแม่อีกคนตั้งแต่เด็กแล้ว ทำอย่างไรดีละทีนี้ แต่ด้วยความหนักแน่นในความเชื่อ ผมจึงอธิฐานขอให้พระเจ้าดูแลคุณอา และผมก็จะตั่งใจรับพิธีบัพติศมาอย่างแน่นอน พอผมรับพิธีบัพติศมาเรียบร้อยแล้ว ก็รีบไปหาคุณอาที่โรงพยาบาล สุดท้ายคือ คุณอาก็ปลอดภัย ถ้าวันนั้นผมไม่หนักแน่นพอ ผมคงตันสินใจไม่รับพิธีบัพติศมาไปแล้ว เพราะเวลานั้น คูณพ่อ คุณแม่ และพี่ชาย โทรมาตามให้ไปที่โรงพยาบาลแบบไม่ขาดสาย เพราะเขาไม่รู้เหตุผลของการรับพิธีบัพติศมาด้วยซ้ำไป
เหตุการณ์ทั้งหมดเป็นการทดลองใจ สิ่งหนึ่งที่ข้าพเจ้าอยากบอกคือ การที่เราได้รู้จักพระเจ้า และเชื่อในพระเจ้า ก็คือการหันหลัง และ เป็นศัตรูกับซาตาน ผี มาร และ การเป็นทาสของซานตานด้วย และมันจะทำทุกอย่าง ให้เราล้มลง
แต่เราจะกลัวอะไรละ เราฝ่ายพระเจ้า ผู้ทรงฤทธิที่สุด
พี่น้องทั้งหลายครับ ผมไม่ได้เชื่อเรื่องราวของพระเจ้า เพราะผมงมงาย ไม่ได้เชื่อเพราะครอบครัว บรรพบุรุษเขาเชื่อมาก่อน ไม่ได้เชื่อเพราะมีคนเล่าให้ฟัง แต่ผมเชื่อเพราะ ผมได้สำผัสกับพระเจ้าจริงๆ พระองค์ยิ่งใหญ่ที่สุด พระองค์มีชัยเหนือความตาย อยากเชิญชวนพี่น้อง ลองเปิดใจดูนะครับ เหมือนที่บอกแต่เริ่มเรื่อง ไม่มีอะไรเสียหาย แต่จะดีไหมถ้าคุณจะได้รู้จักพระเจ้าองค์เที่ยงแท้จริงๆเหมือนข้าพเจ้า
เหตุการณ์นี้ เพียงเล็กน้อยสำหรับชีวิตของข้าพเจ้า และ เพื่อนๆคริสเตียน ถ้าคุณเชื่อ จะได้เห็นถึงการณ์อัศจรรย์
ฉบับแก้ไขเพิ่มเติม