Monster ผู้หญิงขี่ Big Bike

หลังจากที่แฟนผมได้รับของขวัญวันเกิดมาเป็นคันนี้



(กำลังดีใจระคนแปลกใจ)

จึงจำเป็นต้องไปเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับ  Big Bike เพราะแฟนผมเป็นกังกลเรื่องความปลอดภัยมาก
และสรีระของผู้หญิงนั้นต่างกับผู้ชาย ใหนจะเรื่องของความสูง  ทัศนคติ  มุมมองในการขับรถ  
ความกล้าในการตัดสินใจ ในสถานการณ์ต่างๆ

แฟนผมเป็นคนชอบรถมอเตอร์ไซค์อยู่แล้ว(บุคลิคอาจไม่ให้)
หัดขี่รถมอเตอร์ไซค์มีคลัชคันแรก
ก็ GTO ตอนอายุ ประมาณ 17  ปี เพราะตอนนั้นคุณพ่อเธอ มีแต่รถแบบนี้ครับ
ดังนั้นการควบคุมรถมอเตอร์ไซค์มีคลัช จึงไม่ใช่เรื่องยากมาก

แต่การควบคุมรถที่มีน้ำหนักมากๆอาจเป็นปัญหา และยังไม่เคยลอง
ผมจึงให้ลองไปเรียนกับ อ.โฮ้ก่อน คอร์สเริ่มต้น
โดยผมก็ไปเรียนด้วยกันครับ
ตอนนั้นวางแผนไว้แล้วว่าจะซื้อรถให้ เลยให้ไปเรียนด้วยกันก่อนครับ
(แต่แฟนผมยังไม่ทราบว่าจะซื้อรถให้ ไปเรียนสนุกๆด้วยกัน)

อ.โฮ้สอนโดยใช้รถเล็กครับ KSR เริ่มต้นจากง่ายก่อน
การเข้าเกียร์ ปล่อยคลัช หรือการขึ้นรถ แบบเบื้องต้นจริงๆไม่ใช้เรื่องหลักของอ.โฮ้ ในคอร์สเบสิก
แต่เป็นการควบคุมรถโดยเน้นการใช้สายตา การมองเข้าโค้ง การทรงตัว เป็นสิ่งสำคัญกว่า(มาถึงก็วนเลข 8 เลยครับ)

โดยแยกการเรียนออกเป็น 2 วัน วันแรก KSR วันที่ สอง DTX 125



ภาพนี้เรียนวันที่สอง ได้เรียนจากรถ DTX 125(ถ้าจำรุ่นผิดขออภัยครับ)

หลังจากได้รถมาแล้ว ยังไม่รู้จักการควบคุม Big Bike ในแบบเบื้องต้นจริงๆ
ทั้งการขึ้นคล่อมรถ การพยุงรถให้สมดุล  การออกตัว การเลี้ยว  การจอด
และการเข็นรถเดินหน้าถอยหลัง เบื้องต้นทั้งหมด

คุณเจมส์ ก็แนะนำ ให้เรียนกับ อ.เติ้ล
ซึ่งต้องยอมรับว่าเรียนแค่ประมาณ 2 ชั่วโมงกว่าๆ  เป็น 2ชั่วโมงของการเริ่มต้นเรียนที่ถูกหลักมาก
และติดตัวมาจนทุกวันนี้  ต้องขอขอบคุณเจมส์และอ.เติ้ล มา ณ โอกาสนี้ด้วยครับ



(เรียนการคล่อมรถ)



(เรียนรู้การออกตัว)


ภาพนี้มาเรียนกับ อ.เติ้ลตรง ลานอเนกประสงค์หน้าสถานีรถไฟใต้ดินลาดพร้าว
ก็ได้เรียนรู้การควบคุมรถในแบบเบื้องต้นต่างๆ ทำให้เริ่มมั่นใจขึ้น

หลังจากนั้นพอ เริ่มมีความมั่นใจมากขึ้นอีก  เราก็เริ่มออกถนนด้วยกันครับ
ตอนนั้นยังไม่มีบลูทูธ ก็ไปร้านอาหารใกล้ๆบ้านกันก่อน 2-3 ครั้ง

จนได้ข้อสรุปว่า น่าจะเรียนการขับขี่ Big Bike เพิ่มขึ้นอีกระดับหนึ่ง  
เรียนรู้การเบรครถในระยะต่างๆ  
การมองเส้นทางไกลๆเพื่อช่วยในการตัดสินใจในการขับขี่ รวมทั้งสัญลักษณ์
ท่าทางในการนั่งขับที่เหมาะสมทั้งคนและรถ


ก็มาเรียน กับอ.โฮ้ เป็นครั้งที่ 3 โดยเรียนครั้งนี้เรียนกับ Versys
ครั้งนี้เริ่มมั่นใจในการออกถนนใหญ่  แต่ต้องมาวางแผนการเดินทางกันดีๆก่อนไปเรียน
เพราะที่เรียนอยู่ไกล (ลาดกระบัง) ครั้งนี้ขับรถกันไปเองครับ 2 คน 2คัน

ซึ่งผมก็เรียนด้วยเหมือนกัน สำหรับผม Versys พอดี ดีมาก
สูงกำลังดี ควบคุมง่าย แต่สำหรับแฟนผมซึ่ง
สูงประมาณ 156 ซม.นั้นเป็นเรื่องที่ลำบากพอควร(เธอบัลเล่ต์ปลายเท้าตลอด- -“)

แต่อ.โฮ้ก็บอกถึงทักษะต่างๆ ในการขึ้นรถ จอดรถ บัลเลต์ เท้าพยุงรถ
ซึ่งพอเรียนแล้วก็ทำให้ไม่กลัวรถ ไม่กลัวการบังคับรถ
รู้เท็กนิกต่างๆได้ดีครับ



(อ.โฮ้อธิบายการออกตัว)



(การขับไปข้างหน้า)



(กำลังจะเข้าโค้ง โดยมีอ.ควบคุมอย่างใกล้ชิด)

หลังจากเรียนมา มั่นใจมากขึ้นมาก แฟนผมว่ายังงั้น
แล้วทางเซลล์ Ducati ก็แจ้งมาว่าจะมีการเปิดสอน
Beginner course โดยใช้รถทางศูนย์ เป็นรุ่น Monster กันทุกคน
ในคอร์สเบื้องต้น

ผมและแฟนก็สนใจเรียนคอร์สนี้กัน
ก็ลงเรียนครับ คอร์สนี้เน้นการรู้จักรถ ท่านั่ง การปล่อยคลัช การทรงตัว การพยุงรถเดินหน้าถอยหลัง
โดยเน้นการขับขี่ในรูปแบบของรถ Ducati โดยเฉพาะ เรียนจบก็เข้าใจสมรรถนะของรถมากขึ้น  
ทั้งจุดดี จุดเด่น และจุดด้อยและความร้อน ฮา

เริ่มมีการเดินทางไปด้วยกันบ้างแล้วตามที่ต่างๆ ในกทม.ก่อนครับ
และมีทริปเล็กๆที่หัวหินด้วยกัน เพื่อลองทดสอบการขับรถทางไกล
ก่อนที่จะไปเที่ยวทั่วไทยครับ(หวังว่านะ 555)











แล้วทางเซลล์ก็บอกว่า จะมีเปิดสอนคอร์สเบสิกด้วยนะ สนใจก็ลงได้ อีก 2 อาทิตย์
หลังจากนี้ การเรียนคอร์ส เบสิคกับทาง Ducati เราก็จะได้ใบประกาศ
ซึ่งสามารถนำไปเรียนขั้นสูงขึ้น และยังสามารถไปร่วมทริปกับทาง Ducati
ได้อีกด้วย(เพราะทริป Ducati จะมีอาหาร รถเซอร์วิซ รถนำ และอ.ที่สอนไปด้วยกัน ซึ่งฟังดูอุ่นใจมาก)

แฟนผมก็ลงเรียนคอร์สนี้ครับ มีข้อแม้คือต้องใช้รถของตัวเองเรียน (ผมไม่ได้ลงแต่ไปด้วย)








(ภาพจาก Ducati ไทยแลนด์)
https://www.facebook.com/DucatiThailand?fref=ts


(เรียนจบแล้วได้รับใบประกาศและเสื้อของDucati)

พอเรียนจบ ก็ได้ประสบการณ์การจากการเรียน เพิ่มขึ้นมาก สามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
จึงเริ่มออกทริปกันไปไกลมากขึ้นครับ  และทางแต่ละเส้นที่ไปก็มีโจทน์แตกต่างกันออกไปหลายแบบ
(เอาวิชาที่อ.แต่ละท่านสอน นำมาใช้ครบเลยครับ)

จึงเป็นที่มาของทริปนี้ครับ

http://ppantip.com/topic/31282305



สิ่งที่อ.โฮ้แนะนำมาก็คือ
"ประสบการณ์ไม่สามารถหามาได้จากการเรียน ต้องออกไปหาเท่านั้น"

ขอบคุณทุกท่านที่ติดตามครับ