[Liverpool] เฝ้ารอวันถึงจุดคุ้มทุน .. กับ ซิมงต์ มิโญเลต์

จำได้ว่าก่อนปิดตลาดซื้อขายนักเตะประมาณ เดือน 2 เดือน สโมสรเราเลือกเซนต์สัญญาคว้าตัว ผู้รักษาประตูสัญชาติเบลเยียมอย่าง ซิมง มินโญเลต์จากซันเดอร์แลนด์ มาด้วยราคา 9 ล้าน

เงิน 9 ล้านสำหรับสโมสรเราจะว่ามากก็ว่ามาก จะว่าน้อยก็ว่าน้อย (สรุปยังไง?) คือหลังจากเจ็บมาเย้อะ .. กับฤดูกาลก่อนๆกับการทุ่มซื้อนักเตะด้วยราคามหาศาล ปีนี้เราเลยดูกระเหม็ดกระแหม่มากในการซื้อนักเตะ ถ้าไม่ไปซื้อนักเตะจากดินแดนรกร้างห่างไกล ก็ต้องไปเหมาตัวสำรองตูดด้านมา อีกทีก็ไปสอยเด็กๆเนื้อกรุบมาเลยนั่นแหละ

ไอ้เรื่องบิ๊กดีล สำหรับสโมสรเรา นี่ เลิกคิด!

9 ล้านสำหรับสโมสรเราเลยอาจเป็นราคากลาง เพราะฤดูกาลนี้เราเหมาเข่งนักเตะมาเป็นกระบุงด้วยราคานี้ทั้งสิ้น 7-9 ล้าน จะมีก็แต่กองหลังจากทีมโคตรเศรษฐีอย่าง มามาดู ซาโก้ นั่นแหละ ที่สโมสรต้องกัดฟันจ่ายไปตั้ง 16 ล้าน! (แลดูตกใจ) เพื่อพรากเจ้าตัวมาจากทีมแชมป์เก่าลีกเอิงอย่าง ปารีส แซง แชเมงต์

พูดไปก็เหมือนดูแคลนสโมสรตัวเอง "เห้ยทีมเราไม่ได้อนาถาขนาดนั้นนะเฟร้ย" แต่บอกเลยว่า ทีมเราไม่ใช่ทีมที่สามารถทุ่มเงินแข่งกับทีมอื่นเพื่อซื้อนักเตะแน่นอน

ต่อไปนี้จะใช้เงินที ก็ต้องคำนวณกันละเอียดหน่อย

ก่อนที่มิโญเลต์จะมา เราเคยมีข่าวกับอัสเมียร์ เบโกวิช นายด่านของสโต๊ก ซิตี้ ซึ่งเป็นข่าวที่ทำให้เหล่า The Kop ดี๊ด๊ากันพอสมควร เพราะเบโกวิช นี่ฟอร์มดีมากๆกับสโต๊ก เป็นสไตล์ "ท่าสวยไม่มาก ท่ายากหนูได้" ตอนนั้นเรียกได้ว่า แทบจะมาแน่ๆอยู่แล้ว ขนาดเบโกวิชเองยังออกมาบอกว่า น่าจะได้ไปแอนด์ฟิลแน่ .. หลังจากนั้นมา 1 เดือน ทีมเราก็เซนต์มืโญเลต์เข้ามา

พอมิโญเล่ต์มา เรน่าก็ไปนาโปลี ตอนเรน่าไป ก็ทำให้เกิดเหตุดราม่ากันพอสมควร เพราะเรน่าเองก็ไปนาโปลีแบบไม่ค่อยเต็มใจเท่าไรนัก เรน่าเป็นที่รักของแฟนๆลิเวอร์พูลมาก ความกดดันจึงกดลงมาที่ "ไอ้เด็กใหม่" ทันที

อย่างเอ็งมีดีกว่าเรน่าตรงไหนวะ?

ณ วันนี้ มิโญเลต์ลงสนามในเสื้อลิเวอร์พูลเป็นนัดที่ 12 ขอสารภาพตรงๆเลยว่า
ดีใจมากที่ วันนี้ มิโญเลต์อยู่กับเรา
หากไม่ใช่มิโญเลต์ เราอาจไม่ได้มาอยู่อันดับต้นๆตารางอย่างทุกวันนี้ก็ได้

ฟุตบอลเป็นเรื่องของโอกาสและปัจจัยแวดล้อม เมื่อเราพูดว่า มิโญเลต์สุดยอด หลายคนก็อาจกล่าวว่า หากเรน่ายังอยู่ก็อาจทำได้ดีกว่านี้ หรือ หากเป็นเบโกวิชอาจดีกว่ามิโญเลต์ก็ได้ ซึ่งเราไม่สามารถคาดเดาได้เลยว่า เป็นคนอื่น อาจดีกว่าหรือไม่ แต่ที่เราแน่ใจคือ มิโญเลต์ เป็นตัวแปรสำคัญ กับสถานะปัจจุบันของทีมเราจริงๆ

นัดประเดิมสนามในแอนด์ฟิล มิโญเลต์คว้าหัวใจเหล่า The Kop ไว้ได้อย่างง่ายดาย จะว่าง่ายดายก็คงไม่ถูกนัก เพราะสิ่งที่เขาทำนั้นมันค่อนข้างเซอร์ไพรซ์ ด้วยการเซฟ 4 ครั้งกับเซฟจุดโทษอีก 1 ครั้ง

เห้ย ไอ้เด็กใหม่มาถึงแม่มก็เซฟจุดโทษเลยว่ะ!

นัดประเดิมสนามนัดแรกของเรา ก็ช่างบังเอิญเหลือเกินที่เราต้องมาเจอสโต๊ก ซิตี้ ทีมที่มีอัสเมียร์ เบโกวิชที่เคยมีข่าวกับเรา และฟอร์มในนัดแรกของทั้ง 2 ผู้รักษาประตู ก็ดีจนเราอดปลื้มไม่ได้ ในนัดนั้น เบโกวิช เซฟไป 10 ครั้ง และ มิโญเลต์เซฟไป 5 ครั้ง

อย่างไรก็ตามการบอกว่า มิโญเล่ต์พาทีมมาถึงอันดับนี้ในต้นฤดูกาล ก็คงไม่ถูกต้องซะทีเดียวนัก ต้องบอกว่า ทุกคนล้วนเป็นส่วนสำคัญ แต่มิโญเลต์นั้น โชว์ฟอร์มได้โดดเด่นเหลือเกินในฐานะน้องใหม่ และแรงกดดันจากการมาเป็นคนแทนที่เรน่า คงปลดออกจากบ่าไปได้แล้วส่วนนึง

ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน แต่วี่แววนั้นดูใกล้เคียงว่าจะมาเร็วกว่าที่คิด

ฟอร์มของผู้รักษาประตู เชื่อมโยงโดยตรงกับการทำงานของกองหลัง ซึ่งนั่นทำให้ไม่สามารถตัดสินได้ชัดเจนว่า ผู้รักษาประตูคนไหนเก่งกว่ากัน ไม่ว่าจะเซฟเยอะหรือน้อย ไม่ได้แปลว่าใครเก่งกว่าใคร เพราะปัจจัยเหล่านั้นยังต้องพิจารณาถึงการทำงานของกองหลังและบรรดากองหน้าจากฝั่งตรงข้ามด้วยว่า พวกเขาพบกับทีมอ่อนหรือทีมเก่ง

สถิติ ผู้รักษาประตู  3 คนที่ค่อนข้างถูกนำมาเทียบกับมิโญเลต์

Simon Mignolet  11 นัด / 39 เซฟ / 4 คลีนชีต
Asmir Begovic 11 นัด / 36 เซฟ / 3 คลีนชีต
Pepe Reina 12 นัด / 40 เซฟ / 5 คลีนชีต

และ

Wojciech Szczesny 11 นัด / 35 เซฟ / 3 คลีนชีต
ผู้รักษาประตูจากทีมที่ครองอันดับ 1 ในตอนนี้อย่างอาเซนอลดูจากสถิติแล้วก็ไม่หนีจาก ทีมรองๆเท่าไหร่ แต่อย่าลืมว่าอาเซนอลเสียประตูไปเพียง 10 ลูก ขณะที่ ลิเวอร์พูลเสียไป 13 ลูก และ สโต๊กก็ประตูไป 14 ลูกเช่นเดียวกัน

สถิตินี้ได้โยนคำถามไปสู่กองหน้าและกองหลัง (และอาจรวมทั้งกองกลาง) อีกครั้งว่าพวกเขาทำหน้าที่ได้ดีแค่ไหน กองหลังแน่นๆ ช่วยเหลือไม่ให้ทีมเสียประตู กองหน้าคมๆช่วยทำประตูให้ทีมเพิ่ม คว้าชัยชนะ เก็บแต้ม ทุกอย่างกลายเป็นผลต่างประตู มาสู่การจัดอันดับคะแนนบนตาราง

แต้มบนตารางไม่เคยโกหกใคร

เวลาใครสักคนบนสนามทำพลาด หลายครั้งเราอาจโทษว่า "มันผู้นั้นเป็นบ่อเกิดของความพ่ายแพ้" แต่อย่าลืมว่า ฟุตบอล เขาเล่นกัน 11 คน ทุกคนล้วนมีส่วนรับผิดชอบทั้งสิ้น รวมทั้งผู้จัดการทีม

มิโญเลต์ อาจเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยทำให้เรายันสถานะปัจจุบันไว้ได้ แต่ต่อให้มี 10 มิโญเลต์ก็ช่วยอะไรไม่ได้ ถ้ากองหน้ายังบุกไม่ขึ้น ทำประตูไม่ได้ กองกลางยังเก็บบอลไม่อยู่ เจอตัดเกมง่ายๆ กองหลังยังทำผิดพลาดซ้ำแล้วซ้ำเล่า

บอกแล้วว่าฟุตบอลเล่นกัน 11 คน

มิโญเลต์ เป็นนักเตะที่ "รอวันผ่านจุดคุ้มทุน" ขณะที่นักเตะคนอื่นๆ อาจมีสถานะเช่นเดียวกันกับมิโญเลต์ และอีกหลายคนที่ "เกินจุดคุ้มทุน" ไปนานแล้ว และ "อีกหลายคน" เช่นเดียวกัน ที่ "ใช้เวลานานเกินไป" ในการไปถึงจุดคุ้มทุน

หน้าคม กลางลื่น หลังแน่น โกลด์เป๊ะ

เป็นแค่ฝันที่ยังไม่เป็นจริง แต่เรารอวันนั้นเสมอ

ดาร์บี้แมตรอบนี้ เรายันสกอร์เสมอ 3-3 กับเอฟเวอร์ตัน แบบมันหยด และคงได้เห็นแล้วว่า มิโญเลต์ เรตติ้งพุ่งกระจายขนาดไหน นัดนี้ มินนี่ซิวไปอีก 9 เซฟ จากลูกเข้ากรอบ 12 ลูกที่ กองหน้าเอฟเวอร์ตัน เค้าโหดกันเหลือเกิน แต่ที่โหดกว่าเห็นจะเป็น "ทีมงานแผงหลังสุดแกร่ง" ของทีมเรา ที่ดูเหมือนจะตั้งใจปั้นมิโญเลต์กันแบบออกหน้าออกตา

ประหนึ่งอยากส่งไปท้าชิงมือ 1 จากกูตัวร์ในเกมทีมชาติ

มิโญเลต์ โชว์หล่อให้พวกเราดูอีกหน ถ้าไม่ใช่หมอนี่ ใครจะรู้ นัดนี้เราอาจแพ้ก็ได้
สู้ๆเว้ยไอ้น้อง
อยู่ทีมนี้ต้องอดทน เรามันจนโปรดเข้าใจ




อ้อ ..
ขอแสดงความยินดีกับลูกพี่ หลุยส์ ซัวเรซด้วยฮะ กับตำแหน่งดาวซัลโว (ณ ปัจจุบัน)
7 นัด 9 ประตู 1 แอสซิท 4 แมน ออฟ เดอะ แมทช์
พี่ไม่ใช่นักเตะธรรมดาเลย

ระดับโลกค่ะบอกตรงๆ





กระทู้ระลึกชาติ ครั้งแรกกับน้องมิน
[โม้หลังเกมส์ #1] #LFC 1 - 0 Stoke City : เปิดฤดูกาลมาก็ขอตะโกนว่า .. มิโญเล่ต์ เอ้ เอ้ เอ้ เอ้~
http://ppantip.com/topic/30857060
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่