ยิงทิ้ง! ตัวประกัน กบฏเชเชนเหิม บุกยึดโรงละคร 'ปูติน' เมินคำขู่
ผู้นำรัสเซียประกาศกร้าวไม่ยอมจำนนต่อคำขู่กบฏเชเชน หลังกลุ่มกบฏบุกยึดโรงละครใจกลางกรุงมอสโก จับนักแสดงและคนดูนับพันเป็นตัวประกัน ย้ำความปลอดภัยของตัวประกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ขณะที่กลุ่มกบฏขู่สังหารตัวประกัน 10 คน ทุกๆ 1 ชั่วโมง หากทางการรัสเซียยังนิ่งเฉยต่อข้อเสนอที่ให้ถอนทหารออกจากเชชเนีย

ผู้นำรัสเซียไฟเขียวให้ใช้กำลังได้ เพื่อช่วยเหลือตัวประกันกว่าพันคนที่ถูกกบฏเชเชนจับเป็นตัวประกัน หลังบุกเข้ายึดไว้โรงละครใจกลางกรุงมอสโก ผู้นำ กบฏขู่พร้อมระเบิดพลีชีพตายพร้อมตัวประกัน ยื่นข้อเรียกร้อง ให้รัสเซียถอนทหารออกจากเชชเนียภายใน 7 วัน เผยขนอาวุธเข้าไปจำนวนมาก โดยเฉพาะระเบิด ผูกติดไว้ทั้งที่ทางเดิน ที่นั่งชมละคร รวมถึงผูกมัดติดกับตัวประกัน

ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย ให้สัมภาษณ์เป็นครั้งแรกเมื่อเย็นวันพฤหัสฯ ที่ 24 ต.ค. หรือราว 12 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุการณ์กบฏเชเชนบุกจับตัวประกันกว่าพันคนภายในศูนย์วัฒนธรรมในกรุงมอสโก ว่า ปฏิบัติการของกบฏเชเชนครั้งนี้ ผ่านการวางแผนเป็นอย่างดีจากศูนย์กลางการก่อการร้ายในต่างประเทศ และอยู่ภายใต้การนำของกลุ่มอาชญากรที่ต่อต้านกองกำลังของรัสเซียในเชชเนีย และเผยเป็นนัยๆ ว่า จะต้องมีการใช้กำลังเพื่อปลดปล่อยตัวประกันโดยจะให้มีความเสียหายน้อยที่สุด

รายงานจากเจ้าหน้าที่รักษาความมั่นคงระบุว่า กลุ่มกบฏเชเชนได้ปล่อยตัวประกันอีกอย่างน้อย 5 คน ในจำนวนนี้มีชาวอังกฤษ 1 คน เด็ก 3 คน และผู้หญิงอีก 1 คน ขณะที่กาชาดสากล ได้เริ่มเจรจารอบใหม่กับกลุ่มกบฏเชเชนแล้ว เพื่อหาทางปล่อยตัวประกันที่เป็นชาวต่างชาติและเด็กออกมาก่อน นอกจากนี้ ผู้แทนกาชาดยังได้นำยาและอุปกรณ์จำเป็นเข้าไปในอาคาร ในกรณีที่ตัวประกันต้องการความช่วยเหลือทางการแพทย์



กบฏเชชเนียบุกโรงละครมอสโก

ก่อนหน้านี้ สำนักข่าวอีทาร์-ทาสส์ของรัสเซีย รายงานว่า กลุ่มกบฏชาวเชเชนในเชชเนีย ที่ต้องการแยกตัวออกจากรัสเซีย ราว 40 คน พร้อมอาวุธครบมือ ทั้งปืน ระเบิดมือ และวัตถุระเบิด ได้บุกเข้าไปในโรงละคร ที่ศูนย์วัฒนธรรม "พอด-ชิป-นิ-คอฟ ซาว้อด" ในกรุงมอสโก เมื่อเวลาประมาณ 21.00 น. ของคืนวันพุธ ตามเวลาท้องถิ่น หรือประมาณ 02.00 น. ตามเวลาในไทย ขณะกำลังแสดงละครเพลง เรื่อง "นอร์ท อีสต์" หรือ "นอร์ด ออสต์" ในภาษารัสเซีย ซึ่งเป็นละครเพลงที่ได้รับความนิยมอย่างมากในขณะนี้ มีนักแสดง นักดนตรี และเจ้าหน้าที่ของคณะละคร รวมกว่าหนึ่งร้อยคน



รายงานข่าวแจ้งว่า คนร้ายได้จับผู้ชม จำนวนระหว่าง 700-1,000 คน เป็นตัวประกัน ในจำนวนนี้ มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย 62 คน ทั้งชาวอเมริกัน เยอรมัน อังกฤษ สวิส ดัตช์ ออสเตรเลีย แคนาดา บัลแกเรีย ลิธัวเนีย มอลโดวา ยูโกสลาเวีย เบลารุส เติร์ก อาเซอร์ไบจัน จอร์เจีย อาร์เมเนีย และยูเครน นอกจากนี้ ยังได้ขู่จะระเบิดโรงละครทิ้ง หากตำรวจรัสเซียพยายามจะบุกเข้าไปช่วยตัวประกัน



ลั่นยอมพลีชีพพร้อมตัวประกัน

สำนักข่าวอินเตอร์แฟ็กซ์กับสถานีโทรทัศน์รัสเซีย อ้างข้อมูลจากเวบไซต์ www.kavkaz.org ของกบฏชาวเชเชน ระบุว่า กลุ่มที่บุกศูนย์วัฒนธรรม อยู่ภายใต้การนำของ นายมอสซาร์ บาราเยฟ หลานชายของอดีตผู้นำเชชเนีย ที่เสียชีวิตแล้ว โดย นายบาราเยฟ ประกาศว่า กลุ่มของเขาเป็นหน่วยคอมมานโดพลีชีพ ที่มีระเบิดติดไว้กับตัวทุกคน และทุกคนพร้อมยอมตาย

ในเวบไซต์ของกบฏเชชเนีย ได้ยื่นคำขาดให้เวลารัฐบาลรัสเซียภายใน 7 วัน เพื่อยุติปฏิบัติการทางทหารในสาธารณรัฐเชชเนีย และให้ถอนทหารออกจากเชชเนีย ถ้าหากรัฐบาลรัสเซียไม่ยอมทำตามเงื่อนไข ฝ่ายกบฏจะระเบิดโรงละครในกรุงมอสโก พร้อมตัวประกันทั้งหมดกว่าหนึ่งพันคน พร้อมทั้งย้ำว่า หากประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูติน ต้องการช่วยชีวิตตัวประกัน ต้องทำตามข้อเรียกร้อง



หลังจากนั้นไม่นานนัก กบฏเชชเนียได้ปล่อยตัวประกันราว 150 คน เป็นเด็กผู้หญิงและชาวต่างประเทศจำนวนหนึ่ง ตัวประกันที่ได้รับการปล่อยตัว เปิดเผยว่า กลุ่มคนร้ายมีผู้หญิงรวมอยู่ด้วย หลายคนสวมหน้ากากและมัดระเบิดไว้รอบตัว ได้บุกเข้าไปในโรงละครทางตะวันออกเฉียงใต้ของกรุงมอสโก จากนั้นได้ยิงปืนหลายนัดขึ้นไปบนเพดาน พร้อมกับร้องตะโกนให้ยุติสงครามในสาธารณรัฐเชชเนีย แต่ไม่มีรายงานว่ามีผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้



เวบไซต์ดังกล่าว เผยด้วยว่า ได้ยิงตำรวจรัสเซียเสียชีวิตหนึ่งคน หลังจากปลอมตัวเป็นคนเมา เข้าไปที่ประตูใหญ่ของศูนย์วัฒนธรรม หวังพยายามจะเข้าไปข้างใน และไม่ยอมฟังคำเตือนหลายครั้งของฝ่ายกบฏ จึงถูกยิงเสียชีวิต



ขณะที่ตำรวจที่เจรจากับคนร้าย ระบุว่า กลุ่มที่ก่อเหตุอ้างว่าเป็นสมาชิกของหน่วย 29 ของกองทัพเชชเนีย โดยคนร้ายต้องการให้รัสเซียถอนทหารออกจากเชชเนียทันที พร้อมกับเรียกร้องให้ผู้นำรัฐบาลเชชเนีย เดินทางมาเจรจาด้วยตัวเอง โดยเสนอว่า จะปล่อยตัวประกัน 50 คน หากยอมมาเจรจา



วางระเบิดทั่วโรงละคร

สถานีวิทยุท้องถิ่นแห่งหนึ่งในกรุงมอสโก กระจายเสียงของตัวประกัน ที่ใช้โทรศัพท์มือถือติดต่อมา วิงวอนเจ้าหน้าที่ไม่ให้ใช้ความรุนแรง เพราะคนร้าย ได้ขู่จะฆ่าตัวประกันทิ้งทุกๆ 10 คน หากมีคนร้ายคนใดคนหนึ่ง ต้องเสียชีวิตไปจากการจู่โจมของตำรวจ นอกจากนี้ คนร้ายนำระเบิดจำนวนมากไปผูกมัดไว้ที่บริเวณทางเดินหลายแห่ง รวมทั้งบนเก้าอี้ที่นั่งชมละครและยังนำระเบิดไปผูกติดกับตัวประกันไว้ด้วย ตัวประกันยังได้ขอร้องผ่านโทรทัศน์ว่า อย่าให้กองกำลังรักษาความมั่นคงบุกเข้าไปในโรงละครเด็ดขาด เพราะฝ่ายกบฏมีระเบิดจำนวนมาก

นางมาเรีย ชโคลนิโควา ตัวประกันคนหนึ่งได้ใช้โทรศัพท์มือถือโทรถึงสถานีวิทยุมอสโก เอคโค่ ระบุว่า ฝ่ายกบฏมีแผนจะปล่อยตัวประกันชาวต่างชาติราว 30 คน โดยจะส่งตัวให้กับนักการทูต รวมทั้งจะยอมอนุญาตให้นักข่าวทีวีของรัสเซียคนหนึ่งเข้าไปในศูนย์วัฒนธรรม ที่ใช้ควบคุมตัวประกันอยู่ด้วย

นางชโคล นิโควา ปฏิเสธรายงานข่าวก่อนหน้านี้ของตำรวจที่ว่า มีการปล่อยตัวประกันแล้ว 150 คน โดยยืนยันว่า มีเพียงตัวประกันไม่กี่คนที่ได้รับการปล่อยตัวไปแล้ว เป็นเด็กจำนวนหนึ่ง กับสตรีมีครรภ์ และวัยรุ่นคนหนึ่งที่ป่วยเป็นเบาหวานกับพ่อของวัยรุ่นผู้นี้




คอมมานโดเตรียมพร้อม

หลังเกิดเหตุไม่นาน ตำรวจหน่วยปฏิบัติการพิเศษพร้อมอาวุธครบมือหลายร้อยคน รวมทั้งรถหุ้มเกราะลำเลียงพลอีกหลายคันได้กระจายกำลังล้อมอาคารโรงละคร ขณะที่นักการเมืองอาวุโสชาวเชเชน 2 คน ได้เข้าไปในอาคารเพื่อเจรจากับกลุ่มคนร้ายแล้ว ขณะที่นายปูติน และนายกรัฐมนตรี มิฮาอิล คาสยานอฟ เรียกประชุมฉุกเฉินคณะทำงานด้านความมั่นคงที่ทำเนียบเครมลินทันที โดยโฆษกรัฐบาลแถลงว่า นายปูตินตัดสินใจงดเดินทางเยือนเยอรมนีและโปรตุเกส




ให้กาชาดสากลเป็นคนกลาง

ตัวประกันคนหนึ่งรายงานผ่านวิทยุมอสโก เอคโค ว่า ฝ่ายกบฏได้เรียกร้องจะเจรจากับตัวแทนกาชาดสากล ตัวแทนกลุ่มแพทย์ไร้พรมแดน และตัวแทนของหลายประเทศที่พลเมืองประเทศนั้นๆ ถูกจับเป็นตัวประกันด้วย แต่ห้ามมีตัวแทนชาวรัสเซียเข้าร่วมเจรจาเด็ดขาด

เจ้าหน้าที่ระดับสูงของรัสเซีย เผยว่า ทางการพร้อมจะให้คนร้ายเดินทางผ่านแดนไปยังประเทศที่ 3 ได้อย่างปลอดภัย




สังหารตัวประกันดับ 1 แล้ว

สำนักข่าวอีทาร์ ทาสส์ รายงานล่าสุดโดยอ้างคำพูดของตำรวจที่อยู่ในที่เกิดเหตุว่า ขณะนี้ กลุ่มกบฏเชชเนียได้สังหารตัวประกันไปแล้ว 1 ราย โดยรายงานเพียงสั้นๆ ว่าเหยื่อคนดังกล่าวเป็นสตรี โดยที่สถานีโทรทัศน์เอ็นทีวีของรัสเซีย ได้แพร่ภาพหญิงเคราะห์ร้ายดังกล่าวถูกคลุมร่างไร้วิญญาณด้วยผ้า ซึ่งถูกนำออกมาไว้ข้างนอกด้านหน้าโรงละครด้วย



ขณะที่เวบไซต์ www.kavkaz.org ซึ่งเป็นเวบไซต์ของกลุ่มกบฏรายงานว่า หญิงเคราะห์ร้ายคนดังกล่าว ถูกสังหารเมื่อเย็นวันพุธที่ 23 ต.ค. (ตามเวลาท้องถิ่นในรัสเซีย) ขณะพยายามเข้าไปในตัวอาคารโรงละครในช่วงที่กลุ่มกบฏเริ่มบุกเข้าไปในโรงละคร แต่ไม่ระบุสาเหตุที่หญิงคนดังกล่าวต้องการเข้าไปในตัวอาคาร

ทั้งนี้ กลุ่มกบฏได้ขู่ว่าจะสังหารตัวประกัน 10 คน ทุกๆ 1 ชั่วโมง หากทางการรัสเซียยังนิ่งเฉยต่อข้อเสนอที่ให้ถอนทหารออกจากเชชเนีย




ได้ยินเสียงบึ้มในโรงละคร

ขณะเดียวกัน ผู้สื่อข่าวสถานีโทรทัศน์เอ็นทีวี ของรัสเซียยังรายงานด้วยว่า ได้ยินเสียงระเบิดดังขึ้นอย่างรุนแรงภายในโรงละคร ซึ่งตัวประกันกว่าหลายร้อยชีวิตยังคงถูกควบคุมตัวอยู่ โดยที่เสียงระเบิดดังกล่าวไม่น่าจะเป็นเพียงแค่ระเบิดมือเพราะเสียงดังมาก

ทางด้าน ประธานาธิบดี วลาดิมีร์ ปูตินผู้นำรัสเซียประกาศกร้าวไม่ยอมจำนนคำขู่กบฏ โดยได้แถลงว่า การจับกุมตัวประกันครั้งนี้ร้ายแรงที่สุดในรัสเซีย และยังเป็นครั้งร้ายแรงที่สุดในโลกด้วย พร้อมย้ำว่า ความปลอดภัยของตัวประกันเป็นสิ่งสำคัญที่สุด โดยถ้อยแถลงดังกล่าวมีขึ้นหลังจากนายปูติน ได้เข้าหารือฉุกเฉินเพื่อประเมินสถานการณ์กับ นายยูริ ลุชคอฟ นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก




จีนประณามเป็นการก่อการร้าย

ขณะเดียวกันทางด้านรัฐบาลจีนได้ประณามเหตุการณ์จับกุมตัวประกันดังกล่าวว่า เข้าข่ายการก่อการร้าย โดย นายหลิว เจียง เจ้า โฆษกกระทรวงการต่างประเทศแถลงว่า จีนมีความวิตกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และขอประณามว่าเป็นการก่อการร้าย พร้อมยืนยันที่จะต่อต้านการกระทำใดๆ ที่เป็นการก่อการร้าย พร้อมกันนี้ รัฐบาลจีนเชื่อว่า รัฐบาลรัสเซียจะสามารถควบคุมสถานการณ์ และหาทางออกได้โดยไม่สูญเสียเลือดเนื้อ


สำหรับ "เชชเนีย" เป็นรัฐเล็กๆ ตั้งอยู่แถบเทือกเขาคอเคซัส ทางตอนใต้ของรัสเซีย ยังคงเป็นพื้นที่ที่มีการพุ่งรบกันอยู่ ระหว่างกองกำลังแบ่งแยกดินแดนเชชเนีย กับทหารรัสเซีย ซึ่งเข้าไปปราบปรามฝ่ายแบ่งแยกดินแดน มาตั้งแต่ปี 2539 เหตุการณ์ครั้งนี้นับเป็นเหตุการณ์ร้ายแรงที่สุดที่เกิดขึ้น ตั้งแต่เกิดสงครามเชชเนีย เมื่อปี 2537-2539