เมื่อต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา แคโรไลน์ เคนเนดี้ บุตรสาวของอดีตประธานาธิบดีชื่อเสียงโด่งดังผู้ล่วงลับ จอห์น เอฟ เคนเนดี้ ของสหรัฐฯ ทำพิธีสาบานตนเข้ารับตำแหน่งเอกอัครราชทูตคนใหม่ของสหรัฐฯ ประจำประเทศญี่ปุ่น โดยงานนี้จัดขึ้นที่กระทรวงการต่างประเทศ ก่อนที่ครอบครัวของนางแคโรไลน์ เคนเนดี้ จะออกเดินทางไปยังกรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น เพื่อเริ่มต้นหน้าที่ที่ได้รับมอบหมายนี้
แคโรไลน์ เคนเนดี้ หญิงสาววัย 55 ปี ที่นับเป็นผู้หญิงคนแรกที่จะได้ดำรงตำแหน่งอันมีความหมายยิ่งนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นนับเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ และผู้ที่จะรับตำแหน่งเอกอัคราชทูตประจำที่นี่ นั้นจะถูกจับตามอง เนื่องจากจะคัดสรรเฉพาะบุคคลสำคัญซึ่งมักก้าวไปมีบทบาทและตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นในภายหลัง ซึ่งแคโรโลน์ที่ก้าวมาสานต่องานด้านการเมืองตามรอยบรรพบุรุษ นับเป็นสมาชิกตระกูลเคนเนดี้อีกคนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยในพรรคเดโมแครต
ในงานพิธีสาบานตนนี้ แม้ว่า แคโรโลน์ เคนเนดี้ จะเป็นคนที่สำคัญสุดของงาน แต่สปอตไลต์ทั้งหมดกลับตกไปอยู่ที่บุตรชายคนเล็กของเธอ “จอห์น บูวิเย่ร์ เคนเนดี้ ชลอสเบิร์ก” หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ค ชลอสเบิร์ก” หนุ่มน้อยในวัย 20 ปี เนื่องด้วยรูปลักษณ์อันหล่อเหลา ทั้งรูปหน้า ตา จมูก ปาก และ ผมสีเข้มอันดกหนา ซึ่งละม้ายคล้ายคลึงกับ จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ ผู้เป็นน้าชายของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มหล่อทรงสเน่ห์แห่งยุค และ เป็นตัวแทนสุภาพบุรุษอเมริกันขนานแท้ ถึงขนาดที่หลายๆคนได้กล่าวว่าเขาใกล้เคียงกับการเป็นเจ้าชายของราชวงศ์อเมริกา ประเทศซึ่งไม่มีระบอบกษัตริย์มากที่สุดแล้ว
แจ็ก ชลอสเบิร์ก ไม่ได้เพียงแค่สืบทอดความหน้าตาดีของน้าชายมาเท่านั้น แต่เขายังเป็นตระกูลเคนเนดี้ขนานแท้ ซึ่งมีเป้าหมายจะดำเนินรอยตามคุณตาของเขา จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ซึ่งถือเป็นหนึประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาซึ่งมีคนรู้จักมากที่สุดในโลก ทั้งด้วยเกียรติประวัติของวงศ์ตระ่กูลอันน่าสนใจ ภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำหน้าตาหล่อเหลา คารมคมคาย และเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกในวัยหนุ่มซึ่งทันสมัย และการตายด้วยการถูกลอบสังหารอันเป็นโศกนาฎกรรมของชาติที่เป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้
โดยแจ็กนับเป็นทายาทหนุ่มสายเลือดมาทางตรงคนเดียวของจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ที่ยังเหลืออยู่ เขากำลังศึกษาในด้านประวัติศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา และหนุ่มแจ็กยังใช้เวลาในช่วงหลังเลิกคลาสเรียน เข้าอบรมการเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน ซึ่งเป็นคลาสที่ไม่ได้เก็บหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด นั่นเพราะเขาเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น สนใจเรื่องของสังคม และยังเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
หนุ่มน้อยรูปหล่อคนนี้เรียกได้ว่ามีสายเลือดของนักการเมืองอยู่เต็มตัว เขาสนใจเรื่องการเมือง และใฝ่ฝันจะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเหมือนกับคุณตาของเขาให้ได้ ซึ่งก็ไม่น่าไกลเกินเอื้อม ด้วยเสน่ห์ในแบบของชายหนุ่มในตระกูลเคนเนดี้ รวมกับการมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม เป็นนักพูดผู้เก่งกาจ เป็นนักกิจกรรมตัวยง เขาสร้างผลงานการช่วยเหลือสังคมมาตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี โดยการเป็นแกนนำในการระดมทุนกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ จัดหาหลอดไฟประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับเหล่าผู้มีรายได้น้อยในนิวยอร์ก และยังฝึกงานกับบรรดาวุฒิสมาชิกและนักการเมืองชื่อดังอีกหลายรายคน
ไม่แน่นอนว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะมีทายาทหนุ่มหล่อเชื้อสายตระกูลเคนเนดี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเช่นเดียวกับคุณตาชื่อดังของเขา จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ เอง ก็เป็นได้
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144318 
หล่อเชื้อไม่ทิ้งแถว ... พบกับ “แจ็ก เคนเนดี้ ชลอสเบิร์ก” หลานชายคนเดียวของอดีตประธานาธิบดี "จอห์น เอฟ เคนเนดี้"
แคโรไลน์ เคนเนดี้ หญิงสาววัย 55 ปี ที่นับเป็นผู้หญิงคนแรกที่จะได้ดำรงตำแหน่งอันมีความหมายยิ่งนี้ เนื่องจากญี่ปุ่นนับเป็นประเทศพันธมิตรที่สำคัญของสหรัฐฯ และผู้ที่จะรับตำแหน่งเอกอัคราชทูตประจำที่นี่ นั้นจะถูกจับตามอง เนื่องจากจะคัดสรรเฉพาะบุคคลสำคัญซึ่งมักก้าวไปมีบทบาทและตำแหน่งที่ใหญ่ขึ้นในภายหลัง ซึ่งแคโรโลน์ที่ก้าวมาสานต่องานด้านการเมืองตามรอยบรรพบุรุษ นับเป็นสมาชิกตระกูลเคนเนดี้อีกคนหนึ่งที่มีความสำคัญไม่น้อยในพรรคเดโมแครต
ในงานพิธีสาบานตนนี้ แม้ว่า แคโรโลน์ เคนเนดี้ จะเป็นคนที่สำคัญสุดของงาน แต่สปอตไลต์ทั้งหมดกลับตกไปอยู่ที่บุตรชายคนเล็กของเธอ “จอห์น บูวิเย่ร์ เคนเนดี้ ชลอสเบิร์ก” หรือที่รู้จักกันในนาม “แจ็ค ชลอสเบิร์ก” หนุ่มน้อยในวัย 20 ปี เนื่องด้วยรูปลักษณ์อันหล่อเหลา ทั้งรูปหน้า ตา จมูก ปาก และ ผมสีเข้มอันดกหนา ซึ่งละม้ายคล้ายคลึงกับ จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ จูเนียร์ ผู้เป็นน้าชายของเขาที่เสียชีวิตไปแล้วจากอุบัติเหตุทางเครื่องบิน ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นหนุ่มหล่อทรงสเน่ห์แห่งยุค และ เป็นตัวแทนสุภาพบุรุษอเมริกันขนานแท้ ถึงขนาดที่หลายๆคนได้กล่าวว่าเขาใกล้เคียงกับการเป็นเจ้าชายของราชวงศ์อเมริกา ประเทศซึ่งไม่มีระบอบกษัตริย์มากที่สุดแล้ว
แจ็ก ชลอสเบิร์ก ไม่ได้เพียงแค่สืบทอดความหน้าตาดีของน้าชายมาเท่านั้น แต่เขายังเป็นตระกูลเคนเนดี้ขนานแท้ ซึ่งมีเป้าหมายจะดำเนินรอยตามคุณตาของเขา จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ซึ่งถือเป็นหนึประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกาซึ่งมีคนรู้จักมากที่สุดในโลก ทั้งด้วยเกียรติประวัติของวงศ์ตระ่กูลอันน่าสนใจ ภาพลักษณ์ของความเป็นผู้นำหน้าตาหล่อเหลา คารมคมคาย และเป็นผู้นำประเทศมหาอำนาจของโลกในวัยหนุ่มซึ่งทันสมัย และการตายด้วยการถูกลอบสังหารอันเป็นโศกนาฎกรรมของชาติที่เป็นปริศนามาจนถึงทุกวันนี้
โดยแจ็กนับเป็นทายาทหนุ่มสายเลือดมาทางตรงคนเดียวของจอห์น เอฟ. เคนเนดี้ ที่ยังเหลืออยู่ เขากำลังศึกษาในด้านประวัติศาสตร์อยู่ที่มหาวิทยาลัยเยล มหาวิทยาลัยชั้นนำของประเทศสหรัฐอเมริกา และหนุ่มแจ็กยังใช้เวลาในช่วงหลังเลิกคลาสเรียน เข้าอบรมการเป็นเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน ซึ่งเป็นคลาสที่ไม่ได้เก็บหน่วยกิตของมหาวิทยาลัยแต่อย่างใด นั่นเพราะเขาเป็นคนชอบช่วยเหลือผู้อื่น สนใจเรื่องของสังคม และยังเป็นคอลัมนิสต์ให้กับหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยอีกด้วย
หนุ่มน้อยรูปหล่อคนนี้เรียกได้ว่ามีสายเลือดของนักการเมืองอยู่เต็มตัว เขาสนใจเรื่องการเมือง และใฝ่ฝันจะก้าวขึ้นไปสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเหมือนกับคุณตาของเขาให้ได้ ซึ่งก็ไม่น่าไกลเกินเอื้อม ด้วยเสน่ห์ในแบบของชายหนุ่มในตระกูลเคนเนดี้ รวมกับการมีมนุษยสัมพันธ์ดีเยี่ยม เป็นนักพูดผู้เก่งกาจ เป็นนักกิจกรรมตัวยง เขาสร้างผลงานการช่วยเหลือสังคมมาตั้งแต่อายุเพียง 15 ปี โดยการเป็นแกนนำในการระดมทุนกว่า 1 แสนเหรียญสหรัฐ จัดหาหลอดไฟประหยัดพลังงานเพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านไฟฟ้าให้กับเหล่าผู้มีรายได้น้อยในนิวยอร์ก และยังฝึกงานกับบรรดาวุฒิสมาชิกและนักการเมืองชื่อดังอีกหลายรายคน
ไม่แน่นอนว่าในอีกไม่กี่ปีข้างหน้า การเมืองของประเทศสหรัฐอเมริกาอาจจะมีทายาทหนุ่มหล่อเชื้อสายตระกูลเคนเนดี้ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งประธานาธิบดีเช่นเดียวกับคุณตาชื่อดังของเขา จอห์น เอฟ. เคนเนดี้ เอง ก็เป็นได้
http://www.manager.co.th/CelebOnline/ViewNews.aspx?NewsID=9560000144318