สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวรองพื้นที่คนอื่นเค้าฮิตกันมาสักพักแล้ว แต่เราเพิ่งจะซื้อมาใช้เมื่อเดือนที่แล้ว

ขอเกริ่นก่อนว่าปกติรองพื้นที่เราใช้ประจำคือ estee lauder double wear stay in place ค่ะ ซึ่งเราชอบมาก ปกปิดดีมาก คุมมันดีมาก
แต่ผิวเราเป็นผิวผสมค่ะ วันดีคืนดีตื่นเช้ามาหน้าแห้ง พอใช้เอสเต้ขวดแก้วแล้วแทบกรี๊ด หน้าแห้งและลอก ดับอนาถเลยค่ะ
รองพื้นที่เราเคยใช้มาก็มี revlon new complexion อันนี้บางเกินไป ไม่ปกปิดอะไรเลย ไม่คุมมัน ไม่อะไรทั้งสิ้น!
nars sheer glow อันนี้เกือบจะดีสำหรับเราแล้ว แต่ใช้ไปใช้มารู้สึกว่าไม่ใช่ ใช้ความรู้สึกตัดสินล้วนๆ

Clinique supermoisture makeup teint hydratation maximum ตัวนี้ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา ไม่ปกปิด ไม่คุมมัน มีแต่อย่างเดียวคือชื่อยาวดี
เข้าเรื่องกันดีกว่ารองพื้นตัวนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundation เค้าบอกกันมาว่าเป็นรองพื้นที่ดีที่สุดของลุงชู
เหมาะแก่ถ่ายรูปมากๆ เพราะเมื่อใช้รองพื้นตัวนี้แล้วเจอแสงแบบไหนหน้าก็จะยังสวยเด้งอยู่ ประมาณว่าใช้แล้วอยู่ไหนก็สวย ยืนกลางแดดก็สวย ไปกินข้าวใต้แสงเทียนก็สวย ไปนั่งถ่ายรูปเล่นในห้องน้ำเจอแสงไฟสีขาวถ่ายออกมาก็ยังสวย -.,-
(รูปจากเว็บ)
เราถ่ายมาแต่ขวดรองพื้น ฟองน้ำที่เค้าแถมมาลืมเอามาถ่ายด้วย
รูปไม่ชัดนะคะ ถ่ายจากกล้องไอโฟน อันนี้หน้าสดค่ะ จริงๆ เรามีรอยสิวค่อนข้างเยอะและมีรอยดำจากสิวซึ่งเข้มมาก แต่กล้องถ่ายออกมาไม่ค่อยเห็น
ด้านซ้ายลงของรูปรองพื้นแล้ว ด้านขวายังไม่ได้ลง จะเห็นว่าด้านขวาเรามีรอยสิวอยู่ รอยสิวกระจุกนั้นเรามีมา 2 ปีแล้วค่ะ รักษายังไงก็ไม่หายสักที
รูปด้านซ้ายคือลงรองพื้นเสร็จแล้ว ด้านขวาเราลงแป้ง ben nye สี banana ทับไป ตอนทาเสร็จหน้าจะค่อนข้างเหลืองแต่พอผ่านไปสักพักจะผ่องมากค่ะ
ลงรองพื้นเสร็จ ทาแป้งเสร็จเลยแว้บไปแต่งหน้านิดหน่อย อิอิ รูป before&after ต่างกันสุดๆ เลย
สำหรับเรา Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundation เป็นรองพื้นที่เราชอบมาก เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย ยิ่งใช้คู่กับฟองน้ำที่เค้าถามมายิ่งเวิร์กมาก แต่ข้อเสียคือปิดรอยสิวเราไม่มิด T-T ซึ่งอันนี้เราไม่หวังอยู่แล้วเพราะขนาดเอสเต้ขวดแก้วยังปิดรอยเราไม่มิดเลย ข้อเสียอีกข้อคือมันไม่คุมมันเลยค่ะ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มันแล้ว แต่ดีที่พอซับมันออกก็กลับมาเด้งได้เหมือนเดิม สีรองพื้นไม่ดรอประหว่างวัน และที่สำคัญรองพื้นตัวนี้เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก ถ่ายกับแสงสีไหนก็สวยจริงๆ
สรุปแล้ว เราชอบรองพื้นตัวนี้มากกกกก ให้ 9/10 คะแนน ถ้าหมดน่าจะซื้อต่อค่ะ ถ้ายังไม่เจอตัวไหนที่น่าสนใจก่อน
[CR] [CR] รีวิวแบบบ้านๆ Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundation
ขอเกริ่นก่อนว่าปกติรองพื้นที่เราใช้ประจำคือ estee lauder double wear stay in place ค่ะ ซึ่งเราชอบมาก ปกปิดดีมาก คุมมันดีมาก
แต่ผิวเราเป็นผิวผสมค่ะ วันดีคืนดีตื่นเช้ามาหน้าแห้ง พอใช้เอสเต้ขวดแก้วแล้วแทบกรี๊ด หน้าแห้งและลอก ดับอนาถเลยค่ะ
รองพื้นที่เราเคยใช้มาก็มี revlon new complexion อันนี้บางเกินไป ไม่ปกปิดอะไรเลย ไม่คุมมัน ไม่อะไรทั้งสิ้น!
nars sheer glow อันนี้เกือบจะดีสำหรับเราแล้ว แต่ใช้ไปใช้มารู้สึกว่าไม่ใช่ ใช้ความรู้สึกตัดสินล้วนๆ
Clinique supermoisture makeup teint hydratation maximum ตัวนี้ทาแล้วเหมือนไม่ได้ทา ไม่ปกปิด ไม่คุมมัน มีแต่อย่างเดียวคือชื่อยาวดี
เข้าเรื่องกันดีกว่ารองพื้นตัวนี้มีชื่อเต็มๆ ว่า Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundation เค้าบอกกันมาว่าเป็นรองพื้นที่ดีที่สุดของลุงชู
เหมาะแก่ถ่ายรูปมากๆ เพราะเมื่อใช้รองพื้นตัวนี้แล้วเจอแสงแบบไหนหน้าก็จะยังสวยเด้งอยู่ ประมาณว่าใช้แล้วอยู่ไหนก็สวย ยืนกลางแดดก็สวย ไปกินข้าวใต้แสงเทียนก็สวย ไปนั่งถ่ายรูปเล่นในห้องน้ำเจอแสงไฟสีขาวถ่ายออกมาก็ยังสวย -.,-
(รูปจากเว็บ)
เราถ่ายมาแต่ขวดรองพื้น ฟองน้ำที่เค้าแถมมาลืมเอามาถ่ายด้วย
รูปไม่ชัดนะคะ ถ่ายจากกล้องไอโฟน อันนี้หน้าสดค่ะ จริงๆ เรามีรอยสิวค่อนข้างเยอะและมีรอยดำจากสิวซึ่งเข้มมาก แต่กล้องถ่ายออกมาไม่ค่อยเห็น
ด้านซ้ายลงของรูปรองพื้นแล้ว ด้านขวายังไม่ได้ลง จะเห็นว่าด้านขวาเรามีรอยสิวอยู่ รอยสิวกระจุกนั้นเรามีมา 2 ปีแล้วค่ะ รักษายังไงก็ไม่หายสักที
รูปด้านซ้ายคือลงรองพื้นเสร็จแล้ว ด้านขวาเราลงแป้ง ben nye สี banana ทับไป ตอนทาเสร็จหน้าจะค่อนข้างเหลืองแต่พอผ่านไปสักพักจะผ่องมากค่ะ
ลงรองพื้นเสร็จ ทาแป้งเสร็จเลยแว้บไปแต่งหน้านิดหน่อย อิอิ รูป before&after ต่างกันสุดๆ เลย
สำหรับเรา Shu Uemura The Lightbulb Fluid Foundation เป็นรองพื้นที่เราชอบมาก เนื้อรองพื้นเกลี่ยง่าย ยิ่งใช้คู่กับฟองน้ำที่เค้าถามมายิ่งเวิร์กมาก แต่ข้อเสียคือปิดรอยสิวเราไม่มิด T-T ซึ่งอันนี้เราไม่หวังอยู่แล้วเพราะขนาดเอสเต้ขวดแก้วยังปิดรอยเราไม่มิดเลย ข้อเสียอีกข้อคือมันไม่คุมมันเลยค่ะ ผ่านไปไม่กี่ชั่วโมงก็มันแล้ว แต่ดีที่พอซับมันออกก็กลับมาเด้งได้เหมือนเดิม สีรองพื้นไม่ดรอประหว่างวัน และที่สำคัญรองพื้นตัวนี้เหมาะแก่การถ่ายรูปมาก ถ่ายกับแสงสีไหนก็สวยจริงๆ
สรุปแล้ว เราชอบรองพื้นตัวนี้มากกกกก ให้ 9/10 คะแนน ถ้าหมดน่าจะซื้อต่อค่ะ ถ้ายังไม่เจอตัวไหนที่น่าสนใจก่อน