credit : asia pacific defend forum
------
ขณะที่ แมนนี่ ปาเกียว เตรียมขึ้นชกชิงแชมป์กับ แบรนดอน ริออส ใจเขานึกถึงเพื่อนร่วมชาติที่ยังตั้งตัวไม่ติดจากพิษร้ายของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า พายุโยลันดา
ปาเกียว วัย 34 ปี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทางตอนใต้ของจังหวัดซารางานิ ขึ้นสังเวียนที่สนามกีฬาโคไท โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยนในมาเก๊า ตอนบ่ายวันอาทิตย์ เพื่อชิงแชมป์กับริออสผู้ที่หนุ่มแน่นกว่า
นี่จะเป็นการชกครั้งแรกของปาเกียว นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เมื่อแพ้ศึกจากการโดน ฮวน มานูเอล มาร์เควซ คู่ปรับน็อก ที่เอ็มจีเอ็มแกรนด์ในลาสเวกัส เขานอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นนานกว่าหนึ่งนาที หลังจากถูกหมัดขวาที่ทรงพลัง
เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ปาเกียวซึ่งเป็นนักมวยคนเดียวที่คว้าแชมป์โลกได้ถึง 8 รุ่น ต้องเสียเข็มขัดไปแบบน่ากังขา หลังชกครบ 12 ยกกับ ทิโมธี แบรดลีย์ กำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐ
ปาเกียวไม่เคยพ่ายศึกสองครั้งติดกัน นับตั้งแต่กลายเป็นนักมวยอาชีพเมื่อ 18 ปีก่อน บ้างก็ว่าเขาอยู่ในช่วงขาลง และน่าจะแขวนมวย ส่วนคนอื่น ๆ เชื่อว่าเขายังคงมีสปีดหรือความเร็ว และพลังหมัดหลงเหลืออยู่
นักมวยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นี้จะดวลหมัดกับริออสวัย 27 ปี คู่ต่อสู้ที่หิน เพื่อพิสูจน์ให้ชาวโลกประจักษ์ว่าเขาฝีมือเขายังไม่ตก และเขายังเป็นแชมป์ปาเกียวคนเดิม
เขากล่าวว่าภัยพิบัติจากไต้ฝุ่นที่บ้านเกิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเหตุให้หลายพันคนเสียชีวิต และอีกหลายพันคนสูญหาย ไร้ที่อยู่อาศัย และบาดเจ็บ ได้จุดแรงบันดาลใจให้แก่เขาในศึกชิงชัยกับริออส นอกจากจะดำรงตำแหน่งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ปาเกียวยังได้สมัครทหารกองหนุนในปี 2549 และได้เข้าประจำการในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
ถ้าหากปาเกียวพ่ายศึกครั้งนี้ เขาอาจจะแขวนนวม
ปาเกียวสัญญาว่าจะไปเยี่ยมเหยื่อไต้ฝุ่น และจะส่งเงินไปช่วย
ขณะการฝึกซ้อมที่โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยน เมื่อวันอังคาร ปาเกียวกล่าวว่าเขาขออุทิศการชิงชัยครั้งนี้เพื่อเพื่อนร่วมชาติ เขากล่าวว่าเมื่อเสร็จจากการสู้ศึกชิงแชมป์ เขาจะบินกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมเหยื่อไต้ฝุ่น
ตอนที่ไต้ฝุ่นถล่ม ปาเกียวกำลังฝึกซ้อมเพื่อการชิงชัยอยู่ที่เจเนอรัล ซานโตส ซิตี้ เขากล่าวว่ารู้สึกราวกับว่าช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อดูข่าวพายุพัดถล่มประเทศของเขา
“ผมรู้สึกสลดใจที่เห็นผู้คนมากมายต้องทนทุกข์” เขากล่าวขณะที่นั่งรอขึ้นสังเวียนเพื่อฝึกซ้อมเป็นเวลาสองชั่วโมง ภายใต้การดูแลของเฟร็ดดี้ โร้ช
“ผมอยากกลับบ้านเกิด แต่ไปไม่ได้เพราะต้องฝึก ผมก็ได้แต่อธิษฐาน ผมสั่งให้ลูกน้องส่งถุงยังชีพไปช่วยด้วย” ปาเกียวกล่าว
ด้วยจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อย จนกลับกลายเป็นหนึ่งในนักมวยผู้มั่งคั่งที่สุดของโลก เป็นที่รู้จักกันว่าคนใจบุญ ผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนยากไร้และขัดสน
ปาเกียวกล่าวว่าเขาติดตามข่าวทุกวันทุกคืน จนกระทั่งเดินทางจากฟิลิปปินส์ไปมาเก๊าเมื่อวันจันทร์
“ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมขอขอบคุณรัฐบาลของเราที่ให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัย ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเหยื่อไต้ฝุ่น แม้แต่ที่เมืองทาโคลบาน” ปาเกียวกล่าว นอกจากนี้เขายังขอบคุณประเทศต่าง ๆ ที่ส่งความช่วยเหลือไปให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ยังมีงานต้องทำอีกมากมาย หลังจากการค้นหาค้นหาผู้สูญหายที่รอดชีวิตเสร็จสิ้นแล้ว บ้านเรือนหลายพันหลังถูกทำลายในจังหวัดเลย์เตและซามาร์ เรือกสวนไร่นาก็ประสบความเสียหายย่อยยับ
ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปาเกียวกล่าวว่ารัฐบาลตระหนักว่าต้องทำอะไรบ้าง ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย เพราะคงต้องอาศัยเวลาหลายปีกว่าเขตที่ประสบภัยจะกลับคืนสู่สภาพปกติ
“ขณะนี้เขากำลังมุ่งเน้นการจัดหาอาหารให้ผู้ประสบภัย หลังจากนั้นก็จะช่วยฟื้นฟูให้ดำเนินชีวิตตามปกติ” ปาเกียวกล่าว
“ทุกคนต้องช่วย ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน” เขากล่าว
ปาเกียวฝึกหนักขึ้นเพื่อศึกชิงแชมป์
ยอดนักชกฟิลิปปินส์ฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลานานเพื่อศึกชิงแชมป์ครั้งนี้ ตามปกติแล้วเขาจะฝึกซ้อมหกถึงแปดสัปดาห์ แต่ในการฝึกซ้อมครั้งนี้เขาใช้เวลาฝึกเกือบ 10 สัปดาห์ โดยที่ไม่ได้ไปลอสแอนเจลิส แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในเจเนอรัล ซานโตส ซิตี้
ปาเกียวพ่ายศึกครั้งนี้ไม่ได้ เขารู้ข้อนี้ดี เขากล่าวว่าพร้อมที่จะขึ้นสังเวียนชกกับริออส เสร็จแล้วก็จะตรงดิ่งกลับบ้าน
“หลังจากการชิงแชมป์ ผมจะไปที่ทาโคลบาน และอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน” เขากล่าว
ปาเกียวห่วงใยเพื่อนร่วมชาติ
เมื่อปี 2552 ขณะที่ฝึกซ้อมเพื่อชิงแชมป์กับมิเกล ค็อตโต้ จากเปอร์โตริโก ไต้ฝุ่นพัดถล่มฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหายให้กับนครหลวงมะนิลา ตอนนั้นเขาอยู่ที่บากุยโอ ซิตี้ เมืองท่องเที่ยวห่างจากมะนิลาห้าชั่วโมง
ปาเกียวยืนกรานที่จะเดินทางกลับมะนิลาระหว่างหยุดพักวันอาทิตย์ เขาขึ้นรถฮัมเมอร์สีดำ พร้อมขบวนผู้ติดตามอีกสองสามคัน และรถตำรวจนำขบวน เดินทางไปมะนิลา พอถึงมะนิลาเขาก็ไปแจกถุงยังชีพเต็มคันรถด้วยตนเอง
เขาจะช่วยเหลือเหยื่อไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเช่นเดียวกัน
ปาเกียวกล่าวว่าเมื่อนึกถึงการที่เพื่อนร่วมชาติต้องทนทุกข์ภัยจากไต้ฝุ่น ก็เป็นแรงใจให้เขาฝึกซ้อมหนักขึ้น
“นี่สร้างแรงจูงใจที่จะชนะศึกชิงแชมป์ และช่วยให้โฟกัสมากขึ้น” เขากล่าว
ปาเกียวทราบว่าชัยชนะเหนือริออส อดีตแชมป์โลกรุ่นไลท์เวท จะช่วยให้เพื่อนร่วมชาติเกิดความยินดีกับชัยชนะ
เขากล่าวว่าถ้ามีโอกาสก็จะน็อคเอ้าท์ แต่จะชนะในทางใดก็ได้ ตราบใดที่น่าประทับใจ
“ผมอยากให้ชาวฟิลิปปินส์มีความสุข” เขากล่าว
================================
ปล.อาจไม่ได้เกี่ยวกับห้องสินธร แต่อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ ^^
แมนนี่ ปาเกียว ถวายตัวชิงชัยเพื่อเหยื่อไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน
------
ขณะที่ แมนนี่ ปาเกียว เตรียมขึ้นชกชิงแชมป์กับ แบรนดอน ริออส ใจเขานึกถึงเพื่อนร่วมชาติที่ยังตั้งตัวไม่ติดจากพิษร้ายของไต้ฝุ่นไห่เยี่ยน ซึ่งชาวฟิลิปปินส์เรียกว่า พายุโยลันดา
ปาเกียว วัย 34 ปี สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจากทางตอนใต้ของจังหวัดซารางานิ ขึ้นสังเวียนที่สนามกีฬาโคไท โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยนในมาเก๊า ตอนบ่ายวันอาทิตย์ เพื่อชิงแชมป์กับริออสผู้ที่หนุ่มแน่นกว่า
นี่จะเป็นการชกครั้งแรกของปาเกียว นับตั้งแต่เดือนธันวาคม 2555 เมื่อแพ้ศึกจากการโดน ฮวน มานูเอล มาร์เควซ คู่ปรับน็อก ที่เอ็มจีเอ็มแกรนด์ในลาสเวกัส เขานอนแน่นิ่งอยู่กับพื้นนานกว่าหนึ่งนาที หลังจากถูกหมัดขวาที่ทรงพลัง
เมื่อเดือนมิถุนายน 2555 ปาเกียวซึ่งเป็นนักมวยคนเดียวที่คว้าแชมป์โลกได้ถึง 8 รุ่น ต้องเสียเข็มขัดไปแบบน่ากังขา หลังชกครบ 12 ยกกับ ทิโมธี แบรดลีย์ กำปั้นไร้พ่ายชาวสหรัฐ
ปาเกียวไม่เคยพ่ายศึกสองครั้งติดกัน นับตั้งแต่กลายเป็นนักมวยอาชีพเมื่อ 18 ปีก่อน บ้างก็ว่าเขาอยู่ในช่วงขาลง และน่าจะแขวนมวย ส่วนคนอื่น ๆ เชื่อว่าเขายังคงมีสปีดหรือความเร็ว และพลังหมัดหลงเหลืออยู่
นักมวยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรผู้นี้จะดวลหมัดกับริออสวัย 27 ปี คู่ต่อสู้ที่หิน เพื่อพิสูจน์ให้ชาวโลกประจักษ์ว่าเขาฝีมือเขายังไม่ตก และเขายังเป็นแชมป์ปาเกียวคนเดิม
เขากล่าวว่าภัยพิบัติจากไต้ฝุ่นที่บ้านเกิดเมื่อเร็ว ๆ นี้ ซึ่งเป็นเหตุให้หลายพันคนเสียชีวิต และอีกหลายพันคนสูญหาย ไร้ที่อยู่อาศัย และบาดเจ็บ ได้จุดแรงบันดาลใจให้แก่เขาในศึกชิงชัยกับริออส นอกจากจะดำรงตำแหน่งในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรแล้ว ปาเกียวยังได้สมัครทหารกองหนุนในปี 2549 และได้เข้าประจำการในหน่วยปฏิบัติการพิเศษของกองทัพ เมื่อเดือนกรกฎาคม 2554
ถ้าหากปาเกียวพ่ายศึกครั้งนี้ เขาอาจจะแขวนนวม
ปาเกียวสัญญาว่าจะไปเยี่ยมเหยื่อไต้ฝุ่น และจะส่งเงินไปช่วย
ขณะการฝึกซ้อมที่โรงแรมเดอะเวเนเชี่ยน เมื่อวันอังคาร ปาเกียวกล่าวว่าเขาขออุทิศการชิงชัยครั้งนี้เพื่อเพื่อนร่วมชาติ เขากล่าวว่าเมื่อเสร็จจากการสู้ศึกชิงแชมป์ เขาจะบินกลับบ้านเกิดไปเยี่ยมเหยื่อไต้ฝุ่น
ตอนที่ไต้ฝุ่นถล่ม ปาเกียวกำลังฝึกซ้อมเพื่อการชิงชัยอยู่ที่เจเนอรัล ซานโตส ซิตี้ เขากล่าวว่ารู้สึกราวกับว่าช่วยอะไรไม่ได้ เมื่อดูข่าวพายุพัดถล่มประเทศของเขา
“ผมรู้สึกสลดใจที่เห็นผู้คนมากมายต้องทนทุกข์” เขากล่าวขณะที่นั่งรอขึ้นสังเวียนเพื่อฝึกซ้อมเป็นเวลาสองชั่วโมง ภายใต้การดูแลของเฟร็ดดี้ โร้ช
“ผมอยากกลับบ้านเกิด แต่ไปไม่ได้เพราะต้องฝึก ผมก็ได้แต่อธิษฐาน ผมสั่งให้ลูกน้องส่งถุงยังชีพไปช่วยด้วย” ปาเกียวกล่าว
ด้วยจุดเริ่มต้นอันต่ำต้อย จนกลับกลายเป็นหนึ่งในนักมวยผู้มั่งคั่งที่สุดของโลก เป็นที่รู้จักกันว่าคนใจบุญ ผู้เอื้อเฟื้อเผื่อแผ่คนยากไร้และขัดสน
ปาเกียวกล่าวว่าเขาติดตามข่าวทุกวันทุกคืน จนกระทั่งเดินทางจากฟิลิปปินส์ไปมาเก๊าเมื่อวันจันทร์
“ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ผมขอขอบคุณรัฐบาลของเราที่ให้ความช่วยเหลือต่อผู้ประสบภัย ผมมีเพื่อนหลายคนที่เป็นเหยื่อไต้ฝุ่น แม้แต่ที่เมืองทาโคลบาน” ปาเกียวกล่าว นอกจากนี้เขายังขอบคุณประเทศต่าง ๆ ที่ส่งความช่วยเหลือไปให้เหยื่อผู้เคราะห์ร้าย
ยังมีงานต้องทำอีกมากมาย หลังจากการค้นหาค้นหาผู้สูญหายที่รอดชีวิตเสร็จสิ้นแล้ว บ้านเรือนหลายพันหลังถูกทำลายในจังหวัดเลย์เตและซามาร์ เรือกสวนไร่นาก็ประสบความเสียหายย่อยยับ
ในฐานะสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร ปาเกียวกล่าวว่ารัฐบาลตระหนักว่าต้องทำอะไรบ้าง ถึงกระนั้นก็ไม่ใช่งานที่ง่ายเลย เพราะคงต้องอาศัยเวลาหลายปีกว่าเขตที่ประสบภัยจะกลับคืนสู่สภาพปกติ
“ขณะนี้เขากำลังมุ่งเน้นการจัดหาอาหารให้ผู้ประสบภัย หลังจากนั้นก็จะช่วยฟื้นฟูให้ดำเนินชีวิตตามปกติ” ปาเกียวกล่าว
“ทุกคนต้องช่วย ไม่ใช่เฉพาะรัฐบาลและเจ้าหน้าที่ แต่ทุกคนต้องร่วมมือกัน” เขากล่าว
ปาเกียวฝึกหนักขึ้นเพื่อศึกชิงแชมป์
ยอดนักชกฟิลิปปินส์ฝึกซ้อมอย่างหนักเป็นเวลานานเพื่อศึกชิงแชมป์ครั้งนี้ ตามปกติแล้วเขาจะฝึกซ้อมหกถึงแปดสัปดาห์ แต่ในการฝึกซ้อมครั้งนี้เขาใช้เวลาฝึกเกือบ 10 สัปดาห์ โดยที่ไม่ได้ไปลอสแอนเจลิส แต่ใช้เวลาส่วนใหญ่ในเจเนอรัล ซานโตส ซิตี้
ปาเกียวพ่ายศึกครั้งนี้ไม่ได้ เขารู้ข้อนี้ดี เขากล่าวว่าพร้อมที่จะขึ้นสังเวียนชกกับริออส เสร็จแล้วก็จะตรงดิ่งกลับบ้าน
“หลังจากการชิงแชมป์ ผมจะไปที่ทาโคลบาน และอยู่ที่นั่นสักสองสามวัน” เขากล่าว
ปาเกียวห่วงใยเพื่อนร่วมชาติ
เมื่อปี 2552 ขณะที่ฝึกซ้อมเพื่อชิงแชมป์กับมิเกล ค็อตโต้ จากเปอร์โตริโก ไต้ฝุ่นพัดถล่มฟิลิปปินส์ สร้างความเสียหายให้กับนครหลวงมะนิลา ตอนนั้นเขาอยู่ที่บากุยโอ ซิตี้ เมืองท่องเที่ยวห่างจากมะนิลาห้าชั่วโมง
ปาเกียวยืนกรานที่จะเดินทางกลับมะนิลาระหว่างหยุดพักวันอาทิตย์ เขาขึ้นรถฮัมเมอร์สีดำ พร้อมขบวนผู้ติดตามอีกสองสามคัน และรถตำรวจนำขบวน เดินทางไปมะนิลา พอถึงมะนิลาเขาก็ไปแจกถุงยังชีพเต็มคันรถด้วยตนเอง
เขาจะช่วยเหลือเหยื่อไต้ฝุ่นไห่เยี่ยนเช่นเดียวกัน
ปาเกียวกล่าวว่าเมื่อนึกถึงการที่เพื่อนร่วมชาติต้องทนทุกข์ภัยจากไต้ฝุ่น ก็เป็นแรงใจให้เขาฝึกซ้อมหนักขึ้น
“นี่สร้างแรงจูงใจที่จะชนะศึกชิงแชมป์ และช่วยให้โฟกัสมากขึ้น” เขากล่าว
ปาเกียวทราบว่าชัยชนะเหนือริออส อดีตแชมป์โลกรุ่นไลท์เวท จะช่วยให้เพื่อนร่วมชาติเกิดความยินดีกับชัยชนะ
เขากล่าวว่าถ้ามีโอกาสก็จะน็อคเอ้าท์ แต่จะชนะในทางใดก็ได้ ตราบใดที่น่าประทับใจ
“ผมอยากให้ชาวฟิลิปปินส์มีความสุข” เขากล่าว
================================
ปล.อาจไม่ได้เกี่ยวกับห้องสินธร แต่อยากให้เพื่อนๆได้อ่านกันครับ ^^