ถูกหลอกให้ไปแคสงาน หากินกับความรู้สึกคน

สวัสดีค่ะ เราจะเล่าเหตุการณ์ตั้งแต่ต้นให้ทุกคนฟังค่ะ วันหนึ่งพี่ของเราคนนึงขอใช้แทนว่าพี่เอนะคะ พี่เอได้อ่านเจอเพจงานเพจนึง มีข้อความว่า  ต้องการคนหน้าแย่มาศัลยกรรม และทำเป็น viral marketing เมื่อศัลยกรรมเสร็จแล้วมีงาน พิธีกร ต่อเนื่อง พี่เอก็ได้ส่ง Profile ของพี่อีกคนไปซึ่งในที่นี้ขอเรียกว่าพี่บีนะคะ และวันหนึ่งก็มีโทรศัพท์มาจากพี่จ. บอกว่าให้พี่บีมาแคสงานนั้น (นัดเวลา 20.00น. ) พี่เอ พี่บี และเรา ก็เดินทางไปที่สถานที่นั้น ไกลพอสมควรค่ะ แล้วพอถึงพี่เค้าก็ให้บทละครมาตอนนึง บอกให้แสดงเพื่อแคสงานนี้ พี่บีไม่รู้มาก่อนว่าต้องแสดง และพี่บีเป็นคนที่ขี้อายคิดว่าคงไม่สามารถแสดงได้ พี่บีจึงสละสิทธิ์ และขอตัวกลับ พอกำลังจะกลับ ก็มีพี่ทีมงานหลายคน พยายามพูดโน้มน้ามใจอยู่นาน ให้พี่บีกลับขึ้นไปแคสต่อ แต่พี่บีก็ไม่ยอมเพราะพี่บีคิดว่ายังไงก็คงแสดงไม่ได้ ต้องบอกก่อนว่าจุดประสงค์ของเขา คือการหาคนน่าตาไม่ดี ไป make over ทำศัลยกรรมทั้งตัวกับคลินิกศัลยกรรมชื่อดังที่มีราคาแพง และมีงานพิธีกรคู่กับพี่บ. เดอะส.สระอา พี่ทีมงานก็พูดโน้มน้าวใจใหญ่เลยว่า เสียดายแทนอุส่ามาทั้งที ทำไมไม่ลองแคสดู พี่บีก็ยืนยันคำเดิมว่าไม่แคส พี่ทีมงานจึงพยายามบอกให้เราไปแคสแทน เราก็คิดชั่งใจอยู่นาน สุดท้ายก็เลยใจอ่อนยอมขึ้นไปแคสแทนพี่บี เขาให้บทมาก็ท่องบทและซ้อมบท และก็ถามทีมงานว่ามีคนมาแคสทั้งหมดกี่คน ก็ได้คำตอบว่าทั้งหมด 7 คน มาจากชลบุรี 4 คน และมาจากลาดพร้าวอีก 1 คน และอีก1คนเป็นเพื่อนกับพี่บ.เดอะส.สระอา รวมเราก็เป็น 7 และพี่เขาก็บอกว่าน้องซ้อมบทรอเพื่อนอีก 4 คนที่มาจากชลบุรีก่อนนะ เราก็ไม่ได้เอ๊ะใจอะไร ก็ซ้อมไป (ณ ตอนนั้นเวลาประมาณเกือบ 4 ทุ่ม) พอทุกคนมาครบก็ประมาณเกือบ 5 ทุ่ม ที่พี่เค้าบอกว่ามาจากชลบุรี ย้ำว่ามาจากชลบุรีทั้ง 4 คน และจากการสังเกต คนที่มาจากชลบุรีทั้งหมดนั้นเป็นเพื่อนกัน ระหว่างนั้นก็มีผู้หญิงคนหนึ่ง ซึ่งเป็นทีมงานเหมือนกัน แต่มาทีหลัง ก็เข้ามาคุยอย่างสนิทสนมกับคนที่ชื่อ ก. (คนที่มาแคสเหมือนกัน) เราก็เห็นว่าเริ่มแปลกๆละ รอแคสมาตั้งนานซ้อมบทละครที่ตัวเองไม่ชอบ ฝืนทำ พอเห็นแบบนี้เลยอยากแคสๆให้จบไป ก็เข้าไปแคส พอแคสเสร็จก็ขอตัวกลับ และก็มีพี่พ. (พี่พ.เป็นคนของทางคลินิก) ได้นัดให้มาอีกวัน ที่ชิดลมเวลา 8.30 น. เพื่อจะพบหมอซึ่งเป็นเจ้าของคลินิกในเวลา 9.00 น. เราก็โอเคกลับ และขากลับ เราก็ได้รู้จักกับเพื่อนอีกคนที่มาแคสเหมือนกันขอเรียกว่า ส. (ที่ไม่ได้อยู่ในกลุ่มชลบุรี) เราก็คุยกันว่าเห็นรึเปล่าที่เขาสนิทกัน ก็คิดเหมือนกันว่าต้องมีการล็อคไว้อยู่แล้วแน่เลย แต่พรุ่งนี้ก็อยากลองไปดูว่าเค้าจะล็อคอย่างที่คิดไว้จริงหรือเปล่า

ต้องบอกก่อนว่า วันที่ต้องไปชิดลม เราก็มีเรียนทั้งวัน แต่เราก็เลือกที่จะลองดูว่าจะเป็นยังไง ตอนนั้นในใจคิดว่าเป็นไงเป็นกัน แม้จะไกลแค่ไหนก็อยากจะลองไป วันรุ่งขึ้นเรากับพี่เอ ก็ไปที่ชิดลมด้วยกัน ก็ไปที่เซ็นทรัลชิดลมเวลา ประมาน เกือบ 9 โมง (ซึ่งห้างยังไม่เปิด) เราก็โทรหาพี่จ.ที่เป็นคนติดต่อมา ก็ติดต่อไม่ได้ เพราะพี่เค้าไม่รับโทรศัพท์ เราก็เลยโทรหาเพื่อนที่ชื่อ ส. ส.ก็บอกว่าโทรหาใครไม่มีใครรับเหมือนกัน พวกเราก็รอ จนถึงประมาน เกือบ 11 โมง ก็ติดต่อพี่จ.ได้ พี่จ.ก็บอกให้เดินไปตึกข้างๆเซ็นทรัลชิดลม พอพวกเรา(ส. แฟนส. พี่เอ เรา)เดินไปสักพักพี่จ.ก็โทรมาที่เบอร์ของส.ว่าให้พวกเรากลับได้เลย คุณหมอเลือกไปแล้ว เท่านั้นหล่ะ ถึงจุดพีคเลยจ้า อารมณ์ภายนอกนี่ยังคุมได้อยู่ แต่ภายในมันไปละ แฟนของส. โมโหมาก โทรไปต่อว่าพี่จ.ด้วยอารมณ์และคำที่รุนแรง พี่จ.ไม่พูดอะไรทั้งสิ้น แล้วสักพักโทรกลับมาขอโทษส. เรากับส.จึงแยกย้ายกันกลับบ้าน ด้วยความเซ็งถึงที่สุด เราเองก็รอเหมือนกัน ว่าจะมีคนโทรมาแจ้งให้เรารู้รึเปล่าหรือเราเป็นคนที่ถูกลืมไปแล้ว เรียนก็ไม่ได้ไปเรียน มารอเก้อแบบนี้ ไม่ไหว ตอนกลางคืนก็แคสถึงดึกกว่าจะถึงบ้านก็ปาเข้าไปตี3 เกือบเช้า ต้องตื่นแต่เช้าเดินทางไปชิดลมอีก ทุกคนคิดว่าตอนนั้นความรู้สึกเราเป็นยังไงคะ ? และด้วยความอารมณ์ขึ้นถึงที่สุด ก็เลยไปโพสที่หน้า wall ของเพจบริษัทนั้นว่า

"สรุปใครได้คัดเลือกจากทางคุณหมอXXXคะ ใช่คนที่เป็นเพื่อนพวกคุณรึป่าว? ขอบคุณนะคะที่ให้โอกาสได้นั่งรถมาโดนหลอกเสียเวลาเรียนถึงที่ไกลๆ ไม่มีแม้แต่โทรศัพท์มาบอกว่าให้กลับได้แล้ว ถ้าไม่เจอเพื่อนควายอีกคนก็คงจะไม่ตรัสรู้หรอกค่ะว่าคุณหมอได้คัดเลือกคนที่มา"แคส"แล้ว เสียเงินค่ารถ เสียเวลา เสียการเรียน และสุดท้ายเสียความรู้สึก ขอบคุณนะคะ ที่ให้"โอกาส" แม้จะไม่ได้เจอคุณหมอเลยก็ตาม
เรารู้แต่แรกแล้วแหละว่ายังไงคัดเลือกคนเป็นร้อยแต่ได้คนเป็นเพื่อนกันทั้งนั้นแปลกมากว่าไหมคะ แต่ก็ลองดูคิดว่าอาจจะคิดไปเอง เลยคิดว่าคุณคงมีความซื่อสัตย์และจรรยาบรรณ เราเสียความรู้สึกมากกับการเอาความรู้สึกของคนมาหากิน แล้วขอบอกเลยว่าเราไม่ได้ไม่มีปัญญากับแค่ค่าทำศัลยากรรม ขอให้แสดงให้เห็นถึงความรับผิดชอบด้วยนะคะ ถึงหน้าตาเราอาจจะแย่ อ้วน พวกคุณอาจจะหน้าดี สวย หล่อ แต่นั่นไม่ได้บ่งบอกถึงจิตใจของความเป็น"คน" "



สักพักแอดมินก็มาตอบ

"สวัสดีครับ ผมซัน ทางเรารับผิดชอบในส่วน ของการหาคนมา casting เท่านั้นไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับการคัดเลือก และคนที่มาเมื่อวานคือคัดมาแล้วจาก หลายร้อยคน มีรายชื่อดังนี้ แนน, ไหม, ก้อย, ออม, เอ๋ย สึ่งทาง XXX คลินิกเป็นคนคัดทั้งสิ้น และผมไม่ทราบว่าคุณเป็นใครครับ ? "



เราก็เลยตอบไปว่า

"คุณได้ประชุมกันก่อนมาตอบหรือเปล่าคะ เลยไม่ทราบว่ามีใครที่ไปแคสบ้าง หนูคือคนที่แคสแทนพี่แนน ที่ตอนแรกหนูจะกลับกัน แล้วพวกพี่โจ้ พี่ยูริ พี่เติส เค้าบอกให้หนูแคสแทน พี่ไม่ทราบเลยเหรอคะ ไม่ได้โกรธที่ไม่ได้รับเลือกงาน แต่เสียความรู้สึกที่พวกพี่นัดหนูไปที่ชิดลม 8.30 พอหนูไปถึงโทรหาเบอร์ XXX-XXX-XXXX ก็ไม่มีใครรับ ณ ตอนนี้เวลา 12.25 ก็ยังไม่ได้รับโทรศัพท์สักสาย ไม่มีใครโทรมาแจ้งด้วยซ้ำว่าหมอเค้าคัดเลือกแล้ว ถ้าเพื่อนอีกคนที่ชื่อสาไม่บอกหนู หนูคงต้องรอจนถึงตอนนี้ใช่ไหมคะ อันนี้ถือเป็นหน้าที่ของบริษัท casting รึป่าวคะ หรือตัองตำหนิที่XXXคะ"

แอดมินก็ตอบมาอีกว่า

"นี้เป็นการคัดเลือกรอบที่ 2 ครับผมไม่เห็น profile ที่คุณส่งมาในรอบแรกนะครับ คนที่ผ่านการคัดเลือกจากรอบแรกคือ แนน ครับ ซึ่งทางXXXเป็นคนเลือกไว้ // ขออนุญาตพิมนอกเหนือจากในส่วนของงานนะครับ น้องครับ น้องๆที่ได้รับคัดเลือกในวันนี้ พี่ไม่รู้จักเป็นการส่วนตัวสักคนนะครับ ไม่มีน้อง หรือเพื่อนของทางพี่ที่ได้ ถ้าพี่เลือกได้ขนาดนั้นพี่คงทำเองแล้วครับ และน้องๆ หลายๆคนที่ได้รับการคัดเลือกมาจากต่างจังหวัดกันนะครับ มีเรียนเหมือนกัน เขายอมสละเวลาตรงนั้นมาเพื่อ หาโอกาสในตรงนี้ กรุณาอย่าเปรียบเทียบเรื่องนี้ครับ // ส่วนในเรื่องของการนัดเวลากัน ทางทีม casting เป็นผู้นัดครับ เขาให้ลงเบอร์ติดต่อไว้ อันนี้ผมก็ไม่ทราบว่าเป็นอย่างไร เพราะทีมนั้นไม่ใช่ของบริษัทผมครับ ซึ่งทางลูกค้าเลือกใช้ทีม casting ที่เขาจ้างมาครับ"

เราก็เลยตอบไปว่า

" แล้วถ้าอย่างนี้บริษัทพี่ก็ไม่มีสิทธิ์ที่จะเอาหนูมาแทนพี่แนนสิคะ แล้วพวกพี่จะให้หนูมาแคสแทนทำไม ในเมื่อพี่แนนเค้าจะไม่ทำ แต่พวกพี่บอกว่าเอาหนูแทนได้ หนูก็จำใจทำตามที่พี่บอก พี่คะ ผิดก็ว่าไปตามผิดสิคะ หนูไม่ได้เรียกร้องอะไรจากพี่เลย แค่เสียความรู้สึก ถ้าพี่มีความรู้สึก พี่คงจะเข้าใจนะคะ ว่าการที่มาแล้วไม่รู้จุดนัดหมาย ไม่รู้จะติดต่อใครได้ ได้แต่รอ และไม่ได้รับการติดต่อกลับมันรู้สึกยังไง //ขออนุญาติพิมนอกเหนือจากเรื่องงานนะคะ คนที่มาจากต่างจังหวัด ใน100คน มีความเป็นไปได้หรือคะที่จะมาจากจังหวัดเดียวกัน เป็นเพื่อนกัน มันคงจะเป็นเรื่องบังเอิญสินะคะ แถมยังรู้จักกับทีมงานบางคน แล้วอีกอย่างนะคะ เค้าเหล่านั้นเสียเวลาเรียนมาพร้อมกับหนู แต่เค้าได้รับการติดต่อ แต่หนูมา มาแล้วยังไงคะ พี่ติดต่อหนูมาอย่างที่ติดต่อเค้าหรือเปล่า หรือคนเหล่านั้นเค้าทราบเองว่าคุณหมออยู่ที่ไหน เจอคุณหมอได้ที่ไหน // และเรื่องของเวลา สรุปแล้ว การcastingนี้ไม่ใช่ความรับผิดชอบของพี่ใช่ไหมคะ หนูต้องติดต่อไปยังบริษัทXXXเหรอคะ "

ทีนี้ก็ไม่มีใครมาตอบโพส แต่ได้มีการติดต่อกับส.ว่าได้คุยอะไรบ้างไหม ส.ก็บอกว่า พี่เค้าหาว่าเรามาสาย เค้าบอกว่าเรามาไม่ทันมั่งหล่ะ อันนี้ทำให้รู้สึกแย่มากๆ แต่ก็ได้คุยกับส.อีกทีว่า พี่พ.ได้โทรมาขอโทษส.แล้ว แล้วก็บอกว่าทางคุณหมอให้ทุกคนที่มาแคสทำการ make over แต่ไม่ได้ทำทั้งตัว และก็มีพี่อีกคนได้คุยกับส.ว่าเราไปด่าเค้าในเฟส เฮ้อออ แล้วเราก็กลับไปเรียนที่มอ พอเรียนเสร็จเราก็เห็นมิสคอล 3 สายมาตอนประมาณ3โมง 1คือเบอร์ที่พี่จ.ได้ติดต่อมา แต่คาดว่าน่าจะเป็นเบอร์แอดมินคนนั้น และอีก 2 สายคาดว่าน่าจะเป็นพี่พ. แต่เราก็ไม่ได้โทรกลับไปเพราะไม่อยากคุยอะไรทั้งนั้น พูดไม่ออกบอกไม่ถูก แล้วประมาณ 5โมงก็มีพี่คนนึงที่เป็นทีมงาน(แต่ไม่ได้ไปที่ชิดลมกับพี่จ.และพี่พ.)ได้โทรมาขอโทษและก็บอกว่าคุณหมอให้ทำทุกคนแต่ไม่ทั้งตัว เราก็เออออกับเขาไป และจากนั้นก็ไม่ได้รับการติดต่อกลับมาอีกเลย จากวันนั้นเป็นเวลา 3 วัน

และวันนี้เราได้เห็นโพสของทางเพจนั้น
โพสหาคนไปแคสงาน แต่ชื่ออีเมลนั้นคุ้นมาก ก็คือชื่อของ ก. ที่สนิทสนมกับทีมงานตอนแคส และมีไอดีไลน์อยู่ เราก็ลองเสิร์ทไอดีดู ปรากฎว่าเป็นคนคนเดียวกันกับ ก. ที่เราแคสด้วย (ก. ที่แคสงานด้วยกัน กลายเป็นแอดมินเพจไปซะแล้ว)



อยากเล่าเพื่อเป็นประสบการณ์ให้กับทุกๆคนว่าอย่าไว้ใจใครง่ายๆ เวลาจะไปแคสงานอะไรให้ดูให้ดีๆค่ะ สำหรับเราคงเสียความรู้สึกกับ ทั้งบริษัทแคสและคลินิกไปอีกนาน ขอบคุณที่อ่านนะคะ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่