" ช่างกลึงต้องอาศัย ช่างชัก
ช่างสลัก ต้องอาศัย ช่างเขียน
ช่างรู้ ต้องอาศัย ช่างเรียน
ช่างติเตียน ไม่ต้อง อาศัยใคร "


ท่านที่เคารพรักครับ ซินแสผู้ชราตาบอดนิรนามแห่งวัดเล่งเน้ยยี่ ฟังข่าวจากวิทยุทรานซิสเตอร์เมื่อบ่ายวันพุธที่ผ่านมา
ถึงกับลุกขึ้นพรวดต่อหน้าข้าพเจ้าและเฉิน  อุทานลั่นว่า  

" ซี้เลี้ยว " แล้วนับนิ้วมือไปมา สีหน้าซีดเผือด

เมฆบนฟ้าครึ้มดำทะมึนปกคลุมอย่างน่ากลัว  ทุกวันนี้ข่าวใหญ่โต ที่ทำให้ประชาชนอกสั่นขวัญแขวน  
ไม่ใช่ข่าวว่า คนชาติไหน ประเทศใดจะมารบ จะมารุกราน  จะมาฆ่ากันกับคนไทย


แต่ที่ประชาชนอกสั่นขวัญแขวนกลับเป็นข่าว  เมื่อไหร่ คนไทยจะได้เวลา ฆ่ากันเอง ( อีกครั้ง )  


" ถึงเวลาค่ายกลทมิฬจบสิ้นแล้ว "   เสียงย้ำหนักแน่นหลังฟังข่าวคำแถลงจบลง

"  พวกมันตายน้ำตื้นด้วยมาตรา 157 ปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ และมาตรา 112 หมิ่นพระบรมเดชานุภาพ
วันเวลาอย่างนี้มันกล้าทำทุกอย่าง คงไม่สามารถหลีกการประจันหน้ากันได้อีกแล้ว  "

ความจริงข่าวว่าคนไทยจะหลีกเลี่ยงการฆ่ากันเองได้หรือไม่นี้  เป็นที่กังวลของผู้ที่รักบ้านเมืองมาตลอด  
แม้แต่ซินแสตาบอดยังรับรู้ถึงลางหายนะที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

เวลานี้ รังสีอำมหิตปกคลุมไปทั่วเมืองหลวง นับตั้งแต่มาร์คและเทพเทือกลงมาก่อหวอดให้บ้านเมืองกลียุค


เปรมครับ

นอกจากประเทศไทยจะโชคดีที่มีอภิสิทธิ์เป็นนายกฯแล้ว

ประเทศไทยยังโชคดี ที่มีอภิสิทธิ์เป็นแกนนำม๊อบอย่างนั้นหรือ  ( ไม่ฮา )

เรียกได้ว่า  เกิดมาไม่เสียชาติเกิด เป็นโชคสองชั้นจริงๆสำหรับประเทศไทย

เป็นบุญของคนไทย   เป็นโชคดีของคนไทย จริงๆหรือ เปรม


  
คนในวงการโหราศาสตร์ โหงวเฮ้ง ฮวงจุ้ย รับรู้กันดีว่า  หนามยอก เอาหนามบ่ง  เซียนโค่นเซียน  เพชรตัดเพชร

เลือดต้องล้างด้วยเลือด ใช้พิษอีกชนิดหนึ่งไปข่มพิษ

  หมองู ตายเพราะงู    หมอความ ตายเพราะ ตัดสินความ   และใช้ม๊อบ ไปยัน ม๊อบ เป็นหมากบังคับ

ย้อนอดีตวันที่คุณยิ่งลักษณ์เข้ากลาโหม วันที่ 11 ก.ค. ถือฤกษ์งามยามดีอย่างยิ่งคือวันที่ 11 เวลา 11.11 น
  เวลานั้น ศัตรูทันกันด้วยความคิด   ผู้กองปูเค็มลงทุนนอนขวางถนนให้ฤกษ์เสียหาย  โดยไม่สนใจว่ารถจะทับไข่หรือไม่  
แต่ขบวนรถก็สามารถเข้ากลาโหมได้ทันฤกษ์ยาม  เพราะตำรวจหิ้วปูเค็มไปสงบสติอารมณ์

ศัตรูทันกันด้วยความคิด แต่ความคิดชนะกันตรงความดี  

สำนวนท่านโกวเล้งพูดเอาไว้ว่า คนคำนวณหรือจะสู้ฟ้าลิขิต  คนชั่วร้ายเลวทรามแม้วางแผนรัดกุม แน่นหนา

ปานตาข่ายสวรรค์แนบเนียนไร้ตะเข็บ ไม่มีรูเล็ดรอด  แต่มักจะล้มเหลวนาที สุดท้ายเสมอ

ศัตรูที่คิดจะใช้ฤกษ์งามยามเดียวกันแต่คนละเดือนคือ เมื่อยามที่จะเคลื่อนม๊อบผ่านกลาโหม  อาทิตย์ก่อนๆที่ผ่านมา

  ก็ใช้ฤกษ์นี้เหมือนกัน 11-11-11 แต่พลาดฤกษ์ดีอย่างรู้เท่าไม่ถึงการณ์   เพราะพอผ่านเดือตุลา
  
ฤกษ์ที่ดีที่สุด จะกลายเป็น  11-12-13 มาแทนที่

ซินแสตาบอดนิรนามบอกกับเฉินและข้าพเจ้าว่า  ฤกษ์ 11-11-11 ดีที่สุดในปี 54 มาสิ้นสุดในเดือนตุลาปีนี้เท่านั้น

ยกตัวอย่าง น้องเอม พิณทองทาก็ถือฤกษ์11.00 น. วันที่ 11 พ.ย.  ค.ศ.2011 หมั่นหมาย

คุณตัน ก็ใช้ฤกษ์นี้ เปิดโรงงานอิชิตันเมื่อปี 54     ปีสองปีที่ผ่านมา  ฤกษ์ 11-11-11 เป็นฤกษ์ที่ดี ที่คนทั่วโลกนิยมกัน

ส่วนจากตุลาเป็นต้นไปปีนี้คือฤกษ์ 11-12-13    คุณตันก็ใช้ฤกษ์ วันที่ 11 เดือน 12 ปี 13 เข้าตลาดหลักทรัพย์



เฉินถามถึงแผนการของอภิสิทธิ์และเทพเทือกที่กำลังจะล้มรัฐบาลเวลานี้    ซินแสตาบอดนิรนามตอบว่า

" เทพเทือกมันกางตำราของทร๊อสกี้ ผู้สร้างเทคนิคแห่งการรัฐประหารบอลเชวิก  ในหนังสือ เทคนิครัฐประหาร  
ที่เขียนโดย มาลาปาร์เต้ เขียนละเอียดยิบเป็นขั้นเป็นตอน  ในยามยึดกรุงเปโตรกราด (หรือ เลนินกราดนครหลวงรัสเซียเวลานั้น )  


เวลานั้นรัฐบาลของนายเกอเรนสกี้ ใช้มาตรป้องกันด้วยตำรวจ  ส่วนเลนินและทร๊อสกี้เริ่มยุทธวิธีแรก
คือ ปลุกปั่นระดมให้ประชาชน นัดหยุดงานครั้งใหญ่   นี่คือเรื่องจำเป็นที่จะล้มรัฐบาลได้  
สหภาพแรงงานรถไฟนัดหยุดงาน   ประชาชนนัดหยุดงานทั่วไป  ออกมาชุมนุม

" เทพเทือกมันก็ทำแล้วครับ  ท่านซินแส   ที่มันทำ ตรงตามตำราทุกอย่าง ทุกอย่างครับ  " เฉินพูด  และพูดต่ออีกว่า

" เทพเทือกมันปลุกระดม ปั่นหัวให้คนอารยะขัดขืน  ไม่กินชาเขียวอิชิตันด้วยครับ  "  เฉินนิ่ง  แล้วถามต่อว่า

  " มันมีในตำราด้วยเหรอครับ  ล้มรัฐบาลด้วยการไม่กินชาเขียว  "  

คราวนี้ซินแสและข้าพเจ้าหัวเราะก๊ากกันอย่างกลั้นไม่อยู่ ( ฮา )

" คงเป็นยุทธวิธีใหม่มั๊ง  ทร๊อสกี้คงคิดไม่ถึงก็เป็นได้     " ซินแสพรึมพรำ แล้วพูดต่อว่า    

" ต่อจากการนัดหยุดงานครั้งใหญ่  ก็มาถึงยุทธวิธีที่สอง นั่นคือ " ดาวกระจาย "

" ดาวกระจาย ? "

" ใช่  ดาวกระจาย      ดาวกระจาย ที่พวกมันใช้กันในอีกไม่กี่วันข้างหน้า   ความจริงมีเขียนไว้มานานแล้ว  ในตำรารัฐประหาร  
อันเป็นตำราที่เขียนถึงเทคนิคยุทธวิธียึดอำนาจโดย  ทร๊อสกี้  ทร๊อสสกี้บอกว่า

" ก่อความวุ่นวายในบ้านเมือง ให้ประชาชนออกมาตามท้องถนน แล้วไปยึดสถานที่ราชการต่างๆ  
ไปจนถึงปล้นสดมภ์ทรัพย์สินอาคารร้านค้า ปลุกปั่นให้เกิดการต่อสู้ ปะทะ ปราบปราม    

จนบ้านเมืองเกิดการบาดเจ็บ ล้มตาย  เพื่อที่จะเปิดโอกาสให้ทหารออกมา  หรือมันต้องการให้ประเทศของเราเป็นแบบ อิยิปต์หรือซีเรีย "


ความเงียบงันเข้ามาปกคลุมทันที  ภายหลังการพูดคุยจบลง  ก่อนที่ข้าพเจ้าและเฉินซินแสรุ่นพี่ จะลาจากมา  ซินแสตาบอดได้พูดขึ้นอีกว่า

" ที่ผ่านมา อภิสิทธิ์ เทพเทือก วนเวียนกับศาลโลก ศาลประชาชน  ศาลรัฐธรรมนูญ อาจจะยังไม่พอใจ    
วันที่ 12 เดือนธันวาที่จะถึงนี้  ฆาตกรมือเปื้อนเลือด  จะได้ขึ้นศาลอาญาตามนัดอีกศาล คราวนี้ของจริง  
เวลาของพวกมันเหลือน้อยลงทุกที   มันจึงเร่งปิดเกมให้ได้   มันไม่สนใจว่าประเทศหรือประชาชน จะเป็นตายร้ายดี  

เพราะมันพูดมาตลอดว่า  หากประชาชนบาดเจ็บ ล้มตาย รัฐบาลคุณยิ่งลักษณ์ ต้องรับผิดชอบ  มันทำทางไว้ล่วงหน้าแล้ว "



ข้าพเจ้าและเฉิน กล่าวสองสามคำเพื่อเป็นการอำลาท่านซินแสตาบอดนิรนาม  พอเราสองคนเดินออกมาสองสามก้าว ก็ได้ยินคำพูด
อย่างเหลืออด ตามหลังมาว่า

" อ้ายเทือก     อ้ายเก๋า   อ้ายเก๋าเจ้ง " ( ฮา )