สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ – การประกาศยุติการชุมนุมคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเมื่อค่ำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. แถลงยุติการชุมนุม สร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายทางการเมืองอย่างมาก แม้แต่ประชาชนทั่วไปรวมทั้งคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ไปร่วมชุมนุมก็แปลกใจและนึกไม่ถึงว่าจะจบง่ายๆแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ทุกฝ่ายคาดว่างานนี้ถึงทีของกลุ่ม นปช. จะต้องจัดหนักและจัดเต็มอีกครั้งแน่ เพื่อประลองกำลังกับม็อบราชดำเนิน และอาจมีการเผชิญหน้าเกิดขึ้น
จะมีก็แต่คนเสื้อแดงและสื่อเสื้อแดงที่ไปอยู่ในที่ชุมนุมเท่านั้นที่พอมองบรรยากาศการชุมนุมออกว่า งานนี้ “มีปัญหา” และน่าจะยุติการชุมนุมในไม่กี่วัน
แล้วก็เป็นจริง เพราะหลังจากชุมนุมมาได้เพียง 2 วัน นางธิดาก็ประกาศยุติการชุมนุมทันที คล้อยหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ไม่กี่ชั่วโมง โดยนางธิดาและแกนนำ นปช. ประกาศต่อผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงว่า ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง เพราะ ส.ส. และ ส.ว. ยังไม่สิ้นสถานะ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ถูกยุบ และรัฐบาลยังอยู่ต่อไปได้ จึงขอยุติการชุมนุม และมอบให้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยไปดำเนินการต่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ม็อบราชดำเนินยุติการชุมนุม เพราะคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมแล้ว
พลันที่นางธิดาแถลงยุติการชุมนุม ผู้ชุมนุมบางคนถึงกับร้องไห้ทำใจไม่ได้ เพราะบางคนตั้งใจมาสู้เต็มที่ ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มาด้วยใจพากันโห่ร้องยินดีกับคำประกาศของแกนนำ นปช. ว่าประสบชัยชนะ และจะได้กลับบ้านกลับช่อง
นี่เป็นการยุติการชุมนุมแบบลุกลี้ลุกลนและโซซัดโซเซลงจากเวทีอีกครั้งของกลุ่ม นปช. โดยใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบันไดพาดลงจากเวทีอย่างหัวคะมำด้วยการรวบรัดประกาศว่าเป็นชัยชนะของการชุมนุม ทั้งที่ความจริงนี่ไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นความพ่ายแพ้สองครั้งติดกันของระบอบทักษิณ หลังจากที่เพิ่งพ่ายแพ้ในศึก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาหมาดๆ
นางธิดาและแกนนำ นปช.เองก็ประกาศชัยชนะอย่างไม่เต็มปากเต็มคำ โดยบอกว่าเป็นชัยชนะที่ยังไม่สมบูรณ์และวินวิน ดังนั้นจะต้องต่อสู้กันต่อไป ซึ่งหมายความว่าแกนนำ นปช. รู้ว่าที่จริงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ชัยชนะ เพราะในคำแถลงยุติการชุมนุมได้กล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบอำมาตย์ โดยประกาศปฏิเสธตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการใช้อำนาจก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ พร้อมประกาศสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
คำประกาศชัยชนะของแกนนำ นปช.จึงเป็นการโกหกผู้ชุมนุม เป็นวาทกรรมหลอกตัวเองและผู้ชุมนุม และเป็นการรักษาหน้าการชุมนุม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสถานะ “การนำ” ในระยะต่อไปของแกนนำ นปช.แม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่สถานะ “การนำ” ง่อนแง่นอย่างยิ่งอันเห็นได้จากการชุมนุมครั้งนี้
นี่เป็นความผิดพลาดของแกนนำ นปช. (และรวมถึงแกนนำม็อบทั้งหลาย) ที่มักจะไม่พูดความจริง (โกหก) กับผู้ชุมนุมจนเป็นนิสัย และใช้วาทกรรมหลอกลวงเพื่อปลุกเร้าผู้ชุมนุมต่อไปราวกับผู้ชุมนุมกินหญ้า
สถานะ “การนำ” ของแกนนำม็อบ และความแตกสลายของม็อบทุกม็อบจึงเกิดด้วยสาเหตุนี้เป็นประการสำคัญที่สุด เพราะเมื่อมาม็อบก็มาด้วยความเชื่อถือเชื่อมั่น และเมื่อไปก็ไปเพราะไม่เชื่อถือเชื่อมั่นอีกต่อไป
แกนนำ นปช.กำลังเผชิญสถานการณ์เช่นว่านี้ ไม่ต่างจากที่แกนนำพันธมิตรฯเคยเจอมาแล้วในอดีต
แกนนำม็อบหน้าใหม่อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ราชดำเนิน ซึ่งไม่ใช่แกนนำม็อบอาชีพ แต่เป็นนักการเมือง จำจะต้องระมัดระวังต่อสถานะ “การนำ” ของตนยิ่งกว่าใคร
เพราะไม่ว่าม็อบทุกม็อบจะมีที่มาจาก “ใจ” มากน้อยแค่ไหน หรือมาจาก “ปัจจัย” มากน้อยแค่ไหน หรือผสมปะปนกันให้ดูคึกคักยิ่งใหญ่ แต่ท้ายที่สุดเมื่อม็อบที่มาจาก ”ใจ” จากไป ม็อบที่เหลือซึ่งมาจาก “ปัจจัย” ก็ไม่มีความหมาย และไม่อาจเป็นพลังในการต่อสู้ใดๆได้ เนื่องจากไม่ได้มาด้วย “ใจ “ อย่างดีก็แค่มาแสดง “ลิเก” ให้ดูกันเองหรือให้สังคมดูเท่านั้น
การประกาศยุติการชุมนุมของกลุ่ม นปช. จึงไม่ใช่เพราะได้ชัยชนะ แต่มาจากสาเหตุเพราะ การชุมนุมครั้งนี้ “จุดไม่ติด” ไม่สามารถระดมมวลชนคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมได้ตามเป้าหมาย โดยมีผู้ชุมนุมอยู่ในหลักบวกลบหนึ่งหมื่นคนเท่านั้น และผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดงที่เป็นฐานเสียงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในจังหวัดรอบ กทม. เช่น สมุทรปราการ
แดงแท้ แดงอุดมการณ์ที่มาด้วยใจ มาน้อยมาก แตกต่างจากการชุมนุมในอดีต เพราะผิดหวังกับหลายเรื่องหลายสิ่งและหลายคน
นอกจากนี้ การชุมนุมครั้งนี้ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดเสื้อแดงสำคัญๆในการระดมคนเสื้อแดงมาเข้าร่วมชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นอุดรธานี เชียงใหม่ หรืออื่นๆ ส่วนบางจังหวัดที่มาก็ไปตั้งเวทีของตัวเอง เช่น แดงปทุมธานีไปตั้งเวทีที่อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หลักสี ไม่เข้าร่วมที่ราชมังคลากีฬาสถาน
แกนนำ นปช. ผู้จัดการชุมนุมจึงอยู่ในสภาพ “ตีนลอย” เพราะแกนนำระดับจังหวัดพากันแข็งข้อต่อ “การนำ” ของแกนนำ นปช. ผู้ชุมนุมจึงอยู่ในสภาพบางตา ที่มาก็มาด้วย “ปัจจัย” อยู่ยาวไม่ได้ ไม่อาจยืดเยื้อการชุมนุมหรือยกระดับการชุมนุมเพื่อต่อกรกับม็อบราชดำเนินได้
แกนนำ นปช.จึงต้องรีบยุติการชุมนุมก่อนที่จะเสียหน้าและกระทบต่อสถานะ “การนำ” ของตนมากไปกว่านี้
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ ได้เคยนำเสนอข่าวเจาะเรื่อง “ทัพทักษิณระส่ำ บอบช้ำหนัก ภายในร้าวลึก” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาภายในของคนเสื้อแดงและสถานะ “การนำ” ของแกนนำ นปช.มาก่อนการประกาศยุติการชุมนุมวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 (โปรดย้อนไปอ่าน) ซึ่งก็เป็นความจริงตามนั้นเมื่อดูจากการชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ดี ยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อมูลลึกที่สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ รู้มาระบุว่า การที่ม็อบเสื้อแดงที่ราชมังคลากีฬาสถานจุดไม่ติดเพราะ “นายใหญ่” ไม่เดินหน้าสุดซอย โดยไม่สั่งแกนนำม็อบแต่ละจังหวัดเข้าร่วม เพราะไม่ต้องการให้เกิดการต่อต้านระบอบทักษิณขยายวงมากยิ่งขึ้น หรือเกิดการเผชิญหน้าขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ของระบอบทักษิณย่ำแย่หนักขึ้น โดยเฉพาะจะทำให้รัฐบาลถึงจุดจบเร็วขึ้น “นายใหญ่” ต้องการให้รัฐบาลอยู่ต่อไปอย่างน้อยอีกระยะหนึ่ง เพื่อผลักดันกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับให้จบกระบวนการ คือกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยแน่ใจว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาแบบไม่สุดซอย รัฐบาลอยู่ต่อได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้สถานการณ์เกิดการเผชิญหน้าด้วยม็อบ
ทว่า ไม่ว่าการจุดไม่ติดของม็อบ นปช. จะเกิดจากสาเหตุใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ สถานะ “การนำ” ของแกนนำ นปช. ถือว่าจบสิ้นลงแล้วอย่างไม่เป็นทางการในการชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากความไม่เชื่อถือไม่เชื่อมั่นในตัวแกนนำ นปช.อีกต่อไปของคนเสื้อแดง หรือมาจากการไม่ยอมอยู่ภายใต้การนำของแกนนำ นปช.อีกต่อไปของแกนนำเสื้อแดงระดับจังหวัด หรือมาจากการที่ “นายใหญ่” ยังคงใช้แนวทาง “สู้ไปเจรจาไป” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดล้วนนำมาสู่ความแตกสลายของแดงอุดมการณ์ที่ไม่ยอมแกล้งกินหญ้าอีกต่อไป
โดย – อาทิตย์ สิงหา
22 พฤศจิกายน 2556
http://peopleunitynews.com/web/2013/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%99%E0%B8%9B/
ข่าวเจาะ // ปิดฉากแกนนำ นปช. ในวันที่ศรัทธาทรุดและตีนลอย
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ – การประกาศยุติการชุมนุมคนเสื้อแดงที่สนามราชมังคลากีฬาสถานเมื่อค่ำวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 โดยนางธิดา ถาวรเศรษฐ์ ประธาน นปช. แถลงยุติการชุมนุม สร้างความประหลาดใจให้กับทุกฝ่ายทางการเมืองอย่างมาก แม้แต่ประชาชนทั่วไปรวมทั้งคนเสื้อแดงที่ไม่ได้ไปร่วมชุมนุมก็แปลกใจและนึกไม่ถึงว่าจะจบง่ายๆแบบนี้ เพราะก่อนหน้านี้ทุกฝ่ายคาดว่างานนี้ถึงทีของกลุ่ม นปช. จะต้องจัดหนักและจัดเต็มอีกครั้งแน่ เพื่อประลองกำลังกับม็อบราชดำเนิน และอาจมีการเผชิญหน้าเกิดขึ้น
จะมีก็แต่คนเสื้อแดงและสื่อเสื้อแดงที่ไปอยู่ในที่ชุมนุมเท่านั้นที่พอมองบรรยากาศการชุมนุมออกว่า งานนี้ “มีปัญหา” และน่าจะยุติการชุมนุมในไม่กี่วัน
แล้วก็เป็นจริง เพราะหลังจากชุมนุมมาได้เพียง 2 วัน นางธิดาก็ประกาศยุติการชุมนุมทันที คล้อยหลังศาลรัฐธรรมนูญมีคำวินิจฉัยการแก้ไขรัฐธรรมนูญประเด็นที่มาของ ส.ว. ไม่กี่ชั่วโมง โดยนางธิดาและแกนนำ นปช. ประกาศต่อผู้ชุมนุมคนเสื้อแดงว่า ผลการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญถือเป็นชัยชนะของคนเสื้อแดง เพราะ ส.ส. และ ส.ว. ยังไม่สิ้นสถานะ พรรคเพื่อไทยก็ไม่ถูกยุบ และรัฐบาลยังอยู่ต่อไปได้ จึงขอยุติการชุมนุม และมอบให้เป็นหน้าที่ของพรรคเพื่อไทยไปดำเนินการต่อ พร้อมกับเรียกร้องให้ม็อบราชดำเนินยุติการชุมนุม เพราะคนเสื้อแดงยุติการชุมนุมแล้ว
พลันที่นางธิดาแถลงยุติการชุมนุม ผู้ชุมนุมบางคนถึงกับร้องไห้ทำใจไม่ได้ เพราะบางคนตั้งใจมาสู้เต็มที่ ขณะที่ผู้ชุมนุมส่วนหนึ่งที่ไม่ได้มาด้วยใจพากันโห่ร้องยินดีกับคำประกาศของแกนนำ นปช. ว่าประสบชัยชนะ และจะได้กลับบ้านกลับช่อง
นี่เป็นการยุติการชุมนุมแบบลุกลี้ลุกลนและโซซัดโซเซลงจากเวทีอีกครั้งของกลุ่ม นปช. โดยใช้คำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญเป็นบันไดพาดลงจากเวทีอย่างหัวคะมำด้วยการรวบรัดประกาศว่าเป็นชัยชนะของการชุมนุม ทั้งที่ความจริงนี่ไม่ใช่ชัยชนะ แต่เป็นความพ่ายแพ้สองครั้งติดกันของระบอบทักษิณ หลังจากที่เพิ่งพ่ายแพ้ในศึก พ.ร.บ.นิรโทษกรรมมาหมาดๆ
นางธิดาและแกนนำ นปช.เองก็ประกาศชัยชนะอย่างไม่เต็มปากเต็มคำ โดยบอกว่าเป็นชัยชนะที่ยังไม่สมบูรณ์และวินวิน ดังนั้นจะต้องต่อสู้กันต่อไป ซึ่งหมายความว่าแกนนำ นปช. รู้ว่าที่จริงคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญไม่ใช่ชัยชนะ เพราะในคำแถลงยุติการชุมนุมได้กล่าวโจมตีศาลรัฐธรรมนูญว่าเป็นส่วนหนึ่งของระบบอำมาตย์ โดยประกาศปฏิเสธตุลาการศาลรัฐธรรมนูญในการใช้อำนาจก้าวก่ายอำนาจนิติบัญญัติ พร้อมประกาศสนับสนุนให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญทั้งฉบับ
คำประกาศชัยชนะของแกนนำ นปช.จึงเป็นการโกหกผู้ชุมนุม เป็นวาทกรรมหลอกตัวเองและผู้ชุมนุม และเป็นการรักษาหน้าการชุมนุม ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อสถานะ “การนำ” ในระยะต่อไปของแกนนำ นปช.แม้แต่น้อย โดยเฉพาะอย่างยิ่งในสภาวะที่สถานะ “การนำ” ง่อนแง่นอย่างยิ่งอันเห็นได้จากการชุมนุมครั้งนี้
นี่เป็นความผิดพลาดของแกนนำ นปช. (และรวมถึงแกนนำม็อบทั้งหลาย) ที่มักจะไม่พูดความจริง (โกหก) กับผู้ชุมนุมจนเป็นนิสัย และใช้วาทกรรมหลอกลวงเพื่อปลุกเร้าผู้ชุมนุมต่อไปราวกับผู้ชุมนุมกินหญ้า
สถานะ “การนำ” ของแกนนำม็อบ และความแตกสลายของม็อบทุกม็อบจึงเกิดด้วยสาเหตุนี้เป็นประการสำคัญที่สุด เพราะเมื่อมาม็อบก็มาด้วยความเชื่อถือเชื่อมั่น และเมื่อไปก็ไปเพราะไม่เชื่อถือเชื่อมั่นอีกต่อไป
แกนนำ นปช.กำลังเผชิญสถานการณ์เช่นว่านี้ ไม่ต่างจากที่แกนนำพันธมิตรฯเคยเจอมาแล้วในอดีต
แกนนำม็อบหน้าใหม่อย่างนายสุเทพ เทือกสุบรรณ ที่ราชดำเนิน ซึ่งไม่ใช่แกนนำม็อบอาชีพ แต่เป็นนักการเมือง จำจะต้องระมัดระวังต่อสถานะ “การนำ” ของตนยิ่งกว่าใคร
เพราะไม่ว่าม็อบทุกม็อบจะมีที่มาจาก “ใจ” มากน้อยแค่ไหน หรือมาจาก “ปัจจัย” มากน้อยแค่ไหน หรือผสมปะปนกันให้ดูคึกคักยิ่งใหญ่ แต่ท้ายที่สุดเมื่อม็อบที่มาจาก ”ใจ” จากไป ม็อบที่เหลือซึ่งมาจาก “ปัจจัย” ก็ไม่มีความหมาย และไม่อาจเป็นพลังในการต่อสู้ใดๆได้ เนื่องจากไม่ได้มาด้วย “ใจ “ อย่างดีก็แค่มาแสดง “ลิเก” ให้ดูกันเองหรือให้สังคมดูเท่านั้น
การประกาศยุติการชุมนุมของกลุ่ม นปช. จึงไม่ใช่เพราะได้ชัยชนะ แต่มาจากสาเหตุเพราะ การชุมนุมครั้งนี้ “จุดไม่ติด” ไม่สามารถระดมมวลชนคนเสื้อแดงมาร่วมชุมนุมได้ตามเป้าหมาย โดยมีผู้ชุมนุมอยู่ในหลักบวกลบหนึ่งหมื่นคนเท่านั้น และผู้ชุมนุมส่วนใหญ่เกือบทั้งหมดเป็นคนเสื้อแดงที่เป็นฐานเสียงของ ส.ส.พรรคเพื่อไทยในจังหวัดรอบ กทม. เช่น สมุทรปราการ
แดงแท้ แดงอุดมการณ์ที่มาด้วยใจ มาน้อยมาก แตกต่างจากการชุมนุมในอดีต เพราะผิดหวังกับหลายเรื่องหลายสิ่งและหลายคน
นอกจากนี้ การชุมนุมครั้งนี้ก็ไม่ได้รับความร่วมมือจากแกนนำคนเสื้อแดงในจังหวัดเสื้อแดงสำคัญๆในการระดมคนเสื้อแดงมาเข้าร่วมชุมนุม ไม่ว่าจะเป็นอุดรธานี เชียงใหม่ หรืออื่นๆ ส่วนบางจังหวัดที่มาก็ไปตั้งเวทีของตัวเอง เช่น แดงปทุมธานีไปตั้งเวทีที่อนุสาวรีย์พิทักษ์รัฐธรรมนูญ หลักสี ไม่เข้าร่วมที่ราชมังคลากีฬาสถาน
แกนนำ นปช. ผู้จัดการชุมนุมจึงอยู่ในสภาพ “ตีนลอย” เพราะแกนนำระดับจังหวัดพากันแข็งข้อต่อ “การนำ” ของแกนนำ นปช. ผู้ชุมนุมจึงอยู่ในสภาพบางตา ที่มาก็มาด้วย “ปัจจัย” อยู่ยาวไม่ได้ ไม่อาจยืดเยื้อการชุมนุมหรือยกระดับการชุมนุมเพื่อต่อกรกับม็อบราชดำเนินได้
แกนนำ นปช.จึงต้องรีบยุติการชุมนุมก่อนที่จะเสียหน้าและกระทบต่อสถานะ “การนำ” ของตนมากไปกว่านี้
สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ ได้เคยนำเสนอข่าวเจาะเรื่อง “ทัพทักษิณระส่ำ บอบช้ำหนัก ภายในร้าวลึก” เมื่อวันที่ 18 พฤศจิกายน 2556 ชี้ให้เห็นถึงสภาพปัญหาภายในของคนเสื้อแดงและสถานะ “การนำ” ของแกนนำ นปช.มาก่อนการประกาศยุติการชุมนุมวันที่ 20 พฤศจิกายน 2556 (โปรดย้อนไปอ่าน) ซึ่งก็เป็นความจริงตามนั้นเมื่อดูจากการชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานซึ่งล้มเหลวไม่เป็นท่า
อย่างไรก็ดี ยังมีเหตุผลสำคัญอีกประการหนึ่ง ซึ่งเป็นข้อมูลลึกที่สำนักข่าวออนไลน์ พีเพิล ยูนิตี้ รู้มาระบุว่า การที่ม็อบเสื้อแดงที่ราชมังคลากีฬาสถานจุดไม่ติดเพราะ “นายใหญ่” ไม่เดินหน้าสุดซอย โดยไม่สั่งแกนนำม็อบแต่ละจังหวัดเข้าร่วม เพราะไม่ต้องการให้เกิดการต่อต้านระบอบทักษิณขยายวงมากยิ่งขึ้น หรือเกิดการเผชิญหน้าขึ้น ซึ่งจะทำให้สถานการณ์ของระบอบทักษิณย่ำแย่หนักขึ้น โดยเฉพาะจะทำให้รัฐบาลถึงจุดจบเร็วขึ้น “นายใหญ่” ต้องการให้รัฐบาลอยู่ต่อไปอย่างน้อยอีกระยะหนึ่ง เพื่อผลักดันกฎหมายสำคัญ 2 ฉบับให้จบกระบวนการ คือกฎหมายกู้เงิน 2 ล้านล้านบาท และการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 190 โดยแน่ใจว่าคำตัดสินของศาลรัฐธรรมนูญจะออกมาแบบไม่สุดซอย รัฐบาลอยู่ต่อได้ ดังนั้นจึงไม่จำเป็นต้องทำให้สถานการณ์เกิดการเผชิญหน้าด้วยม็อบ
ทว่า ไม่ว่าการจุดไม่ติดของม็อบ นปช. จะเกิดจากสาเหตุใด แต่สิ่งที่เกิดขึ้นแล้วคือ สถานะ “การนำ” ของแกนนำ นปช. ถือว่าจบสิ้นลงแล้วอย่างไม่เป็นทางการในการชุมนุมที่ราชมังคลากีฬาสถานครั้งนี้ ไม่ว่าจะมาจากความไม่เชื่อถือไม่เชื่อมั่นในตัวแกนนำ นปช.อีกต่อไปของคนเสื้อแดง หรือมาจากการไม่ยอมอยู่ภายใต้การนำของแกนนำ นปช.อีกต่อไปของแกนนำเสื้อแดงระดับจังหวัด หรือมาจากการที่ “นายใหญ่” ยังคงใช้แนวทาง “สู้ไปเจรจาไป” อยู่ตลอดเวลา ซึ่งทั้งหมดล้วนนำมาสู่ความแตกสลายของแดงอุดมการณ์ที่ไม่ยอมแกล้งกินหญ้าอีกต่อไป
โดย – อาทิตย์ สิงหา
22 พฤศจิกายน 2556
http://peopleunitynews.com/web/2013/%E0%B8%82%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%B0-%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B9%81%E0%B8%81%E0%B8%99%E0%B8%99%E0%B8%B3-%E0%B8%99%E0%B8%9B/