เนื่องจากพักหลังนี้กำลังปรับตัวในมหาลัย ตามที่แฟนแนะนำเพื่อให้สอดคล้องกับหมอ แต่ก็ยังล้มเหลว และแฟนก็ได้เข้ามาดูการเรียนและใช้ชีวิตมหาลัยแล้ว แล้วอยากให้ผมออกจากที่นี้เสียดีกว่ามาทนทุกข์ทรมาน และเหนื่อยเปล่า
ที่นี้ปัญหามาของผมมาจาก เนื่องจาก ผมมีโรค Asperger syndrome กรณีผมมีIQสูงกว่าคนปกติแต่มีปัญหาการเข้าสังคมที่รุนแรงมาก ความผิดปกติของการสื่อความหมาย(ตัวนี้พอแก้ได้บ้างแล้ว)และการสบตา(แก้ได้แล้วเฉพาะคนน้อยๆ) ติดตัวมาตั้งแต่เด็กโดยไม่ได้รับการบำบัดและการรับมือเด็กลักษณะนี้จึงกลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังมา โดยเฉพาะของผมจะมีปัญหามากๆในเรื่องของการเข้าสังคม(มากขนาดที่ว่า ไม่รู้เลยว่าใครกำลังเรียกผมอยู่ เหมือนกับคนหูหนวก) ซึ่งน่าจะมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมเองด้วย เพราะมักจะถูกโดดเดี่ยวเสมอ และไม่มีใครสนใจ แต่เพราะความที่เรียนเก่งและรู้มาก(อย่างที่แฟนว่า) จึงยังมีคนพยายามเข้าถึงตัว แต่ก็ต้องเกลียดเพราะ ผมรับมือได้ยากมาก (ซึ่งผมคงเป็นความรู้สึกที่ผมไม่มีวันรู้) แม้แต่แฟนก็ยังบอกเลยว่า ยากถ้าไม่เข้าใจและสนใจและง่ายเมื่อเข้ามาได้
ส่วนปัญหาการใช้ชีวิตส่วนตัวไม่มีปัญหาเลย ทั้งการเรียนและกิจวัตรประจำวันอย่าง ทำอาหาร งานบ้าน ซ่อมคอมฯ การพยาบาล (ซึ่งก็ช่วยแฟนในเรื่องพวกนี้อยู่ตั้งแต่คบและอยู่กัน) จนตอนนี้ก็เพิ่งจะอายุ 20 สิ้วมหาวิทยาลัยมา3ครั้งแล้ว
ในปัจจุบันนี้ผมก็เรียนอยู่ศูนย์การเรียนเล็กๆของมหาลัยแห่งหนึ่งเรียนแค่คณะเดียว แรกๆ เข้าสังคมได้ดี แต่ยังเข้าสเตป(วนลูบ) คือ รู้จักกันได้สักพักพวกเขาก็ออกห่างและปล่อยให้ผมฉายเดียวมาโดยตลอด (จนผ่านมา1เทอมก็เป็นคนเดียวที่มีเกรดเกิน3.50) ทีนี้ประสบการณ์ที่สิ้วมาจากครั้งอื่นๆ ก็มีปัญหาลักษณะนี้เช่นกัน และรู้สึกได้ถึงความรังเกียจที่กำลังก่อตัวเหมือนที่ผมกำลังจะเจอ และหมอที่ไปรักษาเป็นประจำก็ลองแผนของหมอดู ซึ่งตอนนี้ แฟนผมเป็นคนประเมินและมองว่ากำลังได้ผลที่ตรงกันข้าม
ทางแก้ปัญหาที่ผมกับแฟนเห็นตรงกันว่า ถ้าผมไม่มีตัวดำเนินการช่วยในเรื่องนี้ในชีวิตประจำวัน ผมก็จะไม่รู้สึกถึงจิตใจคนอื่นหรือมีคนอื่นเข้ามาอยู่ในหัวได้เลย เพราะผมไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อนกับเรียนแล้วแต่สอบตก (โดยเริ่มจากให้รู้ตัวก่อนว่ามีคนกำลังเรียก) ซึ่งถ้าไม่มีใครยอม ก็จะไม่มีวันแก้ไขปัญหาได้ เพราะทักษะสังคมต้องเรียนจากสังคม ถ้าสังคมปิด ก็จบเห่
แต่ใน มหาลัย ชีวิตมันก็โหดร้ายไม่เบา นอกจากจะไม่มีใครสนใจและเข้าใจแล้ว(แต่ในมุมมองความรู้สึกผมคือพวกเขารังเกียจและไม่อยากแม้แต่จะมอง) แถมยังมี อ. บางท่านที่รังเกียจนักศึกษาในลักษณะนี้
ซึ่งนี้เป็นปัญหาที่ผมถกกับแฟนวันนี้ ซึ่งผลจากการถกคือ แฟนอยากให้ผมออกมาสิ้วเป็นครั้ง 4 เพื่อเป็นครั้งสุดท้าย แต่ผมขี้เกียจสิ้วแล้ว เพราะที่นี้เรียนสบาย ไม่หนักมาก คนเดียวเอาอยู่จบได้เกียรตินิยมสบายๆ โดยที่ผมและแฟนก็ลงความเห็นด้วยว่า อนาคตการทำงานเป็น0ทันที และผมเองก็ไม่อยากให้แฟนเป็นกังวลเรื่องนี้มาก เพราะแฟนผมก็เรียนหมออยู่ด้วยซึ่งหนักพอแล้ว แต่แฟนก็ยังจะช่วยเหลือและถามไถเป็นประจำ ซึซึ่งแฟนเคยบ่นๆไว้เหมือนกันว่า ถึงผมจะไม่เข้าใจความรัก ความเป็นห่วงเป็นไย จากใจ ที่คนอื่นให้ จนเสียความเป็นคนไปเยอะยังไง เค้าจะอยู่ตรงนี้ไม่ปล่อยให้ผมโดดเดียวอีกแล้วและจะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้ (จริงๆคือผมก็กลัวเขาจะเหนื่อยทิ้งผมด้วย ถ้าผมยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้)
ผมควรออกมาเริ่มวางแผนการเข้าสังคมใหม่โดยคราวนี้จะมีแฟนผมคอยควบดูแล ตามที่แฟนอยากให้ทำ หรือจะปรับแก้ในที่เดิมดีครับ ???
ปล.ส่วนเรื่องแฟน แล้วแต่ท่านผู้อ่านจะคิดครับ แต่อย่าใส่แฟนนะ ใส่ผมเองดีกว่า เพราะจะเอาไปประกอบตัดสินใจนำไปหามุมมองดีๆมาแย้งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเท่านั้นครับ
ขอสอบถามปัญหาพฤติกรรม
ที่นี้ปัญหามาของผมมาจาก เนื่องจาก ผมมีโรค Asperger syndrome กรณีผมมีIQสูงกว่าคนปกติแต่มีปัญหาการเข้าสังคมที่รุนแรงมาก ความผิดปกติของการสื่อความหมาย(ตัวนี้พอแก้ได้บ้างแล้ว)และการสบตา(แก้ได้แล้วเฉพาะคนน้อยๆ) ติดตัวมาตั้งแต่เด็กโดยไม่ได้รับการบำบัดและการรับมือเด็กลักษณะนี้จึงกลายเป็นปัญหาสะสมเรื้อรังมา โดยเฉพาะของผมจะมีปัญหามากๆในเรื่องของการเข้าสังคม(มากขนาดที่ว่า ไม่รู้เลยว่าใครกำลังเรียกผมอยู่ เหมือนกับคนหูหนวก) ซึ่งน่าจะมาจากประสบการณ์ที่ผ่านมาของผมเองด้วย เพราะมักจะถูกโดดเดี่ยวเสมอ และไม่มีใครสนใจ แต่เพราะความที่เรียนเก่งและรู้มาก(อย่างที่แฟนว่า) จึงยังมีคนพยายามเข้าถึงตัว แต่ก็ต้องเกลียดเพราะ ผมรับมือได้ยากมาก (ซึ่งผมคงเป็นความรู้สึกที่ผมไม่มีวันรู้) แม้แต่แฟนก็ยังบอกเลยว่า ยากถ้าไม่เข้าใจและสนใจและง่ายเมื่อเข้ามาได้
ส่วนปัญหาการใช้ชีวิตส่วนตัวไม่มีปัญหาเลย ทั้งการเรียนและกิจวัตรประจำวันอย่าง ทำอาหาร งานบ้าน ซ่อมคอมฯ การพยาบาล (ซึ่งก็ช่วยแฟนในเรื่องพวกนี้อยู่ตั้งแต่คบและอยู่กัน) จนตอนนี้ก็เพิ่งจะอายุ 20 สิ้วมหาวิทยาลัยมา3ครั้งแล้ว
ในปัจจุบันนี้ผมก็เรียนอยู่ศูนย์การเรียนเล็กๆของมหาลัยแห่งหนึ่งเรียนแค่คณะเดียว แรกๆ เข้าสังคมได้ดี แต่ยังเข้าสเตป(วนลูบ) คือ รู้จักกันได้สักพักพวกเขาก็ออกห่างและปล่อยให้ผมฉายเดียวมาโดยตลอด (จนผ่านมา1เทอมก็เป็นคนเดียวที่มีเกรดเกิน3.50) ทีนี้ประสบการณ์ที่สิ้วมาจากครั้งอื่นๆ ก็มีปัญหาลักษณะนี้เช่นกัน และรู้สึกได้ถึงความรังเกียจที่กำลังก่อตัวเหมือนที่ผมกำลังจะเจอ และหมอที่ไปรักษาเป็นประจำก็ลองแผนของหมอดู ซึ่งตอนนี้ แฟนผมเป็นคนประเมินและมองว่ากำลังได้ผลที่ตรงกันข้าม
ทางแก้ปัญหาที่ผมกับแฟนเห็นตรงกันว่า ถ้าผมไม่มีตัวดำเนินการช่วยในเรื่องนี้ในชีวิตประจำวัน ผมก็จะไม่รู้สึกถึงจิตใจคนอื่นหรือมีคนอื่นเข้ามาอยู่ในหัวได้เลย เพราะผมไม่เคยได้เรียนรู้มาก่อนกับเรียนแล้วแต่สอบตก (โดยเริ่มจากให้รู้ตัวก่อนว่ามีคนกำลังเรียก) ซึ่งถ้าไม่มีใครยอม ก็จะไม่มีวันแก้ไขปัญหาได้ เพราะทักษะสังคมต้องเรียนจากสังคม ถ้าสังคมปิด ก็จบเห่
แต่ใน มหาลัย ชีวิตมันก็โหดร้ายไม่เบา นอกจากจะไม่มีใครสนใจและเข้าใจแล้ว(แต่ในมุมมองความรู้สึกผมคือพวกเขารังเกียจและไม่อยากแม้แต่จะมอง) แถมยังมี อ. บางท่านที่รังเกียจนักศึกษาในลักษณะนี้
ซึ่งนี้เป็นปัญหาที่ผมถกกับแฟนวันนี้ ซึ่งผลจากการถกคือ แฟนอยากให้ผมออกมาสิ้วเป็นครั้ง 4 เพื่อเป็นครั้งสุดท้าย แต่ผมขี้เกียจสิ้วแล้ว เพราะที่นี้เรียนสบาย ไม่หนักมาก คนเดียวเอาอยู่จบได้เกียรตินิยมสบายๆ โดยที่ผมและแฟนก็ลงความเห็นด้วยว่า อนาคตการทำงานเป็น0ทันที และผมเองก็ไม่อยากให้แฟนเป็นกังวลเรื่องนี้มาก เพราะแฟนผมก็เรียนหมออยู่ด้วยซึ่งหนักพอแล้ว แต่แฟนก็ยังจะช่วยเหลือและถามไถเป็นประจำ ซึซึ่งแฟนเคยบ่นๆไว้เหมือนกันว่า ถึงผมจะไม่เข้าใจความรัก ความเป็นห่วงเป็นไย จากใจ ที่คนอื่นให้ จนเสียความเป็นคนไปเยอะยังไง เค้าจะอยู่ตรงนี้ไม่ปล่อยให้ผมโดดเดียวอีกแล้วและจะเป็นแหล่งศึกษาเรียนรู้ให้ (จริงๆคือผมก็กลัวเขาจะเหนื่อยทิ้งผมด้วย ถ้าผมยังแก้ไขปัญหานี้ไม่ได้)
ผมควรออกมาเริ่มวางแผนการเข้าสังคมใหม่โดยคราวนี้จะมีแฟนผมคอยควบดูแล ตามที่แฟนอยากให้ทำ หรือจะปรับแก้ในที่เดิมดีครับ ???
ปล.ส่วนเรื่องแฟน แล้วแต่ท่านผู้อ่านจะคิดครับ แต่อย่าใส่แฟนนะ ใส่ผมเองดีกว่า เพราะจะเอาไปประกอบตัดสินใจนำไปหามุมมองดีๆมาแย้งเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาเท่านั้นครับ