แม่นุ่น รวม 5 ตอน ถึงตอนที่ 25 (ตอนล่าสุด ณ​ วันที่ 21 พย 56 )

จากเพจ "แม่นุ่น" www.facebook.com/noonsupermom

ถ่ายทอดประสบการณ์ แม่นุ่น คุณแม่ลูกสอง ที่ป่วยเป็นมะเร็งเต้านมระยะสุดท้าย ด้วยวัยเพียง 29 ปี


ตอน 23.2  "ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้"
ตอน 23.3 "โจทย์หิน...ขอใบส่งตัวครั้งสาม จาก รร แพทย์ สู่ รร แพทย์”
ตอน 23.4 “ท้องโต.. เมื่อไหร่จะหายสักที?”
ตอน 24  “ก้อนเลือดปริศนา.. กับความหวังครั้งใหม่”
ตอน 25  "สติ สมอง หัวใจ ต้องไปด้วยกัน"

############################

ตอน 23.2  "ยอมรับ แต่ไม่ยอมแพ้"



ผมใช้ความเร็วมากกว่าปกตินิดหน่อย

เพราะห่วงกลัวมีเหตุการณ์ฉุกเฉินเกิดขึ้นระหว่างทาง

เรามาถึง กทม ราวๆหนึ่งทุ่มเศษ

“พี่เหมียว ถึง กทมแล้ว ไปเจอกันที่ รพ ได้เลย”

ผมยกหูโทรศัพท์บอกพี่เหมียวแฟนหมอชินว่า ถึง กทม แล้ว

พี่เหมียวตอบตกลง
เราจะไปเจอกันที่ รพ อีกประมาณ ครึ่ง ชม ข้างหน้า

รพ นี้ อยู่ไม่ไกลจากบ้านมากเวลาไปทำงานต้องผ่านประจำ แต่นี่เป็นครั้งแรกที่ได้มา

รพ ค่อนข้างมืด และเก่าแต่เราก็ไม่รู้สึกอะไรมากเพราะยังไงเสีย
หมอขิน เป็นคนลงมือเอง นั่นคือสิ่งที่สำคัญที่สุดที่เรามา

คุณหมอกับพี่เหมียวรออยู่ข้างบนแล้ว

“อ้วน ลงไปทำบัตรก่อนจะได้เร็วเค้าจะเอารถไปจอด เดี๋ยวรีบวิ่งกลับมา”

ผมบอกแม่นุ่น ให้ลงจุดจอดรถฉุกเฉิน ที่มี จนท เคลื่อนย้าย รอรับอยู่

โชคดี ลานจอดไม่ไกลมาก

รถไม่มีเพราะมืดแล้ว(น่ากลัวจิงๆ)

จอดรถได้ผมก็รีบมาหาแม่นุ่นที่นั่งรถอยู่บนรถเข็น แถวประตูทางเข้า

เหมือนทุกครั้งที่มารพ

ครั้งแรก ต้องทำบัตรก่อน

ไม่กี่นาทีก็เรียบร้อย จนท รีบนำแม่นุ่นขึ้นลิฟท์เพื่อหาหมอที่รออยู่แล้ว

ลิฟท์เก่าๆ น่ากลัวจังแหะ!

ผมนึกในใจ ตัวใหญ่ๆอย่างนี้ ให้ขึ้นลงคนเดียวก็มีเสียวเหมือนกัน

เจาะครั้งนี้ ต้องทำที่ห้องผ่าตัด

เป็นครั้งแรกที่ต้องมาสถานที่ลักษณะนี้ พยาบาลสี่ห้าคนใส่เสื้อเขียวเหมือนในละคร

แม่นุ่น ไม่ได้ดูท่าหนักอกหนักใจ

ตอนนี้ดู "หนักท้อง" มากกว่า

แม่นุ่นเข้าไปในห้องผ่าตัดแล้ว ส่วนผมตามเข้าไปไม่ได้ ต้องรออยู่กับพี่เหมียวข้างนอก

คุยกันฆ่าเวลาเรื่อยเปื่อย

ผ่านไปกว่า ชม แล้ว

รู้สึกว่าการเจาะท้องครั้งนี้นานกว่าครั้งที่แล้วมาก

ขณะที่ผมนั่งรออยู่

สักพัก หนึ่งผมก็เห็นพยาบาล ทยอยถือน้ำที่เจาะออกมาจากท้องแม่นุ่นทีละขวด

ขวดที่หนึ่ง พยาบาลถือเดินผ่านหน้าไป

สังเกตุครั้งนี้สีขุ่นจากครั้งแรกที่เคยใสแจ๋ว

ไม่กี่นาทีต่อมา พยาบาลกลับมาเอาขวดที่สอง... เดินผ่านหน้าไป

...อืม.. สองขวดแล้วเดี๋ยวก็หมด ผมนึกในใจ

สักพัก ขวดที่สาม ก็ตามมา

คงขวดสุดท้ายแล้ว จะได้กลับเสียที..

...

...

แต่...

...

ขวดที่สี่ ก็ตามมา
หือ...ยังมีอีกเหรอ

แป๊บมาอีก ...ขวดที่ห้า...

กลับมาอีก...ขวดที่หก...

อีกที...
ขวดที่เจ็ด.... เฮ้ย มันเยอะเกินไปป่ะ !!!

หมอเจาะทั้งหมดได้ทั้งหมดเจ็ดขวด

เห็นแล้วใจไม่ดี

พยาบาลเข็นแม่นุ่นออกมาแล้ว

ผมมองไปที่แม่นุ่นดูยิ้มแย้มปกติ

มองไปที่หมอชินก็ดูไม่มีความผิดปกติอะไร

มีแต่ผมนั่งไม่ค่อยติดเท่าไหร่

“หมอครับ ทำไมครั้งนี้มันขุ่น”ผมถามหมอ สงสัย ปนกังวลเพราะไม่รู้ว่าทำไมสีมันขุ่นดูน่ากลัว

“อ๋อที่ขุ่นก็เป็นพวกไขมันที่พิ่งกินมานั่นแหละมันซึมออกมากับน้ำครับไม่มีอะไร” หมอบอกเรื่องปกติ

..หมอ หลอกให้ดีใจป่าว?.. ถึงบอกปกติ แต่ผมไม่แน่ใจว่านี่ปลอบใจ หรือ เรื่องจริง

“ออกมาเท่าไหร่ครับหมอ?”ผมตัดบท ถามหมอจำนวนน้ำที่ได้อีกครั้ง

“สามลิตรครึ่งครับ”หมอตอบกลับมา

โอ.. สามลิตรครึ่งเลยเหรอ...

เหมือน โค้กลิตรเกือบสามขวด ที่อยู่ในท้องแม่นุ่น...

เยอะจริงๆ เยอะมากๆ... ผมไม่สบายใจเลย...

“จริงๆ จะได้เยอะกว่านี้นะแต่นุ่นไอแรง ทำให้เข็มมันเคลื่อนเลยต้องหยุด” หมอเล่าต่อ

หูฟังหมอ...

แต่หัว มีคำถามที่ผุดขึ้นมามากมาย...

เจาะครั้งนี้ห่างกันไม่ถึงเจ็ดวันแต่น้ำมากกว่าครั้งแรกถึงสองลิตร?

ผมเคยคิดว่า การบวมน้ำครั้งนี้เป็นเพราะยา Taxotere แต่มันคงไม่น่าใช้แล้วละ

เพราะถ้าเกิดจากยาจริงเราก็หยุดยามาเดือนกว่าแล้ว ยาน่าจะหมดฤทธิ์ สังเกตุจากผมที่เริ่มขึ้น แต่ทำไมน้ำยังมีอยู่?

หรือเป็นเพราะมะเร็งกระจายในช่องท้องแบบที่หมอคนแรกบอก ?

ถ้ากระจายแล้วจะทำยังไ?

ไม่อยากคิดเลย..

ผมเริ่มฟุ้งซ่าน..

แม่นุ่นยังอยุ่ใกล้ๆ ผมถามหมอไม่ได้...

...ถามไม่ได้คงต้องช่วยตัวเองแล้ว..

..ต้องกลับไปค้นดูว่า เพราะอะไร และทำไม..

เราลาหมอกลับบ้าน

ผมยังอยู่โหมดเครียด

นึกถึงคอมคู่ชีพ เมื่อไหร่จะถึงบ้าน สักที...

......................

เพราะ รพ ไม่ไกลมาก เราถึงบ้านอีกประมาณ ยี่สิบนาที ต่อมา

แม่นุ่นเข้านอนเลย เพราะความเพลีย

ส่วนผม แม้จะเหนื่อยทั้งวันแต่ไม่อาจจะหลับลงได้

เพราะใจยังหมกหมุ่นเกี่ยวกับปัญหาน้ำในท้องของแม่นุ่น

ตอนนี้ เวลาประมาณห้าทุ่มกว่า ทุกคนหลับหมด

ผมนั่งโต๊ะทำงานเปิดคอม

เปิด google ค้นข่อมูลทันที

ข้อมูลที่ได้ไม่ใช่น้อยเลย ผมจะเลือกอ่านจากเวปที่ดูน่าเชื่อถือได้เท่านั้น

ผมอ่านทุกอย่างที่พออ่านได้แต่ ศัพท์ทางการแพทย์ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายสำหรับทำความเข้าใจ

ต่องเปิด<a>http://dictionary.webmd.com/</a>เพื่อแปล ศัพท์แพทย์ให้เป็นภาษาที่เข้าใจได้

เวปไทย เวปเทศ

เวปแล้ว เวปเล่า

แปลถูก แปลผิด แต่ยังไม่ละความพยายาม
...

...

เวลาผ่านไปเรื่อยๆ.. แต่ผมยังไม่ได้อะไรเป็นชิ้นเป็นอันมากนัก

เจออะไรสำคัญก็ได้แต่ก๊อปปี้ ตัดแปะไว้ใน ไฟล์ word ที่เปิดไว้อีกหน้า

..

..

ตอนนี้ ตีสอง แล้ว

ผมพอได้ข้อมูลอะไรบางอย่างถึงจะยังไม่กระจ่างนัก
แต่ด้วยเวลา ผมต้องหยุดเท่านี้

ผมเริ่มทำความเข้าใจกับข้อมูลทุกชิ้นที่ได้

รวบรวม เรียบเรียง อยู่นาน

ในที่สุดก็ พอได้มาตรการ การดูแลแม่นุ่นในช่วงนั้น

1) เริ่มจากการกิน ตอนนี้ผมต้องคะยั้นคะยอให้แม่นุ่นทานอาหารเสริมพิเศษที่มีโปรตีนอัลบูมินสูง

2) การจำกัดน้ำดื่มไม่ให้เกินหนึ่งลิตรต่อวัน

3) งดเค็ม ผมต้องไปหาน้ำปลา ซีอิ้วขาวโซเดียมต่ำที่จำได้ว่าหาซื้อได้ทั่วไปตามร้านซุปเปอร์มาเก็ต

4) การใช้ยาขับปัสสาวะเพื่อช่วยขับน้ำทางร่างกายเรื่องนี้ผมต้องปรึกษาหมอก่อน

5) มาตรการสุดท้ายผมต้องจับแม่นุ่นชั่งน้ำหนักทุกเช้าเพื่อดูว่าน้ำหนักขึ้นผิด ปกติหรือไม่เช่น ถ้ากินตามปกติแต่น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้น 1กก แบบนี้ ต้องเป็นน้ำหนักของน้ำ ซึ่งผมควรจะต้องรายงานหมอทันที

ตอนนี้ตีสามกว่า...

ผมก็ไม่รุ้หรอกว่าข้อมูลที่ได้มันจะเวิร์กมั้ย..
ไม่รู้สาเหตุเกิดจากที่ไหน...

แต่อย่างน้อยก็ดีกว่าไม่ได้ทำอะไรเลย...

......................

วันที่ 15 กค

เมื่อคืนไม่รู้หลับตอนไหน

ตืนมาอีกทีก็เพราะเสียงนาฬิกาปลุกที่ตั้งไว้

วันนี้ เราต้องเจาะเลือดตรวจรพ รามา แต่เช้า

เพราะความเหนื่อยและเพลีย แถมนอนน้อย
ผมแทบไม่อยากลุกจากเตียงเลย

....ไม่ได้ นอนต่อไม่ได้ต้องลุก ลุกเดี๋ยวนี้ ... ผมพยายามกระตุ้นตัวเอง

ผมลุกขึ้นมาแล้ว แต่ยังไม่หายงัวเงีย
แม่นุ่นยังนอนหลับ อ้าปาก หายใจครืดๆ

มองนาฬิกา ตอนนี้หกโมง นอนไป 3 ชมเอง
โอ้เอ้ นานแล้ว เลยกัดฟันเดินเข้าห้องน้ำ ก่อนจะสายกว่านี้

ปกติผมเป็นคนชอบน้ำอุ่นแต่เช้านี้ขอเป็นน้ำเย็นแทนละกันจะได้สดชื่นขึ้น

ผมก้มหน้าเปิดฟักบัวแรงสุดตรงที่หัว

กระตุ้นตัวเอง ให้ตื่นๆๆๆ

"ยิ้ม...เหนื่อยว่ะ...."
"ต้องทำอะไรอีกว่ะเนี่ย...”ผมบ่นกับตัวเองเพราะทั้งง่วงทั้งเหนื่อย
คำว่าสายตัวแทบขาดคงเป็นประมาณนี้

แต่เหนื่อย..แล้วยังไง.. ?

มุมหนึ่งของจิตใจก็ทำงาน

กูรู้ว่าเหนื่อย...

แต่.. ถ้าไม่ทำใครจะทำ..?

เห็นเมียนอนอ้าปากอยู่ข้างนอกมั้ย

เห็นลูกที่เรียกมามี๊ ปะป๊า อยู่ทุกวันมั๊ย

ถ้าไม่สู้ ก็ไม่เหลือใครจะสู้

เลิกรำพึงรำพันหาสวรรค์วิมาน แล้วทำหน้าที่ของเดี๋ยวนี้

..
..

..เออ จริง

..เราไม่ทำ ใครจะทำ..

..เราไม่สู้ ก็ไม่มีใครแล้ว..

คิดได้หายเหนื่อย
รีบสลัดความรู้สึกพวกนั้นออกไปอาบน้ำ สระผม ทาครีม ฉีดน้ำหอม

...วันนี้ จะลบล้างความเหนื่อย ด้วยความ หล่อ แมน และ แฮนซั่มสุดๆ ...

เสร็จแล้วเดินไปปลุกแม่นุ่น

“ไป.. ลุกไปอาบน้ำ..เราจะไป รพ กัน”

แม่นุ่น งัวเงีย ลืมตา มองผมหัวจรดเท้า "จะหล่อไปไหน?"

ผมไม่ตอบ ได้แต่ยิ้ม และคิดในใจว่า ...."แหม ไม่น่าเอาเรื่องจริง มาพูดเล่นเลย".....

...จบตอน...
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ครอบครัว สุขภาพกาย โรคมะเร็ง
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่