ทักทายกันค่ะ
หายไปหลายวันเลย พอดีนกรีบไปตรวจต้นฉบับ มิสิ้นเสน่หาราตรี 1 ในชุดบุษบารัญจวน ของ สนพ อินเลิฟ
วันนี้ว่างนิดหน่อยมาลงต่อให้คราวที่แล้วค้างตอนที่17 ลงไว้ไม่ครบต่อให้แล้ว มีคนตามไปถามที่ Facebook
ของนก อัปสรา นักเขียน ว่าขี้เกียจตามอ่านเห็นมีปกออกแล้วเหรอ เล่มนี้ทำมือค่ะ ตอนพิมพ์ครั้งแรก เป็นอีก
ปกหนึ่ง ออกไปกับ สนพ ปัณปุระ ที่เป็นนิยายแนวอิงประวัติศาสตร์ แต่เขาปิด สนพ ไปแล้วเลยคืนต้นฉบับให้
นักเขียนทุกท่าน นกเลยนำมารีไรต์ ทำมือ วางจำหน่ายตามร้านขายหนังสือออนไลน์ และทำอีบุคไปค่ะ หาก
ไปเจอปกเดิมชื่อเดิมไม่ต้องตกใจคนเดียวกันนี่แหละค่ะ
++++++++++++++++++
ตอนที่ 17
http://ppantip.com/topic/31248211
เอ่อ...บ่าว..บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ”
ขมิ้นแอบรักขุนไกรมานานแล้ว ขุนไกรนั้นก็รู้ดี ถ้าหล่อนเป็นบ่าวที่เรือนอื่น คงจะได้เป็นเมียบ่าวไปแล้ว แต่ทว่าขุนไกรกลับไม่คิดอย่างนั้น ท่านขุนที่หล่อนรัก กลับไม่ใช่ชายมักมากในกาม ไม่คิดจะสะสมเมียเหมือนกับบรรดาเพื่อน ๆ ของท่าน นั่นยิ่งทำให้หล่อนมีความหวังมากขึ้น
“เอ็งออกไปเถิดข้าจักเข้านอนแล้ว”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มลึกไม่ได้ดุแบบกราดเกรี้ยวที่เห็นว่าขมิ้นกำลังทำอะไรอยู่ กลับพูดด้วยความอ่อนโยน ไม่ใช่ขุนไกรจะไม่มีความต้องการแบบบุรุษเพศทั่วไป แต่เขาไม่นิยมเป็นสมภารกินไก่วัดต่างหาก แม้บางครั้งรู้สึกอยากจะปลดปล่อยอารมณ์ตามความต้องการของร่างกายและจิตใต้สำนึกที่แข็งขืนเครียดเก็งมาเพราะแม่หญิงวิลันดาเมื่อครู่ แต่ก็ไม่คิดจะเอาอารมณ์นั้นไปใช้กับบ่าวไพร่ เพราะเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจจะสามารถยกผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเป็นเมียได้ เพราะตั้งใจไว้ว่า หากจะมีเมียแล้ว ขุนไกรคนนี้ขอมีเพียงเมียเดียวเท่านั้น
เพราะขุนไกรยังจำภาพแม่หญิงลูกจันทน์ น้าสาวที่เมื่อก่อนท่านชอบมาปรับทุกข์เรื่องผัวมีเมียมากจนเต็มเรือนกับคุณท้าวเฟื่องอยู่เนืองๆ แต่พักหลังท่านหายไป เพราะท่านย้ายไปอยู่ที่หัวเมืองตาก เขาเห็นบ่อยครั้งเข้าจึงรู้สึกอนาถใจที่ผู้ชายเพศเดียวกับเขา จะทำให้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเมียเอกต้องทุกข์ใจมากมายขนาดนั้น
“ท่านขุนเจ้าจักด่าว่าบ่าวหน้าด้านเยี่ยงไรก็ได้ แต่บ่าวมีใจรักใคร่ท่านขุนมานานแล้วหนาเจ้าค่ะ บ่าวมิกล้าคิดอาจเอื้อมจักเป็นเมียท่านขุน บ่าวขอแค่ได้รับใช้ท่านขุนก็พอเจ้าค่ะ” ขมิ้นคลานเข้ามาหมอบและกอดขาขุนไกรร่ำไห้อย่างน่าเวทนา
“เอ็งออกไปก่อนที่จักมีผู้ใดมาพบเข้าเถิด หากท่านแม่เห็นเข้า เอ็งจักถูกโบยเอาได้ ความรักที่เอ็งมีให้ข้านั้น ข้าซาบซึ้งใจนัก แต่ข้าเองมิอาจรับน้ำใจเอ็งเยี่ยงนั้นได้”
ขุนไกรถอนใจเฮือกใหญ่ ยิ่งพูดจากับหล่อนอย่างอ่อนโยนไม่ได้ทำท่ารังเกียจ แต่การปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ยิ่งทำให้ขมิ้นตัดใจจากท่านไม่ได้ แต่ในใจหล่อนนึกเคียดแค้นแม่หญิงพวกนั้นต่างหาก ถ้าไม่มีพวกนางแล้ว ท่านคงจะชายตาลงมามองนังขมิ้นบ้าง
++++++++++++++++++
บุพเพข้ามภพ ตอนที่ 18 (หายไปหลายวันกลับมาแล้วค่ะ)
ทักทายกันค่ะ
หายไปหลายวันเลย พอดีนกรีบไปตรวจต้นฉบับ มิสิ้นเสน่หาราตรี 1 ในชุดบุษบารัญจวน ของ สนพ อินเลิฟ
วันนี้ว่างนิดหน่อยมาลงต่อให้คราวที่แล้วค้างตอนที่17 ลงไว้ไม่ครบต่อให้แล้ว มีคนตามไปถามที่ Facebook
ของนก อัปสรา นักเขียน ว่าขี้เกียจตามอ่านเห็นมีปกออกแล้วเหรอ เล่มนี้ทำมือค่ะ ตอนพิมพ์ครั้งแรก เป็นอีก
ปกหนึ่ง ออกไปกับ สนพ ปัณปุระ ที่เป็นนิยายแนวอิงประวัติศาสตร์ แต่เขาปิด สนพ ไปแล้วเลยคืนต้นฉบับให้
นักเขียนทุกท่าน นกเลยนำมารีไรต์ ทำมือ วางจำหน่ายตามร้านขายหนังสือออนไลน์ และทำอีบุคไปค่ะ หาก
ไปเจอปกเดิมชื่อเดิมไม่ต้องตกใจคนเดียวกันนี่แหละค่ะ
++++++++++++++++++
ตอนที่ 17
http://ppantip.com/topic/31248211
เอ่อ...บ่าว..บ่าวขอโทษเจ้าค่ะ”
ขมิ้นแอบรักขุนไกรมานานแล้ว ขุนไกรนั้นก็รู้ดี ถ้าหล่อนเป็นบ่าวที่เรือนอื่น คงจะได้เป็นเมียบ่าวไปแล้ว แต่ทว่าขุนไกรกลับไม่คิดอย่างนั้น ท่านขุนที่หล่อนรัก กลับไม่ใช่ชายมักมากในกาม ไม่คิดจะสะสมเมียเหมือนกับบรรดาเพื่อน ๆ ของท่าน นั่นยิ่งทำให้หล่อนมีความหวังมากขึ้น
“เอ็งออกไปเถิดข้าจักเข้านอนแล้ว”
น้ำเสียงนุ่มทุ้มลึกไม่ได้ดุแบบกราดเกรี้ยวที่เห็นว่าขมิ้นกำลังทำอะไรอยู่ กลับพูดด้วยความอ่อนโยน ไม่ใช่ขุนไกรจะไม่มีความต้องการแบบบุรุษเพศทั่วไป แต่เขาไม่นิยมเป็นสมภารกินไก่วัดต่างหาก แม้บางครั้งรู้สึกอยากจะปลดปล่อยอารมณ์ตามความต้องการของร่างกายและจิตใต้สำนึกที่แข็งขืนเครียดเก็งมาเพราะแม่หญิงวิลันดาเมื่อครู่ แต่ก็ไม่คิดจะเอาอารมณ์นั้นไปใช้กับบ่าวไพร่ เพราะเขารู้ตัวดีว่าไม่อาจจะสามารถยกผู้หญิงคนไหนขึ้นมาเป็นเมียได้ เพราะตั้งใจไว้ว่า หากจะมีเมียแล้ว ขุนไกรคนนี้ขอมีเพียงเมียเดียวเท่านั้น
เพราะขุนไกรยังจำภาพแม่หญิงลูกจันทน์ น้าสาวที่เมื่อก่อนท่านชอบมาปรับทุกข์เรื่องผัวมีเมียมากจนเต็มเรือนกับคุณท้าวเฟื่องอยู่เนืองๆ แต่พักหลังท่านหายไป เพราะท่านย้ายไปอยู่ที่หัวเมืองตาก เขาเห็นบ่อยครั้งเข้าจึงรู้สึกอนาถใจที่ผู้ชายเพศเดียวกับเขา จะทำให้ผู้หญิงที่ขึ้นชื่อว่าเมียเอกต้องทุกข์ใจมากมายขนาดนั้น
“ท่านขุนเจ้าจักด่าว่าบ่าวหน้าด้านเยี่ยงไรก็ได้ แต่บ่าวมีใจรักใคร่ท่านขุนมานานแล้วหนาเจ้าค่ะ บ่าวมิกล้าคิดอาจเอื้อมจักเป็นเมียท่านขุน บ่าวขอแค่ได้รับใช้ท่านขุนก็พอเจ้าค่ะ” ขมิ้นคลานเข้ามาหมอบและกอดขาขุนไกรร่ำไห้อย่างน่าเวทนา
“เอ็งออกไปก่อนที่จักมีผู้ใดมาพบเข้าเถิด หากท่านแม่เห็นเข้า เอ็งจักถูกโบยเอาได้ ความรักที่เอ็งมีให้ข้านั้น ข้าซาบซึ้งใจนัก แต่ข้าเองมิอาจรับน้ำใจเอ็งเยี่ยงนั้นได้”
ขุนไกรถอนใจเฮือกใหญ่ ยิ่งพูดจากับหล่อนอย่างอ่อนโยนไม่ได้ทำท่ารังเกียจ แต่การปฏิเสธอย่างนุ่มนวล ยิ่งทำให้ขมิ้นตัดใจจากท่านไม่ได้ แต่ในใจหล่อนนึกเคียดแค้นแม่หญิงพวกนั้นต่างหาก ถ้าไม่มีพวกนางแล้ว ท่านคงจะชายตาลงมามองนังขมิ้นบ้าง
++++++++++++++++++