เรื่องของเรื่องคือเราโดนปฏิเสธความรักมาเยอะ - -" โดยมักจะเป็นอารมณ์แอบชอบเพื่อน แต่สุดท้ายเค้าก็คิดกับเราแค่เพื่อน ผิดหวังตลอด ซึ่งยิ่งโตขึ้นเราก็ยิ่งทำใจได้เร็วขึ้น แต่สิ่งที่ทำให้เรารู้สึกว่า ถึงจะโดนปฏิเสธความรักมา ก็อย่าไปเสียใจหรือเสียดายอะไรมากมายเลย เพราะทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้วมันมีเหตุผลในตัวมันเองเสมอ ถึงมันจะทำให้คุณเศร้า แต่เมื่อเวลาผ่านไป คุณจะเข้าใจเหตุและผลของมันเอง
เราเคยชอบเพื่อนอยู่สองสามคน ซึ่งเราก็ชอบเค้าด้วยความจริงใจนะ แต่เวลาผ่านไป บางคนเราก็ไม่ได้บอกรัก บางคนเราก็บอกไปแล้วโดนปฏิเสธมา ซึ่งเหตุผลที่เค้าปฏิเสธเราคือ เค้าคิดกับเราแค่เพื่อน ไม่ได้รักแบบคนรัก ซึ่งเราก็เสียใจและเสียดายมากเพราะเรารักเค้าจริงและเราก็รู้สึกว่าเค้าก็เป็นคนดี (คือเราเป็นคนชอบคนดี) ซึ่งแน่นอนพอโดนปฏิเสธ เราก็ห่างๆกันไปเป็นปีกว่าจะทำใจได้แล้วถึงจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกที
พอกลับมาเป็นเพื่อนกัน เราก็ไม่ได้เสียใจแล้ว แต่มีแอบเสียดายอยู่บ้าง ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่พอคุยๆเป็นเพื่อนกันไป ด้วยความสนิทสนมเราก็จะได้รับรู้ถึงทัศนคติลึกๆของเค้า ซึ่งพอได้แลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกันในฐานะเพื่อนสนิทเราถึงได้รู้ว่า อันที่จริงแล้ว ทัศนคติเราไปด้วยกันไม่ได้ คือมันมีมุมมองความคิดบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ซึ่งมันดันเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เรารับไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนไม่ดีนะ เค้าก็ยังคนเป็นคนจิตใจดี เพียงแต่มันมีทัศนคติบางอย่างที่เราให้ความสำคัญซึ่งถ้าคิดเรื่องนี้ไปคนละทาง เราก็รู้สึกได้เลยว่าคงเป็นคู่ชีวิตกันไม่ได้
คือตอนเราชอบเค้าตอนนั้น เราชอบเค้าจริงๆ อะไรที่มันเหมือนจะไม่คลิ๊กเราก็มองข้ามๆมองผ่านๆไป เพราะเราชอบเค้าไง อยากคบหาดูใจ เพราะนิสัยทุกอย่างเราก็รู้สึกว่าเราประทับใจ แต่พอมาได้รู้จักทัศนคติที่แท้จริง มันมีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นเองที่ไม่ตรงกับเรา แต่ว่ามันเป็นไม่กี่เรื่องที่เรารู้สึกว่าสำคัญมากสำหรับคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเรา เราเลยคิดได้ว่า ถึงตอนนั้นเค้าจะรับรักเราแล้วเราสมหวัง แต่วันนึงเรามาค้นพบว่าทัศนคติเราไปด้วยกันไม่ได้ เราก็คงต้องเลิกกับเค้าอยู่ดี เราเลยคิดได้ว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แม้จะทำให้เราเสียใจ แต่บางทีมันก็เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
เราเลยอยากจะบอกคนอื่นๆเหมือนกันว่า คนเราจะคบกันเป็นคู่ชีวิตที่สำคัญนอกจากพื้นฐานของความรักความชอบกันแล้ว ทัศนคตืที่ไปด้วยกันได้ และ ศีลที่เสมอกันจะทำให้เราอยู่กับเค้าไปได้ตลอดชีวิต เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียใจหรือเสียดายอะไรเลยถ้าคนที่คุณรักเค้าไม่รับรักคุณ เพราะ สุดท้ายแล้วนั่นก็แสดงว่าเค้าไม่ใช่คนที่ใช่นั่นเอง
ถ้าคุณโดนปฏิเสธความรักมา ก็อย่าไปเสียใจหรือเสียดายเลยนะ
เราเคยชอบเพื่อนอยู่สองสามคน ซึ่งเราก็ชอบเค้าด้วยความจริงใจนะ แต่เวลาผ่านไป บางคนเราก็ไม่ได้บอกรัก บางคนเราก็บอกไปแล้วโดนปฏิเสธมา ซึ่งเหตุผลที่เค้าปฏิเสธเราคือ เค้าคิดกับเราแค่เพื่อน ไม่ได้รักแบบคนรัก ซึ่งเราก็เสียใจและเสียดายมากเพราะเรารักเค้าจริงและเราก็รู้สึกว่าเค้าก็เป็นคนดี (คือเราเป็นคนชอบคนดี) ซึ่งแน่นอนพอโดนปฏิเสธ เราก็ห่างๆกันไปเป็นปีกว่าจะทำใจได้แล้วถึงจะได้กลับมาเป็นเพื่อนกันอีกที
พอกลับมาเป็นเพื่อนกัน เราก็ไม่ได้เสียใจแล้ว แต่มีแอบเสียดายอยู่บ้าง ซึ่งเราก็ไม่ได้คิดอะไรมากเพราะมันเป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว แต่พอคุยๆเป็นเพื่อนกันไป ด้วยความสนิทสนมเราก็จะได้รับรู้ถึงทัศนคติลึกๆของเค้า ซึ่งพอได้แลกเปลี่ยนมุมมองชีวิตกันในฐานะเพื่อนสนิทเราถึงได้รู้ว่า อันที่จริงแล้ว ทัศนคติเราไปด้วยกันไม่ได้ คือมันมีมุมมองความคิดบางอย่างที่ไม่ตรงกัน ซึ่งมันดันเป็นหนึ่งในไม่กี่เรื่องที่เรารับไม่ได้ แต่ไม่ได้หมายความว่าเค้าเป็นคนไม่ดีนะ เค้าก็ยังคนเป็นคนจิตใจดี เพียงแต่มันมีทัศนคติบางอย่างที่เราให้ความสำคัญซึ่งถ้าคิดเรื่องนี้ไปคนละทาง เราก็รู้สึกได้เลยว่าคงเป็นคู่ชีวิตกันไม่ได้
คือตอนเราชอบเค้าตอนนั้น เราชอบเค้าจริงๆ อะไรที่มันเหมือนจะไม่คลิ๊กเราก็มองข้ามๆมองผ่านๆไป เพราะเราชอบเค้าไง อยากคบหาดูใจ เพราะนิสัยทุกอย่างเราก็รู้สึกว่าเราประทับใจ แต่พอมาได้รู้จักทัศนคติที่แท้จริง มันมีแค่ไม่กี่เรื่องเท่านั้นเองที่ไม่ตรงกับเรา แต่ว่ามันเป็นไม่กี่เรื่องที่เรารู้สึกว่าสำคัญมากสำหรับคนที่จะมาเป็นคู่ชีวิตเรา เราเลยคิดได้ว่า ถึงตอนนั้นเค้าจะรับรักเราแล้วเราสมหวัง แต่วันนึงเรามาค้นพบว่าทัศนคติเราไปด้วยกันไม่ได้ เราก็คงต้องเลิกกับเค้าอยู่ดี เราเลยคิดได้ว่า ทุกสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว แม้จะทำให้เราเสียใจ แต่บางทีมันก็เป็นทางออกที่เหมาะสมที่สุดแล้ว
เราเลยอยากจะบอกคนอื่นๆเหมือนกันว่า คนเราจะคบกันเป็นคู่ชีวิตที่สำคัญนอกจากพื้นฐานของความรักความชอบกันแล้ว ทัศนคตืที่ไปด้วยกันได้ และ ศีลที่เสมอกันจะทำให้เราอยู่กับเค้าไปได้ตลอดชีวิต เลยไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเสียใจหรือเสียดายอะไรเลยถ้าคนที่คุณรักเค้าไม่รับรักคุณ เพราะ สุดท้ายแล้วนั่นก็แสดงว่าเค้าไม่ใช่คนที่ใช่นั่นเอง