ก่อนอื่นต้องบอกก่อนว่าผมไปทำการสัมภาษณ์วง ONE OK ROCK ครั้งนี้ในนามของนิตยสาร Into The Pit Magazine (
https://www.facebook.com/intothepitmag?fref=ts) ซึ่งถือว่าโชคดีมากๆที่มีสื่อไปร่วมงานแถลงข่าวครั้งนี้หลายเจ้า แต่มีแค่ 4 หรือ 5 เจ้าไม่แน่ใจที่ได้สัมภาษณ์แบบ Exclusive ตรงนี้ต้องขอบคุณพี่มี่หนึ่งในทีมงานผู้จัดที่ให้การช่วยเหลือเป็นอย่างดี
แต่การเล่าแฟนแอคเคาท์ในครั้งนี้ ผมมาในนามตัวเอง ในฐานะแฟนคนนึงของ ONE OK ROCK ที่แม้จะชอบวงมาไม่นานเท่าแฟนๆบางคนที่ตามมาหลายอัลบั้ม แต่ก็บ้าพอที่จะเดินทางมาดูหนึ่งในวงโปรดเล่นสดๆให้ดูตรงหน้า
ผมเดินทางจากตรังมาถึงดอนเมืองประมาณ 11 โมง จากนั้นก็นั่งพักสักครู่ ก่อนจะนั่งแท็กซี่ตรงไปยังโรงแรม The Aetas Bangkok (ตอนแรกใครถามก็ไม่บอก เพราะไม่ได้ขออนุญาต แต่ตอนนี้คงบอกได้แล้ว) ถึงโรงแรมประมาณเกือบๆเที่ยงตรง ไปนั่งเล่นเน็ตอยู่ที่ล็อบบี้ได้สักพักท่านบรรณาธิการก็ตามมาสมทบ ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ช่วงประมาณบ่ายโมงก็เจอชายผมเงินคนหนึ่งเดินโซโล่ผ่านไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว สะพายกระเป๋าข้างสีดำใบเล็ก ไม่เห็นหน้าแต่ในใจคิดว่า “ใช่มั้ยวะ?” หันไปถามบก.ที่ไม่ใช่แฟนของวงก็ยิ่งไม่แน่ใจ แต่เห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นคุณลีดเดอร์โทรุซัง สงสัยจะกลับมาจากไปหาอะไรกินกันมา (และพาโทโมยะไปสักอาจารย์หนูมา ฮา) หันขวับกลับไปที่ทางเข้าล็อบบี้ก็เจอทีมงานญี่ปุ่นเต็มไปหมด แต่ยังไม่ปรากฏร่างของสมาชิกคนอื่น สักพักพี่ทีมงานอีกคนก็มาถึงสถานที่ เลยย้ายไปนั่งที่หน้าคอมโรงแรม บริเวณข้างๆเคาน์เตอร์ นั่งโม้กันสักพักก็เจอทากะกับโทโมยะออกมาจากลิฟท์! เดินลงมาสบทบกับทีมงาน แล้วก็หายไปลงข้างล่าง ซึ่งเป็นห้องสัมภาษณ์ ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นเรียวตะนะครัช หรือหาไม่เจอเองไม่รู้
สักพักมีล่ามมาหา เอาคำถามมาให้ดู จริงดังที่ได้ยินมา คำถามที่คัดเลือกจากแฟนๆซึ่งเป็นคำถามแนวๆไอดอล ประมาณว่าเรื่องความรักอะไรแบบนี้ที่มีอยู่แค่ข้อเดียว ก็โดนตัดออกไป ได้ยินว่าสื่อเจ้าอื่นไม่ค่อยถามเรื่องงานเพลง แต่ถามแนวๆไอดอล ก็เลยโดนตัดไปเยอะ ส่วน Into The Pit เป็นนิตยสารดนตรี เลยพยายามคัดคำถามเรื่องงานเพลงมาถาม โดนไปแค่ข้อเดียว อ่ะ ต่อๆๆ จากนั้นเมื่อใกล้เวลาบ่ายสองที่เป็นเวลานัดหมายก็ได้ตามลงไปชั้นล่าง ในรอบนี้ยังไม่มีสื่อมากันมากนัก มีแต่เจ้าที่ได้สัมภาษณ์ ของผมอยู่คิวที่สอง ก็กินขนมโรงแรมรอไปพลางๆ (อร่อยเวอร์) พอสื่อเจ้าแรกออกมาเท่านั้นล่ะ ขาสั่นพั่บๆ เวลาที่เรารอคอยมาถึงแว้วว เข้าไปเตรียมนั่งเก้าอี้แถวหน้า แต่พี่มี่บอกว่า เลื่อนมานั่งใกล้ๆเล้ย ในใจก็แบบเฟ็ดเฟ่ โคตรใกล้ มีแค่โต๊ะตัวเล็กๆกั้นอยู่ ก็ไม่ได้จะทำอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าใกล้มากจริงๆ ตอนนี้ก็เห็นเรียวตะตัวเป็นๆแล้วครับ พี่แกใส่ชุดสีดำ เสื้อกางเกงตัวใหญ่ๆดูหลวมๆตามสไตล์ แต่ที่ฮือฮากันในกลุ่มทีมงานคือ เสื้อพี่แกมีโลโก้ที่ให้อารมณ์เหมือนเป็นแพชวงดนตรีอันเดอร์กราวนด์เมทัลของญี่ปุ่นยังไงยังงั้น (ใครอยู่แวดวงอันเดอร์กราวนด์เมทัลน่าจะคุ้นๆกับของแบบนี้) แบบนี้แสดงว่าเรียวตะแกต้องฟังเมทัลสายโหดโดยไม่ต้องสงสัย เพราะการที่จะแต่งตัวแบบนี้ได้คือต้องแวดวงนี้จริงๆ มันไม่ได้เห็นกันได้ทั่วๆไป ก็ไม่รู้ว่าเคยเล่นเมทัลมาก่อนหรือยังไง หลังจากนั้นก็เอานิตยสารมอบให้กับวงไปเปิดดู สมาชิกดูจะรู้จักหลายๆวงในหนังสือเหมือนกัน แสดงว่าคงฟังเมทัลกันพอตัว (ทากะกับโทรุพูดถึงวง P.O.D. ที่ผมได้ยินชัดๆนะ)
[Fan Account] บันทึกความทรงจำประสบการณ์สัมภาษณ์ Exclusive วง ONE OK ROCK
แต่การเล่าแฟนแอคเคาท์ในครั้งนี้ ผมมาในนามตัวเอง ในฐานะแฟนคนนึงของ ONE OK ROCK ที่แม้จะชอบวงมาไม่นานเท่าแฟนๆบางคนที่ตามมาหลายอัลบั้ม แต่ก็บ้าพอที่จะเดินทางมาดูหนึ่งในวงโปรดเล่นสดๆให้ดูตรงหน้า
ผมเดินทางจากตรังมาถึงดอนเมืองประมาณ 11 โมง จากนั้นก็นั่งพักสักครู่ ก่อนจะนั่งแท็กซี่ตรงไปยังโรงแรม The Aetas Bangkok (ตอนแรกใครถามก็ไม่บอก เพราะไม่ได้ขออนุญาต แต่ตอนนี้คงบอกได้แล้ว) ถึงโรงแรมประมาณเกือบๆเที่ยงตรง ไปนั่งเล่นเน็ตอยู่ที่ล็อบบี้ได้สักพักท่านบรรณาธิการก็ตามมาสมทบ ก็นั่งคุยกันไปเรื่อยเปื่อย ช่วงประมาณบ่ายโมงก็เจอชายผมเงินคนหนึ่งเดินโซโล่ผ่านไปอย่างรวดเร็วแบบไม่ทันตั้งตัว สะพายกระเป๋าข้างสีดำใบเล็ก ไม่เห็นหน้าแต่ในใจคิดว่า “ใช่มั้ยวะ?” หันไปถามบก.ที่ไม่ใช่แฟนของวงก็ยิ่งไม่แน่ใจ แต่เห็นตรงกันว่าน่าจะเป็นคุณลีดเดอร์โทรุซัง สงสัยจะกลับมาจากไปหาอะไรกินกันมา (และพาโทโมยะไปสักอาจารย์หนูมา ฮา) หันขวับกลับไปที่ทางเข้าล็อบบี้ก็เจอทีมงานญี่ปุ่นเต็มไปหมด แต่ยังไม่ปรากฏร่างของสมาชิกคนอื่น สักพักพี่ทีมงานอีกคนก็มาถึงสถานที่ เลยย้ายไปนั่งที่หน้าคอมโรงแรม บริเวณข้างๆเคาน์เตอร์ นั่งโม้กันสักพักก็เจอทากะกับโทโมยะออกมาจากลิฟท์! เดินลงมาสบทบกับทีมงาน แล้วก็หายไปลงข้างล่าง ซึ่งเป็นห้องสัมภาษณ์ ณ ตอนนี้ยังไม่เห็นเรียวตะนะครัช หรือหาไม่เจอเองไม่รู้
สักพักมีล่ามมาหา เอาคำถามมาให้ดู จริงดังที่ได้ยินมา คำถามที่คัดเลือกจากแฟนๆซึ่งเป็นคำถามแนวๆไอดอล ประมาณว่าเรื่องความรักอะไรแบบนี้ที่มีอยู่แค่ข้อเดียว ก็โดนตัดออกไป ได้ยินว่าสื่อเจ้าอื่นไม่ค่อยถามเรื่องงานเพลง แต่ถามแนวๆไอดอล ก็เลยโดนตัดไปเยอะ ส่วน Into The Pit เป็นนิตยสารดนตรี เลยพยายามคัดคำถามเรื่องงานเพลงมาถาม โดนไปแค่ข้อเดียว อ่ะ ต่อๆๆ จากนั้นเมื่อใกล้เวลาบ่ายสองที่เป็นเวลานัดหมายก็ได้ตามลงไปชั้นล่าง ในรอบนี้ยังไม่มีสื่อมากันมากนัก มีแต่เจ้าที่ได้สัมภาษณ์ ของผมอยู่คิวที่สอง ก็กินขนมโรงแรมรอไปพลางๆ (อร่อยเวอร์) พอสื่อเจ้าแรกออกมาเท่านั้นล่ะ ขาสั่นพั่บๆ เวลาที่เรารอคอยมาถึงแว้วว เข้าไปเตรียมนั่งเก้าอี้แถวหน้า แต่พี่มี่บอกว่า เลื่อนมานั่งใกล้ๆเล้ย ในใจก็แบบเฟ็ดเฟ่ โคตรใกล้ มีแค่โต๊ะตัวเล็กๆกั้นอยู่ ก็ไม่ได้จะทำอะไรหรอก แค่รู้สึกว่าใกล้มากจริงๆ ตอนนี้ก็เห็นเรียวตะตัวเป็นๆแล้วครับ พี่แกใส่ชุดสีดำ เสื้อกางเกงตัวใหญ่ๆดูหลวมๆตามสไตล์ แต่ที่ฮือฮากันในกลุ่มทีมงานคือ เสื้อพี่แกมีโลโก้ที่ให้อารมณ์เหมือนเป็นแพชวงดนตรีอันเดอร์กราวนด์เมทัลของญี่ปุ่นยังไงยังงั้น (ใครอยู่แวดวงอันเดอร์กราวนด์เมทัลน่าจะคุ้นๆกับของแบบนี้) แบบนี้แสดงว่าเรียวตะแกต้องฟังเมทัลสายโหดโดยไม่ต้องสงสัย เพราะการที่จะแต่งตัวแบบนี้ได้คือต้องแวดวงนี้จริงๆ มันไม่ได้เห็นกันได้ทั่วๆไป ก็ไม่รู้ว่าเคยเล่นเมทัลมาก่อนหรือยังไง หลังจากนั้นก็เอานิตยสารมอบให้กับวงไปเปิดดู สมาชิกดูจะรู้จักหลายๆวงในหนังสือเหมือนกัน แสดงว่าคงฟังเมทัลกันพอตัว (ทากะกับโทรุพูดถึงวง P.O.D. ที่ผมได้ยินชัดๆนะ)