ช่วงนี้เห็นมีคำถามเกี่ยวกับไฟหน้า-หลังติดรถจักรยานมาเป็นระยะๆ รวมถึงช่วงนี้ผมออกปั่นตอนเย็นแทบทุกวัน ยังเห็นนักปั่นอีกหลายท่านไม่ติดไฟ หรือติดแล้ว แต่มันเหมือนไฟหิ่งห้อย ซึ่งผมคิดว่ามันยังปลอดภัยไม่พอจริงๆครับ
ชุดที่ผมใช้อยู่นี่ น่าจะเหมาะสำหรับนักจักรยานทั่วไปเลยนะครับ เพราะผมว่ามัน
เพียงพอ และ
พอเพียง ทั้งในเรื่องความปลอดภัย ราคาที่ไม่แพง และที่สำคัญคือความทนทาน….อันนี้ต้องขอยกไว้ก่อน เพราะผมก็ไม่เคยใช้ไฟแพงๆ ออกแบบสวยๆ หรือเสียบชาร์จแบบ usb ซักที (จริงๆอยากลองเหมือนกัน แต่ไอ้ที่มีอยู่มันก็ดันไม่พังเสียที)
ไฟที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ ผมใช้มาตั้งแต่ปั่นเสือภูเขาคันแรกเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งผ่านมาเกือบ 11 เดือนแล้ว แต่ก็ยังใช้ได้ดีไม่มีงอแงครับ
ไฟหน้า
-Marathon แบบ 4 หลอด / ถ่าน AAA x 3
-3 step: สว่างค้าง - กระพริบเร็ว - กระพริบช้า
ชอบที่ความสว่าง เพราะโคมที่ใส่หลอดเป็นพลาสติกเคลือบปรอทขนาดค่อนข้างใหญ่ และไม่กินแบต ที่เหลือก็ น้ำหนักเบา ตัวยึดแน่นหนา การยึดแฮนด์จะใช้ยางซิลิโคนเกี่ยวกับเมาส์ที่มีขนาดเล็ก ถ้าเอาไฟออกเวลาปั่นตอนกลางวัน ขนาดของเมาส์ที่เล็กจะไม่รู้สึกเกะกะสายตา เคยหล่นบนถนนขณะปั่นเพราะตอนเสียบไม่เข้าล๊อค แต่ก็เอามาใช้ต่อได้เป็นปกติ พลาสติกค่อนข้างแข็ง ไม่มีริ้วรอย
เพิ่มเติม: ไฟหน้าตัวนี้ ผมเปิดแบบกระพริบเพื่อเป็นสัญญานเท่านั้นนะครับ ถ้าต้องการส่องถนน แนะนำให้ใช้ไฟฉายซูมติดตัวจับแฮนด์ สว่างได้ใจมาก แต่กินแบตสุดๆ
ไฟหลัง
-Big Eye แบบ 1 หลอด (High watt LED 1 หลอด และ Ultra high LED 2 หลอด) / ถ่าน AAA x 2
-3 step: สว่างค้าง - ดวงใหญ่ค้าง +2 ดวงเล็กกระพริบ - กระพริบทั้งหมด
ยี่ห้อนี่เชื่อใจได้ครับ สว่างมากๆ มองด้วยตาตรงๆมีหน้ามืด ไม่กินแบต ยิ่งรุ่นที่เป็น High watt LED แบบ 2 หลอดยิ่งสว่าง (แต่ผมว่าหลอดเดียวพอแล้ว เกรงใจรถที่ขับตาม) มีหลายคนคอมเมนต์ว่าขายึดหักง่าย แต่ผมว่ามันแข็งแรงมาก ระวังของเลียนแบบนะครับ ยี่ห้อ marathon ก็ทำตาม เห็นว่าดีเหมือนกันและถูกกว่าหน่อย แต่ให้แน่นอนเอายี่ห้อ Big Eye ไปเลยก็ดีครับ….พอติดตั้งเสร็จ ให้ลองเปิดแล้วหันหลังเข้ากำแพง และลองตั้งองศาไฟไม่ให้เข้าหน้าคนขับรถตามหลังด้วยนะครับ เดี๋ยวเค้าด่าเอา
ไฟหมวก
-ไฟจีนแบบ 5 หลอด / ถ่าน AAA x 2
-3 step: สว่างค้าง - วิ่งเรียง - กระพริบ
อันนี้เป็นไฟอันแรกก่อนซื้อ Big Eye เลยย้ายเอามาติดหมวก โดยใช้เมาส์ที่เป็นคลิปติดเสื้อที่แถมมา ยึดติดกับหมวกโดยใช้สายรัดพลาสติก ไฟจีนถ้าเลือกดีๆ ความสว่างไม่แพ้ไฟดีๆเลยครับแต่อาจจะกินแบตมากกว่า หลักการเลือกไฟถูกๆ ให้ดูขนาดของโคมที่เคลือบปรอท ยิ่งใหญ่ยิ่งดี เพราะมันจะวาบได้ไกล (ลองเทียบดูกับ Big Eye กับ ไฟหน้า Marathon)
ไฟหมวกสำคัญมากๆนะครับ เพราะถ้าไฟหลักเกิดดับ เราจะไม่รู้ตัวเลย ไฟหมวกจะกลายเป็นไฟดวงหลักในทันที และที่ผมว่าสำคัญไม่แพ้กัน คือมุมมองจากรถที่สูงๆ จะเห็นไฟหมวกเราได้ง่ายกว่า (รถสองแถว รถสิบล้อ รถเมล์)….หมวกจักรยานดีๆหลายรุ่น ก็จะมีออฟชั่นไฟที่หมวกมาให้ด้วย แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่ามันไม่ค่อยสว่างมากเท่าที่ควร
แหล่งพลังงาน:
อุปกรณ์ไฟข้างต้น ผมต้องใช้ถ่าน AAA ถึง 7 ก้อน ผมเลยใช้ถ่านชาร์จของ eneloop (Sanyo) ซึ่งเคลมไว้ว่าชาร์จได้ถึง 1,800 ครั้ง และประจุจะลดลงแค่ 30% หลังจากใช้ไปแล้ว 5 ปี……ในส่วนของแท่นชาร์จ ผมใช้ของ vanson แบบมีตัดไฟเมื่อแบตเต็ม (ซื้อที่อมรทั้งหมด)
ผมคิดว่าการใช้ถ่านชาร์จมีข้อดีหลายๆด้านครับเช่น
-ช่วยลดการใช้ทรัพยากร และขยะพิษ
-ทำให้เราไม่ลังเลในการเปิดไฟ (บางที่แอบหวงถ่าน หรือถ่านกำลังจะอ่อน ก็เลยไม่ยอมเปิด)
-ประหยัดกว่าในระยะยาว และสามารถเอาถ่านชาร์จนี้ ไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นได้ด้วย
สรุปราคาทั้งหมด:
-ไฟหน้า marathon 300 บาท
-ไฟหลัง Big Eye แบบหลอดเดียว 450 บาท
-ไฟติดหมวกจีน 100 บาท
-ถ่านชาร์จ eneloop แพค 4 ก้อน x 2 แพค 900 บาท
-แท่นชาร์จ vanson 350 บาท
รวม: 2,100 บาท (ค่าไฟอย่างเดียวไม่ถึง 1,000)
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ ยังมีไฟอีกหลากหลายในท้องตลาดให้เลือกใช้ ทั้งถูก ทั้งแพง ตามกำลังทรัพย์หรือความเหมาะสมของแต่ละท่าน แต่ผมอยากจะให้เลี่ยงไฟซิลิโคนดวงเล็กๆครับ เพราะมันไม่ค่อยปลอดภัยเอาซะเลย (ถ้ามีไฟหลักเพียงพอแล้ว เอาไฟซิลิโคนมาติดเสริม ก็จะดีมากๆเลยครับ)
ใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม เชิญในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ หวังว่าคงปั่นกันอย่างสนุกและปลอดภัยสำหรับทุกๆท่านครับ
[CR] ^^รีวิวไฟจักรยาน สำหรับมือใหม่ครับ^^
ชุดที่ผมใช้อยู่นี่ น่าจะเหมาะสำหรับนักจักรยานทั่วไปเลยนะครับ เพราะผมว่ามัน เพียงพอ และ พอเพียง ทั้งในเรื่องความปลอดภัย ราคาที่ไม่แพง และที่สำคัญคือความทนทาน….อันนี้ต้องขอยกไว้ก่อน เพราะผมก็ไม่เคยใช้ไฟแพงๆ ออกแบบสวยๆ หรือเสียบชาร์จแบบ usb ซักที (จริงๆอยากลองเหมือนกัน แต่ไอ้ที่มีอยู่มันก็ดันไม่พังเสียที)
ไฟที่ผมใช้อยู่ตอนนี้ ผมใช้มาตั้งแต่ปั่นเสือภูเขาคันแรกเมื่อเดือนมกราคม ซึ่งผ่านมาเกือบ 11 เดือนแล้ว แต่ก็ยังใช้ได้ดีไม่มีงอแงครับ
ไฟหน้า
-Marathon แบบ 4 หลอด / ถ่าน AAA x 3
-3 step: สว่างค้าง - กระพริบเร็ว - กระพริบช้า
ชอบที่ความสว่าง เพราะโคมที่ใส่หลอดเป็นพลาสติกเคลือบปรอทขนาดค่อนข้างใหญ่ และไม่กินแบต ที่เหลือก็ น้ำหนักเบา ตัวยึดแน่นหนา การยึดแฮนด์จะใช้ยางซิลิโคนเกี่ยวกับเมาส์ที่มีขนาดเล็ก ถ้าเอาไฟออกเวลาปั่นตอนกลางวัน ขนาดของเมาส์ที่เล็กจะไม่รู้สึกเกะกะสายตา เคยหล่นบนถนนขณะปั่นเพราะตอนเสียบไม่เข้าล๊อค แต่ก็เอามาใช้ต่อได้เป็นปกติ พลาสติกค่อนข้างแข็ง ไม่มีริ้วรอย
เพิ่มเติม: ไฟหน้าตัวนี้ ผมเปิดแบบกระพริบเพื่อเป็นสัญญานเท่านั้นนะครับ ถ้าต้องการส่องถนน แนะนำให้ใช้ไฟฉายซูมติดตัวจับแฮนด์ สว่างได้ใจมาก แต่กินแบตสุดๆ
ไฟหลัง
-Big Eye แบบ 1 หลอด (High watt LED 1 หลอด และ Ultra high LED 2 หลอด) / ถ่าน AAA x 2
-3 step: สว่างค้าง - ดวงใหญ่ค้าง +2 ดวงเล็กกระพริบ - กระพริบทั้งหมด
ยี่ห้อนี่เชื่อใจได้ครับ สว่างมากๆ มองด้วยตาตรงๆมีหน้ามืด ไม่กินแบต ยิ่งรุ่นที่เป็น High watt LED แบบ 2 หลอดยิ่งสว่าง (แต่ผมว่าหลอดเดียวพอแล้ว เกรงใจรถที่ขับตาม) มีหลายคนคอมเมนต์ว่าขายึดหักง่าย แต่ผมว่ามันแข็งแรงมาก ระวังของเลียนแบบนะครับ ยี่ห้อ marathon ก็ทำตาม เห็นว่าดีเหมือนกันและถูกกว่าหน่อย แต่ให้แน่นอนเอายี่ห้อ Big Eye ไปเลยก็ดีครับ….พอติดตั้งเสร็จ ให้ลองเปิดแล้วหันหลังเข้ากำแพง และลองตั้งองศาไฟไม่ให้เข้าหน้าคนขับรถตามหลังด้วยนะครับ เดี๋ยวเค้าด่าเอา
ไฟหมวก
-ไฟจีนแบบ 5 หลอด / ถ่าน AAA x 2
-3 step: สว่างค้าง - วิ่งเรียง - กระพริบ
อันนี้เป็นไฟอันแรกก่อนซื้อ Big Eye เลยย้ายเอามาติดหมวก โดยใช้เมาส์ที่เป็นคลิปติดเสื้อที่แถมมา ยึดติดกับหมวกโดยใช้สายรัดพลาสติก ไฟจีนถ้าเลือกดีๆ ความสว่างไม่แพ้ไฟดีๆเลยครับแต่อาจจะกินแบตมากกว่า หลักการเลือกไฟถูกๆ ให้ดูขนาดของโคมที่เคลือบปรอท ยิ่งใหญ่ยิ่งดี เพราะมันจะวาบได้ไกล (ลองเทียบดูกับ Big Eye กับ ไฟหน้า Marathon)
ไฟหมวกสำคัญมากๆนะครับ เพราะถ้าไฟหลักเกิดดับ เราจะไม่รู้ตัวเลย ไฟหมวกจะกลายเป็นไฟดวงหลักในทันที และที่ผมว่าสำคัญไม่แพ้กัน คือมุมมองจากรถที่สูงๆ จะเห็นไฟหมวกเราได้ง่ายกว่า (รถสองแถว รถสิบล้อ รถเมล์)….หมวกจักรยานดีๆหลายรุ่น ก็จะมีออฟชั่นไฟที่หมวกมาให้ด้วย แต่ความคิดเห็นส่วนตัว ผมว่ามันไม่ค่อยสว่างมากเท่าที่ควร
แหล่งพลังงาน:
อุปกรณ์ไฟข้างต้น ผมต้องใช้ถ่าน AAA ถึง 7 ก้อน ผมเลยใช้ถ่านชาร์จของ eneloop (Sanyo) ซึ่งเคลมไว้ว่าชาร์จได้ถึง 1,800 ครั้ง และประจุจะลดลงแค่ 30% หลังจากใช้ไปแล้ว 5 ปี……ในส่วนของแท่นชาร์จ ผมใช้ของ vanson แบบมีตัดไฟเมื่อแบตเต็ม (ซื้อที่อมรทั้งหมด)
ผมคิดว่าการใช้ถ่านชาร์จมีข้อดีหลายๆด้านครับเช่น
-ช่วยลดการใช้ทรัพยากร และขยะพิษ
-ทำให้เราไม่ลังเลในการเปิดไฟ (บางที่แอบหวงถ่าน หรือถ่านกำลังจะอ่อน ก็เลยไม่ยอมเปิด)
-ประหยัดกว่าในระยะยาว และสามารถเอาถ่านชาร์จนี้ ไปใช้กับเครื่องใช้ไฟฟ้าอย่างอื่นได้ด้วย
สรุปราคาทั้งหมด:
-ไฟหน้า marathon 300 บาท
-ไฟหลัง Big Eye แบบหลอดเดียว 450 บาท
-ไฟติดหมวกจีน 100 บาท
-ถ่านชาร์จ eneloop แพค 4 ก้อน x 2 แพค 900 บาท
-แท่นชาร์จ vanson 350 บาท
รวม: 2,100 บาท (ค่าไฟอย่างเดียวไม่ถึง 1,000)
อย่างที่กล่าวไว้ข้างต้นนะครับ ยังมีไฟอีกหลากหลายในท้องตลาดให้เลือกใช้ ทั้งถูก ทั้งแพง ตามกำลังทรัพย์หรือความเหมาะสมของแต่ละท่าน แต่ผมอยากจะให้เลี่ยงไฟซิลิโคนดวงเล็กๆครับ เพราะมันไม่ค่อยปลอดภัยเอาซะเลย (ถ้ามีไฟหลักเพียงพอแล้ว เอาไฟซิลิโคนมาติดเสริม ก็จะดีมากๆเลยครับ)
ใครมีอะไรแนะนำเพิ่มเติม เชิญในกระทู้นี้ได้เลยนะครับ หวังว่าคงปั่นกันอย่างสนุกและปลอดภัยสำหรับทุกๆท่านครับ