พยายามดูให้จบตอนก่อน
แล้วค่อยแสดงความเห็นทีเดียว
คือปกติเราไม่ค่อยได้ดูละครไทยเลย แทบจะไม่เคยดูก็ว่าได้
แต่กับทองเนื้อเก้า ไม่ได้ดูก็เหมือนดู เพราะออนเฟสทีไรคนก็พูดถึงกันทุกที
ก่อนหน้านี้เรายังแอบคิดนะว่า นุ่นคงไม่ได้เล่นดีสุดยอดอะไรขนาดนั้น
แต่หลายครั้งเราจะได้ยินคนพูดตลอดว่า บรรดานักแสดงเด็กๆเล่นดีมาก
เราพึ่งมีโอกาสได้มาดูแบบเต็มๆตอนเมื่อวานนี้ค่ะ
เรารู้สึกว่า นุ่นแสดงได้ดีมากๆ ตอนเราดูเราคุยกับพี่ที่เป็นติ่งทองเนื้อเก้าด้วยกันตลอดเวลาเลย
ว่า
"อื้อหือ คุณนายเบียร์สิงห์ สุดยอดเลย"
แม้บางฉากจะดูขัดๆไปนิดหน่อยในสายตาเรา แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีมาก ทั้งบทส่ง ทั้งพลอตดราม่า ทั้งไดอะล็อกกินใจ
เมื่อวานนี้ ฉากที่เราแอบน้ำตาซึมทุกครั้งที่ตอนที่เณรมาขอเจอแม่ แล้วที่บ้านไม่ให้เจอ
พอดูตัวอย่างตอนต่อไปเท่านั้นหล่ะ น้ำตาไหลเลย ฉากที่เณรเอาจีวรไปคลุมให้โยมแม่
วันนี้เลยมารอดู ตอนดูแรกๆเรายังแอบคุยกับพี่เลยว่า ลำยองผ้าถุงแน่นมาก เดินไปไหนไม่มีหลุด
จนมาเจอฉากที่ เณรมาเจอโยมแม่ แล้วโยมแม่ผ้าถุงหลุด เณรเห็น แล้วรีบแก้จีวรตัวเองเอาไปคลุมให้แม่
เราแบบ น้ำตาทะลัก
น้องเล่นดีจริงๆ ฉากนี้เราโฟกัสไปที่น้องที่แสดงเป็นวันเฉลิมอย่างเดียวจริงๆ เห็นน้องร้องไห้
น้องกอดแม่ เอาผ้าคลุมแม่ เราคิดเลยว่า น้องเก่งจริงๆ
ปกติเราดูแต่ซีรีส์เกาหลี
นักแสดงเด็กๆของเกาหลีจะเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ
หลายครั้งเราจะเห็นว่า ละครเกาหลีจะให้เวลากับช่วงเวลาตอนเด็กเป็นพิเศษ
เพราะนักแสดงเด็กๆบางชุด แสดงได้อินกว่านักแสดงผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ
จนมาดูน้องที่แสดงเป็นวันเฉลิมแสดง เราอึ้งไปเหมือนกัน นักแสดงเด็กสมัยนี้ เก่งจริงๆ
ทำให้เราเสียน้ำตาได้ ตอนนี้เห็นน้าน้องทีไร ก็น้ำตาซึมทุกที
มาเจอฉากป้อนข้าวแม่อีก แม่พ่นข้าวใส่หน้า แต่วันเฉลิมบอกว่า
"แม่ป้อนข้าววันเกินไปหลายเม็ดเลย"
โหย ลูก... บทว่าดรามาติดสุดๆแล้วนะ หนูยังแสดงได้ดีมากๆอีก แววตาที่หนูป้อนข้าวแม่
มันดูรักแม่จริงๆ ส่วนนุ่นในวันนี้ เราให้ฉากนี้แหละค่ะคือฉากที่ดีที่สุดในวันนี้ของเรา
ฉากที่พ่นข้าวใส่หน้าลูก น้ำลาย น้ำมูก น้ำตาไหลปนกัน
เราว่านุ่นแสดงได้ดีมากๆ แม้ฉากนี้จะไม่ต้อง อาศัยการแสดงออกทางสายตาอะไรมากแบบซีนก่อนๆ
แต่การที่แสดงน้อยแต่มากแบบนี้นี่แหละ ที่เราว่าดูมีพลังมากกว่า
การแสดงเยอะ กรีดกราย หรือ ร้องรำขี้เมาโวยวายอีก
ฉากนี้ทำให้เราเกิดแฟลชแบคขึ้นมาทันที ซึ่งเราว่ามันค่อนข้างจะ ทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามและอินได้ง่าย
นึกถึงตอนที่แม่ป้อนข้าวเราตอนเด็ก เราพ่นข้าวออกมา เรากินข้าวไม่เป็น แม่ไม่เคยรังเกียจ
จนวันที่แม่เจ็บป่วย หน้าที่เราก็สลับกัน เราต้องมาป้อนข้าวแม่ แม่พ่นข้าวออกมา ลูกก็ไม่เคยรังเกียจ
คนกำกับ หรือ คนเขียนบทยังฉลาดตรงที่ พยายามขยี้ฉากนี้ ด้วยการให้น้องสาวลำยองเข้ามาบอกกับวันว่า
"ทนกลิ่นน้ำหนองเข้าไปได้ยังไง"
วันเลยบอกแม่กลับไปว่า ทนได้สิ เพราะนี่คือแม่ มันก็เกิดแฟลชแบคเดิมๆ ตอนเป็นเด็ก เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
แม่ไม่เคยรังเกียจ พอแม่เราเป็นแบบนั้นบ้าง เราก็ทำแบบเดียวกันกับที่แม่เคยทำให้เรา
จุดสำคัญคือ ตอนที่ลำยองพ่นข้าวใส่แขนน้องสาว แล้วน้องสาวทำท่าเอือม
ทำให้รู้สึกว่า สายสัมพันธ์แม่ลูก มันยิ่งใหญ่จริงๆ ขณะที่สายสัมพันธ์พี่น้องอาจไม่แข็งแรงขนาดนั้น
ขอตินิดเดียวคือ ฉากที่เณรเอาผ้าไปคลุมให้โยมแม่ จริงๆฉากนั้นน่าปล่อยเป็นเทคยาวมากๆ
แต่ละครดันตัดเข้าโฆษณา เราน้ำตาหดกลับแทบไม่ทัน เข้าใจว่าอยากให้ลุ้น
แต่เราคนดูดูแล้วรู้สึกว่าเจอตัดอารมณ์มากกว่าลุ้น
พอกลับมาดูอีกที ก็ซึ้งนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าอยากปล่อยโฮแบบตอนแรก เหมือนมันร้องไห้ไปแล้ว
ถ้าปล่อยฉากนั้นยาวๆ ปล่อยให้จบซีน จะเป็นอีกฉากที่ทรงพลังมาก
เท่าที่ดูมา 2-3 ตอน เราว่า ทองเนื้อเก้า เน้นไดอะล็อคซึ้งๆเยอะไปนิด โดยเฉพาะบทน้องวัน
เราเคยดูผ่านๆ แล้วบางครั้งขัดใจกับไดอะล็อกและบทน้องที่ออกจะดีสุดๆเกินไป จนหลายครั้งแอบไม่อิน
กับบทพูดซึ้งๆ ที่บางครั้งเรารู้สึกเหมือนกับว่าดูจงใจไปหน่อย เป็นบทพูดที่ดีก็จริง แต่ยังสอดแทรกเข้ามามาได้ไม่ดีนัก
เราไม่ได้โทษใครนะคะ ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่สำหรับเรา รู้สึกขัดๆบางฉากแค่นั้น
ส่วนที่โดดเด่นและต้องชมจริงๆคือ การแสดงของนักแสดงที่ แสดงได้ดีจริงๆ
เท่าที่ดูมาแค่ไม่กี่ตอน จุดเด่นของละครเรื่องนี้คือ "การขยี้" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เศร้าแล้ว เศร้าอีก
วันนี้ขอปรบมือชมน้องคนที่แสดงเป็นวันเฉลิมจากใจจริง
ของคนไม่ค่อยได้ดูละครไทยค่ะ
ภาพประกอบจากเพจ :
https://www.facebook.com/WanChalermThongNuaKao
"แม่ป้อนข้าววันเกินไปหลายเม็ดเลย" ฉากนี่ต่างหากที่เราคิดว่าซาบซึ้งที่สุด
แล้วค่อยแสดงความเห็นทีเดียว
คือปกติเราไม่ค่อยได้ดูละครไทยเลย แทบจะไม่เคยดูก็ว่าได้
แต่กับทองเนื้อเก้า ไม่ได้ดูก็เหมือนดู เพราะออนเฟสทีไรคนก็พูดถึงกันทุกที
ก่อนหน้านี้เรายังแอบคิดนะว่า นุ่นคงไม่ได้เล่นดีสุดยอดอะไรขนาดนั้น
แต่หลายครั้งเราจะได้ยินคนพูดตลอดว่า บรรดานักแสดงเด็กๆเล่นดีมาก
เราพึ่งมีโอกาสได้มาดูแบบเต็มๆตอนเมื่อวานนี้ค่ะ
เรารู้สึกว่า นุ่นแสดงได้ดีมากๆ ตอนเราดูเราคุยกับพี่ที่เป็นติ่งทองเนื้อเก้าด้วยกันตลอดเวลาเลย
ว่า
"อื้อหือ คุณนายเบียร์สิงห์ สุดยอดเลย"
แม้บางฉากจะดูขัดๆไปนิดหน่อยในสายตาเรา แต่โดยรวมแล้วถือว่าดีมาก ทั้งบทส่ง ทั้งพลอตดราม่า ทั้งไดอะล็อกกินใจ
เมื่อวานนี้ ฉากที่เราแอบน้ำตาซึมทุกครั้งที่ตอนที่เณรมาขอเจอแม่ แล้วที่บ้านไม่ให้เจอ
พอดูตัวอย่างตอนต่อไปเท่านั้นหล่ะ น้ำตาไหลเลย ฉากที่เณรเอาจีวรไปคลุมให้โยมแม่
วันนี้เลยมารอดู ตอนดูแรกๆเรายังแอบคุยกับพี่เลยว่า ลำยองผ้าถุงแน่นมาก เดินไปไหนไม่มีหลุด
จนมาเจอฉากที่ เณรมาเจอโยมแม่ แล้วโยมแม่ผ้าถุงหลุด เณรเห็น แล้วรีบแก้จีวรตัวเองเอาไปคลุมให้แม่
เราแบบ น้ำตาทะลัก
น้องเล่นดีจริงๆ ฉากนี้เราโฟกัสไปที่น้องที่แสดงเป็นวันเฉลิมอย่างเดียวจริงๆ เห็นน้องร้องไห้
น้องกอดแม่ เอาผ้าคลุมแม่ เราคิดเลยว่า น้องเก่งจริงๆ
ปกติเราดูแต่ซีรีส์เกาหลี
นักแสดงเด็กๆของเกาหลีจะเป็นอะไรที่สุดยอดจริงๆ
หลายครั้งเราจะเห็นว่า ละครเกาหลีจะให้เวลากับช่วงเวลาตอนเด็กเป็นพิเศษ
เพราะนักแสดงเด็กๆบางชุด แสดงได้อินกว่านักแสดงผู้ใหญ่ด้วยซ้ำ
จนมาดูน้องที่แสดงเป็นวันเฉลิมแสดง เราอึ้งไปเหมือนกัน นักแสดงเด็กสมัยนี้ เก่งจริงๆ
ทำให้เราเสียน้ำตาได้ ตอนนี้เห็นน้าน้องทีไร ก็น้ำตาซึมทุกที
มาเจอฉากป้อนข้าวแม่อีก แม่พ่นข้าวใส่หน้า แต่วันเฉลิมบอกว่า
"แม่ป้อนข้าววันเกินไปหลายเม็ดเลย"
โหย ลูก... บทว่าดรามาติดสุดๆแล้วนะ หนูยังแสดงได้ดีมากๆอีก แววตาที่หนูป้อนข้าวแม่
มันดูรักแม่จริงๆ ส่วนนุ่นในวันนี้ เราให้ฉากนี้แหละค่ะคือฉากที่ดีที่สุดในวันนี้ของเรา
ฉากที่พ่นข้าวใส่หน้าลูก น้ำลาย น้ำมูก น้ำตาไหลปนกัน
เราว่านุ่นแสดงได้ดีมากๆ แม้ฉากนี้จะไม่ต้อง อาศัยการแสดงออกทางสายตาอะไรมากแบบซีนก่อนๆ
แต่การที่แสดงน้อยแต่มากแบบนี้นี่แหละ ที่เราว่าดูมีพลังมากกว่า
การแสดงเยอะ กรีดกราย หรือ ร้องรำขี้เมาโวยวายอีก
ฉากนี้ทำให้เราเกิดแฟลชแบคขึ้นมาทันที ซึ่งเราว่ามันค่อนข้างจะ ทำให้คนดูรู้สึกคล้อยตามและอินได้ง่าย
นึกถึงตอนที่แม่ป้อนข้าวเราตอนเด็ก เราพ่นข้าวออกมา เรากินข้าวไม่เป็น แม่ไม่เคยรังเกียจ
จนวันที่แม่เจ็บป่วย หน้าที่เราก็สลับกัน เราต้องมาป้อนข้าวแม่ แม่พ่นข้าวออกมา ลูกก็ไม่เคยรังเกียจ
คนกำกับ หรือ คนเขียนบทยังฉลาดตรงที่ พยายามขยี้ฉากนี้ ด้วยการให้น้องสาวลำยองเข้ามาบอกกับวันว่า
"ทนกลิ่นน้ำหนองเข้าไปได้ยังไง"
วันเลยบอกแม่กลับไปว่า ทนได้สิ เพราะนี่คือแม่ มันก็เกิดแฟลชแบคเดิมๆ ตอนเป็นเด็ก เราช่วยเหลือตัวเองไม่ได้
แม่ไม่เคยรังเกียจ พอแม่เราเป็นแบบนั้นบ้าง เราก็ทำแบบเดียวกันกับที่แม่เคยทำให้เรา
จุดสำคัญคือ ตอนที่ลำยองพ่นข้าวใส่แขนน้องสาว แล้วน้องสาวทำท่าเอือม
ทำให้รู้สึกว่า สายสัมพันธ์แม่ลูก มันยิ่งใหญ่จริงๆ ขณะที่สายสัมพันธ์พี่น้องอาจไม่แข็งแรงขนาดนั้น
ขอตินิดเดียวคือ ฉากที่เณรเอาผ้าไปคลุมให้โยมแม่ จริงๆฉากนั้นน่าปล่อยเป็นเทคยาวมากๆ
แต่ละครดันตัดเข้าโฆษณา เราน้ำตาหดกลับแทบไม่ทัน เข้าใจว่าอยากให้ลุ้น
แต่เราคนดูดูแล้วรู้สึกว่าเจอตัดอารมณ์มากกว่าลุ้น
พอกลับมาดูอีกที ก็ซึ้งนะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าอยากปล่อยโฮแบบตอนแรก เหมือนมันร้องไห้ไปแล้ว
ถ้าปล่อยฉากนั้นยาวๆ ปล่อยให้จบซีน จะเป็นอีกฉากที่ทรงพลังมาก
เท่าที่ดูมา 2-3 ตอน เราว่า ทองเนื้อเก้า เน้นไดอะล็อคซึ้งๆเยอะไปนิด โดยเฉพาะบทน้องวัน
เราเคยดูผ่านๆ แล้วบางครั้งขัดใจกับไดอะล็อกและบทน้องที่ออกจะดีสุดๆเกินไป จนหลายครั้งแอบไม่อิน
กับบทพูดซึ้งๆ ที่บางครั้งเรารู้สึกเหมือนกับว่าดูจงใจไปหน่อย เป็นบทพูดที่ดีก็จริง แต่ยังสอดแทรกเข้ามามาได้ไม่ดีนัก
เราไม่ได้โทษใครนะคะ ไม่ได้บอกว่าไม่ดี แต่สำหรับเรา รู้สึกขัดๆบางฉากแค่นั้น
ส่วนที่โดดเด่นและต้องชมจริงๆคือ การแสดงของนักแสดงที่ แสดงได้ดีจริงๆ
เท่าที่ดูมาแค่ไม่กี่ตอน จุดเด่นของละครเรื่องนี้คือ "การขยี้" ซ้ำแล้วซ้ำเล่า เศร้าแล้ว เศร้าอีก
วันนี้ขอปรบมือชมน้องคนที่แสดงเป็นวันเฉลิมจากใจจริง
ของคนไม่ค่อยได้ดูละครไทยค่ะ
ภาพประกอบจากเพจ : https://www.facebook.com/WanChalermThongNuaKao