สำหรับผู้เขียน ลุค เบสซง เป็นผู้กำกับระดับโลก
ที่มีผลงาน มาสเตอร์พีช เร็วไปหน่อย
โดนจับตามองจาก THE BIG BLUE
เป็นที่รู้จักทั่วโลกจาก NIKITA
และเป็นระดับโลกจาก LEON

จากนั้นกราฟของ ลุค ในงานกำกับ ก็อยู่ในขาลง

ทำหนังสุดโฉ่งฉ่างอย่าง THE FIFTH ELEMENT
ทำหนังออกมางงๆกับ JOAN OF ARC
ทำไปหลงไปกับอนิเมชั่นเรื่อง ARTHUR
และพยายามกลับมากับ THE LADY

ลุค ทำหนังขาลง แต่ทำไมชื่อเขายังคงอยู่ในระดับโลก
อาจเป็นพื้นฐานของพวกตะวันตกที่ มองไกลใจกว้าง
ลุค คิดไอเดียมันๆ และ โปรดิ๊ว หนังเจ๋งๆออกมาได้หลาย ซีรีย์
เขาไม่กำกับมันเอง เพราะคิดว่าไอเดียมันๆ เหมาะกับผู้กำกับรุ่นใหม่ๆ
เพราะถ้าเขากำกับเอง อาจไม่ได้เป็นหนังภาคต่อทำเงิน

TAXI , B13 , TRANSPORTER , TAKEN

และกับงานกำกับล่าสุด MALAVITA ที่รุ่นลุง สกอร์เซซี่ เป็นโต้โผใหญ่

ตัวหนังเป็นไง
ตัวหนังดีไหม ดี
ตัวหนังสนุกไหม สนุก
ตัวหนังพิเศษไหม ไม่ได้พิเศษที่ตัวหนัง

แต่พิเศษที่ทีมสร้าง พิเศษที่หนังตัวอย่าง
หนังตัวอย่างตัดได้ดีมาก จนบอกตัวเองว่า ห้ามพลาด
แต่พอได้ลองเฉี่ยวตาผ่าน รีวิวของ เพือนพ้องพี่น้อง กลุ่มคน คุยหนัง https://www.facebook.com/groups/283245768487626/
ที่ไม่มีใครร้อง ว้าว ก็เริ่มรู้แล้วว่า หนังตัวอย่างเขาดีจริง
ซึ่งไม่แปลก คนคุยหนังต่างประเทศ ก็รีวิวออกไปทำนองเดียวกัน

จขพ หาข้อมูลเปรียบเทียบกับ GROWN UP 2 ก่อนซื้อตั๋ว
ตัดสินใจอยู่นาน ก็เลือกที่เนื้อเรื่อง เพราะในรีวิวนอก
ถึงกับพาดหัว GROWN UP 2 ไว้ว่า THIS IS NOT A MOVIE
แต่พอซื้อตั๋วแล้ว ก็ยังไม่รู้สึกตื่นเต้นกับ มาลาวิต้า เท่าไร
จึงต้องพยายามบิ๊วตัวเองหน่อย เข้าไป IMDB ดูซิใครถ่ายให้ ลุค

เท่านั้นแหละ ความอยากดูกลับมาเต็มถัง เพราะคนถ่ายเรื่องนี้คือ
เทียรี่ อาร์โบกัส เขาเป็นใคร เขาเป็นคนถ่ายหนังเรือง
LEON
NIKITA
THE FIFTH ELEMENT
JOAN OF ARC
นี่มันระดับปรมจารย์เลยนะ งานกำกับภาพใน LEON นี่ไบเบิ้ลเลย

คนกำกับ คนถ่าย เก๋าซะจะให้มือตัด เก๋า อีกคน หนังคงไม่ฉึบฉับ
ลุค จึงใช้คนรุ่นใหม่มาตัดหนัง ก็ไม่ใช่ใครที่ไหนไกล น่าจะปั้นมาเองนั้นแหละ
B13
ARTHUR
THE LADY

ซึ่ง MALAVITA ถูกผสมผสานออกมาอย่างลงตัวมาก
หนังสร้างจากหนังสือในชื่อเดียวกัน MALAVITA
งานภาพชอบมากก เล่าเรื่องมากก รู้สึกได้ถึง LEON แบบ อเมริกันสไตล์
การเข้าออกของฉากรอยต่อระหว่างซีน ถูกออกแบบมาทั้งเรื่อง
ใครเรียนหนังมา หรือ ศึกษามาบ้าง ดูแล้วคงรู้ว่าหมายถึงอะไร
ตัวละครในหนังถูกเขียนออกมาได้ดี ทุกตัวดูมีชีวิตหมด
เสียดายที่หนังเน้นทั้ง 4 ตัวละครหลัก บวก 3 ตัวละครเสริม กับ 2 ตัวร้าย
กับความยาวหนังแค่ 111 นาที ทำออกมาได้ขนาดนี้ สมประสปการณ์ที่มีละ
ไม่ชอบตอนจบเท่าไร แต่ด้วยความที่ผูกพันธ์กับตัวละครแล้ว

เชื่อว่ามีภาค 2 ไม่คิดนานแน่นอน น่าจะเป็นหนังภาคต่อทำเงินสมใจ สกอเซซี่
แต่ภาคหน้าลองให้คนอื่น กำกับ บ้างนะครับ ลุง อิอิ