สื่อคุ้ย ความสัมพันธ์ "โค้ชคิ้ม&โก้แซกแมน" เป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกัน ตอกย้ำข้อครหากดสตีล“ฟางข้าว” ส่อแววการแข่งขัน "The Voice Thailand 2" ไม่โปร่งใส



เกิดเป็นประเด็นข้อกังขาขึ้น! กับรายการยอดฮิต "The Voice Thailand " รายการประกวดร้องเพลงที่เฟ้นหาตัวจริง เสียงจริง ผู้มีความสามารถในการร้องเพลงโดยเฉพาะ ซึ่งทำต่อเนื่องมาเป็นปีที่ 2 แล้ว

โดยเหตุการณ์ที่เกิดเป็นข้อถกเถียงมาจากการดำเนินการแข่งขันในรอบ battle (แบทเทิล) ที่มีการจับคู่ผู้เข้าแข่งขันที่ผ่านเข้ารอบจาก Blind Audition มาจับคู่ร้อง battle กัน ซึ่งกติกามีการเพิ่มกฎที่เรียกว่าการ Steal (สตีล) เป็นการเปิดโอกาสให้โค้ชทีมอื่นสามารถที่จะขโมยหรือแย่งชิงตัวผู้เข้าแข่งขันของทีมอื่น ที่ตกรอบจากการ แบทเทิล มาอยู่ในทีมของตนเองเพื่อเข้าสู่การแข่งขันในรอบ น๊อคเอาท์ ต่อไป

อย่างไรก็ตาม ผลการแข่งขัน ที่มีการเผยแพร่ ออกมาในช่วงหัวค่ำเมื่อวันที่ 3 พฤศจิกายน 2556 (สัปดาห์ที่ 3) การกดสตีล ของ โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม เพื่อดึงตัว “ฟางข้าว” หรือ ณัชชา จิตตานนท์ นักร้องสาวเสียงสวย เข้ามาอยู่ในทีมของตนเอง เพื่อเข้าสู่รอบ น๊อคเอาท์ ต่อไปหลังจากถูกโค้ช ก้อง สหรัถ สังคปรีชา คัดชื่อออกจากการแข่งขันรอบ battle และเหตุนี้ได้เกิดการวิพากษ์วิจารณ์อย่างมาก



เนื่องจากน้อง"ฟางข้าว" ก่อนเข้าร่วมประกวดร้องเพลงรายการนี้  มีที่มาคือ เป็นนักร้องในวงดนตรี ของ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน ซึ่งปัจจุบัน ถูกแต่งตั้งให้ทำหน้าที่เป็นผู้ช่วยโค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ในการแข่งขันประกวดร้องเพลงรายการ The Voice Thailand Season 2

และแม้โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม จะให้เหตุผลยืนยันชัดเจน ในการสตีล “น้องฟางข้าว”  หลังจากที่โค้ชก้อง เลือก “เก่ง” ณัฐิฏา ศรียานนท์ นักร้องในทีมอีกคนให้ผ่านเข้ารอบ หลังจากขึ้นแบทเทิลกับน้องฟางข้าว ในเพลง Saving All My Love For You และ"เก่ง" ทำได้ดีกว่า ว่า เป็นเรื่องของฝีมือล้วนๆ

แต่ดูเหมือนเหตุผลของโค้ชคิ้มในเรื่องนี้ จะไม่ทำให้คนในโลกออนไลน์หลายคน “ลืม” เรื่องความสัมพันธ์ที่แท้จริงระหว่าง โค้ช คิ้ม –ฟางข้าว และ โก้ แซกแมน ไปได้ จึงเกิดเป็นประเด็นให้สังคมหยิบยกมาตั้งเป็นกระทู้วิจารณ์กันอย่างหนัก

และเรื่องนี้เอง ได้ถูกนำไปเชื่อมโยงกับรายการเดอะวอยซ์ ยูเค เวอร์ชั่นที่ผลิตและออกอากาศในประเทศอังกฤษ และปัจจุบันกำลังถูกวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ในลักษณะเดียวกัน  โดย the Sun สื่อดัง ในอังกฤษ ได้ออกมานำเสนอข่าวว่า Jessie J (ที่ตกที่นั่งเดียวกับโคชคิ้ม) ได้เตรียมผลติดสินไว้ล่วงหน้ากับ Danny (เปรียบของไทยคือโค้ชท่านอื่น) เพื่อดึงผู้ประกวดรายหนึ่งไม่ให้ตกรอบจากการแข่งขันรอบ head-to-head battle ขณะที่ Danny ก็เตรียมที่จะฉกผู้เข้าประกวดอีกคนเข้ามาในทีมของเขา ส่งผลทำให้คนดูทั่วโลก เริ่มไม่เชื่อมั่น และศรัทธารายการเดอะวอยซ์ ยูเค ว่า อาจจะเป็นเหมือนรายการประกวดอื่นทั่วไป ที่มักจะมีปัญหาในเรื่อง "การสมคบคิด" ระหว่างกรรมการ และผู้เข้าแข่งขัน แอบแฝงอยู่

จึงทำให้หลายคนคิดไปว่ารายการเดอะวอยซ์เมืองไทย ที่โค้ชคิ้ม  ซึ่งมีสายสัมพันธ์ที่แนบแน่นกับ พี่โก้ แซกแมน ซึ่งทำหน้าที่เป็นผู้ช้วยโค้ชอยู่ตัดสินใจ กดสตีล ฟางข้าว เข้าไปอยู่ในทีม จะทำให้คนบางกลุ่มในสังคมไทย เกิดความไม่เชื่อมั่น และส่งเสียงวิพากษ์วิจารณ์ตามมา


              ด้วยเหตุนี้  สื่อจึงเริ่มมีการสืบค้นขึ้น และไปพบเข้ากับข้อมูลนี้ ที่ว่า"โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม" และ "โก้ มิสเตอร์ แซกแมน" ยังมีความสัมพันธ์กันในฐานะหุ้นส่วนทางธุรกิจร่วมกันด้วย

โดยตรวจสอบข้อมูลพบว่า เมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 “โค้ชคิ้ม” หรือชื่อนามสกุลจริง "นางพรพรรณ ชุนหชัย" กับเพื่อนสนิท ได้ร่วมกันจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทเอกชนแห่งหนึ่ง ขึ้นมาทำธุรกิจ บันเทิงทุกประเภท ในชื่อ บริษัท ล้ำเส้น จำกัด

ข้อมูลจากกรมพัฒนาธุรกิจการค้าระบุว่า บริษัท ล้ำเส้น จำกัด จดทะเบียนจัดตั้งเมื่อวันที่ 13 พฤษภาคม 2552 ทุน 1 ล้านบาท ตั้งอยู่เลขที่ 129/101 หมู่ที่ 3 แขวงทุ่งครุ เขตทุ่งครุ กรุงเทพมหานคร แจ้งประกอบธุรกิจ ธุรกิจ บันเทิงทุกประเภท เช่น จัดคอนเสิร์ต

ปรากฏชื่อ “โค้ชคิ้ม” หรือ นางพรพรรณ ชุนหชัย , โก้ มิสเตอร์ แซกแมน หรือ นายเศกพล อุ่นสำราญ และน.ส.ศรัชชญา ฉันทะนิธิ เป็นกรรมการ

ผู้ถือหุ้นในช่วงแรก มีจำนวน 5 คน ในจำนวนนี้มี นายเศกพล อุ่นสำราญ หรือ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน ร่วมถือหุ้นอยู่ด้วย

โดย “โค้ชคิ้ม” หรือ นางพรพรรณ ชุนหชัย ถือหุ้นใหญ่สุด ส่วนโก้ มิสเตอร์ แซกแมน ถือหุ้นเป็นอันดับ 3 รองจาก น.ส.ศรัชชญา ฉันทะนิธิ ที่ถืออยู่เป็นอับดับ 2

ต่อมาวันที่ 30 มีนาคม 2553 บริษัทฯ แจ้งเปลี่ยนแปลงตัวกรรมการ โดย น.ส.ศรัชชญา ฉันทะนิธิ แจ้งลาออก ทำให้กรรมการและผู้ถือหุ้น ทำให้กรรมการบริษัท เหลือ 2 คนคือ “โค้ชคิ้ม” หรือ นางพรพรรณ ชุนหชัย , โก้ มิสเตอร์ แซกแมน หรือ นายเศกพล อุ่นสำราญ

ขณะที่หุ้นในส่วนของ น.ส.ศรัชชญา ฉันทะนิธิ ถูกนำไปร่วมกับหุ้นในส่วนที่ “โค้ชคิ้ม” หรือ นางพรพรรณ ชุนหชัย ถืออยู่ ส่วนโก้ มิสเตอร์ แซกแมน ขยับขึ้นมาเป็นผู้ถือหุ้นอันดับ 2 แทน

         ล่าสุด เมื่อวันที่ 31 พฤษภาคม 2556 บริษัทฯ ได้นำส่งงบดุลปี 2555 (ปีล่าสุด) ให้กับกรมพัฒนาธุรกิจได้รับทราบ โดยแจ้งว่ามีรายได้รวมในปี 2555 จำนวน 3,238,076.17 บาท แต่มีค่าใช้จ่ายรวม 2,314,089.10 บาท ทำให้มีกำไรสุทธิ 923,987.07 บาท

บริษัทฯ ยังแจ้งว่า มีสินทรัพย์รวม จำนวน 3,545,891.11 บาท

ส่วนหนี้สิน แจ้งว่า มีจำนวน 5,276,984.80 บาท

โดยในจำนวนนี้ มีเงินทดรองจ่ายกรรมการ บริษัท เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินกิจการและไม่มีข้อตกลงในการคิดดอกเบี้ย จำนวน 4,450,000 บาท

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับรายการ "The Voice Thailand Season 2" แพร่ภาพออกอากาศครั้งแรก เมื่อวันที่ 8 กันยายน 2556

โดยในส่วนทีมโค้ชคิ้ม มีการเปลี่ยนตัวผู้ช่วยโค้ชคนใหม่ มาเป็น โก้ มิสเตอร์ แซกแมน ขณะที่ในการแข่งขันรอบ Blind Audition (รอบแรก) น้องฟางข้าว หนึ่งในผู้เข้าแข่งขัน ได้มีการเปิดตัวชัดเจนว่า เป็นนักร้องในวงดนตรีของ โก้ มิสเตอร์ แซกแมน

ก่อนที่น้องฟางข้าว จะผ่านเข้ารอบไปอยู่ในทีมของโค้ช ก้อง สหรัฐ สังคปรีชา และกลับมาอยู่ในทีมของโค้ชคิ้มอีกครั้ง หลังจากที่พ่ายแพ้ในการแข่งขันรอบ battle (แบทเทิล) และถูกโค้ชคิ้ม กดสตีลเข้ามาอยู่ในทีมของตนเอง เพื่อแข่งขันในรอบ น๊อคเอาท์ ในปัจจุบัน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อวันที่ 16 พฤศจิกายน 2556 ที่ผ่านมา ได้โทรศัพท์ติดต่อไปยัง โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม เพื่อขอให้แสดงความเห็นในการกดสตีล น้องฟางข้าว ซึ่งเป็นนักร้องในวงดนตรีของโก้ มิสเตอร์ แซกแมน เข้ามาอยู่ในทีมของตนเอง

โดยเบื้องต้น โค้ช เจนนิเฟอร์ คิ้ม ปฏิเสธที่จะตอบคำถาม พร้อมระบุว่า จะไม่ให้ความเห็นกรณีใดๆ ทั้งสิ้น..

ที่มา:isranews.org


คหสต. ถ้าจะเกรงกันขนาดนี้ อยู่กันยากขึ้นหล่ะ
มันขึ้นอยู่กับการโหวตของคนดูในรอบท้าย ๆ ไม่ใช่รึ แต่กว่าจะได้โหวต กรรมการก็คัดสรรมาแล้วนะ น้องเค้าก็ร้องเพลงดี ก็อยากจะมาได้รางวัลการันตี พิสูจน์ความสามารถ ไม่น่าจะอยากอะไรขนาดนี้นะ ส่วนพี่โก้ แกก็อาจจะอยากเห็นน้องได้ไปต่อบ้างหล่ะไม่มากก็น้อย เพราะผู้ช่วยก็มีส่วนในการตัดสินใจหรือเปล่า ไม่แปลกมั้ง ถึงขนาดเอาไปโยงเรื่องทรัพย์สิน เรื่องธุรกิจ ...แบบนี้ก็เกินไป