คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 13
ทุกคนที่เข้ามาแข่งได้ในรอบ Battle และ Knock Out
ต่างก็ผ่านจุดที่ต้องใช้ Voice พิสูจน์ตัวเองมาหมดแล้วไงครับ
หลังจากรอบ Blind สิ่งที่คุณพิสูจน์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Voice อย่างเดียวแล้ว
เพราะทุกๆคนที่เข้ารอบมาพร้อมกับคุณ ต่างก็มี Voice ที่ดีพอๆกับคุณทุกคนนั่นล่ะ ถึงได้ผ่านมาได้กันหมด
ดังนั้น รอบลึกๆ จึงต้องตัดสินกันด้วยอะไรที่ แตกต่าง ออกไปจากเดิม
ซึ่งตรงนี้มันอยู่ที่การมองเกม วิจารณญาณของโค้ช
และแน่นอนว่ามันต้องมีบ้างที่จะถูกใจคนดูบางคน และไม่ถูกใจคนดูบางคน
ตามนั้น
ต่างก็ผ่านจุดที่ต้องใช้ Voice พิสูจน์ตัวเองมาหมดแล้วไงครับ
หลังจากรอบ Blind สิ่งที่คุณพิสูจน์ ไม่ได้ขึ้นอยู่กับ Voice อย่างเดียวแล้ว
เพราะทุกๆคนที่เข้ารอบมาพร้อมกับคุณ ต่างก็มี Voice ที่ดีพอๆกับคุณทุกคนนั่นล่ะ ถึงได้ผ่านมาได้กันหมด
ดังนั้น รอบลึกๆ จึงต้องตัดสินกันด้วยอะไรที่ แตกต่าง ออกไปจากเดิม
ซึ่งตรงนี้มันอยู่ที่การมองเกม วิจารณญาณของโค้ช
และแน่นอนว่ามันต้องมีบ้างที่จะถูกใจคนดูบางคน และไม่ถูกใจคนดูบางคน
ตามนั้น
Donut Choco ถูกใจ, +++Sunying+++ ถูกใจ, หมูกรีซลี่คลั่ง ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 950170 ถูกใจ, reanimatrix ถูกใจ, Bi~jang ถูกใจ, "เธอใช่ไหมคนที่ฉันรอ" ถูกใจ, fukaze ถูกใจ, สมาชิกหมายเลข 926325 ถูกใจ, guagod ถูกใจรวมถึงอีก 30 คน ร่วมแสดงความรู้สึก
▼ กำลังโหลดข้อมูล... ▼
แสดงความคิดเห็น
คุณสามารถแสดงความคิดเห็นกับกระทู้นี้ได้ด้วยการเข้าสู่ระบบ
กระทู้ที่คุณอาจสนใจ
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ
The Voice Thailand
รายการโทรทัศน์
สรุปแล้วโค้ชใช้อะไรเป็นการตัดสินใจใน The Voice Thailand ครับ
ระหว่าง เสียงร้อง,เทคนิคการร้อง,พลังเสียง กับ การแสดงออกระหว่างร้อง, สายตาที่ส่งไปให้คนดู, การปรับเปลี่ยนบุคลิกและทำหน้าทำตาให้เข้ากับเนื้อเพลง?
คือถ้าเป็นรอบแรก ผมก็คิดว่า "เสียงร้อง" คือตัวตัดสินใจให้กดหันมา แต่พอรอบแบทเทิล ก็เริ่มเป็นอะไรที่มากกว่าเสียงแล้ว จนมาถึงรอบ น๊อคเอ้าท์ ที่ผมงงเลยว่า "คนเสียงดี ร้องดีกว่า แต่ตกรอบ แพ้คนที่แสดงท่าทางร่วมกับเพลงได้ดีกว่า" ทั้งๆที่มันคือ "เดอะ วอยซ์" มันน่าจะเน้นที่ เสียง ไปเรื่อยๆ จนกว่าจะถึงรอบ แสดงสด หรือเปล่าครับ?
ปล. ไปหมดเลย ปุ้ยฝ้าย วี ลูกพีช อ้น ถ้า โอปอล (ผู้ชาย) ตกไปอีกคนนี้ ไม่รู้จะดูอะไรละครับปีนี้