แถได้ด้านจริงๆ ตำรวจเศือกใส่นอกเครื่องแบบ ทำลับๆล่อๆ(นั่งกินก๋วยเตี่ยวเนี่ยนะ ลับๆล่อๆ) จึงโดนซะ สำหรับม๊อบคนดี มีศีลธรรม เกิดมาไม่เคยโกงชาติสักบาท ของไอ้เมือก
แล้วภาพ การ์คไล่กระทืปตำรวจในเครื่องแบบวันนี้ล่ะ(ตามภาพ) ..จะแถว่าไงดีว๊ะ..
หรือจะแถว่าเศือกใส่เครื่องแบบมาเอง รู้ว่าม๊อบนี้เกลียดตำรวจ..ฝัด
ดี.เปิดมาให้หมด ความดีแบบเปรี้ยๆของพวกเมิง..ชาวบ้านเขาจะได้รู้..ม๊อบคนดี มันเปรี้ยแบบนี้เอง555
"เอกนัฏ"แจงเหตุการ์ดทำร้ายตร.เพราะไม่แสดงตัวแถมพกปืน
ฟังเสียง
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่16 พ.ย. 56 เวลา 14.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน 310 ส.ส.ที่ลงมติเห็นชอบกฎหมายนิรโทษกรรม โดยจะเดินหน้าล่ารายชื่อถอดถอนให้ครบตามกฏหมาย และ ให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 19 พ.ย.นี้ ซึ่งในวันจันทร์ นี้ (18 พ.ย.) แกนนำทั้ง 9 คน นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ จะเดินทางไปแสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวมรวมรายชื่อถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ทั้งนี้หลังครบ 1 ล้านชื่อแล้วจะประกาศยกระดับ อารยะขัดขืนรัฐบาลขั้นสูงสุดทันที และมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการที่ รัฐบาลกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงแกนนำว่ามีความอ่อนแอลง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง สังเกตได้จากวันที่ประกาศจะตั้งศาลประชาชน มีคนมาร่วมชุมนุมกับเราเกือบ 2 แสนคน และล่าสุดที่ประกาศยกระดับก็มีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ขอยืนยันว่าพวกเราแรงดี แรงไม่มีตก ขอให้รัฐบาลหยุดบิดเบือนความจริงด้วย
นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่การ์ดเวทีไปทำร้ายตำรวจนั้น ข้อเท็จจริงคือการ์ดไปพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน และไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจหรือเป็นใคร อีกทั้งยังพกปืนอีกด้วย การ์ดก็พยายามจะเจรจาเข้าไปพูดคุย และให้มาลงบันทึกหมายเหตุไว้ที่เต้นท์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยของเวที แต่ชายทั้งสองที่มาทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจกลับขัดขืน ไม่ยินยอม กระทั่งมีเหตุกระทบกระทั่งทำร้ายกัน
"ผมตั้งข้อสังเกตว่าหากตำรวจจะเข้ามาดูแลประชาชน ทำไมไม่แสดงตัว แต่ยังมาพกอาวุธอีก ก็ต้องเข้าใจการ์ดด้วยเพราะต้องดูแลประชาชน แต่หากตำรวจต้องการดำเนินคดีก็ให้ประสานมายังเวทีได้ อีกทั้ง ขอบอกไว้ว่าเรายินดีให้ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลประชาชนผู้ชุมนุมร่วมกัน แต่ขอให้มาแสดงตัวอย่างถูกต้อง ไม่ใช่มาหลบๆ ซ่อนๆ" นายเอกนัฎ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในช่วงบ่ายเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนทำให้บริเวณหน้าเวทีมีประชาชนมารอรับการฟังปราศรัย ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุม ได้แก่ นายสุเทพ นายเอกนัฏ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เดินทางเข้ามายังพื้นที่ชุมนุม โดยนายสุเทพได้มีการเดินตรวจความเรียบร้อยพื้นที่ชุมนุมและโรงครัว ขณะที่บนเวทีมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และ สลับกับการแสดงดนตรีบนเวที นอกจากนี้ในส่วนของการล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. 310 คนที่ลงชื่อสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการยกระดับของการชุมนุมที่นายสุเทพ ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย. เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการตั้งจุดลงทะเบียนบริเวณทางเข้าสถานที่ชุมนุมบริเวณผ่านฟ้าลีลาศและยังได้ตั้งเครื่องถ่ายเอกสารไว้ให้บริการประชาชนที่มาร่วมลงชื่ออีกด้วย
ม๊อบคนดีที่ทำร้ายตำรวจสาหัส แถ เศือกแต่งนอกเครื่องแบบ พกปืน เลยไม่รู้ / แล้วใล่กระทืป ตำรวจในเครื่องแบบล่ะ จะแถอย่างไร
แล้วภาพ การ์คไล่กระทืปตำรวจในเครื่องแบบวันนี้ล่ะ(ตามภาพ) ..จะแถว่าไงดีว๊ะ..
หรือจะแถว่าเศือกใส่เครื่องแบบมาเอง รู้ว่าม๊อบนี้เกลียดตำรวจ..ฝัด
ดี.เปิดมาให้หมด ความดีแบบเปรี้ยๆของพวกเมิง..ชาวบ้านเขาจะได้รู้..ม๊อบคนดี มันเปรี้ยแบบนี้เอง555
"เอกนัฏ"แจงเหตุการ์ดทำร้ายตร.เพราะไม่แสดงตัวแถมพกปืน
ฟังเสียง
อนุสาวรีย์ประชาธิปไตย วันที่16 พ.ย. 56 เวลา 14.00 น. นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ โฆษกเวทีต่อต้านกฎหมายนิรโทษกรรม เปิดเผยว่า ขณะนี้มีประชาชนเริ่มทยอยเดินทางร่วมลงชื่อเพื่อถอดถอน 310 ส.ส.ที่ลงมติเห็นชอบกฎหมายนิรโทษกรรม โดยจะเดินหน้าล่ารายชื่อถอดถอนให้ครบตามกฏหมาย และ ให้เสร็จสิ้นภายใน วันที่ 19 พ.ย.นี้ ซึ่งในวันจันทร์ นี้ (18 พ.ย.) แกนนำทั้ง 9 คน นำโดยนายสุเทพ เทือกสุบรรณ แกนนำ จะเดินทางไปแสดงตนเป็นผู้ริเริ่มรวมรวมรายชื่อถอดถอนต่อประธานวุฒิสภา ทั้งนี้หลังครบ 1 ล้านชื่อแล้วจะประกาศยกระดับ อารยะขัดขืนรัฐบาลขั้นสูงสุดทันที และมั่นใจว่าจะเสร็จสิ้นภายในสิ้นเดือนนี้ ส่วนการที่ รัฐบาลกล่าวหากลุ่มผู้ชุมนุมรวมถึงแกนนำว่ามีความอ่อนแอลง ขอชี้แจงว่าไม่เป็นความจริง สังเกตได้จากวันที่ประกาศจะตั้งศาลประชาชน มีคนมาร่วมชุมนุมกับเราเกือบ 2 แสนคน และล่าสุดที่ประกาศยกระดับก็มีมากขึ้นยิ่งกว่าเดิม ขอยืนยันว่าพวกเราแรงดี แรงไม่มีตก ขอให้รัฐบาลหยุดบิดเบือนความจริงด้วย
นายเอกนัฎ กล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่การ์ดเวทีไปทำร้ายตำรวจนั้น ข้อเท็จจริงคือการ์ดไปพบบุคคลต้องสงสัยเป็นชาย 2 คน และไม่แสดงตัวว่าเป็นตำรวจหรือเป็นใคร อีกทั้งยังพกปืนอีกด้วย การ์ดก็พยายามจะเจรจาเข้าไปพูดคุย และให้มาลงบันทึกหมายเหตุไว้ที่เต้นท์อำนวยการดูแลความเรียบร้อยของเวที แต่ชายทั้งสองที่มาทราบภายหลังว่าเป็นตำรวจกลับขัดขืน ไม่ยินยอม กระทั่งมีเหตุกระทบกระทั่งทำร้ายกัน
"ผมตั้งข้อสังเกตว่าหากตำรวจจะเข้ามาดูแลประชาชน ทำไมไม่แสดงตัว แต่ยังมาพกอาวุธอีก ก็ต้องเข้าใจการ์ดด้วยเพราะต้องดูแลประชาชน แต่หากตำรวจต้องการดำเนินคดีก็ให้ประสานมายังเวทีได้ อีกทั้ง ขอบอกไว้ว่าเรายินดีให้ตำรวจเข้ามาช่วยดูแลประชาชนผู้ชุมนุมร่วมกัน แต่ขอให้มาแสดงตัวอย่างถูกต้อง ไม่ใช่มาหลบๆ ซ่อนๆ" นายเอกนัฎ กล่าว
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บรรยากาศการชุมนุมคัดค้านร่าง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ในช่วงบ่ายเริ่มคึกคักมากขึ้น โดยมีประชาชนทยอยเดินทางเข้าร่วมชุมนุมอย่างต่อเนื่อง จนทำให้บริเวณหน้าเวทีมีประชาชนมารอรับการฟังปราศรัย ซึ่งแกนนำผู้ชุมนุม ได้แก่ นายสุเทพ นายเอกนัฏ นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ เดินทางเข้ามายังพื้นที่ชุมนุม โดยนายสุเทพได้มีการเดินตรวจความเรียบร้อยพื้นที่ชุมนุมและโรงครัว ขณะที่บนเวทีมีการปราศรัยโจมตีรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง และ สลับกับการแสดงดนตรีบนเวที นอกจากนี้ในส่วนของการล่ารายชื่อถอดถอน ส.ส. 310 คนที่ลงชื่อสนับสนุนร่างพ.ร.บ.นิรโทษกรรม ซึ่งเป็นหนึ่งในมาตรการยกระดับของการชุมนุมที่นายสุเทพ ได้ประกาศไปเมื่อวันที่ 15 พ.ย. เป็นไปอย่างคึกคัก โดยมีการตั้งจุดลงทะเบียนบริเวณทางเข้าสถานที่ชุมนุมบริเวณผ่านฟ้าลีลาศและยังได้ตั้งเครื่องถ่ายเอกสารไว้ให้บริการประชาชนที่มาร่วมลงชื่ออีกด้วย