สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ กุนซือทีมชาติไทย รับลูกทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะต่างลงเล่นด้วยความกดดัน ที่จะต้องเอาชนะให้ได้เพื่อความหวังในการเข้ารอบสุดท้ายเอเชี่ยนคัพของทีม จนต้าน อิหร่านไม่ไหวพ่ายคาบ้าน 0-3 แต่พร้อมยืนยันแม้สุดท้ายไทยจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบ แต่ยังเต็มที่เพื่อพาทีมช้างศึกเก็บชัยชนะให้ได้ใน 2 นัดสุดท้ายที่เหลืออยู่
เต็มที่สุดๆ แล้วสำหรับทีมชาติไทย แต่สุดท้ายด้วยศักยภาพทีมที่แตกต่างกันมาก จนทำให้ต้องถูก อิหร่าน บุกมาย้ำแค้น 3-0 พ่ายเป็นเกมนัดที่ 4 ติดต่อกันในศึกเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือก กลุ่ม บี โดยหลังเกม "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ กุนซือของทีมก็ได้กล่าวว่า
"กับผลการแข่งขันในนัดนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเราเล่นได้ไม่ดีพอ รวมถึงรูปเกมของทีมค่อนข้างจะเฉื่อย เพราะว่าเกมนัดนี้เป็นเกมที่สำคัญซึ่งนักเตะแต่ละคนต่างลงเล่นด้วยความกดดันด้วย นอกจากนี้จุดที่สร้างความต่างให้กับเกมนัดนี้อีกอย่างก็คือเรื่องของสภาพร่างกายและความแข็งแกร่งที่เราเป็นรอง ซึ่งหลังจากนี้แม้ว่าเราจะตกรอบหรือไม่อย่างไร ในเกมที่เหลืออยู่อีก 2 นัด ตนก็ยังคงจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลืออยู่"
"สำหรับในอนาคตหลังจบการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือกแล้วนั้น บอกตามตรงว่าตนไม่ได้มีสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลฯ แต่อย่างใด แต่เข้ามาทำด้วยใจ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงต้องอยู่ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ว่าต้องการให้ตนอยู่ช่วยทำหน้าที่ต่อไปหรือเปล่า นอกจากนี้ตนยังมองว่าในอนาคตต่อจากนี้ อยากให้ทางสโมสรทุกแห่ง, บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงสมาคมฟุตบอลฯ หันหน้าเข้ามาร่วมกันทำงานเพื่อทีมชาติไทยอย่างจริงจัง เพราะตนเชื่อว่าทีมชาติไทยสามารถประสบความสำเร็จได้ หากว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือแก่กัน"
ด้าน คาลอส เคยรอช กุนซือทีมอิหร่าน ก็ได้กล่าวชมลูกทีมที่สามารถทำผลงานได้ดีในครึ่งแรก แม้อาจจะแผ่วลงในครึ่งหลังก็ตาม พร้อมปากหวานอวยพรให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในช่วงปลายปีนี้ "เกมในครึ่งแรกนักเตะเล่นได้ดี โดยประตูที่ 2 ของทีมช่วยให้ทีมเล่นได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าในครึ่งหลังเราจะไม่สามารถรักษาฟอร์มเก่งเหมือนในครึ่งแรกได้ แต่การที่เรายิงประตูที่ 3 ปิดท้ายได้ก็ถือว่าสามารถทำตามเป้าหมายของทีมได้สำเร็จ ซึ่งตนเองขออวยพรให้ทีมไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ปลายปีนี้ประสบความสำเร็จด้วย"
CR>
http://www.ballthaifc.com
"ง้วน"เผยช้างศึกกดดันจนเล่นไม่ออก เปรยอนาคตแล้วแต่สมาคมฯ
สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ กุนซือทีมชาติไทย รับลูกทีมเล่นได้ต่ำกว่ามาตรฐาน เพราะต่างลงเล่นด้วยความกดดัน ที่จะต้องเอาชนะให้ได้เพื่อความหวังในการเข้ารอบสุดท้ายเอเชี่ยนคัพของทีม จนต้าน อิหร่านไม่ไหวพ่ายคาบ้าน 0-3 แต่พร้อมยืนยันแม้สุดท้ายไทยจะไม่ได้ผ่านเข้ารอบ แต่ยังเต็มที่เพื่อพาทีมช้างศึกเก็บชัยชนะให้ได้ใน 2 นัดสุดท้ายที่เหลืออยู่
เต็มที่สุดๆ แล้วสำหรับทีมชาติไทย แต่สุดท้ายด้วยศักยภาพทีมที่แตกต่างกันมาก จนทำให้ต้องถูก อิหร่าน บุกมาย้ำแค้น 3-0 พ่ายเป็นเกมนัดที่ 4 ติดต่อกันในศึกเอเชี่ยนคัพ รอบคัดเลือก กลุ่ม บี โดยหลังเกม "โค้ชง้วน" สุรชัย จตุรภัทรพงษ์ กุนซือของทีมก็ได้กล่าวว่า
"กับผลการแข่งขันในนัดนี้ ก็ต้องยอมรับว่าเราเล่นได้ไม่ดีพอ รวมถึงรูปเกมของทีมค่อนข้างจะเฉื่อย เพราะว่าเกมนัดนี้เป็นเกมที่สำคัญซึ่งนักเตะแต่ละคนต่างลงเล่นด้วยความกดดันด้วย นอกจากนี้จุดที่สร้างความต่างให้กับเกมนัดนี้อีกอย่างก็คือเรื่องของสภาพร่างกายและความแข็งแกร่งที่เราเป็นรอง ซึ่งหลังจากนี้แม้ว่าเราจะตกรอบหรือไม่อย่างไร ในเกมที่เหลืออยู่อีก 2 นัด ตนก็ยังคงจะทำงานอย่างเต็มที่เพื่อพาทีมเก็บชัยชนะให้ได้ทุกนัดที่เหลืออยู่"
"สำหรับในอนาคตหลังจบการแข่งขันฟุตบอลเอเชี่ยนคัพรอบคัดเลือกแล้วนั้น บอกตามตรงว่าตนไม่ได้มีสัญญากับทางสมาคมฟุตบอลฯ แต่อย่างใด แต่เข้ามาทำด้วยใจ ซึ่งสุดท้ายแล้วก็คงต้องอยู่ที่ทางสมาคมฟุตบอลฯ ว่าต้องการให้ตนอยู่ช่วยทำหน้าที่ต่อไปหรือเปล่า นอกจากนี้ตนยังมองว่าในอนาคตต่อจากนี้ อยากให้ทางสโมสรทุกแห่ง, บริษัทไทยพรีเมียร์ลีก รวมถึงสมาคมฟุตบอลฯ หันหน้าเข้ามาร่วมกันทำงานเพื่อทีมชาติไทยอย่างจริงจัง เพราะตนเชื่อว่าทีมชาติไทยสามารถประสบความสำเร็จได้ หากว่าทุกฝ่ายให้ความร่วมมือแก่กัน"
ด้าน คาลอส เคยรอช กุนซือทีมอิหร่าน ก็ได้กล่าวชมลูกทีมที่สามารถทำผลงานได้ดีในครึ่งแรก แม้อาจจะแผ่วลงในครึ่งหลังก็ตาม พร้อมปากหวานอวยพรให้ทีมชาติไทยประสบความสำเร็จในการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ในช่วงปลายปีนี้ "เกมในครึ่งแรกนักเตะเล่นได้ดี โดยประตูที่ 2 ของทีมช่วยให้ทีมเล่นได้ง่ายขึ้น ถึงแม้ว่าในครึ่งหลังเราจะไม่สามารถรักษาฟอร์มเก่งเหมือนในครึ่งแรกได้ แต่การที่เรายิงประตูที่ 3 ปิดท้ายได้ก็ถือว่าสามารถทำตามเป้าหมายของทีมได้สำเร็จ ซึ่งตนเองขออวยพรให้ทีมไทย ที่จะเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลชายในกีฬาซีเกมส์ปลายปีนี้ประสบความสำเร็จด้วย"
CR> http://www.ballthaifc.com