เจอผู้หญิงกับผู้ชายแบบนี้บอกเลยว่าอย่าทน

เป็นครั้งแรกที่เลยที่เขียนกระทู้เล่าเรื่องของตัวเอง ซึ่งแรงบันดาลใจได้มาจากกระทู้นี้เลยค่ะ http://ppantip.com/topic/31230563
เข้าไปอ่านแล้วก็รู้สึกว่า ผู้หญิงแบบนี้ "บนโลกนี้" ยังมีอีกเยอะ และเพื่อเป็นการยืนยันเลยจะมาเล่าประสบการณ์ที่เจอค่ะ

เรื่องมีอยู่ว่าเราตัดสินใจเลิกกับแฟนเก่าเพราะเขาไปมีผู้หญิงอื่นค่ะ
แฟนเก่าเราเป็นคนจีน เจอกันตอนไปเรียนที่ญี่ปุ่นตอนอยู่ปี4ปิดเทอมช่วงเดือนตุลาคม

ก่อนอื่นขอท้าวความก่อนนะคะว่าก่อนที่จะคบคนจีนเคยมีแฟนเป็นคนไทยค่ะ
เราทะเลาะกับแฟนคนไทยก่อนจะเดินทางไปสนามบิน
เหตุเพราะว่าเราตกลงกันแล้วว่าจะให้เขาไปส่งที่สนามบิน แล้วเขาก็รับปากเราไว้ซะดิบดี
แต่พอถึงวันจริงๆ ถึงเวลาที่จะต้องออกจากที่พักไปสนามบินแล้วเขาก็ยังไม่มา
โทรไปเขาบอกว่าเขาพาเพื่อนไปธุระที่งามวงศ์วาน ซึ่งช่วงเวลานั้นรถติดมากเราว่ากลับมาไม่ทันแน่ๆ
ตอนนั้นจะ1ทุ่มแล้ว ต้องไปถึงสุวรรณภูมิ3ทุ่ม ต้องเผื่อเวลารถติดจากดอนเมืองอีก
แม่ก็ใกล้จะถึงดอนเมืองแล้ว (ที่พักอยู่หน้าม.เกษตรฯ) ไหนจะต้องขับรถไปรับแม่ก่อนอีก
เราก็ตัดสินใจขับรถออกไปเองกะว่าไปรับแม่ก่อนแล้วค่อยย้อนมารับเขา ปรากฏว่า....
รถไม่ได้เติมน้ำมัน จะหมดถังอยู่แล้ว ละเหี่ยใจมากกับผู้ชายคนนี้

คือก่อนหน้านี้ก็โมโหเรื่องไม่รักษาคำพูดหลายครั้งแล้ว แล้วยังมีเรื่องนิสัยเขาที่ตัดสินใจอะไรเองไม่ค่อยจะได้
แถมขี้เกรงใจเกินไปไม่กล้าปฏิเสธคน และติดเพื่อนมากถึงขนาดเคยคุยโทรศัพท์ต่อหน้าเราตอนเพื่อนชวนไปเตะบอลว่า
"กับเพื่อน ไปได้เสมอ" ทั้งๆที่เรานัดดูหนังกับเขาไว้หลายอาทิตย์แล้ว
ทั้งยังเคยโดนเขาพูดใส่อีกว่า "งานบ้านเป็นของผู้หญิง ผู้หญิงต้องทำ"
มันรู้สึกเก็บกดมานาน พอมาเจอเหตุการณ์วันนี้ก็เลยพูดกับตัวเองว่าจะไม่ทนแล้ว
ไหนๆก็จะไปเรียน ได้ห่างกันสักพักแล้วคงทำให้อารมณ์เย็นขึ้น

พอสตาร์ทรถขับออกพ้นประตูหอเขาก็โทรมาบอกว่าอย่าเพิ่งรีบออกให้รถหายติดก่อนแล้วค่อยออกไป
เขากำลังนั่งรถกลับมาแล้ว เราก็โมโหคิดในใจ จะรอให้รถมันหายติดแล้วเมื่อไหร่ล่ะวะ
คิดได้ไงเนี่ย จะให้แม่รอที่ป้ายรถเมล์ที่ดอนเมืองคนเดียวไปอีกนานแค่ไหน แต่สุดท้ายก็ยอม
เพราะรถน้ำมันหมด ยังไงไปสองคนก็ยังดีกว่าไปคนเดียวไม่มีคนช่วยเข็น
พอเขามาเขาก็ขับรถพาเราไปรับแม่ ตอนนั้นไม่อยากจะพูดอะไรเลยค่ะ เขาถามอะไรมาเราก็ไม่ตอบสักคำ
ก็บอกไปแล้วว่าให้ไปรับแม่ที่ป้ายสนามบินดอนเมือง
ด้วยนิสัยเขาชอบถามคำถามซ้ำๆเดิมๆอยู่แล้ว เรารำคาญก็เลยเงียบซะจะได้โมโหน้อยลง
เหมือนเขาจะโมโหเหมือนกันว่าทำไมเราไม่ตอบ เขาพูดใส่เราว่า "จะไปไหนก่อนก็บอกว่าสิวะ หอ ไม้เอก สระอา"
ได้ยินปุ๊บน้ำตาร่วงเลย ไม่คิดว่าคนที่คบกันมาสามปีจะกล้าพูดหยาบคายแบบนี้กับเรา
เขาเห็นเราร้องไห้เขาก็ขอโทษค่ะ แต่เรารู้สึกว่ามันร้ายแรงเกินไปสำหรับคนเป็นแฟนกัน
ถึงขนาดตัดสินใจเลยว่า จะไม่เอาคนหยาบคายแบบนี้มาเป็นพ่อของลูกเด็ดขาด

พอไปรับแม่เราและไปส่งเราที่สนามบิน เขาก็พยายามง้อเรา
เรากอดลาแม่ก่อนเข้าเกท แต่ไม่ได้สนใจเขาเลย
เขาก็ถามเรา "ตัวเองไม่กอดเค้าหน่อยเหรอ" (แม่เราไม่ได้ว่าอะไรค่ะที่เขาพูดแบบนี้ เพราะรู้อยู่แล้วว่าอยู่ด้วยกันทุกวัน)
เราเมินเขา ลาแม่แล้วเข้าเกทไปเลย

พอถึงญี่ปุ่นก็รู้สึกสบายใจดี เขาโทรมาหาเราครั้งแรกวันที่สามที่ถึงญี่ปุ่น แต่เรารู้สึกยังไม่อยากคุย
เลยบอกไปว่าแค่นี้ก่อนนะ ค่ารับมันแพง (Roamingนาทีละ25บาท)
หลังจากนั้นเขาก็ไม่โทรมาอีกเลย ตอนนั้นยอมรับว่าพร้อมจะมีใหม่แต่ก็ยังไม่อยากเลิก
อยากเข้าใจความรู้สึกตัวเองให้มากกว่านี้ ก็มีบ้างที่โพสลงfbว่าผู้ชายที่นั่งเรียนข้างๆน่ารัก
ผ่านไปเกือบเดือนเขาก็ทักเรามาทางแชทfb ซึ่งตอนนั้นเรารู้สึกไม่ไหวแล้ว อยู่ที่นี่สบายใจไม่มีเขาเราก็ไม่ตาย
แถมยังหาใหม่ได้อีกต่างหาก เพราะคนที่นั่งข้างๆเราก็เหมือนมีใจให้กับเรา
คุยกันไปคุยกันมาเราก็ตัดสินใจบอกเขาว่า "เราอยากอยู่คนเดียว เก็บของออกจากห้องเราด้วยนะ"
เรื่องของเราสองคนจบลงตอนนั้น แล้วเราก็ตัดสินใจคบกับคนจีนที่นั่งข้างๆ
แต่แล้วมันก็ทำให้เราเจอเรื่องช็อค เราเห็นรูปคู่เขากับผู้หญิงคนนึง
สืบจากคอมเมนท์ถึงได้รู้ว่าเป็นเพื่อนเก่า แล้วที่แย่กว่านั้นคือ มันคบกันแล้ว ดูวันที่ที่ลงรูปนั่นมันก่อนที่เราจะบอกเลิกอีกนะ
แล้วเพื่อนเราซึ่งเป็นเพื่อนเขาด้วยก็ดูเห็นดีเห็นงาม เจ็บก็ตรงนี้ รู้สึกว่าโง่ไปเลย

พักสักครู่....เดี๋ยวมาต่อค่ะ ยาวไปเดี๋ยวจะเมื่อสายตากันก่อน
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่