คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 1
เลยอยากถามว่า แบบที่ 2 มีประโยชน์ อย่างไร เหมือน งงๆ เงินที่เราใช้มันก็เงินเรา แล้วต้องเสียดอกให้ธนาคาร 2.5% ของเงินฝาก
อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีจ้า
แบบ 1 ค่าใช้จ่านบาน ค่าประเมิน ค่าจำนอง ค่าบริการจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เต็มวงเงิน+ระยะเวลาเท่ากับสัญญากู้ และโอดี ร่วมแสน อำนาจอนุมัติเป็นไปตามขั้นตอน และ เพิ่งทำธุระกิจ วิเคราะห์ยากมั่งครับ กี่ปี ข้อมูลมากน้อยขนาดไหน คนวิเคราะห์ปวดกะบาล เอกสารไม่ครบ วิ่งพล่าน ความเสี่ยงสูง เลยถูกคิดดอกแพง ไปเลยแบบ 2 อำนาจอนุมัติ ต่ำลงมา อาจเป็นที่สาขา ไว ค่าใช้จ่ายหายไปเกือบหมด ส่วนที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรพย์ คิดว่าคงเหลือเพียง ค่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ลูกต่อรองให้หากมีที่อื่น และไม่อยากซื้อเพิ่ม ส่วน เงินที่เราใช้มันก็เงินเรา ถูกไม่เต็ม 100 คิดใหม่ เราใช้เงินเราค้ำ ก็ยังคงได้ดอกปกติ ส่วนที่เบิกมาใช้ของธนาคาร เสียดอกตามตกลงกันไป หากธุรกิจไปไม่รอด เบื่อ อยากเลิก ก็หักล้างกันไปหากมีนี้ค้าง ธนาคารมีความเสี่ยงน้อยลง / แล้วต้องเสียดอกให้ธนาคาร 2.5% ของเงินฝาก
อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีจ้า ของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก ก็แค่เคยนั่งตรงนั้น และก็จะทำแบบนี้ แต่ไม่เคยมีลูกค้าว่อนคำถามแบบนี้ ก็แชร์กันไปครับ
อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีจ้า
แบบ 1 ค่าใช้จ่านบาน ค่าประเมิน ค่าจำนอง ค่าบริการจดจำนอง ค่าประกันอัคคีภัย ค่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพ เต็มวงเงิน+ระยะเวลาเท่ากับสัญญากู้ และโอดี ร่วมแสน อำนาจอนุมัติเป็นไปตามขั้นตอน และ เพิ่งทำธุระกิจ วิเคราะห์ยากมั่งครับ กี่ปี ข้อมูลมากน้อยขนาดไหน คนวิเคราะห์ปวดกะบาล เอกสารไม่ครบ วิ่งพล่าน ความเสี่ยงสูง เลยถูกคิดดอกแพง ไปเลยแบบ 2 อำนาจอนุมัติ ต่ำลงมา อาจเป็นที่สาขา ไว ค่าใช้จ่ายหายไปเกือบหมด ส่วนที่เกี่ยวกับอสังหาริมทรพย์ คิดว่าคงเหลือเพียง ค่าประกันชีวิตและประกันสุขภาพ ลูกต่อรองให้หากมีที่อื่น และไม่อยากซื้อเพิ่ม ส่วน เงินที่เราใช้มันก็เงินเรา ถูกไม่เต็ม 100 คิดใหม่ เราใช้เงินเราค้ำ ก็ยังคงได้ดอกปกติ ส่วนที่เบิกมาใช้ของธนาคาร เสียดอกตามตกลงกันไป หากธุรกิจไปไม่รอด เบื่อ อยากเลิก ก็หักล้างกันไปหากมีนี้ค้าง ธนาคารมีความเสี่ยงน้อยลง / แล้วต้องเสียดอกให้ธนาคาร 2.5% ของเงินฝาก
อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีจ้า ของถูกไม่มีดี ของฟรีไม่มีในโลก ก็แค่เคยนั่งตรงนั้น และก็จะทำแบบนี้ แต่ไม่เคยมีลูกค้าว่อนคำถามแบบนี้ ก็แชร์กันไปครับ
แสดงความคิดเห็น
ฝากประจำ กับวงเงิน OD
เพิ่งทำธุระกิจ ได้ประมาณ 3 ปี อยากขอวงเงินโอดีไว้ใช้ ในยามฉุกเฉินเผื่อขัดสน
ธนาคารแนะนำว่า
1.ให้เอาหลักทรัพย์เข้าคำประกัน (ที่ดินมูลค่าประมาณ 3 ล้านบาท)
วงเงินที่อนุมัติ เป็น OD 1 ล้าน ดอกเบี้ยประมาณ 9% ต่อปี + ให้กู้ 1 ล้าน ผ่อนชำระ 5 ปี เดือนล่ะ 22,000 บาท
2.ให้เอาหลักทรัพย์เป็นเงินสดเข้าคำประกัน
วงเงินที่อนุมัติ เป็น OD = จำนวนเงินที่ฝาก เช่น (ฝาก 2 ล้าน อนุมัติ OD 2 ล้าน) เสียดอกเบี้ย + 2.5% ของดอกเบี้ยเงินฝาก
เลยอยากถามว่า แบบที่ 2 มีประโยชน์ อย่างไร เหมือน งงๆ เงินที่เราใช้มันก็เงินเรา แล้วต้องเสียดอกให้ธนาคาร 2.5% ของเงินฝาก
อยากให้ผู้รู้ช่วยแนะนำทีจ้า