คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 10
ผม จขกท. นะครับ ก่อนอื่นเลย ต้องขอบคุณสำหรับทุกความคิดเห็นนะครั
บที่ทำให้ผมกล้าไปหาหมอ ขออนุญาต แชร์ประสบการณ์การไปหาหมอของผมนะครับ
หลังจากที่ผมไปกล้าไปหาหมอ เนื่องด้วย อายมาก ๆ ครับ
แต่แล้ว ก็ทนไม่ไหวกลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงตัดสินใจไปครับ
ผมเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ประชารสัมพันธ์ เพื่อติดตอตามขั้นตอน
รู้สึกเคอะเขินมากครับ เวลาโดนถามว่าเป็นอะไรมา
เจ้าหน้าที่ : เป็นอะไรมาคะ ?
ผม : (เงียบอยู่พักนึง) ผมเป็นแผล..แผลที่อวัยวะเพศครับ
ผมคิดเพียงแต่ว่าโคตรหน้าอาย แต่เจ้าหน้าที่น่ารักมากครับ
พยักหน้ารับทราบ และยิ้มให้อย่างสุภาพ แล้วเชิญผมไปพบคุณหมอครับ
คุณหมอเป็นผู้ชายครับ ทำให้ผมกล้าขึ้นอีกนิด
ผมก็เปิดให้คุณหมอดู คุณหมอก็พยักหน้าและถามคำถามผม
คุณหมอ : อาจจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์....
ผม : (รีบชิงตอบก่อน) คือ ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยครับ
คุณหมอ : ถ้าอย่างนั้น อาจเกิดจากการเสียดสีของหนังหุ้ม เพราะของคุณไม่ได้ขลิบ เพราะแบบนี้เกิดได้ 2 อย่างคือ
มี "เพศสัมพันธ์" หรือไม่ก็เกิดจาก "ช่วยตัวเอง" และไม่ต้องตกใจ เรื่องนี้ปกติมาก เพราะต่อไปในอนาคต
เมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์อีก ก็มีโอกาสเกิดการเสียดสีของหนังหุ้ม ได้อีก วิธีแก้ถาวรก็คือ "ขลิบ"
และคุณหมอก็แนะนำวิธีรักษาคือ ให้ผม ล้างน้ำให้สะอาด...ถึงแสบก็ต้องทน!! (โคตรแสบครับ)
เสร็จแล้ว เช็ดให้แห้ง เช็ดไม่พอ ต้องเอาลมเป่าให้แห้งด้วย ประมาณ 2-3 วัน อาการก็จะดีขึ้น
และช่วงนี้ เวลาผมฉี่ ต้องเช็ดอย่าให้เปียก เพราะอาจทำให้ น้องชายไม่แห้ง แผลอาจไม่หายได้
คุณหมอก็ให้ ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ 2 ตัว
สุดท้ายคุณหมอแอบเดินมากระซิบถามผมว่า "ไม่เคยจริง ๆ หรอ" หมอแปลกใจเพราะปกติ
คนอายุ 20 ปีอย่างผม เขาก็เคยกันหมดแล้ว ฮ่า ๆ
สรุปครับ การไปหาหมอไม่ได้น่ากลัว อย่างที่คิดครับ ผมแค่เป็นแผล เพียงแค่แผลมันเกิดที่ จู๋ เท่านั้น
ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับ แต่ถ้ามัวแต่อาย มัวแต่คิดว่ามันจะหายเอง ไม่มีใครรับประกันได้หรอกครับ
ว่า มันจะไม่แย่ลงไปอีกหรือไม่
ปล. ต้องขอบคุณทุกความคิดเห็นมาก ๆ นะครับ ที่ทำให้ผมกล้า ขอบคุณครับ.
บที่ทำให้ผมกล้าไปหาหมอ ขออนุญาต แชร์ประสบการณ์การไปหาหมอของผมนะครับ
หลังจากที่ผมไปกล้าไปหาหมอ เนื่องด้วย อายมาก ๆ ครับ
แต่แล้ว ก็ทนไม่ไหวกลัวจะกลายเป็นเรื่องใหญ่ ผมจึงตัดสินใจไปครับ
ผมเดินเข้าไปที่เคาเตอร์ประชารสัมพันธ์ เพื่อติดตอตามขั้นตอน
รู้สึกเคอะเขินมากครับ เวลาโดนถามว่าเป็นอะไรมา
เจ้าหน้าที่ : เป็นอะไรมาคะ ?
ผม : (เงียบอยู่พักนึง) ผมเป็นแผล..แผลที่อวัยวะเพศครับ
ผมคิดเพียงแต่ว่าโคตรหน้าอาย แต่เจ้าหน้าที่น่ารักมากครับ
พยักหน้ารับทราบ และยิ้มให้อย่างสุภาพ แล้วเชิญผมไปพบคุณหมอครับ
คุณหมอเป็นผู้ชายครับ ทำให้ผมกล้าขึ้นอีกนิด
ผมก็เปิดให้คุณหมอดู คุณหมอก็พยักหน้าและถามคำถามผม
คุณหมอ : อาจจะเกิดจากการมีเพศสัมพันธ์....
ผม : (รีบชิงตอบก่อน) คือ ผมไม่เคยมีเพศสัมพันธ์เลยครับ
คุณหมอ : ถ้าอย่างนั้น อาจเกิดจากการเสียดสีของหนังหุ้ม เพราะของคุณไม่ได้ขลิบ เพราะแบบนี้เกิดได้ 2 อย่างคือ
มี "เพศสัมพันธ์" หรือไม่ก็เกิดจาก "ช่วยตัวเอง" และไม่ต้องตกใจ เรื่องนี้ปกติมาก เพราะต่อไปในอนาคต
เมื่อคุณมีเพศสัมพันธ์อีก ก็มีโอกาสเกิดการเสียดสีของหนังหุ้ม ได้อีก วิธีแก้ถาวรก็คือ "ขลิบ"
และคุณหมอก็แนะนำวิธีรักษาคือ ให้ผม ล้างน้ำให้สะอาด...ถึงแสบก็ต้องทน!! (โคตรแสบครับ)
เสร็จแล้ว เช็ดให้แห้ง เช็ดไม่พอ ต้องเอาลมเป่าให้แห้งด้วย ประมาณ 2-3 วัน อาการก็จะดีขึ้น
และช่วงนี้ เวลาผมฉี่ ต้องเช็ดอย่าให้เปียก เพราะอาจทำให้ น้องชายไม่แห้ง แผลอาจไม่หายได้
คุณหมอก็ให้ ยาแก้ปวด ยาแก้อักเสบ และยาฆ่าเชื้อ 2 ตัว
สุดท้ายคุณหมอแอบเดินมากระซิบถามผมว่า "ไม่เคยจริง ๆ หรอ" หมอแปลกใจเพราะปกติ
คนอายุ 20 ปีอย่างผม เขาก็เคยกันหมดแล้ว ฮ่า ๆ
สรุปครับ การไปหาหมอไม่ได้น่ากลัว อย่างที่คิดครับ ผมแค่เป็นแผล เพียงแค่แผลมันเกิดที่ จู๋ เท่านั้น
ไม่ใช่เรื่องน่าอายเลยครับ แต่ถ้ามัวแต่อาย มัวแต่คิดว่ามันจะหายเอง ไม่มีใครรับประกันได้หรอกครับ
ว่า มันจะไม่แย่ลงไปอีกหรือไม่
ปล. ต้องขอบคุณทุกความคิดเห็นมาก ๆ นะครับ ที่ทำให้ผมกล้า ขอบคุณครับ.
แสดงความคิดเห็น
เป็นแผล และมีหนองที่อวัยวะเพศ ควรทำอย่างไรครับ
พอลองสังเกตดูแล้ว พบว่ามีรอยแดง ๆ บริเวณด้านใน ใต้หนังหุ้ม (ผมไม่ได้ขลิบ)
มีอยู่ประมาณ 2-3 ที่ และเจ็บมากเวลาสัมผัสโดน แล้วก็เริ่มมี หนองออกมาจากแผล
จนตอนนี้ผมไม่สามารถทำความสะอาดได้สะดวก ทำได้เพียงเช็ดหนองออก
แต่เช็ดไม่ได้มากครับ เพราะโดนแผลแล้วเจ็บมาก จนเริ่มมีกลิ่นไม่พึงประสงค์แล้ว
ผมควรรักษาอย่างไร และควรทำความสะอาดอย่างไรครับ
ขอบคุณครับ.