ขอยืมยูสเซอร์รวมของเพื่อนมาใช้นะคะ

คือเมื่อประมาณครึ่งเดือนก่อนเราเกิดอุบัติเหตุทำให้ต้องถอดเล็บนิ้วเท้าไป 1 เล็บค่ะ
ปกติก็ให้ รพ.ล้างแผลให้อยู่ช่วง 2 อาทิตย์แรก หลังจากนั้นก็มาล้างแผลเองเพราะไม่ค่อยแสบมากแล้ว
โดยปกติแล้วอุปกรณ์ล้างแผลที่เราใช้ก็มีน้ำเกลือ สำลี พลาสเตอร์ เบตาดีนไม่ก็ตาข่ายที่ชุบยาฆ่าเชื้อ
(ปกติใช้ยาฆ่าเชื้อสลับกันน่ะค่ะ บางวันก็ใช้ทั้งคู่เลย บ้าเนอะ -..-)

ด้วยความที่เรากลัวเชื้อโรคเข้ามากๆ จึงปิดแผลไว้ตลอดเวลา เปิดเฉพาะตอนล้างแผลเท่านั้น เราล้างแผลวันละ 1 ครั้งทุกคืน
แต่ไม่นานมานี้เราล้างแผลด้วยความรีบ เทน้ำเกลือใส่แผลแล้วเช็ดออกแบบแป๊ปเดียว
บางทีก็ลืมเช็ดแล้วก็ใส่ยาต่อเลยตามด้วยปิดพลาสเตอร์

เมื่อวานซืนเราอาบน้ำเสร็จก็ทำแผลอีกครั้ง ปรากฎว่านิ้วเรากลายเป็นแบบนี้
... ภาพสยองหน่อยนะคะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

แบบมันเป็นเหมือนคราบขาวอะไรซักอย่าง เป็นก้อนบางๆ ติดอยู่บนเนื้อเล็บ และหนังขอบเล็บก็เป็นสีขาวเปื่อยยุ่ยๆ นิดๆ
ตกใจมากกกก เลยรีบโทรหาคุณแม่ก็ทำตามคำแนะนำโดยการ ใช้น้ำเกลือชุบสำลีให้ชุ่ม
ปิดแผลซักพักแล้วก็ใช้สำลีแห้งเช็ดออก ก็กลายเป็นแบบนี้

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

โล่งใจไปนิดที่ไม่สยองเหมือนเดิม คืนนั้นเราลองไม่ปิดพลาสเตอร์ดู เปิดแผลทิ้งไว้ให้ได้ระบายบ้างเพราะกลัวมันอับ
อีกวันนึงตื่นมาเล็บก็กลายเป็นแบบนี้ค่ะ

[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้

จะเห็นว่าคราบสีขาวหายไปแล้ว ดีใจแทบกรี๊ด
เลยทำแผลใส่เบตาดีน ปิดพลาสเตอร์ตามปกติ พอผ่านมาวันนี้เราก็อาบน้ำแล้วจะมาทำแผล พอถอดพลาสเตอร์ปุ๊ป
ปรากฎว่ามีคราบขาวขึ้นกลางเล็บอีกแล้วค่ะ (รูปจาก Spoil ที่ 2)

สุดท้ายตัดสินใจว่าพรุ่งนี้จะลองไปให้หมอดู สาเหตุมันเกิดจากอะไรกันแน่คะ
เกิดจากการที่เคยล้างแผลไม่สะอาดเป็นคราบ หรือว่าแผลอับเพราะปิดพลาสเตอร์ตลอดเวลา + โดนน้ำกระเซ็นนิดๆ ตอนอาบน้ำ
แล้วมันอันตรายรึป่าวคะ สามารถดูแลรักษาเองโดยที่ไม่พบแพทย์ได้มั้ย