เปิดตัวกระทู้แรกของ web Pantip คิดอยู่นาน ว่าจะเริ่มต้นกระทู้อย่างไรดี คนถึงจะสนใจเข้ามาอ่าน จะเขียนเป็นแบบแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวหรือเชิงบอกบุญดี สุดท้ายก็เลยจับทั้งคู่มารวมกันเสียเลยดีกว่า เพราะตั้งใจว่า อยากจะมีทั้งสองอย่าง บอกบุญอย่างเดียวก็ไม่เห็นภาพ ไม่น่าสน บางคนก็ไม่กล้าไปด้วยซ้ำ หรือถ้าเขียนท่องเที่ยวอย่างเดียว ก็จะขาดวัตถุประสงค์หลักไปเสีย  เวิ่นเว้อ อยู่นาน เข้าเรื่องสักทีดีกว่า ที่มาของเรื่องก็สืบเนื่องจากเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา (8 พฤศจิกายน 2556) ระหว่างเดินทางกลับจากภารกิจ จากระยองเข้าสู่กรุงเทพ ได้มุ่งตรงไปยัง ถนน ทางหลวง หมายเลข 344 (ชลบุรี-แกลง) ระหว่างขับรถไปเพลินๆ บรรยากาศกำลังโอเค (ถนนเส้นนี้ค่อนข้างดีครับ ใช้ความเร็วได้ บรรยากาศรอบข้างก็เป็นเขาและต้นไม้) ได้สะดุดตากับป้ายโฆษณาอันหนึ่ง ที่เขียนว่า “ไหว้พระ ปิดทอง 9 สิ่งศักดิ์สิทธิ์วัดเขาบ่อทอง” ด้วยความที่ทุนเดิมเป็นคนที่ชอบเข้าวัดอยู่แล้ว ประกอบกับแว๊บๆ ในหัวว่า วัดนี้เคยมีหลวงพ่อโต เป็นเกจิดังในอดีตของจังหวัดระยอง เลยถือโอกาสแวะเข้าไปนมัสการรูปเคารพท่านสักหน่อย

สภาพที่เข้าไปถึงตอนแรกๆก็คิดว่า เอ๊ะนี่วัดจริงๆหรือเปล่า เพราะเห็นกำลังสร้างอุโบสถอยู่ และสภาพแวดล้อมโดยรอบก็ยังอยู่ระหว่างซ่อมแซม บูรณะอยู่มาก แต่ด้วยใจที่คิดว่า มาแล้วก็ขอเข้าไปไหว้พระหน่อยล่ะกัน เลยไปหาที่ไหว้จนได้ ตอนกำลังจอดรถก็มีแม่ชีรูปหนึ่งเดินมาถามว่า “มาทำอะไร” พอเปิดกระจกบอกว่า “จะมาไหว้พระ” ท่านก็ให้การต้อนรับเป็นอย่างดี ทำให้พอจะใจชื้นสักหน่อยว่า เออ อย่างน้อยก็น่าจะโอเคล่ะนะ หลังจากนั้น ก็เลยเดินลงไปไหว้พระตามจุดที่ท่านแนะนำ และด้วยความมีอัธยาศัยดีของแม่ชีนี่เอง (ยังให้พระหลวงพ่อทวดเนื้อแร่ของวัดเขาบ่อทองมาด้วยหลายองค์) จึงได้มีโอกาสสนทนากับท่านสั้นๆ ทำให้รู้ความเป็นมาของวัด สถานที่น่าสนใจต่างๆ และยังทราบอีกว่า วัดอยู่ระหว่างการสร้าง อุโบสถจตุรมุขอยู่ ซึ่งก็ยังต้องอาศัยปัจจัยอีกจำนวนมาก (ตามรูป) จึงรับปากท่านว่า จะมาช่วยบอกบุญผ่านสื่อ Social Media ให้อีกทางหนึ่ง เพื่อจะได้มีคนมาเห็นกันเยอะและได้ร่วมทำบุญกันเยอะๆ ซึ่งท่านก็ดีใจมากที่เราจะอาสาช่วยบอกบุญแก่เพื่อนๆทั้งหลาย และด้วยเหตุนี้นี่เองก็จึงเป็นที่มาของกระทู้นี้ ก็ขอฝากทุกท่านไว้ด้วยนะครับ ถ้าได้มีโอกาสแวะเวียนผ่านมาแถวนี้ อย่าลืมแวะเข้ามาร่วมทำบุญกันบ้างนะครับ หรือจะช่วยบอกต่อคนรู้จัก ก็ยังดี เพื่อการสร้างอุโบสถจะได้สร้างเสร็จไวๆครับ



อย่างไรก็ดี จากที่เกริ่นไว้ข้างต้น ด้วยการที่ตัวเองชอบการถ่ายรูปและเที่ยวแนวลุยๆ ด้วย การบอกบุญเฉยๆผ่านตัวหนังสือ จึงไม่ใช่วิสัย อีกอย่างสถานที่ก็มีอะไรน่าสนใจอีกเยอะ จึงถือโอกาสถ่ายรูปสถานที่ต่างๆของทางวัดมาให้ดูด้วย เท่าที่พอจะทำได้ เพื่อผู้ที่สนใจจะแวะผ่านเข้าไปทำบุญหรือเข้าไปชมของจริงกัน
เริ่มจากจุดแรกครับ จุดที่เจอแม่ชีและได้เข้ามากราบนมัสการรูปหล่อจำลองหลวงพ่อโสธร และรูปหล่อหลวงพ่อโต วัดเขาบ่อทอง หลวงปู่ทวด เหยียบน้ำทะเลจืด สมเด็จพุฒาจารย์โต พรหมรังสี จุดนี้ถ้าใครสนใจที่จะเช่าบูชาวัตถุมงคลของทางวัดก็สามารถติดต่อได้ตรงนี้นะครับ ซึ่งพระส่วนใหญ่สร้างจากเนื้อแร่ของเขาบ่อทองครับ เชื่อกันว่า เป็นแร่ศักดิ์สิทธิ์ครับ แต่ดีอย่างไร ก็ต้องไปพิสูจน์เองนะครับ ไม่อยากจะโฆษณา เพราะไม่มีประสบการณ์ตรง เพราะของแบบนี้ขึ้นอยู่กับศรัทธาด้วยครับ ใครศรัทธาด้วย ถูกโฉลกกันด้วย ก็ทั้งดี ทั้งเฮง ถ้าไม่ถูกโฉลกกันแล้วล่ะก็ เฉยๆไม่มีอะไรครับ แต่ถ้าจะเช่าบูชาจริงล่ะก็ อย่าคิดมากนะครับ ถือว่า ทำบุญกับวัด ร่วมสร้างอุโบสถถวายแด่พระพุทธศาสนา ถวายแด่หลวงพ่อโต ท่านล่ะกัน แค่นี้ก็สบายใจแล้วครับ…จริงไหม







ถัดมาหน่อยติดๆกันก็เดินมานมัสการฤาษีพรหมเมศ ท่านฤาษีรูปนี้ท่านมีรูปร่างเหมือนฤาษีทั่วไป แต่มีลักษณะบางอย่างเหมือนอย่างกับพระพรหมครับ คือ มี 4 หน้า มี 8 กร ว่ากันว่า สำหรับพระฤาษีพรหมเมศ ผู้นี้ท่านทรงอิทธิฤทธิ์และมีปาฏิหาริย์อย่างมากมาย ที่สำคัญท่านชอบช่วยเหลือมวลมนุษย์และสรรพสัตว์ทั้งหลายด้วยครับ มีโอกาสก็ลองไปขอพรจากท่านดูนะครับ

เลยไปอีกนิดครับก็ถึงแล้วครับ กับจุดที่จะสร้างอุโบสถจัตุรมุขครับ ก็ตามภาพนะครับ ยังเหลือการก่อสร้างอีกมาก ทางวัดก็จะมีให้ทำบุญตอกเสาอุโบสถด้วยไม้มงคลครับ ตามที่เห็นใต้ท้องช้างครับ (ทำบุญไม้มงคลชุดละ 100 บาทครับ แต่ถ้าไม่สะดวกก็ไหว้เฉยๆด้วยดอกไม้ธูปเทียนก็ได้ครับ) จากที่สนทนากับแม่ชี อุโบสถหลังนี้ก็อาศัยน้ำพักน้ำแรงของพระสงฆ์ในการสร้างเป็นหลักครับ





เสร็จจากจุดนี้ก็ยังมีจุดที่น่าสนใจอีก 2 จุดที่ผมไปต่อนะครับ ก็คือ พระมณฑปพระพุทธบาทบนเขา และพระพุทธชินราชองค์ใหญ่ ซึ่งทั้ง 2 สิ่งอยู่บนเขาเดียวกัน แต่ห่างกันอยู่ก็ราวร้อยเมตรครับ ระหว่างขับรถเหลือบไปด้านซ้ายก็เห็น เปรต 2 ต้นอยู่ริมต้นไม้บนเขาครับ คิดๆแล้วน่าหวาดเสียวเหมือนกัน ถ้าเป็นกลางคืนล่ะก้อ….บรือๆๆๆ

ขึ้นไปจนถึงมณฑปจนได้ครับ แต่เสียดายปิด เลยไม่ได้มีโอกาสเข้าไปถ่ายรูปข้างในได้ ก็เลยแวะนมัสการกราบอธิษฐานขอพรอยู่ข้างนอกแทนครับ ข้างบนนี้เข้าใจว่า มีกุฎิท่านเจ้าอาวาส หลวงพ่อใหญ่อยู่ด้วยครับ แต่ก็ไม่ได้เข้าไปไหว้เหมือนกัน เพราะเริ่มที่จะสายแล้ว เดียวกลับถึงเมืองกรุงฯค่ำมืดพอดี



จากนั้นเลยรีบไปต่อจุดสุดท้าย เพื่อไปไหว้พระพุทธชินราชองค์ใหญ่  ก็ขับรถไปสักร้อยเมตรเห็นจะได้ ณ จุดนี้ จอดรถได้แต่ด้านล่างครับ ที่เหลือก็เดินบันไดขึ้นอย่างเดียว สำหรับพระใหญ่องค์นี้ ทางแม่ชีบอกไว้ว่า ท่านเจ้าอาวาสองค์ก่อนที่มรณภาพไปแล้วได้สร้างไว้ครับ บันไดไม่ได้สูงมาก แต่เดินขึ้นบันไดไปบนเขา ก็เหนื่อยเหมือนกันครับ


และแล้วก็ถึงจนได้ ถ่ายรูปจากข้างบนลงมาจะเห็นรถผม แค่ตรงที่วงไว้ครับ (พอดีต้นไม้บังอยู่ครับ)


พอขึ้นไปถึงได้สัก 2-3 นาที เจ้าบ้านก็แวะมาทักทายทันที เป็นสุนัขวัยรุ่นๆ 2 ตัว เหาและวิ่งมาแต่ไกล คิดในใจ ซวยแล้ว จะวิ่งนี้ก็ไม่ได้ สงสัยจะโดนงับแน่เลย ในตัวก็มีแต่กล้องนี่แหละ…..ทำไงดี
สุดท้ายตัดสินใจ ยืนเฉยๆล่ะกัน เอาไงเอากัน ปรากฏพอวิ่งเข้ามาใกล้ ก็กระดิกหาง เกาะแข้งเกาะขาเล่นซะงั้น เป็นอันรอดตัวไป สงสัยมันจะรู้ว่า เรามาดี ในที่สุดก็เลยได้ไหว้พระจนเสร็จสิ้นดังหมาย  อ้อ…เกือบลืมสำหรับพระองค์ข้างหน้า ที่แต่งชุดขาว มีถือคฑา ท่านคือ ท่านท้าวมหาพรหมชินบัญชร นะครับ ประวัติโดยละเอียดของท่านหาอ่านได้ตาม internet ครับ เอาเป็นว่า ท่านเป็นหัวหน้ารูปพรหม 16 ชั้นครับ ทรงพาหนะคือ เต่าและพญานาค ท่านท้าวมหาพรหมชินบัญชร ท่านเป็นพระพรหมที่มีฤทธิ์เดชมาก เป็นที่เกรงกลัวของเหล่ามารทั้งหลาย ดังนั้น จึงเชื่อกันว่า ถ้ามีรูปของท้าวมหาพรหมชินบัญชรอยู่ในบ้านล่ะก็ วิญญาณทั้งหลาย อมรมนุษย์และพวกผีเปรตอสุรกาย จะไม่กล้าย่างกรายเข้าไปกลั่นแกล้งท่านแน่นอนครับ

เสร็จสิ้นภารกิจระหว่างเดินลงบันไดมา เจ้าสุนัขเจ้าถิ่นทั้ง 2 ก็เดินตามลงมาส่งด้วย ช่างน่ารักเสียจริงๆ เสียดายถ้าแถวนั้นไม่มีขายไก่ปิ้งขาย จะซื้อให้เป็นของรางวัลสัก 2-3 ไม้ซะแล้ว….แต่บนเขาจะมีได้ไงล่ะ อดไป  ไว้โอกาสหน้าถ้าได้แวะผ่านมาอีก คงจะได้ไปแวะนมัสการอีกครั้ง (ถ้ามี) และจะซื้อไก่ไปฝากนะ เจ้าตูบทั้ง 2 อิ อิ

ก็เสร็จสิ้นเสียทีกับที่นี่วัดเขาบ่อทอง ท่านผู้เยี่ยมชมทั้งหลาย ถ้ามีโอกาสก็อย่าลืม แวะไปเยี่ยมชมและทำบุญที่นี่กันบ้างนะครับ…”วัดเขาบ่อทอง จังหวัดระยอง” ถึงจุดนี้ ขอบคุณทุกท่านที่อุตส่าห์ทนอ่านมาจนจบครับ แล้วพบกันใหม่ครับ  สวัสดี