ปกติเป็นคนชอบกินมันแกวอยู่แล้ว สามีก็ชอบกินด้วย แต่จะหาซื้อยากมากเลย
จะเจออยู่ตามรถเข็นผลไม้เจ้าประจำแถวถนนข้าวสาร หน้าร้านชีวาสปา ก็จะซื้อหลายๆ ถุงไว้กินเป็นประจำ
ฤกษ์งามนามดี วันนี้ไปเดินโลตัส เจอมันแกวสดๆ มากันเป็นหัวๆ หลายถุงเลย ตื่นเต้นน้ำตาจะไหล
สามีชอบ ภรรยาก็อยากจะจัดให้ ซื้อมาสามถุงใหญ่ๆ รวมๆ น่าจะสามสี่กิโลกรัมหรือมากกว่า
มากลับมาถึงบ้านก็จัดการปอกแช่ตู้เย็นไว้ 1 หัวถ้วน เอาไว้ต้อนรับขับสู้สามีสุดที่รัก
ปรากฎ นังคุณสามีซึ่งกำลังเอาจริงเอาจังกับการกินแบบ Low Carb อยู่ กินไป 1 ชิ้น แล้วก็ทำท่าหวาดระแวง
มันแกวเป็นผักหัวๆ รากๆ แบบนี้ ต้องมีคาร์โบไฮเดรตเยอะแน่ๆเลย
ในใจก็เลย เฮ้ยย อย่านะ ฉันซื้อมาเพียบเลย อย่ามาทอดทิ้งกันตอนนี้ ที่เหลืออีก 8 หัวใครจะกิน ถ้าแกไม่กิน
เลยพยายามรีเสิร์ชเกี่ยวกับมันแกว เริ่มจากเวอร์ชั่นภาษาไทยก่อน
"คุณค่าทางอาหารของมันแกวนั้นประกอบด้วยน้ำ 90.5% โปรตีน 0.9% คาร์โบไฮเดรต 7.6% ไม่มีเส้นใยอาหาร โดยรสหวานนั้นมาจาก oligofructose inulin ซึ่งในร่างกายของมนุษย์ ไม่สามารถเผาผลาญได้ ดังนั้นมันแกวจึงเหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ควบคุมน้ำหนัก" (Credit : Wikipedia)
เอ้อ คาร์โบไฮเดรตแค่ 7.6 เปอร์เซ็นเองนะ น้อยกว่าพวกถั่วอีก และอย่าลืมว่า Low Carb ไม่ใช่ NO Carb
ยังไงก็ต้องกินได้บ้างแหละน่า
แต่สามีดันไปสงสัยว่าไอ้ oligofructose inulin มันทำงานยังไง เผาผลาญไม่ได้ มันดีหรือไม่ดี ทำให้เราหาข้อมูลเกี่ยวกับ oligofructose inulin ต่อไปอีก ปรากฎว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ไม่น่าจะเชื่อว่ามันจะอยู่ในมันแกวถูกๆ เหล่านี้
ก็เลยเริ่มค้นหาชื่อภาษาอังกฤษ ได้ความมาว่า Jicama (Hee-Cama) หรือ Jam Bean
พออ่านสรรพคุณอันเหลือเชื่อให้สามีฟัง สามีมาดูรูป ยังสงสัยอีก ว่าเขาไม่ได้หมายถึงส่วนรากแก้วหรือป่าว เขาหมายถึงส่วนที่มันเป็นถั่ว
และ Jam Bean มันมาจากแมกซิโกนะ ไม่ใช่ไทยแลนด์
สุดท้ายหาไปหามาจนไปเจอเว็ปไซส์ที่อธิบายลักษณะของ Jambean หรือ Jicama เหมือนมันแกวเปี๊ยบ รูปก็ใช่
แถมคุณประโยชน์ก็มากมายเหนือคณานับ มีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณต่ำ โดยเฉพาะได้เจ้า oligofructose inulin ในกากไยของมันแกว
ที่นอกจากจะไม่มีแคลอรี่แล้ว ยังช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ทำให้แบททีเรียดีในร่างกายเติบโต ทำให้ลำไส้ใหญ่มีสุขภาพดีและภูมิคุ้มกันสมบูรณ์ เป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่สนใจในการลดน้ำหนัก มีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง การติดเชื้อ อักเสบ ไอเพราะไวรัส และยังมีโปรแตสเซียม ช่วยเกี่ยบกับสุขภาพหัวใจและอื่นๆอีกมากมาย
ในที่สุดสามีจึงยอมกินมันแกวจนได้ (ในปริมาณที่พอเหมาะ) ภาระกิจสำเร็จ!
ไปอ่านต่อ ลองแปลกันเองได้ที่
http://foodfacts.mercola.com/jicama.html นะคะ
ถ้าเราแปลผิด ขออภัยด้วย แก้ไข แนะนำได้เลยค่ะ
[CR] มันแกว สุดยอดของว่างที่มีประโยชน์ ลดความอ้วนก็ดี กินเล่นก็อร่อย
จะเจออยู่ตามรถเข็นผลไม้เจ้าประจำแถวถนนข้าวสาร หน้าร้านชีวาสปา ก็จะซื้อหลายๆ ถุงไว้กินเป็นประจำ
ฤกษ์งามนามดี วันนี้ไปเดินโลตัส เจอมันแกวสดๆ มากันเป็นหัวๆ หลายถุงเลย ตื่นเต้นน้ำตาจะไหล
สามีชอบ ภรรยาก็อยากจะจัดให้ ซื้อมาสามถุงใหญ่ๆ รวมๆ น่าจะสามสี่กิโลกรัมหรือมากกว่า
มากลับมาถึงบ้านก็จัดการปอกแช่ตู้เย็นไว้ 1 หัวถ้วน เอาไว้ต้อนรับขับสู้สามีสุดที่รัก
ปรากฎ นังคุณสามีซึ่งกำลังเอาจริงเอาจังกับการกินแบบ Low Carb อยู่ กินไป 1 ชิ้น แล้วก็ทำท่าหวาดระแวง
มันแกวเป็นผักหัวๆ รากๆ แบบนี้ ต้องมีคาร์โบไฮเดรตเยอะแน่ๆเลย
ในใจก็เลย เฮ้ยย อย่านะ ฉันซื้อมาเพียบเลย อย่ามาทอดทิ้งกันตอนนี้ ที่เหลืออีก 8 หัวใครจะกิน ถ้าแกไม่กิน
เลยพยายามรีเสิร์ชเกี่ยวกับมันแกว เริ่มจากเวอร์ชั่นภาษาไทยก่อน
"คุณค่าทางอาหารของมันแกวนั้นประกอบด้วยน้ำ 90.5% โปรตีน 0.9% คาร์โบไฮเดรต 7.6% ไม่มีเส้นใยอาหาร โดยรสหวานนั้นมาจาก oligofructose inulin ซึ่งในร่างกายของมนุษย์ ไม่สามารถเผาผลาญได้ ดังนั้นมันแกวจึงเหมาะสำหรับผู้เป็นโรคเบาหวาน หรือผู้ควบคุมน้ำหนัก" (Credit : Wikipedia)
เอ้อ คาร์โบไฮเดรตแค่ 7.6 เปอร์เซ็นเองนะ น้อยกว่าพวกถั่วอีก และอย่าลืมว่า Low Carb ไม่ใช่ NO Carb
ยังไงก็ต้องกินได้บ้างแหละน่า
แต่สามีดันไปสงสัยว่าไอ้ oligofructose inulin มันทำงานยังไง เผาผลาญไม่ได้ มันดีหรือไม่ดี ทำให้เราหาข้อมูลเกี่ยวกับ oligofructose inulin ต่อไปอีก ปรากฎว่ามันเป็นอะไรที่สุดยอดมาก ไม่น่าจะเชื่อว่ามันจะอยู่ในมันแกวถูกๆ เหล่านี้
ก็เลยเริ่มค้นหาชื่อภาษาอังกฤษ ได้ความมาว่า Jicama (Hee-Cama) หรือ Jam Bean
พออ่านสรรพคุณอันเหลือเชื่อให้สามีฟัง สามีมาดูรูป ยังสงสัยอีก ว่าเขาไม่ได้หมายถึงส่วนรากแก้วหรือป่าว เขาหมายถึงส่วนที่มันเป็นถั่ว
และ Jam Bean มันมาจากแมกซิโกนะ ไม่ใช่ไทยแลนด์
สุดท้ายหาไปหามาจนไปเจอเว็ปไซส์ที่อธิบายลักษณะของ Jambean หรือ Jicama เหมือนมันแกวเปี๊ยบ รูปก็ใช่
แถมคุณประโยชน์ก็มากมายเหนือคณานับ มีคาร์โบไฮเดรตในปริมาณต่ำ โดยเฉพาะได้เจ้า oligofructose inulin ในกากไยของมันแกว
ที่นอกจากจะไม่มีแคลอรี่แล้ว ยังช่วยดูดซึมแคลเซียมเข้าสู่ร่างกาย ป้องกันโรคกระดูกพรุน
ทำให้แบททีเรียดีในร่างกายเติบโต ทำให้ลำไส้ใหญ่มีสุขภาพดีและภูมิคุ้มกันสมบูรณ์ เป็นอาหารที่ดีสำหรับผู้ป่วยโรคเบาหวานและผู้ที่สนใจในการลดน้ำหนัก มีสารต้านอนุมูลอิสระป้องกันมะเร็ง การติดเชื้อ อักเสบ ไอเพราะไวรัส และยังมีโปรแตสเซียม ช่วยเกี่ยบกับสุขภาพหัวใจและอื่นๆอีกมากมาย
ในที่สุดสามีจึงยอมกินมันแกวจนได้ (ในปริมาณที่พอเหมาะ) ภาระกิจสำเร็จ!
ไปอ่านต่อ ลองแปลกันเองได้ที่ http://foodfacts.mercola.com/jicama.html นะคะ
ถ้าเราแปลผิด ขออภัยด้วย แก้ไข แนะนำได้เลยค่ะ