จาก http://www.matichon.co.th/news_detail.php?newsid=1383565730&grpid=&catid=19&subcatid=1905

เมื่อเวลา 13.30 น. วันที่ 4 พฤศจิกายน ที่ห้องพิจารณา 8 ศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ ศาลนัดไต่สวนคำร้องหมายเลข คค.1/2556 ที่บริษัท สตาร์บัคส์ คอร์ปอเรชั่น ผู้ประกอบการร้านกาแฟยี่ห้อสตาร์บัคส์ ขอให้ศาลออกหมายจับกุมและกักขังนายดำรงค์ มัสแหละ หรือบัง และนายดำรัส มัสแหละ สองพี่น้องเจ้าของร้านกาแฟรถเข็นสตาร์บัง จำเลยที่ 1-2 แต่เนื่องจากเห็นว่าทั้งสองยังไม่ปฏิบัติตามคำสั่งคุ้มครองชั่วคราวก่อนพิจารณาคดีที่สตาร์บัคส์ยื่นฟ้องจำเลยทั้งสองในคดีอาญาของศาลที่ห้ามไม่ให้ใช้เครื่องหมายการค้าเลียนแบบ หลังพบว่าจำเลยยังใช้เครื่องหมายดังกล่าวอยู่ ซึ่งในวันนี้คู่ความทั้ง 2 ฝ่ายได้ไม่ได้เดินทางมา มีเพียงทนายความเท่านั้น

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า ตามข้อกำหนดของศาลทรัพย์สินทางปัญญาและการค้าระหว่างประเทศ พ.ศ.2540 ข้อ 14 วรรคแรก กำหนดว่าให้คำสั่งอนุญาตคุ้มครองชั่วคราวที่ศาลออกให้มีผลโดยทันที ซึ่งคดีนี้ศาลมีคำสั่งห้ามจำเลยใช้เครื่องหมายการค้าเลียนตั้งแต่วันที่ 12 กันยายนที่ผ่านมา ซึ่งจำเลยต้องปฏิบัติตามคำสั่ง ขณะที่ทีมทนายความจำเลยได้นำภาพถ่ายมาแสดงต่อศาลเพื่อให้เห็นว่าจำเลยทั้งสองได้ทำการลอกเครื่องหมายการค้าดังกล่าวแล้ว ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่าที่จำเลยทั้งสองไม่มาศาลวันนี้ เนื่องจากมีเหตุจึงเห็นควรให้โอกาสจำเลยทั้งสอง เพื่อมาสอบถามอีกครั้งว่าได้ปฏิบัติตามคำสั่งแล้วหรือไม่ ศาลจึงนัดพร้อมและไกล่เกลี่ยคู่ความทั้งสองในวันที่ 18 พ.ย.นี้ เวลา 10.00 น.

ภายหลังนายนคร ชมพูชาติ ทนายความจำเลย กล่าวว่า วันนี้ศาลยังไม่ได้ออกหมายจับ แต่อยากให้มีการสอบถามก่อน ซึ่งขณะนี้เราได้หยุดการใช้เครื่องหมายแล้ว แต่ในช่วงแรกที่ยังไม่ได้ปฏิบัติตาม เพราะมีปัญหาเรื่องรับหมายศาล

ด้านตัวแทนประชาสัมพันธ์สตาร์บัคส์ได้ส่งคำชี้แจงผ่านสื่อมวลชนโดยระบุว่า สตาร์บัคส์ให้ความสำคัญกับเรื่องสิทธิในเครื่องหมายการค้าและมีความจำเป็นที่ต้องดำเนินการตามความเหมาะสม หากมีผู้ใดละเมิดเครื่องหมายการค้าของเรา เพื่อปกป้องลูกค้าและความเสียหายที่อาจจะเกิดขึ้นกับชื่อเสียงและแบรนด์ของเรา รวมถึงลักษณะบ่งเฉพาะที่เป็นเอกลักษณ์ในเครื่องหมายการค้าของสตาร์บัคส์

** ล่าสุดเค้าเปลี่ยนมาเป็น สไตล์บัง