สวัสดีคะ เราแฝงตัวอยู่ในพันทิพย์มานานพอสมควร ตั้งกระทู้บ้าง ตอบบ้าง นิดๆ หน่อยๆ ส่วนใหญ่จะอ่านมากกว่า แต่มาวันนี้ไม่คิดเลยว่าจะต้องมาตั้งกระทู้ยาวๆ แบบนี้ (ออกตัวเลยคะ ว่ายาวพอสมควร) อย่างไรแล้ว รบกวนพี่ๆ น้องๆ ผู้มีประสบการณ์ให้คำแนะนำด้วยนะคะ
เราอายุ 25 ปี ส่วนสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม (เรียกว่า อวบระยะสุดท้ายกันเลยทีเดียว)
มีแฟน แต่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ (ออกแนวหัวโบราณนิดหน่อย)
ซึ่งประวัติอาการที่เกิดขึ้นกับเราก็คือ ตั้งแต่เด็กแล้วที่ทุกครั้งเวลามีประจำเดือนเราจะปวดท้องมาก หน้าซีด นอนซม คร่ำครวญ ฯลฯ คือปวดมาก แต่ไม่ถึงขั้นเป็นลมนะคะ และประจำเดือนมาไม่ปรกติ มาหนึ่งเดือนเว้นหนึ่งเดือนบ้าง หายไปสี่เดือนแล้วมาบ้าง เป็นแบบนี้จนโต ครั้งล่าสุดคือหลายเดือนก่อน เราเครียดกับงานและวุ่นวายเรื่อง Thesis มาก จำได้ว่าครั้งนั้นประจำเดือนมาสองครั้งในเดือนเดียว และมีเหตุการณ์ตามลำดับต่อไปนี้
- ประจำเดือนมาสองครั้งในเดือนเดียว
- เดือนถัดมา ไม่มีประจำเดือน แต่ปวดท้องมาก มากจนต้องไปหาหมอ บวกกับมีอาการปัสสาวะบ่อย (ครั้งละนิดเดียว) หมอสงสัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยามาทาน อาการปวดท้องบรรเทาลงไปบ้าง
- สามวันถัดมา มีอาการปวดมากขึ้น กลับไปหาหมออีกครั้ง หมอให้เจาะเลือดและเก็บปัสสาวะ เพื่อตรวจคัดกรองกระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกครั้งและตรวจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือไม่ แต่ปรากฎว่าปรกติ จากนั้นหมอคลำดูบริเวณท้องก็ไม่พบก้อนอะไร จึงฉีดยาแก้ปวดแล้วกลับบ้าน หลังฉีดยาอาการปวดท้องเราดีขึ้นและหายในที่สุด (คุณหมอน่ารักมากคะ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ คะ)
- เดือนถัดมา เรายังคงไม่มีประจำเดือน (หายไปสองเดือนแล้ว) เราเริ่มเบื่อตัวเอง เลยไปซื้อยามาทานเอง เป็นยาเร่งให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น (เลื่อนประจำเดือนนั่นเอง) พอทานยาครบ ประจำเดือนก็มา ซึ่งมีสีคล้ำมาก และเราปวดท้องมาก ฯลฯ
อาการอื่นๆ ที่พบก็คือ เราตกขาวบ่อยมากและเป็นเยอะ น้ำหนักขึ้นประมาณ 3 กิโลกรัม ท้องบวมๆ (หรือเป็นเพราะอ้วนขึ้น ฮ้าๆ) หงุดหงิดง่าย และเบื่ออาหาร ทั้งที่ปรกติมีความสุขกับการทานอาหารมาก
อัตราการเต้นของหัวใจค่อนข้างเร็ว ประมาณ 80 - 95 (ปรกติเราเต้นช้ากว่านี้)
ส่วนความดันประมาณ 60-95 (ซึ่งถือว่าปรกติของเรา)
อุณหภูมิร่างกายปรกติ
ขับถ่ายปรกติ
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ
ไม่แพ้ยาใดๆ
ทั้งนี้จากอาการที่เล่ามาดังกล่าว จึงใคร่ขอรบกวนถามพี่ๆ น้องๆ ว่า เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคอะไรไหมคะ ใครเคยมีประสบการณ์ประมาณนี้ไหม แล้วเป็นอย่างไรกันต่อบ้าง เราควรไปทำอัลตราซาวด์ช่องท้องไหม ไปหาหมอตรวจให้ละเอียดดีหรือเปล่า ฯลฯ ตอนนี้เรากังวลมากค่ะ กลัวเป็นซีส หรือเนื้องอกส่วนไหนในช่องท้องก็ตามแต่ แต่ถ้าหากเป็นแล้วเราก็อยากที่จะแก้ไขมันให้ทันท่วงที ไม่อยากรอให้เป็นมากขึ้น รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
.......................................................
ส่วนถัดมา เป็นส่วนนอกเรื่องอาการป่วย
แต่เป็นส่วนที่จะอธิบายว่า ทำไมเราถึงรู้สึกวิตกกังวล ท่านใดไม่สะดวก ไม่อ่านได้นะคะ
เราทำงานทางด้านการแพทย์ แต่ไม่เกี่ยวกับการักษานะคะ (เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถคัดกรองอาการป่วยของตัวเองได้จริงๆ) เพราะเราทำงานกับศพ เป็นงาน...ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวแทนศพว่า "เหตุตายของเค้า คืออะไร" ดังนั้นจึงข้องแวะกับชีวิตและความตายเยอะมาก
เราได้เห็นถึงการพลัดพราก สูญเสีย น้ำตา ฯลฯ ทุกๆ วัน เราเห็นถึงลูกที่มารับพ่อหรือแม่กลับบ้าน และเราเห็นพ่อและแม่ที่มารับลูกกลับบ้าน เช่นกัน (ครั้งหนึ่งเราน้ำตาไหล พ่อมารับลูกสาวกลับบ้าน เค้ากระซิบบอกลูกที่ข้างหูว่า "กลับบ้านกับอาป๊านะลูก กลับบ้านเรา")
เราเห็น เห็นทุกวัน จนรู้สึกว่า "กลัว" เรากลัวแทนที่จะชาชินหรือปลง (มีสิ่งเดียวที่เราปลงได้ก็คือ ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ซักอย่างเดียว คนรวยคนจน มีขั้นตอนในการชันสูตรเหมือนกัน เอาน้ำปะแป้งให้เหมือนกัน ใส่โลงขนาดเท่าๆ กัน รับศพที่เดียวกัน เรียกได้ว่า ณ จุดๆ นั้นไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย) ซึ่งกลัวในที่นี้ ไม่ใช่กลัวตัวเองเจ็บป่วย หรือตายนะคะ แต่กลัวว่าคนรอบข้างจะเสียใจ ฯลฯ ทั้งนี้เราเชื่อว่าเหตุตายบางอย่าง สามารถป้องกันได้ถ้าตรวจพบได้ทันท่วงที โรคบางอย่างถ้าไม่เป็นแบบเฉียบพลันแล้วนั้น ก็คงพอมีทางจะแก้ไขได้คะ
ปล1. เราไม่ใช่หมอ จึงรักษาตัวเองไม่ได้
ปล2. เราไม่ถามหมอที่ทำงานด้านนี้ด้วยกัน เพราะอาย (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอายทำไมเหมือนกันคะ)
รบกวนด้วยนะค่ะ
อาการแบบนี้ ไปพบแพทย์ดีไหมคะ? (กังวลมาก)
เราอายุ 25 ปี ส่วนสูง 160 เซนติเมตร น้ำหนัก 60 กิโลกรัม (เรียกว่า อวบระยะสุดท้ายกันเลยทีเดียว)
มีแฟน แต่ไม่เคยมีเพศสัมพันธ์ (ออกแนวหัวโบราณนิดหน่อย)
ซึ่งประวัติอาการที่เกิดขึ้นกับเราก็คือ ตั้งแต่เด็กแล้วที่ทุกครั้งเวลามีประจำเดือนเราจะปวดท้องมาก หน้าซีด นอนซม คร่ำครวญ ฯลฯ คือปวดมาก แต่ไม่ถึงขั้นเป็นลมนะคะ และประจำเดือนมาไม่ปรกติ มาหนึ่งเดือนเว้นหนึ่งเดือนบ้าง หายไปสี่เดือนแล้วมาบ้าง เป็นแบบนี้จนโต ครั้งล่าสุดคือหลายเดือนก่อน เราเครียดกับงานและวุ่นวายเรื่อง Thesis มาก จำได้ว่าครั้งนั้นประจำเดือนมาสองครั้งในเดือนเดียว และมีเหตุการณ์ตามลำดับต่อไปนี้
- ประจำเดือนมาสองครั้งในเดือนเดียว
- เดือนถัดมา ไม่มีประจำเดือน แต่ปวดท้องมาก มากจนต้องไปหาหมอ บวกกับมีอาการปัสสาวะบ่อย (ครั้งละนิดเดียว) หมอสงสัยว่าเป็นกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ให้ยามาทาน อาการปวดท้องบรรเทาลงไปบ้าง
- สามวันถัดมา มีอาการปวดมากขึ้น กลับไปหาหมออีกครั้ง หมอให้เจาะเลือดและเก็บปัสสาวะ เพื่อตรวจคัดกรองกระเพาะปัสสาวะอักเสบอีกครั้งและตรวจว่าเป็นไส้ติ่งอักเสบหรือไม่ แต่ปรากฎว่าปรกติ จากนั้นหมอคลำดูบริเวณท้องก็ไม่พบก้อนอะไร จึงฉีดยาแก้ปวดแล้วกลับบ้าน หลังฉีดยาอาการปวดท้องเราดีขึ้นและหายในที่สุด (คุณหมอน่ารักมากคะ ใส่ใจทุกรายละเอียดจริงๆ คะ)
- เดือนถัดมา เรายังคงไม่มีประจำเดือน (หายไปสองเดือนแล้ว) เราเริ่มเบื่อตัวเอง เลยไปซื้อยามาทานเอง เป็นยาเร่งให้ประจำเดือนมาเร็วขึ้น (เลื่อนประจำเดือนนั่นเอง) พอทานยาครบ ประจำเดือนก็มา ซึ่งมีสีคล้ำมาก และเราปวดท้องมาก ฯลฯ
อาการอื่นๆ ที่พบก็คือ เราตกขาวบ่อยมากและเป็นเยอะ น้ำหนักขึ้นประมาณ 3 กิโลกรัม ท้องบวมๆ (หรือเป็นเพราะอ้วนขึ้น ฮ้าๆ) หงุดหงิดง่าย และเบื่ออาหาร ทั้งที่ปรกติมีความสุขกับการทานอาหารมาก
อัตราการเต้นของหัวใจค่อนข้างเร็ว ประมาณ 80 - 95 (ปรกติเราเต้นช้ากว่านี้)
ส่วนความดันประมาณ 60-95 (ซึ่งถือว่าปรกติของเรา)
อุณหภูมิร่างกายปรกติ
ขับถ่ายปรกติ
เหล้าไม่กิน บุหรี่ไม่สูบ
ไม่แพ้ยาใดๆ
ทั้งนี้จากอาการที่เล่ามาดังกล่าว จึงใคร่ขอรบกวนถามพี่ๆ น้องๆ ว่า เรามีโอกาสที่จะเป็นโรคอะไรไหมคะ ใครเคยมีประสบการณ์ประมาณนี้ไหม แล้วเป็นอย่างไรกันต่อบ้าง เราควรไปทำอัลตราซาวด์ช่องท้องไหม ไปหาหมอตรวจให้ละเอียดดีหรือเปล่า ฯลฯ ตอนนี้เรากังวลมากค่ะ กลัวเป็นซีส หรือเนื้องอกส่วนไหนในช่องท้องก็ตามแต่ แต่ถ้าหากเป็นแล้วเราก็อยากที่จะแก้ไขมันให้ทันท่วงที ไม่อยากรอให้เป็นมากขึ้น รบกวนขอคำแนะนำด้วยนะคะ
.......................................................
ส่วนถัดมา เป็นส่วนนอกเรื่องอาการป่วย
แต่เป็นส่วนที่จะอธิบายว่า ทำไมเราถึงรู้สึกวิตกกังวล ท่านใดไม่สะดวก ไม่อ่านได้นะคะ
เราทำงานทางด้านการแพทย์ แต่ไม่เกี่ยวกับการักษานะคะ (เพราะฉะนั้น จึงไม่สามารถคัดกรองอาการป่วยของตัวเองได้จริงๆ) เพราะเราทำงานกับศพ เป็นงาน...ที่สามารถบอกเล่าเรื่องราวแทนศพว่า "เหตุตายของเค้า คืออะไร" ดังนั้นจึงข้องแวะกับชีวิตและความตายเยอะมาก
เราได้เห็นถึงการพลัดพราก สูญเสีย น้ำตา ฯลฯ ทุกๆ วัน เราเห็นถึงลูกที่มารับพ่อหรือแม่กลับบ้าน และเราเห็นพ่อและแม่ที่มารับลูกกลับบ้าน เช่นกัน (ครั้งหนึ่งเราน้ำตาไหล พ่อมารับลูกสาวกลับบ้าน เค้ากระซิบบอกลูกที่ข้างหูว่า "กลับบ้านกับอาป๊านะลูก กลับบ้านเรา")
เราเห็น เห็นทุกวัน จนรู้สึกว่า "กลัว" เรากลัวแทนที่จะชาชินหรือปลง (มีสิ่งเดียวที่เราปลงได้ก็คือ ตายแล้วเอาอะไรไปไม่ได้ซักอย่างเดียว คนรวยคนจน มีขั้นตอนในการชันสูตรเหมือนกัน เอาน้ำปะแป้งให้เหมือนกัน ใส่โลงขนาดเท่าๆ กัน รับศพที่เดียวกัน เรียกได้ว่า ณ จุดๆ นั้นไม่มีอะไรที่แตกต่างกันเลย) ซึ่งกลัวในที่นี้ ไม่ใช่กลัวตัวเองเจ็บป่วย หรือตายนะคะ แต่กลัวว่าคนรอบข้างจะเสียใจ ฯลฯ ทั้งนี้เราเชื่อว่าเหตุตายบางอย่าง สามารถป้องกันได้ถ้าตรวจพบได้ทันท่วงที โรคบางอย่างถ้าไม่เป็นแบบเฉียบพลันแล้วนั้น ก็คงพอมีทางจะแก้ไขได้คะ
ปล1. เราไม่ใช่หมอ จึงรักษาตัวเองไม่ได้
ปล2. เราไม่ถามหมอที่ทำงานด้านนี้ด้วยกัน เพราะอาย (ซึ่งก็ไม่รู้ว่าอายทำไมเหมือนกันคะ)
รบกวนด้วยนะค่ะ