นิทาน เปรียบเทียบได้ดี
ตอนนี้มีความเห็นต่างกันของผู้ชุมนุมในเรื่องการประท้วง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฝ่ายนึงบอกว่าเมื่อรัฐบาลถอยแล้วก็...ควรเลิกประท้วง เพื่อความสงบของชาติ
อีกฝ่ายก็บอกว่า...ควรยกระดับเพื่อขับไล่รัฐบาล... เพราะ บลา บลา บลา เหมือนหาเรื่อง ได้คืบเอาศอก ก็เลยอยากจะยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวในสังคมไทย เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...
เจ้าอาวาสวัดนึงพาสีกาสาวเข้ากุฏิในยามวิกาลตอนตีสี่...กำลังถอดจีวร...พร้อมจะดันให้สุดซอยอะไรประมาณนั้น ส่วนสาวเจ้าก็แต่งตัวอยู่ในชุดนอนบางเบาที่พร้อมจะซอยให้สุดดัน อิอิ แต่บังเอิญชาวบ้านแอบจับตาดูอยู่...ก็ชวนกันมาประท้วงไล่สีกาสาว พร้อมกับตะโกนว่า “เลวมาก เอาสีกาชั่วออกจากกุฏิพระเดี๋ยวนี้!”
เจ้าอาวาสตกใจ กลัวลนลานที่โดนจับได้คาหนังคาเขา เลยรีบไล่ (ถอน) ให้สีกาถอยออกจากกุฏิ กลับไปก่อน พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านที่มาประท้วงว่า
“โอเคร โอเคร กูไล่สีกาชั่วถอยออกจากกุฏิแล้ว นี่! กูยอมทำตามที่พวกเรียกร้องแล้วนะ ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็จะไม่พาสีกาเข้ากุฏิอีกแระ สัญญาอีกหกเดือนก็ไม่พาเข้ามา พูดจริ๊ง เลิกชุมนุมเถ๊อะ กลับบ้านเถ๊อะ ให้อภัยกันเพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของหมู่บ้านเรา นะ นะ”
แต่ชาวบ้านกลุ่มนึงก็ร้อง “อ้าว แค่เนี๊ยะ” แล้วตะโกนบอกว่า “เจ้าอาวาส ออกไป! ออกไป!”
เจ้าอาวาสก็ร้องออกมา...ทำหน้าตาเหมือนปูถูกรังแก “อุตะ อุตะ! กูว่าแล้ว พวกตั้งใจหาเรื่องกู ได้คืบเอาศอก สีกากูก็สั่งให้กลับไปแล้ว ยังมาไล่กูอีก พาลนี่หว่า...ฮือ ฮือ...ทำไม พวกจะมาไล่กูด้วยเหตุผลไร”
ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ เสียงสั่นเครือปนสะอื้นเล็กน้อย
“อ้าว! เว้ย! เฮ้ย! ก็เป็นพระทำอย่างงี้ได้ไง ต้องรู้ดิว่าทำอย่างนี้มันเลว ผิดศีล มันอาบัติ ต้องปาราชิก เพราะฉะนั้นเจ้าอาวาสต้องสึก อยู่ไปกูก็ไม่ไหว้ ไม่ทำบุญ” ชาวบ้านพยายามอธิบายให้ฟัง
แต่...เจ้าอาวาสทำปากจู๋ ชายตาแล้วพูดขึ้นว่า
“กูไม่รู้ กูไม่สึก ไม่ไหว้ก็ไม่ไหว้ แล้วอย่าน้า ขืนก้าวข้ามสะพานมาอีกก้าวเดียวจะเรียกตำรวจมาจับพวก โทษฐานทำให้กุฏิกูไม่มั่นคง!”
ชาวบ้าน ??!??!?!
เข้าใจยังครับ ทำไม...บางกลุ่มถึงมุ่งขับไล่รัฐบาล
นิรโทษกรรมก็ถอนออกไปแล้ว แล้วทำมัยไม่ยอมกลับบ้านกัน ?
ตอนนี้มีความเห็นต่างกันของผู้ชุมนุมในเรื่องการประท้วง พ.ร.บ.นิรโทษกรรม ฝ่ายนึงบอกว่าเมื่อรัฐบาลถอยแล้วก็...ควรเลิกประท้วง เพื่อความสงบของชาติ
อีกฝ่ายก็บอกว่า...ควรยกระดับเพื่อขับไล่รัฐบาล... เพราะ บลา บลา บลา เหมือนหาเรื่อง ได้คืบเอาศอก ก็เลยอยากจะยกตัวอย่างเรื่องง่ายๆ ใกล้ๆ ตัวในสังคมไทย เรื่องมันก็มีอยู่ว่า...
เจ้าอาวาสวัดนึงพาสีกาสาวเข้ากุฏิในยามวิกาลตอนตีสี่...กำลังถอดจีวร...พร้อมจะดันให้สุดซอยอะไรประมาณนั้น ส่วนสาวเจ้าก็แต่งตัวอยู่ในชุดนอนบางเบาที่พร้อมจะซอยให้สุดดัน อิอิ แต่บังเอิญชาวบ้านแอบจับตาดูอยู่...ก็ชวนกันมาประท้วงไล่สีกาสาว พร้อมกับตะโกนว่า “เลวมาก เอาสีกาชั่วออกจากกุฏิพระเดี๋ยวนี้!”
เจ้าอาวาสตกใจ กลัวลนลานที่โดนจับได้คาหนังคาเขา เลยรีบไล่ (ถอน) ให้สีกาถอยออกจากกุฏิ กลับไปก่อน พร้อมกับตะโกนบอกชาวบ้านที่มาประท้วงว่า
“โอเคร โอเคร กูไล่สีกาชั่วถอยออกจากกุฏิแล้ว นี่! กูยอมทำตามที่พวกเรียกร้องแล้วนะ ถ้าเห็นว่าไม่ดีก็จะไม่พาสีกาเข้ากุฏิอีกแระ สัญญาอีกหกเดือนก็ไม่พาเข้ามา พูดจริ๊ง เลิกชุมนุมเถ๊อะ กลับบ้านเถ๊อะ ให้อภัยกันเพื่อเห็นแก่ความสงบสุขของหมู่บ้านเรา นะ นะ”
แต่ชาวบ้านกลุ่มนึงก็ร้อง “อ้าว แค่เนี๊ยะ” แล้วตะโกนบอกว่า “เจ้าอาวาส ออกไป! ออกไป!”
เจ้าอาวาสก็ร้องออกมา...ทำหน้าตาเหมือนปูถูกรังแก “อุตะ อุตะ! กูว่าแล้ว พวกตั้งใจหาเรื่องกู ได้คืบเอาศอก สีกากูก็สั่งให้กลับไปแล้ว ยังมาไล่กูอีก พาลนี่หว่า...ฮือ ฮือ...ทำไม พวกจะมาไล่กูด้วยเหตุผลไร”
ทำหน้างงๆ ไม่เข้าใจ เสียงสั่นเครือปนสะอื้นเล็กน้อย
“อ้าว! เว้ย! เฮ้ย! ก็เป็นพระทำอย่างงี้ได้ไง ต้องรู้ดิว่าทำอย่างนี้มันเลว ผิดศีล มันอาบัติ ต้องปาราชิก เพราะฉะนั้นเจ้าอาวาสต้องสึก อยู่ไปกูก็ไม่ไหว้ ไม่ทำบุญ” ชาวบ้านพยายามอธิบายให้ฟัง
แต่...เจ้าอาวาสทำปากจู๋ ชายตาแล้วพูดขึ้นว่า
“กูไม่รู้ กูไม่สึก ไม่ไหว้ก็ไม่ไหว้ แล้วอย่าน้า ขืนก้าวข้ามสะพานมาอีกก้าวเดียวจะเรียกตำรวจมาจับพวก โทษฐานทำให้กุฏิกูไม่มั่นคง!”
ชาวบ้าน ??!??!?!
เข้าใจยังครับ ทำไม...บางกลุ่มถึงมุ่งขับไล่รัฐบาล