งานการมันหนักนัก ก็พากันไปออกทริปทรมานกันเสียเลย "วันที่ 1 ดอยอ่างขาง"

ทำงานมา 10 เดือนไม่เคยลาป่วยลาหยุด เมื่อการงานมันเหนื่อยถึงขีดสุด ผมเลยต้องขอลาหยุดไปชาร์ทแบตมัน 5 วัน
แต่เนื่องด้วยรายได้ไม่เท่ากับที่อยากจะไปกัน เลยตกลงกันว่า ไปแถวจังหวัดบ้านเรานั่นหล่ะ พอดีแล้ว

ชื่อทริปทรมานที่คิดไว้เพราะที่แพลนจะไปคือ ดอยอ่างขาง จ.เชียงใหม่ - ดอยแม่สลอง จ.เชียงราย - ดอยภูคา จ.น่าน
แล้วเดินทางกลับเชียงใหม่ด้วยการแวะเที่ยวตามวัดใน จ.น่าน, จ.แพร่, จ.ลำปาง โดยเริ่มตั้งแต่ 12-16 พฤศจิกายนนี้

กระทู้ ดอยแม่สลอง http://ppantip.com/topic/31248792
กระทู้ ดอยภูคา http://ppantip.com/topic/31250559

ลองมาดูกันว่ามันจะไหวม๊ายยยยย



เริ่มกันวันแรกเลยครับ
เดินทางออกจากบ้านแถวราชพฤกษ์ เชียงใหม่ คือกะกันไว้ 0700 น. แต่ก็คิดกันว่าท่าจะยากแต่ก็เตรียมกันไว้ก่อน
อันเนื่องด้วยสมาชิกที่มีปัญหาที่สุดคือ พระบุตร ผู้มีอายุอานามได้สามขวบกว่า คือไม่รู้ว่าพี่แกจะลีลาอะไรบ้าง
แต่ก็ทำได้ดีออกบ้านได้ในเวลา 0730 น. ก็ยังดี เดี๋ยวไปทำเวลาเอาแถว ๆ ทางตรงละกัน

มาสู้ ๆ


พอออกบ้านมาต้องเริ่มด้วยอาหารมื้อสำคัญของวันนั่นคือมื้อเช้า
เลือกกินแถวบ้านละกัน "ร้านจิงจูไฉ่" ร้านต้มเลือดหมูรสชาติอร่อยไปเลย
นอกจากนี้ยังมีโจ๊ก และกระเพาะปลาให้เลือกทานกันได้ตามอุรา
ร้านนี้อยู่วงแหวนรอบกลางไม่ไกลจากตลาดแม่เหียะ
เอาง่าย ๆ คือ อยู่ตรงข้ามกับโครงการ Land and House ราชพฤกษ์
ยิ่งช่วงหน้าหนาวนักท่องเที่ยวก็จะมาแวะกินกันก่อนขึ้นไปเที่ยวดอยอินทนนท์กัน
เป็นอีกทางเลือกหนึ่งนอกจากร้านต้มเลือดหมูชื่อดังอย่าง ต้มเลือดหมูตลาดต้นพยอมครับ



อิ่มท้องกันแล้วเริ่มออกเดินทาง ตอนแรกว่าจะออกวงแหวนเพื่อหนึรถติดตรงตลาดต้นพยอม
แต่เนื่องจากมันอ้อมนิดหน่อยเลยเลือกที่จะเลาะไปตามถนนเลียบคลองชลประทานไป
น่ายินดีนัก รถไม่ติดเลย เลยถือโอกาสแวะโหลดกาแฟเข้ากระแสเลือดเพื่อความตื่นตัวของพลขับ
จากนั้นเดินทางต่อไปโดยเลือกทางหลวงหมายเลข 107 มุ่งหน้าสู่ อ.แม่ริม - อ.แม่แตง - อ.เชียงดาว
มาถึงแม่แตงประมาณ 1000 น. กาแฟและน้ำตอนเช้าเริ่มปริ่มท้อง คงจิต้องแวะทำกิจกรรมนัมเบอร์ 1 กันก่อน
อ่ะ เลี้ยงซ้ายเข้า อ.เชียงดาว ขับไปไม่เกิน 1 กม. มีปั๊มน้ำมันบางจาก และ ปตท.ให้เลือกตามอัธยาศัย

ปตท. มีทั้งร้านสะดวกซื้อ และร้านกาแฟแอมะซอนให้ได้นั่งพักกันก่อนเดินทางต่อ
ที่ อ.เชียงดาวก็มีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งเช่น ถ้ำเชียงดาว (ไปง่าย ยิ่งใหญ่ สวยงาม)
และดอยหลวงเชียงดาว ที่ผมตัดสินใจถูกแล้วที่ไปมาตั้งแต่สมัยเป็นหนุ่มน้อย
เพราะจะต้องมีไกด์แล้วยังจะต้องไปนอนค้างถึงสองคืนด้วยกันถึงจะฟินนนนน
(เหนื่อยแบบครั้งเดียวจอด แต่รับรองคุ้มยิ่งกว่าคุ้มครับ)

แวะแชะกับทุ่งนาและดอยหลวงเชียงดาวสักนิดพอเป็นพิธี
วันนี้บนยอดดอยมีเมฆมาคลุม เราก็มโนเอาว่าเรามาฟูจิยามาละกันครับ เอิ๊ก ๆ



ม่ะ เดินทางต่อกันยาว ๆ ต่อไป อ.ฝางกันเลย เหลืออีก 80 กิโลนิด ๆ จะถึงดอยอ่างขางแล้ว
หลังจากขับรถมาสักพักก็จะเจอสี่แยกที่จะไป อ.พร้าว อ.เวียงแหง และ อ.ไชยปราการ
ตามประสบการณ์แล้วผมขอเลือกทางที่เป็นทางสัญจรหลักเผื่อรถเสียหรือมีอะไรเกิดขึ้น
ผมเลือกทาง 107 ต่อไป อ.ไชยปราการ ครับ แต่ใครอยากลองเลี้ยวซ้ายไปทาง อ.เวียงแหงดูก็ได้ครับแต่ผมไม่รู้ว่าทางเป็นอย่างไร
แต่สุดท้ายแล้วก็จะไปบรรจบกันบนดอยอ่างขางอยู่ดีครับ

ทางขึ้นดอยอ่างขางอยู่เลย อ.ไชยปราการ ไปนิดหน่อย มีป้ายบอกชัดเจนไม่ต้องกลัวเลยครับ
ทางขึ้นระยะทาง 25 กิโลเมตร ซึ่งคนธรรมดาอย่างพวกเราขับได้ครับ อาศัยใจกล้า
สมัยก่อนวีออสก็เคยเอาไปพิชิตมาแล้ว ตอนนี้รถเครื่องใหญ่ขึ้นก็สบายใจขึ้น
ทางไม่โหดมากนักช่วงครึ่งแรก แต่ช่วง 10 กิโลเมตรหลังนี่หล่ะครับต้องใช้ใจบวกกับสมาธิ
เนื่องจากจะมีโค้งหักศอกทำมุม 45 องศาไปเรื่อย ๆ ค่อย ๆ ขับไปครับ ไม่ต้องไปตีรอบสูงจนเครื่องร้อน
ถ้าดูรถมันเหมือนจะแตกก็หยุดพักสักหน่อย (แต่ถ้าช่วงวันหยุดหรือฤดูกาลท่องเที่ยวที่คนเยอะ ๆ ไม่แนะนำให้พักครับ เสียขบวนแน่)

วันนี้วันธรรมดาคนน้อยมากครับ เหมือนเป็นเจ้าของภูเขา ขับมาคันเดียวครับ
ชมบรรยากาศเป็นรูปปลากรอบครับ สวยบ้างไม่สวยบ้าง พอเป็นน้ำจิ้มครับ





ทางคดเคี้ยวดีไหมครับ อมยิ้ม20


เอาหล่ะครับ ขับมาเรื่อย ๆ อยู่ดี ๆ สิ่งนี้ก็มาตัดหน้ารถ ป๊าดดดด ลูกชายชอบมากครับ


ในที่สุด... 1130 น. ก็ถึงตรงโครงการหลวงอ่างขาง แต่ก่อนอื่นขอเข้าที่พักก่อนวันนี้พักที่นี่ครับ...


โรงแรม Angkhang อยู่ในเครืออมารี ถือว่าเป็นโรงแรมที่ถือว่าดีมากบนดอยอ่างขางนี้
ที่นี่คงเป็นโรงแรมแห่งเดียวในประเทศไทยที่ไม่มีแอร์คอนแน่ ๆ เพราะอุณหภูมิเฉลี่ยวทั้งปีก็เท่า ๆ กับที่เราเปิดแอร์ทุกวันนี้ครับ
และสิ่งที่ผมตราตรึงที่สุดในโรงแรมนี้ก็คือ พื้นกระเบื้องห้องน้ำที่เหยียบแล้วสะดุ้งสุดตัวเพราะมันเย็นมว๊ากกกก
บรรยากาศโดยรอบ...




วันนี้บนยอดดอยมีฝนครับ อุณหภูมิช่วงกลางวัน 23 องศาเซลเซียส
แอบเห็นป้ายบอกอุณหภูมิในโรงแรมว่าต่ำสุดเมื่อวาน 10  องศาเซลเซียส อมยิ้ม34 คิดว่าน่าจะผ่านไปได้ด้วยดีครับ

เอาหล่ะเก็บข้าวเก็บของแล้วเดินทางต่อเลยดีกว่า ขับรถออกโรงแรมมาอีก 10 เมตร ถึงทางเข้าโครงการหลวงอ่างขาง
ณ เวลานี้ขอไปกินข้างที่สโมสรอ่างขางก่อนนะครับ หิวขนาดดด ส่วนในโครงการจะเป็นยังไงเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีครับ

สโมสรอ่างขางเป็นที่พักด้วยครับ ลองติดต่อมาทางโครงการหลวงดูครับ ที่สโมสรนี้มีร้านอาหารซึ่งส่วนใหญ๋จะเน้นพวกผัก
ต้องบอกว่าผัก เห็ดต่าง ๆ ของที่นี่พูดเลยว่าสดกรอบมาก และรสชาติอาหารก็อร่อยเลยทีเดียว
มาที่นี่ต้องมาสั่ง ขาหมูหมั่นโถว เห็ดหอมทอดซึอิ๊ว อร่อยจริง ๆ ครับ


ด้านในมีเตาผิงไว้ผิงล้อมวงพูดคุยกันด้วย บรรยากาศอบอุ่นดีครับ

หม่ะ สั่งกันสักหน่อย...



อิ่มกันแล้วเดินออกไปส่งโปสการ์ดกันซักหน่อย บรรยากาศรอบ ๆ ครับ



รอบ ๆ สโมสรนี้เป็นสวนกุหลาบครับ ขณะนี้ก็กำลังออกดอกกัน
ส่วนตรงข้ามเป็นสวน 80 ปี ดอกไม้เมืองหนาวเริ่มออกดอกบานกันใหญ่ละครับ
แต่โดยรวมช่วงนี้ดอกไม้ ต้นไม้ในโครงการยังไม่แตกดอกออกใบกันให้ตื่นเต้นเท่าไหร่
สำหรับผมมาหลายรอบแล้ว รอบนี้มาพักหนาว แค่ได้มาพักหนาวก็ตื่นเต้นแล้วครับ





ขับรถต่อไปอีกนิด เจอสวนพีช มาตอนที่มันดอกบานหล่ะก็แหม่....แต่ตอนนี้เอาบรรยากาศแบบจูราสสิคพาร์คไปก่อน



วนรถในนี้จวนจะหมดละครับ ขอไปดูหมู่บ้านนอแลหน่อยดีกว่า
ข้อมูลคร่าว ๆ ดังนี้ครับ

"หมู่บ้านนอแลเป็นหมู่บ้านที่ชายแดนพม่า ซึ่งถ้ามองไปฝั่งพม่า จะเห็นฐานพม่าตั้ง ที่ตั้งห่างออกไปประมาณ 1 กม.ได้อย่างชัดเจน
โดยตั้งอยู่บนดอยที่มีความสูงกว่าฐานทัพไทย โดยมีกองทหารไทยประจำการอยู่ 1 กองร้อย แต่ปัจจุบันไม่มีการสู้รบกันแล้ว
จึงทำให้หมู่บ้านนอแลเป็นที่สนใจ และต้องการเดินทางไปเที่ยวชมหมู่บ้านนอแล โดยจะมีไกด์ตัวน้อยที่เป็นกะเหรี่ยงปะหล่อง บริการอยู่ด้านหน้าหมู่บ้านนอแล"
Cr. http://www.annaontour.com/province/chaengmai/bannola.php

เวลาขับรถมาที่นี่ช่วงที่เข้ามาในหมู่บ้านนี้ให้ขับรถแบบไม่ต้องเหยียบคันเร่งเลยนะครับ
เนื่องจากมีเด็กเยอะมากถึงมากที่สุด จนคิดว่าที่นี่มีแต่ประชากรเด็กเท่านั้น(คนบ้านนี้ลูกดกสุด ๆ)
ใจนึงก็อยากจะลงไปถ่ายใบหน้าเปื้อนยิ้มของเด็ก ๆ ด้วย แต่แบบ มุมกล้องมันซ้ำครับ ฮ่า ๆ ๆ (ที่จริงแล้วไม่กล้า บอกเลย)

ระหว่างทางไปครับ



นั่นฝั่งพม่าครับ


หมดละครับ ขับรถกลับถึงห้องพักเวลา 1700 น. สิริรวมเวลาท่องเที่ยวบนดอยอ่างขาง 6 ชั่วโมงครับ
เที่ยวบนดอยอ่างขาง 1 วัน 1 คืนก็เพียงพอละครับ เอาเป็นว่าพรุ่งนี้เช้าจะพยายามไปดูทะเลหมอกให้ได้ครับ

วันนี้จบทริปดอยอ่างขางไว้เท่านี้ครับ แม้ดอกไม้ต้นไม้จะไม่สวยเหมือนที่มาครั้งก่อน ๆ
แต่วันนี้ได้หยุดงาน ชาร์ทแบต สานสัมพันธ์ครอบครัว ผมว่ามันมีค่ามากกว่าการได้เห็นสถานที่สวย ๆ เสียอีกครับ
ใครเครียด ๆ จากเรื่องงาน เรื่องคนอื่น ลองปล่อยวางปิดสวิช แล้วหนึไปเติมพลังชีวิตดูนะครับ
ไม่ใช่แค่คุณจะรู้สึกดี ครอบครัวของคุณเองก็อบอุ่นมีความสุขไปด้วย

พรุ่งนี้ถ้าสามารถฝ่าฟันความหนาว และเตียงอุ่นออกมาได้ ผมจะไปดูทะเลหมอกให้ได้ครับ แล้วก็จะเดินทางต่อไปดอยแม่สลอง
ยังไงพรุ่งนี้ ถ้าพลังงานพอจะมารีวิวดอยแม่สลองอีกนะครับ

ขอบคุณที่อ่านจนจบครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่