ลุ๊คแบบนี้...
แอคติ้งแบบนี้...
แนวทางการแสดงแบบนี้...
เคยเป็นกันหรือเปล่าที่เราดูการแสดงของคนหนึ่ง แล้วภาพอิมเมจของนักแสดงอีกคนหนึ่งที่เรามองเห็นคล้ายๆเค้าลางๆและทำให้นึกถึง แนวทางการแสดง(Pattern) หรือเงาของนักแสดงอีกคนผุดขึ้นมาในหัว...อาจจะเป็นเพียงการอนุมานเทียบเคียงเท่านั้นแต่ยังไม่ถึงขั้นเทียบเท่า เมื่อเทียบกับนักแสดงยอดฝีมือที่เป็นต้นแบบหรือที่เรายังคงประทับตราตรึงใจมาช้านาน
คนแรกที่อยากจะเอ่ยถึงคือ น้องพอร์ช ศรัณย์ ซึ่งป้าก็ติดตามผลงานของน้องมาตลอดตั้งแต่ ลูกโขน จนล่าสุดถึง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ป้ามาเริ่มสังเกตเห็นเค้าลางในแนวทางการแสดงของน้องที่พอจะเทียบเคียงนักแสดงยอดฝีมือระดับเอเชียอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ก็ตอนที่น้องพอร์ชเล่นในบทของ อาหยก จาก หยกเลือดมังกร ตอนนั้นภาพและเงาของเหลียงเฉาเหว่ยมันปรากฏขึ้นมาลางๆท่ามกลางแอคติ้งของน้องจากละครเรื่องนั้น ตอนนั้นป้าอาจจะคิดไปว่าด้วยเนื้อเรื่อง เค้าโครงเรื่องและบทของ หยกเลือดมังกร ที่มันพอดีมาคล้ายกับ Internal Affair
จนมาถึงล่าสุด สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย มันทำให้ป้าต้องย้อนกลับมาดูหนังเก่าๆของเหลียงเฉาเหว่ย ป้าถึงได้รับคำตอบด้วยตัวเองว่าทำไมป้าถึงคิดเช่นนั้น ภาพของนักแสดงยอดฝีมือ และแนวทางการแสดงและแอคติ้งต่างๆของพอร์ช ดูมีส่วนคล้ายและดำเนินรอยตามเฮียเหลียง
หลายคนเคยบอกว่า เหลียงเฉาเหว่ย แจ้งเกิดเต็มตัวจากบท อุ้ยเสี่ยวป้อ ซึ่งในช่วงแรกๆที่เขายังเล่นละครทีวีให้ TVB นั้นมีแต่คนวิจารณ์ เหลียงเฉาเหว่ย ไม่สามารถสลัดภาพของ อุ้ยเสี่ยวป้อ ออกได้เลย แม้จะรับบทบาทมาหลากหลาย
จนกระทั่งมาถึงหนังใหญ่เรื่อง ทะลักจุดแตก (Hard boiled) ผลงานการสร้างของจอห์น วู ที่จับเอา โจวเหวินฟะ มาประชันกับ เหลียงเฉาเหว่ย และการร่วมงานกับจอห์น วู ในครั้งนั้นนี่เองที่ทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย ลบคำสบประมาทได้ เขาก้าวข้ามและหลุดพ้นจากภาพลักษณ์ของ อุ้ยเสี่ยวป้อ ที่เกาะติดเขามาหลายปี ผลงานชิ้นนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเขา และทำให้เขาคว้ารางวัลจากเวทีทั่วทั้งเอเชียมาหลายเวที...ถือได้ว่า เหลียงเฉาเหว่ย เขาผ่านมาหมดทุกบทบาท ทั้งตลก บู๊ ดราม่า เขาทำได้ดีในทุกบทบาท...พอลองย้อนมาดูแนวทางการแสดงและแอคติ้งของน้องพอร์ช อือ! มีส่วนเทียบเคียงได้ ถึงแม้อาจจะไม่เทียบเท่าในตอนนี้ แต่ป้าก็มองเห็นแววของเด็กคนนี้ว่า เขายังมีพลังและศักยภาพพัฒนาให้ก้าวข้ามอะไรต่ออะไรได้อีกเยอะ
คนที่ 2 ที่ป้ามองเห็น เงา หรือ Pattern แนวทางการแสดงเทียบเคียงกันนักแสดงระดับเอเชียที่ป้าประทับใจ คือ น้องมิน...ตอนแรกก็ไม่ค่อยได้สนใจหรือจับประเด็นตรงนี้เท่าไร จนมาถึงผลงานเรื่อง "ปางสเน่หา" ที่น้องมิน เล่นบท เสียงหวาน หญิงสาวที่มีความน่ารัก น่าสงสาร น่าทนุถนอม ซึ่งตอนนั้นป้าก็คุ้นๆกับบทแนวนี้ แอคติ้งแนวนี้ แต่ตอนนั้นมันเหมือนติดอยู่ริมฝีปาก ยังนึกภาพอะไรไม่ชัดเจนนัก จนภาพลางๆเริ่มมาชัดเจนขึ้นในบท กิ่งเหมย จาก หยกเลือดมังกร ช่วงที่เธอจะต้องรู้ตัวว่าตาบอด และช่วงที่เธอต้องเล่นบทดราม่ารับส่งอารมณ์กับอาดวงดาว ภาพของ หยวนหย่งอวี้ หนึ่งในอดีตราชินีจอเงินของฮ่องกง ผุดขึ้นมาในหัวของป้าอย่างชัดเจน
หยวนหย่งอวี้ แจ้งเกิดจากบทสาวน้อยผู้น่าสงสาร จากเรื่อง ปู้เหลี่ยวฉิง-รักนี้ชั่วดินฟ้า บทของสาวน้อยผู้สดใส น่ารัก แต่ก็น่าสงสารภายหลังจากที่เธอรู้ตัวว่าเธอป่วยเป้นมะเร็ง และต้องต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยขวัญกำลังใจที่ดีจากคนที่เธอรักและคนรอบข้าง ทำให้เธอต่อสู้กับโรคร้ายด้วยความยินดีตราบแม้ลมหายใจสุดท้ายของเธอ บทนี้สุดยอดมากขนาดเธอไล่กวาดรางวัลมาทั่วเอเชีย ที่สำคัญมันทำให้ป้าเสียน้ำตาเป็นปี๊บๆเลย...อารมณ์ของน้องมิน จากบท กิ่งเหมย ในตอนนั้นมันใช่เลย เป๊ะเลยภาพของ Anita Yuen ลอยเด้งออกมาเลยค่ะ
ยิ่งมาตอกย้ำอีกก็ตอนที่น้องมินมาเล่นบทคอมมิดี้ จากบท นังห่านนี่ ซึ่งเธอก็เอาอยู่อีก พอมานั่งดูเธอในบทตลกรั่วๆแบบนี้แล้ว ภาพของหยวนหย่งอวี้ ในบทตลกๆรั่วๆอย่างเช่น เขาหญิง-เธอชาย (He's a woman She's a man) ที่หยวนหย่งอวี้ก็คว้ารางวัลทางการแสดงเป้นว่าเล่นอีกเช่นเดิม หรือแม้แต่บทตลกๆรั่วๆอย่างเรื่อง อร่อยตัดอร่อย หรือ 007คังคังฉิก...เหล่านี้มันก็ทำให้ภาพของ Anita Yuen เกิดขึ้นมาซ้อนทับเทียงเคียงกับน้องมิน อยู่ในหัวของป้าบ่อยๆ
นักแสดงคนที่ 3 ที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นในหัวของป้าอีก ก็คือน้องใหม่ ดาวิกา ซึ่งลุ๊คและอิมเมจของน้องใหม่ จะออกมาในแนวสวยเป๊ะ ครบเครื่อง เซกซี่ดุจนางพญา ซึ่งนักแสดงที่ป้ามองเห็นเป็นเงาในตัวเธอก็คือ อดีตนางเอกยอดนิยมสุดเซกซี่ จงฉู่หง (Cherie Chung)...มารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่น้องใหม่ และ จงฉู่หง มีความงามสง่าดุจพญาหงส์คล้ายๆกัน ก็ตอนที่เห็นน้องใหม่จากเรื่อง ตะวันทอแสง เห็นแล้วมันอดทำให้ป้าต้องมานั่งย้อนดูหนังเก่าๆของ จงฉู่หง อย่างเช่นเรื่อง ดอกไม้กับนายกระจอก , ตีแสกตะวัน , น้ำฝน น้ำค้าง น้ำร้อน และหนังตระกูลโหดๆหลายๆเรื่องที่เธอมักจะเล่นประกบโจวเหวินฟะ เป็นต้น
คือใหม่ ดาวิกา เธอจะมีอะไรบางอย่างที่พอจะมองเห็นเงาของจงฉู่หงให้ผุดขึ้นมาได้ในหัวคือ...เธอสวยได้โดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มาก แหมกระทั่งในบทเด็กสาวกะโปโล หรือสาวชาวบ้านธรรมดาๆ เธอไม่จำเป็นต้องเล่นหูเล่นตา เล่นแอคติ้งอะไรให้มากมายสิ้นเปลืองพลังมาก ไม่ต้องสิ้นเปลืองเสื้อผ้าราคาแพงหรือให้ดูหรูหราเกินไป แค่แบบธรรมดาๆไม่ต้องจัดเต็ม ไม่ต้องแต่งหน้าให้ดูสวยจัดเหมือนนักแสดงหลายๆคน แต่ความงามสง่าดุจนางพญาหงส์มันก็ปรากฏออกมาจากอินเนอร์ได้เหมือน จงฉู่หง แล้วค่ะ...ตอนนี้ก็ได้แต่รอดูบทตลกๆคอมมิดี้ๆรั่วๆ จาก กุหลาบร้ายของนายตะวัน ซึ่งป้าคาดว่าภาพบทตลกๆรั่วๆของ จงฉู่หง จาก เผ็ดสวยดุ ณ เปไก๋ ก็น่าจะผุดขึ้นมาให้เทียบเคียงกับแนวทางการแสดงของน้องใหม่ ได้เช่นกัน
นักแสดงคนที่ 4 ที่พึ่งจบไปหมาดๆกับละครเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ก็คือน้องโบว์ ธัญญสุภางค์ ป้ามองเห็นแต่แรกๆแล้วว่า รูปร่างหน้าตาน้องมาแนวเดียวและมีส่วนคล้าย ม่อเหวินเหว่ย (Caren Mok) เพียงแต่ความสง่า เสน่ห์และความมั่น น้องโบอาจจะยังไม่เทียบเท่าคาเรน แต่ของแบบนี้สามารถปรุงแต่งและพัฒนาขึ้นมาได้ ซึ่งช่วงหลังๆของละครเรื่องนี้ออนแอร์ เหมือนน้องโบว์ จับทางได้ถูกต้องมากขึ้นทั้งจังหวะ ทั้งแอคติ้ง มันจึงมันให้เสน่ห์ทางการแสดงของเธอมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รอเพียงให้เธอเสริมเสน่ห์และความมั่นๆให้ได้สักครึ่งของคาเรน ป้าเชื่อว่าน้องโบว์ เธอจะยืนหยัดในวงการได้อีกนาน
ยิ่งช่วงกลางๆของละครที่คุณหนูแพรวา ต้องลุกขึ้นมายืนหยัดเอาการเอางาน ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความกลัวต่างๆในช่วงนั้น ภาพของแอคติ้งและทางการแสดงที่น้องแสดงออกมาในตอนนั้น มันทำให้ป้านึกถึงหนังตลกของ โจวซิงฉือ เรื่อง จุ๊ยขี้จุ๊ ขึ้นมาในทันทีเลยค่ะ...มันเป็นภาพของคาเรน ม๊อก ต้องลุกขึ้นมายืนหยัดว่าความคดีต่อหน้าคณะตุลาการศาล แทนสามีของเธอ (โจวซิงฉือ)...ลุ๊คนั้นอารมณ์นั้นมันคล้ายกันมาก จากผู้หญิงที่วันๆไม่คิดเรื่องอะไรมาก ตลกโปกฮาไปวันๆ แต่พอเธอเปลี่ยนโหมดมาเป็นจริงจังเอาการเอางาน ดราม่าเข้มข้น ถาพนั้นมันผุดขึ้นมาเทียบเคียงกับบทของคุณหนูแพรวา ที่ถ่ายทอดโดยน้องโบว์ได้เลยค่ะ...ป้าขอชื่นชมในพัฒนาการของเธอนะคะ
นักแสดงคนที่ 5 ที่ป้านึกออกมานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอรับบท อสูรน้อยดารกา...น้องทับทิม อัญรินทร์ เธอทำให้ป้าอึ้ง ทึ่งในอินเนอร์ทางการแสดงของเธอ ที่มันดูจัดเต็มมาก ประมาณว่าเขาจ้าง 10 แต่เธอปล่อยของออกมาเป็น 100 ... ยิ่งมาเจอเธอเล่นในบทตลกๆรั่วๆอย่าง คุณชายตำระเบิด และ สวนอาหารบานใจ หรือบทหวานๆเรียบๆ อย่างเช่นเรื่อง เหนือมนุษย์ หรือนางร้ายอย่าง อาญารัก เธอเอาอยู่หมดจัดเต็มทั้งหมด...มันอดนึกถึงนักแสดงที่จัดเต็มแบบนี้คือ ลูกเป็ดขี้เหร่-เจิ้งอวี้หลิง ที่ถือว่าเป็นนักแสดงยอดฝีมือระดับเอเชียอีกคน
บทของดารกา ที่น้องทับทิมเธอปล่อยพลังแห่งความดุร้าย น่ายำเกรง ได้อย่างน่าทึ่ง ในตอนนั้นที่ป้าดูและสังเกตการแสดงของเธอ มันทำให้ป้าผุดนึกถึงการแสดงของเจิ้งอวี้หลิง จากบทอีซ่าเหลียนจากเรื่อง ขังโหดขาอ่อน (Woman prison) ขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว...แววตาแห่งความดุร้าย อาฆาต ประหัตประหาร เอาจริงเอาจัง ของนักแสดงทั้งสองมันเทียบเคียงกันได้ พอมาถึงบทดราม่าหนักๆเจ้าน้ำตา หรือบทตลกๆรั่วๆ เออ!นักแสดงรุ่นใหม่อย่างน้องทับทิมก็ดูทรงพลังเทียบเคียงได้ถึงกึ่งหนึ่งของเจิ้งอวี้หลิง ได้เลยนะนั่น
พอร์ช-มิน-ใหม่-โบว์-ทับทิม...กับ "เงาหรือแนวทางการแสดง" ที่เทียบเคียง 5 นักแสดงชั้นนำของเอเชีย
แอคติ้งแบบนี้...
แนวทางการแสดงแบบนี้...
เคยเป็นกันหรือเปล่าที่เราดูการแสดงของคนหนึ่ง แล้วภาพอิมเมจของนักแสดงอีกคนหนึ่งที่เรามองเห็นคล้ายๆเค้าลางๆและทำให้นึกถึง แนวทางการแสดง(Pattern) หรือเงาของนักแสดงอีกคนผุดขึ้นมาในหัว...อาจจะเป็นเพียงการอนุมานเทียบเคียงเท่านั้นแต่ยังไม่ถึงขั้นเทียบเท่า เมื่อเทียบกับนักแสดงยอดฝีมือที่เป็นต้นแบบหรือที่เรายังคงประทับตราตรึงใจมาช้านาน
คนแรกที่อยากจะเอ่ยถึงคือ น้องพอร์ช ศรัณย์ ซึ่งป้าก็ติดตามผลงานของน้องมาตลอดตั้งแต่ ลูกโขน จนล่าสุดถึง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ป้ามาเริ่มสังเกตเห็นเค้าลางในแนวทางการแสดงของน้องที่พอจะเทียบเคียงนักแสดงยอดฝีมือระดับเอเชียอย่าง เหลียงเฉาเหว่ย (Tony Leung) ก็ตอนที่น้องพอร์ชเล่นในบทของ อาหยก จาก หยกเลือดมังกร ตอนนั้นภาพและเงาของเหลียงเฉาเหว่ยมันปรากฏขึ้นมาลางๆท่ามกลางแอคติ้งของน้องจากละครเรื่องนั้น ตอนนั้นป้าอาจจะคิดไปว่าด้วยเนื้อเรื่อง เค้าโครงเรื่องและบทของ หยกเลือดมังกร ที่มันพอดีมาคล้ายกับ Internal Affair
จนมาถึงล่าสุด สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย มันทำให้ป้าต้องย้อนกลับมาดูหนังเก่าๆของเหลียงเฉาเหว่ย ป้าถึงได้รับคำตอบด้วยตัวเองว่าทำไมป้าถึงคิดเช่นนั้น ภาพของนักแสดงยอดฝีมือ และแนวทางการแสดงและแอคติ้งต่างๆของพอร์ช ดูมีส่วนคล้ายและดำเนินรอยตามเฮียเหลียง
หลายคนเคยบอกว่า เหลียงเฉาเหว่ย แจ้งเกิดเต็มตัวจากบท อุ้ยเสี่ยวป้อ ซึ่งในช่วงแรกๆที่เขายังเล่นละครทีวีให้ TVB นั้นมีแต่คนวิจารณ์ เหลียงเฉาเหว่ย ไม่สามารถสลัดภาพของ อุ้ยเสี่ยวป้อ ออกได้เลย แม้จะรับบทบาทมาหลากหลาย
จนกระทั่งมาถึงหนังใหญ่เรื่อง ทะลักจุดแตก (Hard boiled) ผลงานการสร้างของจอห์น วู ที่จับเอา โจวเหวินฟะ มาประชันกับ เหลียงเฉาเหว่ย และการร่วมงานกับจอห์น วู ในครั้งนั้นนี่เองที่ทำให้ เหลียงเฉาเหว่ย ลบคำสบประมาทได้ เขาก้าวข้ามและหลุดพ้นจากภาพลักษณ์ของ อุ้ยเสี่ยวป้อ ที่เกาะติดเขามาหลายปี ผลงานชิ้นนั้นถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีของเขา และทำให้เขาคว้ารางวัลจากเวทีทั่วทั้งเอเชียมาหลายเวที...ถือได้ว่า เหลียงเฉาเหว่ย เขาผ่านมาหมดทุกบทบาท ทั้งตลก บู๊ ดราม่า เขาทำได้ดีในทุกบทบาท...พอลองย้อนมาดูแนวทางการแสดงและแอคติ้งของน้องพอร์ช อือ! มีส่วนเทียบเคียงได้ ถึงแม้อาจจะไม่เทียบเท่าในตอนนี้ แต่ป้าก็มองเห็นแววของเด็กคนนี้ว่า เขายังมีพลังและศักยภาพพัฒนาให้ก้าวข้ามอะไรต่ออะไรได้อีกเยอะ
คนที่ 2 ที่ป้ามองเห็น เงา หรือ Pattern แนวทางการแสดงเทียบเคียงกันนักแสดงระดับเอเชียที่ป้าประทับใจ คือ น้องมิน...ตอนแรกก็ไม่ค่อยได้สนใจหรือจับประเด็นตรงนี้เท่าไร จนมาถึงผลงานเรื่อง "ปางสเน่หา" ที่น้องมิน เล่นบท เสียงหวาน หญิงสาวที่มีความน่ารัก น่าสงสาร น่าทนุถนอม ซึ่งตอนนั้นป้าก็คุ้นๆกับบทแนวนี้ แอคติ้งแนวนี้ แต่ตอนนั้นมันเหมือนติดอยู่ริมฝีปาก ยังนึกภาพอะไรไม่ชัดเจนนัก จนภาพลางๆเริ่มมาชัดเจนขึ้นในบท กิ่งเหมย จาก หยกเลือดมังกร ช่วงที่เธอจะต้องรู้ตัวว่าตาบอด และช่วงที่เธอต้องเล่นบทดราม่ารับส่งอารมณ์กับอาดวงดาว ภาพของ หยวนหย่งอวี้ หนึ่งในอดีตราชินีจอเงินของฮ่องกง ผุดขึ้นมาในหัวของป้าอย่างชัดเจน
หยวนหย่งอวี้ แจ้งเกิดจากบทสาวน้อยผู้น่าสงสาร จากเรื่อง ปู้เหลี่ยวฉิง-รักนี้ชั่วดินฟ้า บทของสาวน้อยผู้สดใส น่ารัก แต่ก็น่าสงสารภายหลังจากที่เธอรู้ตัวว่าเธอป่วยเป้นมะเร็ง และต้องต่อสู้กับโรคร้าย ด้วยขวัญกำลังใจที่ดีจากคนที่เธอรักและคนรอบข้าง ทำให้เธอต่อสู้กับโรคร้ายด้วยความยินดีตราบแม้ลมหายใจสุดท้ายของเธอ บทนี้สุดยอดมากขนาดเธอไล่กวาดรางวัลมาทั่วเอเชีย ที่สำคัญมันทำให้ป้าเสียน้ำตาเป็นปี๊บๆเลย...อารมณ์ของน้องมิน จากบท กิ่งเหมย ในตอนนั้นมันใช่เลย เป๊ะเลยภาพของ Anita Yuen ลอยเด้งออกมาเลยค่ะ
ยิ่งมาตอกย้ำอีกก็ตอนที่น้องมินมาเล่นบทคอมมิดี้ จากบท นังห่านนี่ ซึ่งเธอก็เอาอยู่อีก พอมานั่งดูเธอในบทตลกรั่วๆแบบนี้แล้ว ภาพของหยวนหย่งอวี้ ในบทตลกๆรั่วๆอย่างเช่น เขาหญิง-เธอชาย (He's a woman She's a man) ที่หยวนหย่งอวี้ก็คว้ารางวัลทางการแสดงเป้นว่าเล่นอีกเช่นเดิม หรือแม้แต่บทตลกๆรั่วๆอย่างเรื่อง อร่อยตัดอร่อย หรือ 007คังคังฉิก...เหล่านี้มันก็ทำให้ภาพของ Anita Yuen เกิดขึ้นมาซ้อนทับเทียงเคียงกับน้องมิน อยู่ในหัวของป้าบ่อยๆ
นักแสดงคนที่ 3 ที่เกิดปรากฏการณ์เช่นนี้ขึ้นในหัวของป้าอีก ก็คือน้องใหม่ ดาวิกา ซึ่งลุ๊คและอิมเมจของน้องใหม่ จะออกมาในแนวสวยเป๊ะ ครบเครื่อง เซกซี่ดุจนางพญา ซึ่งนักแสดงที่ป้ามองเห็นเป็นเงาในตัวเธอก็คือ อดีตนางเอกยอดนิยมสุดเซกซี่ จงฉู่หง (Cherie Chung)...มารู้สึกว่ามันมีบางอย่างที่น้องใหม่ และ จงฉู่หง มีความงามสง่าดุจพญาหงส์คล้ายๆกัน ก็ตอนที่เห็นน้องใหม่จากเรื่อง ตะวันทอแสง เห็นแล้วมันอดทำให้ป้าต้องมานั่งย้อนดูหนังเก่าๆของ จงฉู่หง อย่างเช่นเรื่อง ดอกไม้กับนายกระจอก , ตีแสกตะวัน , น้ำฝน น้ำค้าง น้ำร้อน และหนังตระกูลโหดๆหลายๆเรื่องที่เธอมักจะเล่นประกบโจวเหวินฟะ เป็นต้น
คือใหม่ ดาวิกา เธอจะมีอะไรบางอย่างที่พอจะมองเห็นเงาของจงฉู่หงให้ผุดขึ้นมาได้ในหัวคือ...เธอสวยได้โดยไม่ต้องปรุงแต่งอะไรให้มาก แหมกระทั่งในบทเด็กสาวกะโปโล หรือสาวชาวบ้านธรรมดาๆ เธอไม่จำเป็นต้องเล่นหูเล่นตา เล่นแอคติ้งอะไรให้มากมายสิ้นเปลืองพลังมาก ไม่ต้องสิ้นเปลืองเสื้อผ้าราคาแพงหรือให้ดูหรูหราเกินไป แค่แบบธรรมดาๆไม่ต้องจัดเต็ม ไม่ต้องแต่งหน้าให้ดูสวยจัดเหมือนนักแสดงหลายๆคน แต่ความงามสง่าดุจนางพญาหงส์มันก็ปรากฏออกมาจากอินเนอร์ได้เหมือน จงฉู่หง แล้วค่ะ...ตอนนี้ก็ได้แต่รอดูบทตลกๆคอมมิดี้ๆรั่วๆ จาก กุหลาบร้ายของนายตะวัน ซึ่งป้าคาดว่าภาพบทตลกๆรั่วๆของ จงฉู่หง จาก เผ็ดสวยดุ ณ เปไก๋ ก็น่าจะผุดขึ้นมาให้เทียบเคียงกับแนวทางการแสดงของน้องใหม่ ได้เช่นกัน
นักแสดงคนที่ 4 ที่พึ่งจบไปหมาดๆกับละครเรื่อง สุภาพบุรุษลูกผู้ชาย ก็คือน้องโบว์ ธัญญสุภางค์ ป้ามองเห็นแต่แรกๆแล้วว่า รูปร่างหน้าตาน้องมาแนวเดียวและมีส่วนคล้าย ม่อเหวินเหว่ย (Caren Mok) เพียงแต่ความสง่า เสน่ห์และความมั่น น้องโบอาจจะยังไม่เทียบเท่าคาเรน แต่ของแบบนี้สามารถปรุงแต่งและพัฒนาขึ้นมาได้ ซึ่งช่วงหลังๆของละครเรื่องนี้ออนแอร์ เหมือนน้องโบว์ จับทางได้ถูกต้องมากขึ้นทั้งจังหวะ ทั้งแอคติ้ง มันจึงมันให้เสน่ห์ทางการแสดงของเธอมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ รอเพียงให้เธอเสริมเสน่ห์และความมั่นๆให้ได้สักครึ่งของคาเรน ป้าเชื่อว่าน้องโบว์ เธอจะยืนหยัดในวงการได้อีกนาน
ยิ่งช่วงกลางๆของละครที่คุณหนูแพรวา ต้องลุกขึ้นมายืนหยัดเอาการเอางาน ลุกขึ้นมาต่อสู้กับความกลัวต่างๆในช่วงนั้น ภาพของแอคติ้งและทางการแสดงที่น้องแสดงออกมาในตอนนั้น มันทำให้ป้านึกถึงหนังตลกของ โจวซิงฉือ เรื่อง จุ๊ยขี้จุ๊ ขึ้นมาในทันทีเลยค่ะ...มันเป็นภาพของคาเรน ม๊อก ต้องลุกขึ้นมายืนหยัดว่าความคดีต่อหน้าคณะตุลาการศาล แทนสามีของเธอ (โจวซิงฉือ)...ลุ๊คนั้นอารมณ์นั้นมันคล้ายกันมาก จากผู้หญิงที่วันๆไม่คิดเรื่องอะไรมาก ตลกโปกฮาไปวันๆ แต่พอเธอเปลี่ยนโหมดมาเป็นจริงจังเอาการเอางาน ดราม่าเข้มข้น ถาพนั้นมันผุดขึ้นมาเทียบเคียงกับบทของคุณหนูแพรวา ที่ถ่ายทอดโดยน้องโบว์ได้เลยค่ะ...ป้าขอชื่นชมในพัฒนาการของเธอนะคะ
นักแสดงคนที่ 5 ที่ป้านึกออกมานานแล้ว ตั้งแต่เมื่อครั้งที่เธอรับบท อสูรน้อยดารกา...น้องทับทิม อัญรินทร์ เธอทำให้ป้าอึ้ง ทึ่งในอินเนอร์ทางการแสดงของเธอ ที่มันดูจัดเต็มมาก ประมาณว่าเขาจ้าง 10 แต่เธอปล่อยของออกมาเป็น 100 ... ยิ่งมาเจอเธอเล่นในบทตลกๆรั่วๆอย่าง คุณชายตำระเบิด และ สวนอาหารบานใจ หรือบทหวานๆเรียบๆ อย่างเช่นเรื่อง เหนือมนุษย์ หรือนางร้ายอย่าง อาญารัก เธอเอาอยู่หมดจัดเต็มทั้งหมด...มันอดนึกถึงนักแสดงที่จัดเต็มแบบนี้คือ ลูกเป็ดขี้เหร่-เจิ้งอวี้หลิง ที่ถือว่าเป็นนักแสดงยอดฝีมือระดับเอเชียอีกคน
บทของดารกา ที่น้องทับทิมเธอปล่อยพลังแห่งความดุร้าย น่ายำเกรง ได้อย่างน่าทึ่ง ในตอนนั้นที่ป้าดูและสังเกตการแสดงของเธอ มันทำให้ป้าผุดนึกถึงการแสดงของเจิ้งอวี้หลิง จากบทอีซ่าเหลียนจากเรื่อง ขังโหดขาอ่อน (Woman prison) ขึ้นมาได้โดยไม่รู้ตัว...แววตาแห่งความดุร้าย อาฆาต ประหัตประหาร เอาจริงเอาจัง ของนักแสดงทั้งสองมันเทียบเคียงกันได้ พอมาถึงบทดราม่าหนักๆเจ้าน้ำตา หรือบทตลกๆรั่วๆ เออ!นักแสดงรุ่นใหม่อย่างน้องทับทิมก็ดูทรงพลังเทียบเคียงได้ถึงกึ่งหนึ่งของเจิ้งอวี้หลิง ได้เลยนะนั่น