ตอนที่ 1 เที่ยวออสเตรเลีย ภาคข้อมูล
http://ppantip.com/topic/31113417
ตอนที่ 2.1 เที่ยวออสเตรเลีย ภาคการเดินทางเข้าเมือง Melbourne
http://ppantip.com/topic/31133954
ตอนที่ 2.2 เที่ยว ออสเตรเลีย เดินเล่นชมเมือง Melbourne
http://ppantip.com/topic/31138430
ตอนที่ 3 เที่ยว ออสเตรเลีย ตะลุย Great Ocean Road
http://ppantip.com/topic/31152738
สวัสดีครับเพื่อนๆ ห้อง Blue เขียนข้อมูลมาถึงตอนนี้แล้วไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามีท่านผู้อ่านไหมเนื่องจากไม่มี feedback อะไรใดๆ ใน กระทู้เลย แต่ผมก็ยังจะเขียนต่อไป เพราะมีความคาดหวังว่า น่าจะมีผู้ที่ต้องการข้อมูลภาษาไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย ได้ไปต่างประเทศไม่ต้องง้อทัวร์กันต่อไป เอาละสู้ๆ (บอกตัวเอง)
Route ใน ตอนที่ 4 นี้มีดังนี้ เดินทางจาก ตัวเมือง Melbourne > สนามบิน Avalon > ขึ้นเครื่องบิน > เข้าสู่ Sydney > เที่ยว Blue Mountain > กลับที่พัก Sydney
เอาหละ เรามาเริ่มต้นจากการเดินทางจากตัวเมือง Melbourne ไปยังสนานบิน "Avalon" กัน สนามบิน Avalon เป็นสนามบินอีกแห่งของ Melbourne ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสายการบินภายในประเทศ (คล้ายๆกับ ดอนเมือง ) การเดินทางนั้นแตกต่างจากการเดินทางเข้าเมือง Melbourne จากสนานบิน "Tullamarine" เพื่อให้ง่าย ผมจะให้ท่านเห็นระยะทางและเวลาในการเดินทางจากสายการบินทั้ง 2 แห่งเข้าเมืองกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. จากสนามบิน Tullamarine เข้าเมือง ระยะห่างจากตัวเมืองโดยประมาณ 20 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที
2. จากสนามบิน Avalon เข้าเมือง ระยะห่างจากตัวเมืองโดยประมาณ 50 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 50 นาที
พอจะเข้าใจความแตกต่างคร่าวๆ แล้วงั้นมาดูสิ่งที่ต้องทำในเรื่อง ถัดไปกันดีกว่า นั้นคือ จองตั๋วเครื่องบิน
การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินจาก Melbourne ไป Sydney นั้น ผมใช้สายการบินภายในประเทศที่เรารู้จักกันดี นั้นคือ Jetstar Airline
http://www.jetstar.com/th/th/home อย่างที่ได้เคยบอกไปในตอนที่แล้วๆ มา ว่าผมจองทุกอย่างจากเมืองไทยไป เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่พลาดที่จะจองตั๋วจาก Melbourne ไป Sydney เช่นกัน (เป็นตั๋ว Round trip นะครับ) อย่าลืม E-ticket ไปเช่นเคย
Remark ขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน นั้นควรมองไปที่การเดินทางด้วย นั้นคือ นำ
ราคาตั๋วเครื่องบิน+ค่าเดินทางจากที่พักของท่านไปสนามบิน มาคำนวนก่อนการจอง จะทำให้ท่านสามารถคำนวนเวลาในการไปสนามบินได้ และ ประหยัด เงินของเท่านได้มากกว่า
ยกตัวอย่าง : บินจากสนามบิน Tullamarine ราคาตั๋วเครื่องบิน 135$ + ค่าเดินทางไปโดยรถ Skybus 17$ = 152$ ใช้เวลาเดินทางครึ่งชม.
บินจากสนามบิน Avalon ราคาตั๋วเครื่องบิน 125$ + ค่าเดินทางไปโดยรถ Airport Transfers 22$ = 147 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของท่านว่า ใช้เงินซื้อเวลา หรือ ใช้เวลาแลกเงิน (ผมใช้เวลาแลกเงิน อิๆ)
เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของท่าน มาดูวิธีการเดินทางไป Avalon Airport และ ราคาค่าเดินทาง กันบ้างดีกว่า ไปได้หลายพาหนะดังนี้
1. ไปโดย แท๊กซี่ ข้อดีคือสะดวกง่าย และ สบาย ก็ต้องแลกกับราคา ประมาณ 100-110 $ แล้วแต่ระยะทางใกล้ๆ ตัวเมืองมากแค่ไหน
2. ไปโดย Avalon Airport Tranfer ข้อดีคือประหยัดเงินและมีรถตรงตามตารางการบินในทุกๆรอบการบิน แต่ ท่านผู้อ่านต้องแบกกระเป๋าของท่านไปขึ้นที่ Soulthern Cross Station (ผมไปโดยวิธีนี้เนื่องจากผมฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมและ นำเสื้อผ้าของใช้ไปตามความจำเป็น) สามารถเข้าไปตรวจสอบตารางการเดินรถและราคา ได้ที่
http://www.sitacoaches.com.au/avalon/about_avalon.shtml เท่าที่ดูราคาแล้ว ไป-กลับ จาก 42$ หรือบางท่านที่ไปอย่างเดียว ก็ 22$ ราคาต่างกันไม่มาก แล้วแต่ความสะดวกในการจอง วิธีนี้ต้องมั่นใจกับเที่ยวบินก่อนนะครับ นั้นคือท่านต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อนนั้นเอง และ ดูเวลารถ Bus ให้ตรงกับตารางการบิน นะครับไม่งั้น "ท่านจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง"
3. ไปโดยรถเช่า ที่สนามบิน Avalon Airport จะมีบริการที่จอดรถที่จะต้องเสียเงิน นะครับ ย้ำ เสียเงิน แต่ท่านผู้ที่เดินทางเป็นหมู่คณะ วิธีนี้อาจจะเป็นทางออกของเท่าที่ดีที่สุด ก็เป็นได้ เนื่องจากถ้าไปกันหลายๆท่านความสะดวกสบาย และ ยังสามารถแชร์ค่าเดินทางได้อีก อาจจะเหมาะสมก็เป็นได้ ข้อมูลรถเช่าดูได้ที่
http://www.thrifty.com/ และอย่าลืมจองที่จอดรถก่อน ใน Web นี้
http://www.avalonairport.com.au/to-from-avalon/airport-parking-melbourne/ ไม่งั้นท่านอาจจะไม่มีที่จอดก็เป็นได้
เอาละมาเริ่มที่การเดินทางของผมจากตัวเมือง Melbourne ไปยังสนานบิน Avalon ไป Sydney และ เดินทางต่อไป Blue Mountain ทันที จบวันด้วยการกลับจาก Blue Mountain เข้าที่พัก
เอาละผมเริ่มออกเดินทาง ตามเวลาท้องถิ่นเป็นเวลาตี 3 วันนี้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นที่โรงแรมที่ผมพักเป็นเรื่องโชคร้ายของผมเรื่องแรกในการเดินทางไปครั้งนี้ และ ห้องพักของผมอยู่ชั้น 7 ของโรงแรมย้ำนะครับว่าชั้น 7 เหตุการณ์ประหลาดนั้นคือ สัญญาณ ไฟไหม้ ดังครับตอนตี 2 กว่าเกือบตี 3 ผมเป็นคนไทยที่ทำอะไรไม่ถูกจึงเริ่มเก็บของทั้งหมดที่มียัดลงกระเป๋าทันที และรีบแต่งตัวลงมายังชั้นล่าง ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้ หลังจากที่ผมลงมาแล้ว มีผู้คนมากมายเต็มด้านล่างโรงแรม บ้างก็ใส่แต่กางเกงนอนกับเสื้อหนาว บ้างก็ถือแค่กระเป๋าเงิน และมองหน้าผมแบบดูถูก ผมคิดว่าในใจเขาคงคิดว่า "You're already dead" แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่าได้ตายไปแล้ว เพราะหากเกิดไฟไหม้จริงๆ ผมคงได้ไปแล้วจริงๆ แหละ ที่เล่าเพราะอยากให้เป็น แง่คิดในการเดินทางของคนไทยทั้งหลายว่า ไม่ต้องห่วงข้าวของ เอาชีวิตให้รอดก่อน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ผมคงหยิบแค่เงิน และ Passport ออกมาแค่นั้น แค่นั้นจริงๆ มาดูรูปกันดีกว่า
เอาหละ จบเหตุการณ์ร้ายๆ ไปแล้ว สรุปคือโรงแรมไม่ได้ไฟไหม้จริงๆ แต่หม้อต้มน้ำรั่วจากชั้นบนสุดเท่านั้น แม่เจ้า ผมจึงเดินกลับเข้าไปที่โรงแรมฝากของบางส่วนไว้ที่โรงแรม (เนื่องจากจะกลับมาอีกครั้งในอีก 2 วันข้างหน้า) หลังจากนั้นใช้เส้นทางที่คุ้นเคย เดินไปยัง Southern Cross Station เนื่องจาก Avalon Airport Transfers ก็ขึ้นรถที่เดียวกันกับตอนที่เดินทางเข้าเมือง Melbourne ต้องบอกว่า Southern Cross Station เป็นเหมือน หมอชิต ของ Melbourne ก็ว่าได้
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ รถมีหน้าตาแบบนี้ ที่ช่อง 58 เวลานี้เป็นเวลาตี 5 แล้ว
หลังจากนั้นก็ หลับไปได้เลยเพราะอีกประมาณ 45-50 นาที ถึงจะถึง Avalon Airport มีหน้าตาแบบนี้
เดินเข้าไปที่ เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติแล้ว พิมพ์ตั๋ว ซะเมื่อไร
ย้ำนะครับว่าถ้าท่านออกตั๋วกับเครื่องนี้(ตามรูป) ยังต้องไป แลกตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ อยู่ดี ห้ามหลงกลเด็จขาดเพราะในตั๋วจะบอกไว้ว่าไม่ใช่ boarding pass เป็นทักษะที่นักเดินทางต้องมีคือ ช่างสังเกตุ และ มีสติเสมอนะครับ
ในตั๋วจะบอกไว้ชัดเจน
หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาใน Gate พร้อมบินไป Sydney แล้ว ตื่นเต้นๆ Gate Avalon หน้าตาแบบนี้ครับ เล็กๆ มีที่นั่งน้อย
บินประมาณ 1 กว่าๆ ก็ถึง Sydney หลังจากนั้นก็แผนเดิม รถไฟฟ้า ตามป้ายนี้ไปเลย ผมใช้บริการ Airport link ในการเข้าเมือง Sydney ราคา
เอาละ การเดินทางจาก Sydney Domestic Airport สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางดังนี้
1. เดินทางโดย TAXI (บังเอิญผมได้ใช้งานตอนขากลับ เดี๋ยวจะบอกอีกครั้งว่าทำไมในตอนหน้า) 36-40 $ เพื่อเข้าเมือง
2. เดินทางโดย Airport link 16$ หรือท่านที่ไปกลับก็ 31.80 แต่ย้ำกันหนินึงว่าต้องเป็นภายในวันเดียวกันนะสำหรับตั๋วไปกลับ (ผมเลือกวิธีนี้)
3. เดินทางโดย รถ Bus 14 $
http://www.airportconnect.com.au/
4. เดินทางโดยรถเช่า
http://www.thrifty.com/
หลังจากนั้นก็ไปที่ Platform 1 จุดมุ่งหมายของเราคือ Central Station เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางใน Sydney และการเดินทางต่อไปยัง Blue Mountain ตามแผนการในวันนี้
ข้างในรถไฟหน้าตาเป็นแบบนี้
หลังจากนั้นก็นั่งไปจนถึงสถานี Central Station หน้าตาแบบนี้เพื่อนั่งรถไฟต่อจาก Central ไป Katoomba เพื่อไปยังจุดหมาย Blue Mountains
ความซวยประจำวันนี้ยังไม่หมดแค่นั้น ผมยังเจอนี้อีก
จะเห็นตามภาพแล้วผมไม่สามารถจะเดินทางไป Blue Mountains จากสถานี Central ได้ผมต้องนั่งรถ Bus เพื่อไป Penrith Station เพื่อต่อรถไฟไป Katoomba อยากบอกว่ารถที่ Sydney ติดไม่แพ้ กรุงเทพฯเลย ใช้เวลานานมากทั้งไปและกลับ แต่ยังมีโชคดีอยู่บ้างตรงที่เขาบริการฟรี ต่อแถวนานมากกว่าจะได้นั่งรถคันนี้เนื่องจากวันที่ผมไปเป็นวันเสาร์จึงมีนั่งท่องเที่ยวในประเทศเยอะมาก
นั่งจนไปถึง Penrith Station แล้วต่อรถไฟ ไป Katoomba โดยซื้อตั๋วผ่านเครื่องนี้ ราคา 8.8$ ไปกลับนะครับ
นั่งไปเรื่อยๆครับน่าจะซัก 30-40 นาที จากสถานี Penrith นะครับไม่ใช่ Central ก็จะถึงสถานี Katoomba อย่าลืมสอบถามคนที่นั่งไปกลับท่านนะครับว่าจะถึง Katoomba เมื่อไร เพราะรถไฟที่ผมนั่งไปนั้นไม่มีเสียงบอกสถานีนะครับ สำคัญมาก
Remark ผมใช้การสังเกตุสถานีที่มีคนลงเยอะๆ ครับ หลังจากนั้นสถานีถัดไป เป็น Katoomba แต่ผมว่าถามคนที่นั่งไปด้วยจะดีกว่า เขาเก่งภาษาอังกฤษทุกคนครับ ฮิๆ
เอาละ ถึง Katoomba แล้วไปลุย Blue Mountains กันเลย หลังจากนั้น เดินลงองค์โมง และข้ามถนน เลี้ยวซ้ายก็จะไปถึงจุดรอรถเพื่อท่องเที่ยวไปใน Blue Mountains กันแล้วครับ
เรามารอกันที่ป้ายนี้ รถที่นี้จะวิ่งเป็นวงกลมตามจุดสำคัญใน Blue Mountains กันนะครับขึ้นหนึ่งครั้ง 2$ นะจ๊ะ
รถหน้าตาแบบนี้ครับ
ผมนั่งรถไปเรื่องๆ ไปลงที่ Echo Point และกะจะเดินต่อไปตามจุดต่างๆเอง ที่จุด Echo Point นี้มี Three Sister อยู่ครับ หิน 3 นาง สวยงามได้ใน พงพาเพลินจริงๆ
Three Sisters
แถมอีกซักรูป Blue Mountains
ยังมีอีกหลายจุดมากมายให้เที่ยวเล่นกัน จะไปนั่งกระเช้าต่อที่ Scenic World หรือจะพักค้างคืนชมธรรมชาติก็ได้นะครับ เป็น Nation Park ที่สวยงามอีกแห่งของโลกเลย (ขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ วันที่ 12-11-2013 ไม่รู้ว่าดับไฟได้หมดหรือยัง แอบเศร้าใจเป็นการส่วนตัว) (ต่อด้านล่างนะ)
PongPaPlearn (พงพาเพลิน) เที่ยวออสเตรเลีย ไปคนเดียวก็ได้ ตอนที่ 3 ภาค ตะลุย Great Ocane Road
ตอนที่ 2.1 เที่ยวออสเตรเลีย ภาคการเดินทางเข้าเมือง Melbourne http://ppantip.com/topic/31133954
ตอนที่ 2.2 เที่ยว ออสเตรเลีย เดินเล่นชมเมือง Melbourne http://ppantip.com/topic/31138430
ตอนที่ 3 เที่ยว ออสเตรเลีย ตะลุย Great Ocean Road http://ppantip.com/topic/31152738
สวัสดีครับเพื่อนๆ ห้อง Blue เขียนข้อมูลมาถึงตอนนี้แล้วไม่รู้เลยจริงๆ ว่ามีท่านผู้อ่านไหมเนื่องจากไม่มี feedback อะไรใดๆ ใน กระทู้เลย แต่ผมก็ยังจะเขียนต่อไป เพราะมีความคาดหวังว่า น่าจะมีผู้ที่ต้องการข้อมูลภาษาไทย โดยคนไทย เพื่อคนไทย ได้ไปต่างประเทศไม่ต้องง้อทัวร์กันต่อไป เอาละสู้ๆ (บอกตัวเอง)
Route ใน ตอนที่ 4 นี้มีดังนี้ เดินทางจาก ตัวเมือง Melbourne > สนามบิน Avalon > ขึ้นเครื่องบิน > เข้าสู่ Sydney > เที่ยว Blue Mountain > กลับที่พัก Sydney
เอาหละ เรามาเริ่มต้นจากการเดินทางจากตัวเมือง Melbourne ไปยังสนานบิน "Avalon" กัน สนามบิน Avalon เป็นสนามบินอีกแห่งของ Melbourne ซึ่งส่วนใหญ่แล้วจะเป็นสายการบินภายในประเทศ (คล้ายๆกับ ดอนเมือง ) การเดินทางนั้นแตกต่างจากการเดินทางเข้าเมือง Melbourne จากสนานบิน "Tullamarine" เพื่อให้ง่าย ผมจะให้ท่านเห็นระยะทางและเวลาในการเดินทางจากสายการบินทั้ง 2 แห่งเข้าเมืองกัน โดยมีรายละเอียดดังนี้
1. จากสนามบิน Tullamarine เข้าเมือง ระยะห่างจากตัวเมืองโดยประมาณ 20 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 20 นาที
2. จากสนามบิน Avalon เข้าเมือง ระยะห่างจากตัวเมืองโดยประมาณ 50 กม. ใช้เวลาในการเดินทาง 50 นาที
พอจะเข้าใจความแตกต่างคร่าวๆ แล้วงั้นมาดูสิ่งที่ต้องทำในเรื่อง ถัดไปกันดีกว่า นั้นคือ จองตั๋วเครื่องบิน
การจองตั๋วเครื่องบินเพื่อบินจาก Melbourne ไป Sydney นั้น ผมใช้สายการบินภายในประเทศที่เรารู้จักกันดี นั้นคือ Jetstar Airline http://www.jetstar.com/th/th/home อย่างที่ได้เคยบอกไปในตอนที่แล้วๆ มา ว่าผมจองทุกอย่างจากเมืองไทยไป เพราะฉะนั้น ผมก็ไม่พลาดที่จะจองตั๋วจาก Melbourne ไป Sydney เช่นกัน (เป็นตั๋ว Round trip นะครับ) อย่าลืม E-ticket ไปเช่นเคย
Remark ขั้นตอนการจองตั๋วเครื่องบิน นั้นควรมองไปที่การเดินทางด้วย นั้นคือ นำราคาตั๋วเครื่องบิน+ค่าเดินทางจากที่พักของท่านไปสนามบิน มาคำนวนก่อนการจอง จะทำให้ท่านสามารถคำนวนเวลาในการไปสนามบินได้ และ ประหยัด เงินของเท่านได้มากกว่า
ยกตัวอย่าง : บินจากสนามบิน Tullamarine ราคาตั๋วเครื่องบิน 135$ + ค่าเดินทางไปโดยรถ Skybus 17$ = 152$ ใช้เวลาเดินทางครึ่งชม.
บินจากสนามบิน Avalon ราคาตั๋วเครื่องบิน 125$ + ค่าเดินทางไปโดยรถ Airport Transfers 22$ = 147 ใช้เวลาเดินทาง 1 ชม.
อันนี้ก็ขึ้นอยู่กับ การตัดสินใจของท่านว่า ใช้เงินซื้อเวลา หรือ ใช้เวลาแลกเงิน (ผมใช้เวลาแลกเงิน อิๆ)
เพื่อเป็นข้อมูลในการตัดสินใจของท่าน มาดูวิธีการเดินทางไป Avalon Airport และ ราคาค่าเดินทาง กันบ้างดีกว่า ไปได้หลายพาหนะดังนี้
1. ไปโดย แท๊กซี่ ข้อดีคือสะดวกง่าย และ สบาย ก็ต้องแลกกับราคา ประมาณ 100-110 $ แล้วแต่ระยะทางใกล้ๆ ตัวเมืองมากแค่ไหน
2. ไปโดย Avalon Airport Tranfer ข้อดีคือประหยัดเงินและมีรถตรงตามตารางการบินในทุกๆรอบการบิน แต่ ท่านผู้อ่านต้องแบกกระเป๋าของท่านไปขึ้นที่ Soulthern Cross Station (ผมไปโดยวิธีนี้เนื่องจากผมฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรมและ นำเสื้อผ้าของใช้ไปตามความจำเป็น) สามารถเข้าไปตรวจสอบตารางการเดินรถและราคา ได้ที่ http://www.sitacoaches.com.au/avalon/about_avalon.shtml เท่าที่ดูราคาแล้ว ไป-กลับ จาก 42$ หรือบางท่านที่ไปอย่างเดียว ก็ 22$ ราคาต่างกันไม่มาก แล้วแต่ความสะดวกในการจอง วิธีนี้ต้องมั่นใจกับเที่ยวบินก่อนนะครับ นั้นคือท่านต้องจองตั๋วเครื่องบินก่อนนั้นเอง และ ดูเวลารถ Bus ให้ตรงกับตารางการบิน นะครับไม่งั้น "ท่านจะคุยกับเขาไม่รู้เรื่อง"
3. ไปโดยรถเช่า ที่สนามบิน Avalon Airport จะมีบริการที่จอดรถที่จะต้องเสียเงิน นะครับ ย้ำ เสียเงิน แต่ท่านผู้ที่เดินทางเป็นหมู่คณะ วิธีนี้อาจจะเป็นทางออกของเท่าที่ดีที่สุด ก็เป็นได้ เนื่องจากถ้าไปกันหลายๆท่านความสะดวกสบาย และ ยังสามารถแชร์ค่าเดินทางได้อีก อาจจะเหมาะสมก็เป็นได้ ข้อมูลรถเช่าดูได้ที่ http://www.thrifty.com/ และอย่าลืมจองที่จอดรถก่อน ใน Web นี้http://www.avalonairport.com.au/to-from-avalon/airport-parking-melbourne/ ไม่งั้นท่านอาจจะไม่มีที่จอดก็เป็นได้
เอาละมาเริ่มที่การเดินทางของผมจากตัวเมือง Melbourne ไปยังสนานบิน Avalon ไป Sydney และ เดินทางต่อไป Blue Mountain ทันที จบวันด้วยการกลับจาก Blue Mountain เข้าที่พัก
เอาละผมเริ่มออกเดินทาง ตามเวลาท้องถิ่นเป็นเวลาตี 3 วันนี้เกิดเรื่องประหลาดขึ้นที่โรงแรมที่ผมพักเป็นเรื่องโชคร้ายของผมเรื่องแรกในการเดินทางไปครั้งนี้ และ ห้องพักของผมอยู่ชั้น 7 ของโรงแรมย้ำนะครับว่าชั้น 7 เหตุการณ์ประหลาดนั้นคือ สัญญาณ ไฟไหม้ ดังครับตอนตี 2 กว่าเกือบตี 3 ผมเป็นคนไทยที่ทำอะไรไม่ถูกจึงเริ่มเก็บของทั้งหมดที่มียัดลงกระเป๋าทันที และรีบแต่งตัวลงมายังชั้นล่าง ขั้นตอนทั้งหมดใช้เวลาประมาณ 10 นาทีได้ หลังจากที่ผมลงมาแล้ว มีผู้คนมากมายเต็มด้านล่างโรงแรม บ้างก็ใส่แต่กางเกงนอนกับเสื้อหนาว บ้างก็ถือแค่กระเป๋าเงิน และมองหน้าผมแบบดูถูก ผมคิดว่าในใจเขาคงคิดว่า "You're already dead" แปลเป็นไทยง่ายๆ ว่าได้ตายไปแล้ว เพราะหากเกิดไฟไหม้จริงๆ ผมคงได้ไปแล้วจริงๆ แหละ ที่เล่าเพราะอยากให้เป็น แง่คิดในการเดินทางของคนไทยทั้งหลายว่า ไม่ต้องห่วงข้าวของ เอาชีวิตให้รอดก่อน ถ้าเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นอีก ผมคงหยิบแค่เงิน และ Passport ออกมาแค่นั้น แค่นั้นจริงๆ มาดูรูปกันดีกว่า
เอาหละ จบเหตุการณ์ร้ายๆ ไปแล้ว สรุปคือโรงแรมไม่ได้ไฟไหม้จริงๆ แต่หม้อต้มน้ำรั่วจากชั้นบนสุดเท่านั้น แม่เจ้า ผมจึงเดินกลับเข้าไปที่โรงแรมฝากของบางส่วนไว้ที่โรงแรม (เนื่องจากจะกลับมาอีกครั้งในอีก 2 วันข้างหน้า) หลังจากนั้นใช้เส้นทางที่คุ้นเคย เดินไปยัง Southern Cross Station เนื่องจาก Avalon Airport Transfers ก็ขึ้นรถที่เดียวกันกับตอนที่เดินทางเข้าเมือง Melbourne ต้องบอกว่า Southern Cross Station เป็นเหมือน หมอชิต ของ Melbourne ก็ว่าได้
หลังจากนั้นก็ขึ้นรถ รถมีหน้าตาแบบนี้ ที่ช่อง 58 เวลานี้เป็นเวลาตี 5 แล้ว
หลังจากนั้นก็ หลับไปได้เลยเพราะอีกประมาณ 45-50 นาที ถึงจะถึง Avalon Airport มีหน้าตาแบบนี้
เดินเข้าไปที่ เครื่องออกตั๋วอัตโนมัติแล้ว พิมพ์ตั๋ว ซะเมื่อไร ย้ำนะครับว่าถ้าท่านออกตั๋วกับเครื่องนี้(ตามรูป) ยังต้องไป แลกตั๋วจริงที่เคาน์เตอร์ อยู่ดี ห้ามหลงกลเด็จขาดเพราะในตั๋วจะบอกไว้ว่าไม่ใช่ boarding pass เป็นทักษะที่นักเดินทางต้องมีคือ ช่างสังเกตุ และ มีสติเสมอนะครับ
ในตั๋วจะบอกไว้ชัดเจน
หลังจากนั้นก็เดินเข้ามาใน Gate พร้อมบินไป Sydney แล้ว ตื่นเต้นๆ Gate Avalon หน้าตาแบบนี้ครับ เล็กๆ มีที่นั่งน้อย
บินประมาณ 1 กว่าๆ ก็ถึง Sydney หลังจากนั้นก็แผนเดิม รถไฟฟ้า ตามป้ายนี้ไปเลย ผมใช้บริการ Airport link ในการเข้าเมือง Sydney ราคา
เอาละ การเดินทางจาก Sydney Domestic Airport สามารถเดินทางได้หลายเส้นทางดังนี้
1. เดินทางโดย TAXI (บังเอิญผมได้ใช้งานตอนขากลับ เดี๋ยวจะบอกอีกครั้งว่าทำไมในตอนหน้า) 36-40 $ เพื่อเข้าเมือง
2. เดินทางโดย Airport link 16$ หรือท่านที่ไปกลับก็ 31.80 แต่ย้ำกันหนินึงว่าต้องเป็นภายในวันเดียวกันนะสำหรับตั๋วไปกลับ (ผมเลือกวิธีนี้)
3. เดินทางโดย รถ Bus 14 $ http://www.airportconnect.com.au/
4. เดินทางโดยรถเช่า http://www.thrifty.com/
หลังจากนั้นก็ไปที่ Platform 1 จุดมุ่งหมายของเราคือ Central Station เป็นจุดศูนย์กลางของการเดินทางใน Sydney และการเดินทางต่อไปยัง Blue Mountain ตามแผนการในวันนี้
ข้างในรถไฟหน้าตาเป็นแบบนี้
หลังจากนั้นก็นั่งไปจนถึงสถานี Central Station หน้าตาแบบนี้เพื่อนั่งรถไฟต่อจาก Central ไป Katoomba เพื่อไปยังจุดหมาย Blue Mountains
ความซวยประจำวันนี้ยังไม่หมดแค่นั้น ผมยังเจอนี้อีก
จะเห็นตามภาพแล้วผมไม่สามารถจะเดินทางไป Blue Mountains จากสถานี Central ได้ผมต้องนั่งรถ Bus เพื่อไป Penrith Station เพื่อต่อรถไฟไป Katoomba อยากบอกว่ารถที่ Sydney ติดไม่แพ้ กรุงเทพฯเลย ใช้เวลานานมากทั้งไปและกลับ แต่ยังมีโชคดีอยู่บ้างตรงที่เขาบริการฟรี ต่อแถวนานมากกว่าจะได้นั่งรถคันนี้เนื่องจากวันที่ผมไปเป็นวันเสาร์จึงมีนั่งท่องเที่ยวในประเทศเยอะมาก
นั่งจนไปถึง Penrith Station แล้วต่อรถไฟ ไป Katoomba โดยซื้อตั๋วผ่านเครื่องนี้ ราคา 8.8$ ไปกลับนะครับ
นั่งไปเรื่อยๆครับน่าจะซัก 30-40 นาที จากสถานี Penrith นะครับไม่ใช่ Central ก็จะถึงสถานี Katoomba อย่าลืมสอบถามคนที่นั่งไปกลับท่านนะครับว่าจะถึง Katoomba เมื่อไร เพราะรถไฟที่ผมนั่งไปนั้นไม่มีเสียงบอกสถานีนะครับ สำคัญมาก
Remark ผมใช้การสังเกตุสถานีที่มีคนลงเยอะๆ ครับ หลังจากนั้นสถานีถัดไป เป็น Katoomba แต่ผมว่าถามคนที่นั่งไปด้วยจะดีกว่า เขาเก่งภาษาอังกฤษทุกคนครับ ฮิๆ
เอาละ ถึง Katoomba แล้วไปลุย Blue Mountains กันเลย หลังจากนั้น เดินลงองค์โมง และข้ามถนน เลี้ยวซ้ายก็จะไปถึงจุดรอรถเพื่อท่องเที่ยวไปใน Blue Mountains กันแล้วครับ
เรามารอกันที่ป้ายนี้ รถที่นี้จะวิ่งเป็นวงกลมตามจุดสำคัญใน Blue Mountains กันนะครับขึ้นหนึ่งครั้ง 2$ นะจ๊ะ
รถหน้าตาแบบนี้ครับ
ผมนั่งรถไปเรื่องๆ ไปลงที่ Echo Point และกะจะเดินต่อไปตามจุดต่างๆเอง ที่จุด Echo Point นี้มี Three Sister อยู่ครับ หิน 3 นาง สวยงามได้ใน พงพาเพลินจริงๆ
Three Sisters
แถมอีกซักรูป Blue Mountains
ยังมีอีกหลายจุดมากมายให้เที่ยวเล่นกัน จะไปนั่งกระเช้าต่อที่ Scenic World หรือจะพักค้างคืนชมธรรมชาติก็ได้นะครับ เป็น Nation Park ที่สวยงามอีกแห่งของโลกเลย (ขณะที่ผมเขียนอยู่นี้ วันที่ 12-11-2013 ไม่รู้ว่าดับไฟได้หมดหรือยัง แอบเศร้าใจเป็นการส่วนตัว) (ต่อด้านล่างนะ)