ตอนนี้ผมแบ่งผู้เล่นเกมส์แห่งอำนาจ เป็นแค่ 2ฝ่าย แน่นอนเรื่องจริงฝ่ายต่างๆต้องมากกว่านี้ แต่ขอเอามาขบคิดแค่สองฝ่ายพอ คือผลประโยชน์ที่จะเกิดขึ้นของ ฝ่ายรัฐบาล และ ฝ่ายค้าน
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ผมลองตั้งความเป็นไปได้ 4 เรื่อง
1. นายกฯลาออก
ข้อนี้ เป็นไปไม่ได้เลย ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ต้องการ ฝ่ายค้านก็ไม่เอา โอกาสที่จะเกิด 0 %
2. ยุบสภา
โอกาสผมให้ถึง 70 % เครือข่ายของฝ่ายค้านเปิดหน้าชกพร้อมเพรียงกันขนาดนี้ คงไม่มีทางหยุดถอยกลับแน่นอน การประกาศปิดประเทศ นัดหยุดงาน หยุดเรียน หยุดให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ... มาออกแนวอารยะขัดขืน ก็คงต้องการกดดันให้มีการยุบสภา เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนเริ่มชุมนุม คือหยุดพ.ร.บ.เหมาเข่ง จะได้ประกาศชัยชนะได้ พร้อมทั้งสำเร็จวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย ตอนนี้ฝ่ายค้านพร้อมจะเลือกตั้งแล้ว และเชื่อว่าคราวนี้ ผลเลือกตั้งออกมาสูสีแน่ ดีไม่ดี ก่อนยุบสภา นายกฯ อาจโดนสอย มีคดีติดตัว ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันชิงอำนาจต่อได้
ฝ่ายรัฐบาล ตอนนี้คงพยายามหาทางยื้อไปให้นานที่สุดเพื่อหาประเด็นต่างๆใช้ตอนหาเสียง หรือไม่แน่อาจเต็มใจยุบสภา เพราะก็เป็นเป้าหมายของฝ่ายรัฐบาลเช่นกัน หมดเวลาของตัวสำรองแล้ว หรือไม่ก็เข็นนโยบายต่อไปไม่ไหว มั่นใจว่ากลับไปเลือกตั้ง เปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนตัวเล่นใหม่ โละพวกประถมออกไป เอามหาลัยกลับเข้ามา มั่นใจว่ายังไงก็ยังได้กลับมาคุมอำนาจ พอให้น้ำหนักทั้งสองฝ่ายโอกาสได้รับประโยชน์ไปเท่าๆกัน ก็น่าจะมียุบสภาเร็วๆนี้
3. รัฐประหาร
โอกาสให้ 30 % ที่จริงก็ชั่งน้ำหนักระหว่างยุบสภา กับ รัฐประหาร อะไรน่าจะมีโอกาสมากกว่า ลึกๆก็คิดว่ารัฐประหาร เพราะเรื่องราว แปลกๆ ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ไม่น่าเป็นเกมส์ตื้นๆให้อ่านง่ายๆของแต่ละฝ่าย มีอย่างที่ไหนอยู่ดีๆฝ่ายรัฐบาลก็โยนแก็สไปให้ฝ่ายค้านก่อไฟ ทั้งที่เห็นๆอยู่ว่าฝ่ายค้านมีแต่ฟืนเปียก ถ้ารัฐประหารเกิดชึ้นจริงๆ ก็ได้แต่ออกตัวไว้แบบนี้แหละ ว่าสังหรณ์ใจไว้แล้ว และ ถ้ามีการ set zero ตามมาก็งานนี้ เป็นโรงละครแห่งชาติ แต่ถ้ามีฝ่ายหนึ่งต้องเร่ร่อน ก็กลายเป็น หลังหักซ้ำซาก 555
4. รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป
ข้างบน เอาโอกาสไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก ฟันธง
*************
หมดเรื่องเหตุการณ์ของฝ่ายการเมืองแล้ว ก็ขอคาดการณ์เรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฝ่ายประชาชนบ้าง
1. ประชาชนที่ร่วมชุมนุม ปลอดภัย ไม่มีใครต้องบาดเจ็บสาหัส หรือ สูญเสียชีวิต
ข้อนี้ได้แต่ ภาวนา ให้ได้บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทยสักครั้งเถอะ ว่าการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองจนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจได้ไม่มีมือใครต้องเปื้อนเลือด
2. มีรายชื่อวีรชนจารึกไว้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก
พยายามคิดแบบโลกสวยเท่าไหร่ แต่พอลืมตาเห็นประวัติศาสตร์ เห็นความจริงแห่งยุทธวิธีของเหล่าผู้แสวงหาอำนาจทั้งหลายตรงหน้าแล้ว ก็คงต้องทำใจและเข้าใจว่า มันก็เป็นเช่นนั้นแล ทุกม็อบการเมือง เมื่อปลุกประชาชนให้ตื่นได้แล้ว ก็ต้องมีบางคนต้องดับ หวังว่าผู้แสวงหาอำนาจทั้งหลายจะปรานี อย่าให้เยอะนักเลย .... สัพเพ สัตตา อเวราโหนตุ
*** แกนนำดับ เป็นม็อบความเดือดร้อนของประชาชน ***
*** ประชาชนดับ เป็นม็อบความกระหายอำนาจของนักการเมือง ***
นี่คือข้อสังเกตุ ให้ท่านทั้งหลายลองย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
อีกไม่นานก็จะได้รู้กันไปว่า ระหว่างหมอดูเวลาตกฟาก กับ หมอดูตามข่าวไปเรื่อย ... ก็หน้าแหกเหมือนกันมั๊ย
ปล. ไม่ได้รู้ข้อมูลวงใน วงไหนทั้งนั้น ก็เอาข้อมูลจากข่าว จากเวทีต่างๆ มาหัดคิด หัดเดา แค่นั้น
ขอทำตัวเป็นหมอดูสักครั้ง .. ในวันสุกดิบ
เหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นเร็วๆนี้ ผมลองตั้งความเป็นไปได้ 4 เรื่อง
1. นายกฯลาออก
ข้อนี้ เป็นไปไม่ได้เลย ฝ่ายรัฐบาลก็ไม่ต้องการ ฝ่ายค้านก็ไม่เอา โอกาสที่จะเกิด 0 %
2. ยุบสภา
โอกาสผมให้ถึง 70 % เครือข่ายของฝ่ายค้านเปิดหน้าชกพร้อมเพรียงกันขนาดนี้ คงไม่มีทางหยุดถอยกลับแน่นอน การประกาศปิดประเทศ นัดหยุดงาน หยุดเรียน หยุดให้ความร่วมมือกับรัฐบาล ... มาออกแนวอารยะขัดขืน ก็คงต้องการกดดันให้มีการยุบสภา เพื่อไปให้ถึงเป้าหมายที่ตั้งไว้ตอนเริ่มชุมนุม คือหยุดพ.ร.บ.เหมาเข่ง จะได้ประกาศชัยชนะได้ พร้อมทั้งสำเร็จวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของการออกมาเคลื่อนไหวครั้งนี้ด้วย ตอนนี้ฝ่ายค้านพร้อมจะเลือกตั้งแล้ว และเชื่อว่าคราวนี้ ผลเลือกตั้งออกมาสูสีแน่ ดีไม่ดี ก่อนยุบสภา นายกฯ อาจโดนสอย มีคดีติดตัว ทำให้ไม่สามารถลงแข่งขันชิงอำนาจต่อได้
ฝ่ายรัฐบาล ตอนนี้คงพยายามหาทางยื้อไปให้นานที่สุดเพื่อหาประเด็นต่างๆใช้ตอนหาเสียง หรือไม่แน่อาจเต็มใจยุบสภา เพราะก็เป็นเป้าหมายของฝ่ายรัฐบาลเช่นกัน หมดเวลาของตัวสำรองแล้ว หรือไม่ก็เข็นนโยบายต่อไปไม่ไหว มั่นใจว่ากลับไปเลือกตั้ง เปลี่ยนนโยบาย เปลี่ยนตัวเล่นใหม่ โละพวกประถมออกไป เอามหาลัยกลับเข้ามา มั่นใจว่ายังไงก็ยังได้กลับมาคุมอำนาจ พอให้น้ำหนักทั้งสองฝ่ายโอกาสได้รับประโยชน์ไปเท่าๆกัน ก็น่าจะมียุบสภาเร็วๆนี้
3. รัฐประหาร
โอกาสให้ 30 % ที่จริงก็ชั่งน้ำหนักระหว่างยุบสภา กับ รัฐประหาร อะไรน่าจะมีโอกาสมากกว่า ลึกๆก็คิดว่ารัฐประหาร เพราะเรื่องราว แปลกๆ ทั้งหลายที่เกิดขึ้น ไม่น่าเป็นเกมส์ตื้นๆให้อ่านง่ายๆของแต่ละฝ่าย มีอย่างที่ไหนอยู่ดีๆฝ่ายรัฐบาลก็โยนแก็สไปให้ฝ่ายค้านก่อไฟ ทั้งที่เห็นๆอยู่ว่าฝ่ายค้านมีแต่ฟืนเปียก ถ้ารัฐประหารเกิดชึ้นจริงๆ ก็ได้แต่ออกตัวไว้แบบนี้แหละ ว่าสังหรณ์ใจไว้แล้ว และ ถ้ามีการ set zero ตามมาก็งานนี้ เป็นโรงละครแห่งชาติ แต่ถ้ามีฝ่ายหนึ่งต้องเร่ร่อน ก็กลายเป็น หลังหักซ้ำซาก 555
4. รัฐบาลบริหารประเทศต่อไป
ข้างบน เอาโอกาสไปหมดแล้ว ก็คงไม่มีทางเกิดขึ้นหรอก ฟันธง
*************
หมดเรื่องเหตุการณ์ของฝ่ายการเมืองแล้ว ก็ขอคาดการณ์เรื่องที่จะเกิดขึ้นกับฝ่ายประชาชนบ้าง
1. ประชาชนที่ร่วมชุมนุม ปลอดภัย ไม่มีใครต้องบาดเจ็บสาหัส หรือ สูญเสียชีวิต
ข้อนี้ได้แต่ ภาวนา ให้ได้บันทึกเป็นประวัติศาสตร์ประเทศไทยสักครั้งเถอะ ว่าการชุมนุมใหญ่ทางการเมืองจนสามารถเปลี่ยนแปลงโครงสร้างอำนาจได้ไม่มีมือใครต้องเปื้อนเลือด
2. มีรายชื่อวีรชนจารึกไว้ในประเทศไทยเพิ่มขึ้นอีก
พยายามคิดแบบโลกสวยเท่าไหร่ แต่พอลืมตาเห็นประวัติศาสตร์ เห็นความจริงแห่งยุทธวิธีของเหล่าผู้แสวงหาอำนาจทั้งหลายตรงหน้าแล้ว ก็คงต้องทำใจและเข้าใจว่า มันก็เป็นเช่นนั้นแล ทุกม็อบการเมือง เมื่อปลุกประชาชนให้ตื่นได้แล้ว ก็ต้องมีบางคนต้องดับ หวังว่าผู้แสวงหาอำนาจทั้งหลายจะปรานี อย่าให้เยอะนักเลย .... สัพเพ สัตตา อเวราโหนตุ
*** แกนนำดับ เป็นม็อบความเดือดร้อนของประชาชน ***
*** ประชาชนดับ เป็นม็อบความกระหายอำนาจของนักการเมือง ***
นี่คือข้อสังเกตุ ให้ท่านทั้งหลายลองย้อนไปดูประวัติศาสตร์ของเหตุการณ์ต่างๆที่ผ่านมา
อีกไม่นานก็จะได้รู้กันไปว่า ระหว่างหมอดูเวลาตกฟาก กับ หมอดูตามข่าวไปเรื่อย ... ก็หน้าแหกเหมือนกันมั๊ย
ปล. ไม่ได้รู้ข้อมูลวงใน วงไหนทั้งนั้น ก็เอาข้อมูลจากข่าว จากเวทีต่างๆ มาหัดคิด หัดเดา แค่นั้น