[Review] Tokyo Bandwagon ซีรี่ส์ครอบครัวแสนอบอุ่น ผลงานล่าสุดของหนุ่มคาเมะ




    สำหรับซีรี่ส์ญี่ปุ่นใน Season นี้มีซีรี่ส์ที่น่าจับตามองอีกเรื่องคือ “Tokyo Bandwagon” ค่ะ
สิ่งที่น่าสนใจอันดับแรกเลยก็คือ ตัวนักแสดงนำ ซึ่งก็คือ “คาเมะนาชิ” ขวัญใจสาวไทยหลายๆ คน
อีกทั้งเป็นการกลับมารับงานละครในรอบสองปีของคาเมะอีกด้วย ซึ่งที่น่าในใจอันดับต่อมาคือ
เป็นซีรี่ส์ที่เรตติ้งค่อนข้างน้อย ทั้งๆ ที่คาเมะรับบทแสดงนำ เรตติ้งของเรื่องนี้อยู่ระหว่าง 7-8% เท่านั้น
เหตุผลนี้ก็ทำให้บางคนเลือกที่จะไม่ดู ในขณะที่บางคนก็อาจเกิดความสงสัยว่าทำไมเรตติ้งถึงไม่สูงมากนัก
    เอาเป็นว่าวันนี้จะมาเล่าเกี่ยวกับเรื่อง “Tokyo Bandwagon” ให้ฟังค่ะว่า "ซีรี่ส์เรื่องนี้สนุกหรือไม่สนุกอย่างไร"


Tokyo Bandwagon เป็นซีรี่ส์ที่ดัดแปลงมาจากนวนิยายของโชจิ ยูกิยะ ที่เคยได้รับการโหวตในปี 2009 ว่า
เป็นนวนิยายที่คนอยากให้นำมาทำเป็นละครมากที่สุด ซึ่งเรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับครอบครัวหนึ่ง
ที่ประกอบอาชีพเปิดร้านขายหนังสือมือสองและร้านคาเฟ่ (ที่ขายพวกกาแฟและขนม)
ซึ่งภายในร้านจะให้บรรยากาศแบบเก่าๆ เป็นร้านที่ตั้งอยู่ในโตเกียวในส่วนของ Shitamachi
เป็นพื้นที่ที่ผู้คนมักประกอบการค้าขาย และยังคงดำรงวัฒนธรรมแบบดั้งเดิมไว้อยู่

ซึ่งครอบครัวนี้เป็นครอบครัวขนาดใหญ่ มีคนในครอบครัวถึง 4 รุ่นด้วยกัน ในเรื่องนี้ก็จะมีเรื่องราวต่างๆ มากมายที่เป็นอุปสรรค
หรือเหตุการณ์ของปัญหาต่างๆ ให้พวกเขาต้องไปพัวพันและร่วมกันแก้ไขปัญหาค่ะ

    Tokyo Bandwagon คำว่า “Bandwagon” ก็คือคำทับศัพท์มาจากภาษาอังกฤษตามที่เข้าใจกันนั่นแหละค่ะ
แปลได้ว่า ร้านที่เป็นที่นิยมในโตเกียว เรื่องนี้ก็จะเป็นซีรี่ส์แนวครอบครัวทั่วไป
สำหรับเรื่องนี้หนุ่มคาเมะก็รับบทเป็น “อาโอะ” หนุ่มเพลย์บอย ขี้เมา แต่ภายหลังได้ตั้งปฏิภาณว่า
จะไม่ดื่มอีก หลังจากที่ทำไม่ดีกับนางเอกตอนที่เมา



อุตะ!!!


อาโอะเป็นคนที่ไม่ได้เชื่อถือในความรักมากนัก ต่างกับพ่อเขาที่เอาแต่พูดว่า Love だね (Love da ne) รักสินะ
พร้อมกับเวลากลับมาบ้านจะต้องพูดว่า  ただいま (tadaima) กลับมาแล้วจ้า
และคนในบ้านต้องพูดตอบกลับว่าおかえり (okaeri) ยินดีต้อนรับกลับบ้านจ้า ซึ่งก็ถือว่าเป็นวัฒนธรรมของชาวญี่ปุ่นอยู่แล้ว
แต่พระเอกของเราไม่ทำเช่นนั้น เมื่อเห็นพ่อกลับบ้านก็จะบ่นๆ และก็จบลงด้วยการลงไม้ลงมือกัน
เป็นพ่อลูกที่ไม่ค่อยถูกกันสักเท่าไรนัก


    คาเมะ หรือ “อาโอะ” ดูเหมือนจะเป็นคนไม่ค่อยเชื่อถือในความรักมากนัก แต่วันหนึ่งความรักก็ได้เกิดขึ้นกับเขา
เขาตกหลุมรักกับเด็กนักศึกษาคนหนึ่งชื่อว่า “Suzumi Makino” เด็กผู้หญิงธรรมดาที่แสนจะเรียบร้อย
แต่เธอคนนี้กลับสามารถขโมยหัวใจของเขาไปได้ เธอคนนี้เป็นคนที่ชื่นชอบหนังสือเก่ามากๆ
ก็เลยเข้าทางเจ้าอาโอะมันที่ที่บ้านก็เปิดร้านหนังสือมือสองอยู่แล้ว ก็ยิ่งทำให้สานความสัมพันธ์ได้มากยิ่งขึ้น
    เมื่อดูเรื่องนี้ก็จะพบว่า โอ้!!! ตัวละครเยอะมากกกก ดูได้ตามชาร์ตแสดงความสัมพันธ์นี้ได้เลยค่ะ


ปัญหาก็คือ เราอาจจะสับสนชื่อและตัวละคร หลายคนอาจมองว่านี่เป็นจุดหนึ่งที่เป็นจุดด้อยของเรื่องนี้
ตัวละครเยอะ จำยาก ดูสับสน แต่ในขณะเดียวกันการที่มีตัวละครมากๆ แบบนี้ มันสามารถให้บรรยากาศที่อบอุ่นของครอบครัวได้
เป็นครอบครับที่ครึกครื้น ไม่เงียบเหงา และไม่โดดเดี่ยว

    ด้านเนื้อเรื่องก็จะออกแนวพล็อตประมาณว่า คนในครอบครัวต้องเข้าไปเกี่ยวข้องกับเหตุการณ์บางอย่าง
ซึ่งเหตุการณ์นี้ก็จะเป็นปมปัญหาของคนที่มีความเกี่ยวเนื่องกับคนในบ้าน Hotta ทำให้บ้าน Hotta ต้องร่วมกันช่วยแก้ไขปัญหา

เนื้อหาในเรื่องก็จะออกแนวเบาๆ ก็ว่าได้นะ ดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ แต่ก็ใช่ว่ามันจะไม่มีอะไร
เรื่องนี้ก็ยังคงให้อารมณ์ความซึ้ง ทำให้เห็นความสำคัญของคนในครอบครัว มีคำคม
ข้อคิดดีๆ ตามสไตล์ซีรี่ส์ญี่ปุ่นที่จะมาสร้างความประทับใจให้กับเราเช่นเคย




    เรื่องนี้อาจจะเป็นเรื่องที่น่าเบื่อไปนิดสำหรับบางคน ถ้าเอาไปเทียบกับซีรี่ส์ครอบครัวเรื่องอื่นอย่างเช่น
Kazoku Game, แม่บ้านมิตะ, Woman เรื่องนี้ก็จะดูดร็อปไปเลยค่ะ ในเรื่องความเข้มข้น ความดราม่าของเนื้อหา

แต่... Tokyo Bandwagon ก็มีในสิ่งที่ซีรี่ส์ครอบครัวเรื่องอื่นๆ ยังด้อย หรือนำเสนอออกมาได้น้อยกว่า
ซึ่งก็คือบรรยากาศความอบอุ่นภายในครอบครัว ที่นำเสนอออกมาได้ดี ใครที่ได้ดูต่างก็ต้องรับรู้ได้ถึงความรู้สึกนี้
รวมทั้งเรื่องความรักระหว่างหนุ่มสาวที่สอดแทรกเข้ามา



ทำให้เราได้เห็นว่า ซีรี่ส์แนวครอบครัวกับความรักชายหญิงก็สามารถเอาผสมกันได้นะ
ซึ่งสิ่งเหล่านี้ก็แสดงไปยัง Theme หลักของเรื่อง ก็คือ “ความรัก” ที่เรื่องนี้ต้องการนำเสนอ
เป็นความรักในรูปแบบของครอบครัว และความรักที่แท้จริงสำหรับคนรัก ที่ไม่ได้หวือหวามากจนเกินไป
แต่เป็นการนำเสนอให้เห็นค่า ความสำคัญ และความหมายที่แท้จริงของความรัก ที่ไม่ใช่ “ความใคร่”

    ความพิเศษของเรื่องนี้ เราคิดว่า เป็นการที่เขานำเรื่องความรักระหว่างของหนุ่มสาวเข้ามาด้วย
ทำให้เรื่องน่าสนใจมากกว่าที่จะนำเสนอแนวครอบครัวอย่างเพียวๆ

ดูเหมือนว่าเป็นอีกเรื่องที่น่าสนใจ แถมนักแสดงก็ยังเป็นขวัญใจของคนจำนวนมาก
แต่ Tokyo Bandwagon ก็ทำเรตติ้งได้น้อยนิด เปิดตัวตอนแรกที่ 8.8% จนถึงตอนปัจจุบัน (ตอนที่4)
เรตติ้งก็ลดลงมาเรื่อยๆ หยุดอยู่ที่ 6.3% เรตติ้งเฉลี่ยรวมทั้ง 4 ตอนอยู่ที่ 07.78%
สาเหตุก็อาจเป็นเพราะเนื้อหาที่ยังเบาไปนิด ถ้าเทียบกับเรื่อง Legal High 2, Doctor X
ที่มีเนื้อหาเข้มข้นถึงพริกถึงขิงสุดๆ

อีกเหตุผล ไม่รู้จะเกี่ยวด้วยหรือเปล่า อันนี้เป็นความคิดเห็นส่วนตัวค่ะ เราคิดว่านางเอกยังไม่ค่อยเข้าตาสักเท่าไร
ถ้าพูดถึงบุคลิกของตัวละคร เธอคนนี้ก็ค่อนข้างเหมาะกับบุคลิกสาวเรียบร้อยนะคะ แต่มีความรู้สึกว่า เคมียังไม่ค่อยเข้ากัน


    ถึงเรตติ้งจะไม่สูงมากนัก แต่สำหรับเราแล้ว Tokyo Bandwagon เป็นซีรี่ส์อีกเรื่องหนึ่งที่น่าติดตามค่ะ ถ้าดูซีรี่ส์หนักๆ มา
ประมาณว่าดูซีรี่ส์สืบสวน เลือดสาดมา แล้วรู้สึกหดหู่ใจมาก หรือไปดูไอ้ทนายโคมิคาโด (Legal High ขอแซวถึงเฮียนิดนึง
พักนี้เรตติ้งพุ่งเกินหน้าเกินตา อิอิ) พูดเร็วตับแล่บ แร็พยิ่งกว่า Sho Sakurai แร็พเตอร์แห่งวงอาราชิเสียอีก รู้สึกปวดหัวฟังไม่ทัน  
ก็มาตบท้ายด้วยเรื่องนี้ก็ดีค่ะ ปรับอารมณ์ให้เบาๆ สบายๆ เรื่องนี้ก็เป็นอีกเรื่องที่ช่วยได้ค่ะ
Plot ไม่ได้ดูซับซ้อนหรือตื่นเต้นอะไรมาก แต่ดูแล้วอุ่นใจ เพลิดเพลินดีค่ะ


ที่สำคัญแฟนคลับคาเมะไม่ควรพลาดอย่างยิ่งค่ะ เพราะเรื่องนี้คาเมะเล่นได้น่ารักมาก (เหตุผลอีกข้อที่ควรต้องติดตามเรื่องนี้เลยล่ะ)
มีหลายฉากที่ดูแล้วน่ารักดี เรื่องนี้คาเมะเล่นได้เป็นธรรมชาติมากขึ้นนะคะ
ที่ชอบมากๆ ก็ฉากเลี้ยงเด็กนี่แหละ ดูไปแอบมโนไปเบาๆ ฮ่าๆๆๆ



    สำหรับซับไทยถูกปล่อยออกมาแล้ว 2 ตอน
ตอนแรกเป็นตอนที่บ้าน Hotta ต้องร่วมกันคลายปริศนาหนังสือลึกลับที่เดี๋ยวก็ถูกวางไว้ที่ชั้นหนังสือและเดี๋ยวก็หายไปอย่างไร้ร่องรอย
คนในบ้านต่างไม่รู้ว่า หนังสือเล่มนี้มาจากไหน



ตอนที่สอง เป็นตอนที่จู่ๆ ก็มีเด็กทารกมาอยู่ในบ้าน Hotta  คนในบ้าน (โดยเฉพาะอาโอะ) ต้องกลายมาเป็นคนเลี้ยงดูเด็ก
พร้อมกับเรื่องราวเบื้องหลังของเด็กคนนี้ที่รอให้พวกเขาได้ค้นหากันต่อไป



ตอนที่สองนี้น่าสนใจตรงที่ว่าหนุ่มยูโตะได้มาเป็นนักแสดงรับเชิญด้วย เป็นการโคจรมาพบกันอีกครั้ง
ระหว่างคาเมะและยูโตะที่เคยร่วมงานกัน เล่นเป็นพี่น้องกันในเรื่อง Nobuta wo Produce เมื่อ 8 ปีที่แล้ว



    สุดท้ายนี้ก็อย่าลืมติดตามเรื่อง Tokyo Bandwagon นะคะ ใครดูแล้วมีความคิดเห็นอย่างไรก็มาเล่าสู่กันฟังได้
เนื้อหาทั้งหมดที่เขียนมาเป็นความคิดเห็นส่วนตัวของผู้เขียนค่ะ อาจจะเห็นแตกต่างบ้างก็ไม่เป็นไรเน๊อะ
ขอบคุณทุกคนที่อ่านมาจนถึงบรรทัดนี้นะคะ ^^

ใครสนใจอยากพูดคุย หรือรับสาระดีๆ เกี่ยวกับซีรี่ส์ญี่ปุ่นก็ตามมาที่เพจ Sakura Dramas ได้เลยค่ะ ^^ >>>https://www.facebook.com/sakuradramas

ส่วนซับไทยดีๆ ที่ทำโดยคนไทยใจดี เพื่อนๆ สามารถรับชม และติดตามความเคลื่อนไหวของพวกเขาได้ที่
เพจ Dark-Dramas เลยค่ะ >>>https://www.facebook.com/FC.DarkDramas
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่