คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 12
เมื่อใช้กฎของนิวตันจะเป็นแบบที่ที่เข้าใจกันซึ่วนิวตันถือว่าเวลาเป็นสิ่งสัมบรูณ์เวลาทุกคนจะเท่ากัน ซึ่งจะต้องอยู่ในกรอบอ้างอิงของผู้สังเกตุ แต่ถ้าสเกลของจักวาลจะต้องใช้ทฤษฎีสัมพัทธภาพมาอธิบาย ซึ่งไอสไตน์จะถือว่าเวลาจะไม่ใช่สิ่งสัมบรูณ์ เวลาของแต่ละคนจะไม่เท่ากันขึ้นอยู่กับความเร็ว ซึ่งมันมาจากคุณสมบัติของแสง คือ แสงมีความเร็วที่คงที่เสมอ คือ สามร้อยล้าน เมตร ต่อ วินาที จะคงที่เสมอ ไม่ลดและเพิ่ม เช่น เราขับรถด้วยความเร็ว 100 เมตร ต่อ วินาที แล้วเปิดไฟ แสงควรต้องมีความเร็วเป็น สามร้อยล้านหนึ่งร้อย เมตรต่อวินาที แต่จักวาลไม่ยอมให้เป็นแบบนั้น จาก V= s/t เพื่อรักษา ความเร็วแสงให้เท่าเดิม ดังนั้น จะทำให้ s เพิ่มขึ้น และ t ลดลง เพื่อทำความเร็วแสงให้เท่าเดิม ก็คือ เราจะยืดระยะทาง และ ลดเวลาลง นอกจากนั้นยังเพิ่มมวลอีกด้วย จากทฤษฎี เมื่อแก้ปัญหาด้วยคณิตศาสตร์ จนเป็นสมาการที่โด่งดังคือ E=mc^2 ซึ่งทั้งหมดได้พิสูจน์ว่าจริงจากทั้งเรื่องนาฬิกาอะตอม และระเบิดนิวเคลียร์
แสดงความคิดเห็น
เวลาช้าลง เมื่อแรงโน้มถ่วงสูงขึ้น เพราะ?
ถ้าเราเวลาช้าลง เราจะไม่รู้สึกว่าเรา slow แม้แต่เวลาเราหยุดเราก็จะไม่รู้สึกเพราะ สัมผัสทั้ง5ของเราก็หยุดไปด้วย แต่เราก็รู้สึกปกติของเราเมื่อเวลากลับมาเดินต่อ เราก็เหมือนไม่มีไรเกิดขึ้น ซึ่งมันอาจเคยเห็นมาแล้วก็ได้
ผู้สังเกตุอื่นที่เวลาต่างจากเราจะสังเกตเห็นความแตกต่างนี้ หรือว่าถ้า คนที่อยู่จุดอื่นในจักรวาลเคลื่อนที่ห่างเราไป ก็จะเห็นเวลาเราช้าลงทั้งๆที่เราก็ปกติ เราก็เห็นเค้าเป็นแบบนี้เช่นกัน คล้ายปรากฎการณ์ดอบเลอร์เลยนะ(ผมคิด) แล้วแบบนี้ สสารและแสงมันคืออะไรกันแน่ในจักรวาลของเรา?
อิงศาสนานิดหน่อย เคยดูที่พระมรณภาพแล้วฟื้นกลับมาเล่าให้คนอื่นฟัง ไปแค่ไม่นานพอกลับมา ผ่านไป 3 วัน แสดงว่า โลกทิพย์(นรก สวรรค์) ก็อยู่ในจักรวาลของเราเช่นกัน
ยิ่งอธิบายยิ่งงง ลองช่วยกันแสดงความคิดเห้นหน่อยนะครับ เป็นความรู้ใหม่ๆ หนุกๆกัน อย่าเครียดมากนะ เดี๋ยวบ้า ฮ่าๆๆๆๆ