สวัสดีครับชาวพันทิป และชาวห้องบลูแพลนเน็ตทุกท่าน จริงๆ ผมก็เห็นกระทู้รีวิวการเดินทางไปเวียดนามในห้องนี้มาเยอะแล้ว แต่พอดีมีเพื่อนๆผมมาคะยั้นคะยอให้ผมเขียนรีวิวการเดินทางไปเวียดนามเมื่อปลายเดือนตุลาคมที่ผ่านมาให้หน่อย ตัวผมเองก็ไม่เคยเขียนรีวิวการท่องเที่ยวมาก่อน ก็เลยตัดสินใจว่า “ลองเขียนลงพันทิปเป็นที่แรกแล้วกันวะ” เพราะผมเป็นติ่งห้องนี้มาหลายปีแล้ว แอบติดตาม แอบอ่านเส้นทางการท่องเที่ยวของคนอื่นมาก็พอสมควร บางครั้งก็ชวนเพื่อนๆตามรอยกระทู้นั้น กระทู้นี้ ตามเขาไปเรื่อย
จนเมื่อ 2 เดือนก่อน มานั่งดูวันลาพักร้อน ปราฏว่ายังเหลืออีกเยอะ ก็เกิดอารมณ์นึกคึก อยากจะลองไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวดู ครั้นจะไปยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เขาฮิต ชอบที่จะไปกัน งบประมาณในกระเป๋าก็ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่าน่าจะลองประเทศใกล้ๆ ลองไปสำรวจเพื่อเตรียมเปิด AEC ดูสักหน่อย เลือกไปเลือกมา ก็มาเจอ 2 กระทู้นี้ครับ
http://www3.ppantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11421876/E11421876.html
http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2012/08/E12562843/E12562843.html
ก็เลยตัดสินใจว่า เวียดนาม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้น และที่ๆผมจะไป ก็คงจะเป็น Hanoi กับ Sapa
จริงๆแล้วผมก็เคยไปเที่ยวคนเดียวมาก่อน แต่มันก็ในประเทศ ผมก็เลยไม่รู้ว่ามันจะมีความแตกต่างกันหรือเปล่า จะต้องวางแผนเยอะขนาดไหน ผมก็หาข้อมูลเพิ่มเติมในห้องนี้แหละครับ หลังจากคิดและวางแผนเคร่าๆแล้ว ผมก็ตัดสินใจว่า “จะไปภาคพื้นดิน แล้วบินตอนขากลับ” แผนการเดินทางก็เลยออกมาประมาณนี้ครับ
วันที่ 0 นั่งรถจากกรุงเทพ-หนองคาย
วันที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ เที่ยวสัก 1 วัน แล้วเย็นนั่งรถไปฮานอย
วันที่ 2 อยู่แต่บนรถถึงฮานอยตอนเย็นๆ
วันที่ 3 ไปเที่ยว Tamcoc หรือฮาลองบกของคนไทย ตอนเย็นก็นั่งรถไฟไป Sapa
วันที่ 4 ถึงซาปา ก็ซื้อ package Homestay ไปพักกับชาวเขาในหมู่บ้าน โดยเดินเลาะเขาเข้าไป
วันที่ 5 เดินเลาะเขากลับมาเที่ยวในตลาด ซาปา เย็นนั่งรถไฟกลับฮานอย
วันที่ 6 ถึงฮานอย เที่ยวในเมือง
วันที่ 7 นั่งเครื่องบินกลับไทย
เมื่อแผนการเดินทางผมคลอดแล้ว สิ่งที่ต้องคิดตามมาก็คือเราจะต้องซื้ออะไร ยังไง ตอนไหนบ้าง ด้วยความที่งานของผมช่วงนั้นค่อนข้างเร่ง เลยไม่มีเวลาหาข้อมูลมาก ก็เลยอาศัย Mrs.Nga ผู้ที่หลายคนในห้องนี้กล่าวถึง ให้ช่วยจองพวก ตั๋ว ทัวร์ และโรงแรมให้ ด้วยความที่ไม่มีเวลาหาข้อมูลมาก ราคาก็เลยออกมาอยู่ที่ 183$ รายละเอียดตามรูปเลยครับ
รายละเอียดการจองต่างๆกับ Mrs.Nga
สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมจากนี้ ก็คือการเดินทางให้ไปถึงฮานอยด้วยรถโดยสารทั้งหลาย ตั้งแต่ รถทัวร์ไปหนองคาย การข้ามไปลาว จากตลาดเช้าไปท่ารถที่จะไปฮานอย ซึ่งกระทู้ที่มีก็มีคำบรรยายอะครับ รอบนี้ผมก็เลยพยายามถ่ายภาพมาให้มากที่สุด เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนที่อยากจะไปบ้าง
ตั๋วเครื่องบินขากลับก็ลุ้นเอาแต่ละวันครับ ยังกับเล่นหุ้น ต้องรอดูวันที่มันลงมาราคาต่ำสุด แล้วก็ได้มาในราคา 2200 บาท รวมค่าโหลดกระเป๋า และนู่นนี่นั่นแล้ว ถ้าผมคิดเร็วกว่านี้ ก็อาจจะได้ราคาถูกกว่านี้แหละครับ
ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 14,000 บาทครับ รวมค่ากิน ของฝาก ฯลฯ เดี๋ยวผมจะสรุปให้ทีหลังครับ จริงๆมันควรจะถูกกว่านี้ครับ ถ้าไม่มีความผิดพลาดจากความฉลาดน้อยของผมเอง อ่านไปเดี๋ยวจะรู้ครับว่าไปโดนอะไรมาบ้าง อย่างที่เขาว่าแหละครับ “ไม่โดนหลอก ถือว่ามาไม่ถึงเวียดนาม”
ผมขอเล่าคล้ายๆบันทึกประจำวันแล้วกันนะครับ อาจจะมีอารมณ์ ณ ขณะนั้นปะปนบ้าง เพื่อเป็นสีสันสักหน่อยนะครับ ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร ติชมกันได้ครับ
21 ตุลาคม 2556 [กรุงเทพฯ-หนองคาย]
ผมขอนับวันนี้เป็นวันที่ 0 ของการเดินทางแล้วกันครับ เพราะตอนที่เริ่มการเดินทาง มันก็ตอนเย็นแล้ว ผมเก็บของใส่กระเป๋า Backpack 1 ใบ แล้วก็ประเป๋าเป้ใส่ของกับกล้องต่างหากอีก 1 ใบ แบกมาทำงานด้วย วันนั้นผมไม่ค่อยเป็นอันทำงานเลยครับ ใจจดใจจ่อให้เวลามันเดินเร็วๆ ไปจนถึงเวลาเลิกงาน พอเวลานั้นมาถึง ผมก็เด้งออกจากที่ทำงาน โบกพี่แทก(ซี่) ไปส่งที่ท่ารถของนครชัยแอร์ครับ ค่าตั๋วก็ 762 บาท สามารถจองได้ผ่าน Call Center แล้วไปจ่ายเงินที่ Seven เอาครับ พอไปถึงผมก็ไปนั่งรอจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง ก็ได้เวลาขึ้นรถครับ ขึ้นไปก็กินข้าวที่เขาแจก ก่อนที่จะหลับยาวเลยครับ….
22 ตุลาคม 2556 [หนองคาย เวียงจันทร์]
ตื่นมาก็มาถึงหนองคายประมาณ ตี 5 ครึ่ง ตอนแรกผมว่าจะรอหารถข้ามไปลาวตามที่เคยอ่านในกระทู้ที่เคยบอกไว้ แต่พอดีเจอพี่คนหนึ่ง เป็นวิศวกรการบินไทย เขาจะข้ามไปฝั่งลาวเพื่อไปหาเมียพอดี ก็เคยนั่ง 3 ล้อไปพร้อมๆกัน คนละ 50 บาท ไปที่ด่านตรงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผมเพิ่งรู้ครับว่าที่ลาว หอยแครงเป็นสิ่งที่หายากมาก เพราะพี่เขาต้องแวะซื้อจากฝั่งไทย ไปฝากเมียที่ลาว พี่บอกว่า ที่ฝั่งนู้นหากินยาก ผมก็คิดในใจว่า ก็แม่น้ำโขงเหมือนกัน ทำไมถึงหายาก ใครรู้ช่วยมาบอกผมหน่อยนะครับ ผมไม่กล้าถามพี่เขา
รูปที่ด่านครับ
พอมาถึงที่ด่าน ก็เห็นมีคนมารออยู่จำนวนหนึ่ง ระหว่างนี้ก็ไปอาบน้ำตามสบายครับ ตรงนั้นมีห้องน้ำอยู่ ช่วงนี้เราก็ต้องกรอกเอกสารจำพวกใบออกนอกเมือง เก็บอีกข้างที่ไว้สำหรับขาเข้าไว้ด้วย จะช่วยให้เร็วขึ้น เพราะเขาจะได้ไม่ต้องหาประวัติขาออกของเราต่างหากเวลากลับเข้ามา พอถึงเวลาด่านเปิดก็ขึ้นรถเมล์เสียคนละ 20 บาท นั่งไปลงด่านฝั่งลาว เสียค่าธรรมเนียมค่าเข้าอีก 40 บาท จะได้เป็นบัตรคล้ายๆกับบัตรรถไฟฟ้ามา ตอนนั้นผมมีแต่แบงค์ 500 ไทย เจ้าหน้าที่ไม่มีทอน พี่วิศวกรการบินผู้ใจดี ก็เลยออกให้ก่อน พอเดินมาก็จะมีประตูกั้น เราต้องเอาบัตรที่ได้เมื่อกี้ไปเสียบ เหมือน BTS ยังไงอย่างงั้น ออกมาจากด่านก็จะพบกับคนขับรถรับจ้างมากมาย กรูกันเข้ามาเพื่อเสนอราคไปที่นั่นที่นี่ ตอนแรกคุยกับพี่เขาว่าจะนั่งรถเมลล์กันไป แต่พอเราเดินหนีกลุ่มรถรับจ้างไปเรื่อย เขาก็เสนอราคาลดลงเรื่อยๆ จนเราตกลงที่ 40 บาท ไปลงตลาดเช้า นั่งบนรถใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงบริเวณตลาดเช้า ซึ่งเต็มไปด้วยรถเมล์สายต่างๆ ก็เลยขอนั่งพักกินกาแฟกันสักหน่อย
รถที่นั่งไปตลาดเช้า
พอแยกจากพี่วิศวกรผู้มีพระคุณแล้ว ผมก็เดินไปหารถไปขนส่งสายใต้ของลาวครับ เพื่อจะเตรียมข้อมูลไว้ก่อน แล้วค่อยไปประมาณเที่ยง ระหว่างนี้ก็จะมีกลุ่มรถรับจ้างเข้ามาคุย พอถามเขาถึงรถไปสายใต้ เขาจะบอกว่าไม่มี ที่นี่มีแต่รถข้ามประทศ อย่าไปเชื่อเด็ดขาดนะครับ มันมีอยู่ ลองเดินไปหารถเขียวๆดูครับ จะมีรถไปสายใต้ พอเจอป้ายหน้ารถ ที่พอจะอ่านได้ว่า “ขนส่งสายใต้” (ภาษาลาวเดาไม่ยากครับ คล้ายๆภาษาไทย) ผมก็เข้าไปคุยกับคนขับถามเกี่ยวกับรถไปฮานอย เขาบอกว่า “โอ้ย มีทั้งวัน ไปได้เลย” ขึ้นรถเลย ผมก็เอะใจ เพราะว่าที่อ่านมามันมีแต่รถนอน แต่ก็ขึ้นไป เผื่อว่าข้อมูลมีการ update เสียค่ารถไปประมาณ 5000 กีบ หรือราวๆ 20 บาท ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ปรากฏว่า ถามไปถามมา รถมันมีแค่ 6 โมงครึ่งเหมือนที่เคยอ่านรีวิวมาอยู่ดี ก็เลยได้ซื้อตั๋วก่อนเวลา ราคา 200,000 กีบ = 800 บาท ถ้ามาซื้อตอนเย็นจะโดนแพงกว่านี้ เพราะเห็นมีคนโดนมาแล้ว แล้วก็จะได้นอนพื้นด้วย
รถที่พาไปสายใต้ครับ สีเขียวๆแบบนี้เลย
ตรงนี้คือขนส่งสายใต้ลาวนะครับ
ตั๋วไปฮานอย พร้อมเวลาออกครับ
รถออกหกโมงเย็น ตอนนั้นเพิ่งจะ 9 โมงเอง “แล้วระหว่างนี้ตรูจะไปอยู่ไหนดีฟระ” ผมก็เลยฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่รถนั่นแหละครับ ฝากได้ แล้วก็เลยแบกกล้อง และกระเป๋าเป้ นั่งรถกลับเข้าเวียงจันทร์ ไปหาข้าวกิน ตอนกินข้าวก็เลยโทรหาที่บ้านสักหน่อย (ตามถนนใหญ่ๆในเวียงจันทน์ ยังสามารถใช้เครือข่ายในไทยได้ครับ ไม่เสียตัง ไม่ต้องเปิด Roaming ด้วย พี่วิศวกรคนนั้นแอบบอกมา) พออิ่มท้องแล้ว ผมก็ฆ่าเวลาด้วยการไปเที่ยวประตูชัย สถานที่ราชการแถวนั้น แวะไปเดินห้างลาว ใช้เวลาไปเรื่อยๆ ถึง สามโมงครึ่ง ก็แวะไปหาอะไรกินอีกรอบครับ เข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ก่อนจะกลับไปสายใต้ เพราะไม่รู้จะทำอะไร
ประตูชัยที่ลาวครับ
นั่งรอเวลาอยู่จนหกโมง ก็ได้ฤกษ์งามยามดี รถออก และในเวลานั้นเองครับ ผมก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ที่ร่วมเดินทางไปยังเส้นทางนี้เหมือนกัน เป็นน้องๆธรรมศาสตร์ 3 คนที่จะไปฮานอย พวกน้องเขาโหดกว่าผมอีกครับ เพิ่งคิดกันได้ว่าจะมา เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ แล้วก็ยังไม่จองโรงแรม ไม่ได้วางแผนอะไร คิดแค่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ระหว่างทางเราก็คุยสอบถามแนะนำตัวกัน คุยกันไปจนหลับกันไปบนรถนอน ที่มีที่นอนกระจึ๋งเดียว
บริเวณที่รอรถครับ
คันสีส้มตรงกลางเลยครับ รถของเรา
ที่นั่งครับ เป็นนอนในตัว มีที่ใส่ขาเท่านี้แหละครับ
ผู้ที่มาช้าครับ นอนพื้นไปตามระเบียบ
ตอนที่ 2
http://ppantip.com/topic/31213886/comment9
ตอนที่ 3
http://ppantip.com/topic/31213886/comment11
ตอนที่ 4
http://ppantip.com/topic/31213886/comment12
ตอนที่ 5
http://ppantip.com/topic/31213886/comment13
ตอนที่ 6 พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย
http://ppantip.com/topic/31213886/comment14
[CR] บันทึกการเดินทางเที่ยวเวียดนามภาคพื้นดิน 7 วัน [เวียงจันทน์(Vientian)-ฮานอย(Hanoi)-ซาปา(Sapa)]
จนเมื่อ 2 เดือนก่อน มานั่งดูวันลาพักร้อน ปราฏว่ายังเหลืออีกเยอะ ก็เกิดอารมณ์นึกคึก อยากจะลองไปเที่ยวต่างประเทศคนเดียวดู ครั้นจะไปยุโรป เกาหลี ญี่ปุ่น ที่เขาฮิต ชอบที่จะไปกัน งบประมาณในกระเป๋าก็ไม่เอื้ออำนวยเท่าไหร่ ก็เลยคิดว่าน่าจะลองประเทศใกล้ๆ ลองไปสำรวจเพื่อเตรียมเปิด AEC ดูสักหน่อย เลือกไปเลือกมา ก็มาเจอ 2 กระทู้นี้ครับ
http://www3.ppantip.com/cafe/blueplanet/topic/E11421876/E11421876.html
http://topicstock.ppantip.com/blueplanet/topicstock/2012/08/E12562843/E12562843.html
ก็เลยตัดสินใจว่า เวียดนาม น่าจะเป็นตัวเลือกที่ดีในการเริ่มต้น และที่ๆผมจะไป ก็คงจะเป็น Hanoi กับ Sapa
จริงๆแล้วผมก็เคยไปเที่ยวคนเดียวมาก่อน แต่มันก็ในประเทศ ผมก็เลยไม่รู้ว่ามันจะมีความแตกต่างกันหรือเปล่า จะต้องวางแผนเยอะขนาดไหน ผมก็หาข้อมูลเพิ่มเติมในห้องนี้แหละครับ หลังจากคิดและวางแผนเคร่าๆแล้ว ผมก็ตัดสินใจว่า “จะไปภาคพื้นดิน แล้วบินตอนขากลับ” แผนการเดินทางก็เลยออกมาประมาณนี้ครับ
วันที่ 0 นั่งรถจากกรุงเทพ-หนองคาย
วันที่ 1 หนองคาย-เวียงจันทน์ เที่ยวสัก 1 วัน แล้วเย็นนั่งรถไปฮานอย
วันที่ 2 อยู่แต่บนรถถึงฮานอยตอนเย็นๆ
วันที่ 3 ไปเที่ยว Tamcoc หรือฮาลองบกของคนไทย ตอนเย็นก็นั่งรถไฟไป Sapa
วันที่ 4 ถึงซาปา ก็ซื้อ package Homestay ไปพักกับชาวเขาในหมู่บ้าน โดยเดินเลาะเขาเข้าไป
วันที่ 5 เดินเลาะเขากลับมาเที่ยวในตลาด ซาปา เย็นนั่งรถไฟกลับฮานอย
วันที่ 6 ถึงฮานอย เที่ยวในเมือง
วันที่ 7 นั่งเครื่องบินกลับไทย
เมื่อแผนการเดินทางผมคลอดแล้ว สิ่งที่ต้องคิดตามมาก็คือเราจะต้องซื้ออะไร ยังไง ตอนไหนบ้าง ด้วยความที่งานของผมช่วงนั้นค่อนข้างเร่ง เลยไม่มีเวลาหาข้อมูลมาก ก็เลยอาศัย Mrs.Nga ผู้ที่หลายคนในห้องนี้กล่าวถึง ให้ช่วยจองพวก ตั๋ว ทัวร์ และโรงแรมให้ ด้วยความที่ไม่มีเวลาหาข้อมูลมาก ราคาก็เลยออกมาอยู่ที่ 183$ รายละเอียดตามรูปเลยครับ
รายละเอียดการจองต่างๆกับ Mrs.Nga
สิ่งที่ต้องหาเพิ่มเติมจากนี้ ก็คือการเดินทางให้ไปถึงฮานอยด้วยรถโดยสารทั้งหลาย ตั้งแต่ รถทัวร์ไปหนองคาย การข้ามไปลาว จากตลาดเช้าไปท่ารถที่จะไปฮานอย ซึ่งกระทู้ที่มีก็มีคำบรรยายอะครับ รอบนี้ผมก็เลยพยายามถ่ายภาพมาให้มากที่สุด เผื่อจะเป็นประโยชน์แก่คนที่อยากจะไปบ้าง
ตั๋วเครื่องบินขากลับก็ลุ้นเอาแต่ละวันครับ ยังกับเล่นหุ้น ต้องรอดูวันที่มันลงมาราคาต่ำสุด แล้วก็ได้มาในราคา 2200 บาท รวมค่าโหลดกระเป๋า และนู่นนี่นั่นแล้ว ถ้าผมคิดเร็วกว่านี้ ก็อาจจะได้ราคาถูกกว่านี้แหละครับ
ค่าใช้จ่ายรวมทั้งหมดแล้วประมาณ 14,000 บาทครับ รวมค่ากิน ของฝาก ฯลฯ เดี๋ยวผมจะสรุปให้ทีหลังครับ จริงๆมันควรจะถูกกว่านี้ครับ ถ้าไม่มีความผิดพลาดจากความฉลาดน้อยของผมเอง อ่านไปเดี๋ยวจะรู้ครับว่าไปโดนอะไรมาบ้าง อย่างที่เขาว่าแหละครับ “ไม่โดนหลอก ถือว่ามาไม่ถึงเวียดนาม”
ผมขอเล่าคล้ายๆบันทึกประจำวันแล้วกันนะครับ อาจจะมีอารมณ์ ณ ขณะนั้นปะปนบ้าง เพื่อเป็นสีสันสักหน่อยนะครับ ชอบหรือไม่ชอบอย่างไร ติชมกันได้ครับ
21 ตุลาคม 2556 [กรุงเทพฯ-หนองคาย]
ผมขอนับวันนี้เป็นวันที่ 0 ของการเดินทางแล้วกันครับ เพราะตอนที่เริ่มการเดินทาง มันก็ตอนเย็นแล้ว ผมเก็บของใส่กระเป๋า Backpack 1 ใบ แล้วก็ประเป๋าเป้ใส่ของกับกล้องต่างหากอีก 1 ใบ แบกมาทำงานด้วย วันนั้นผมไม่ค่อยเป็นอันทำงานเลยครับ ใจจดใจจ่อให้เวลามันเดินเร็วๆ ไปจนถึงเวลาเลิกงาน พอเวลานั้นมาถึง ผมก็เด้งออกจากที่ทำงาน โบกพี่แทก(ซี่) ไปส่งที่ท่ารถของนครชัยแอร์ครับ ค่าตั๋วก็ 762 บาท สามารถจองได้ผ่าน Call Center แล้วไปจ่ายเงินที่ Seven เอาครับ พอไปถึงผมก็ไปนั่งรอจนถึง 2 ทุ่มครึ่ง ก็ได้เวลาขึ้นรถครับ ขึ้นไปก็กินข้าวที่เขาแจก ก่อนที่จะหลับยาวเลยครับ….
22 ตุลาคม 2556 [หนองคาย เวียงจันทร์]
ตื่นมาก็มาถึงหนองคายประมาณ ตี 5 ครึ่ง ตอนแรกผมว่าจะรอหารถข้ามไปลาวตามที่เคยอ่านในกระทู้ที่เคยบอกไว้ แต่พอดีเจอพี่คนหนึ่ง เป็นวิศวกรการบินไทย เขาจะข้ามไปฝั่งลาวเพื่อไปหาเมียพอดี ก็เคยนั่ง 3 ล้อไปพร้อมๆกัน คนละ 50 บาท ไปที่ด่านตรงสะพานมิตรภาพไทย-ลาว ผมเพิ่งรู้ครับว่าที่ลาว หอยแครงเป็นสิ่งที่หายากมาก เพราะพี่เขาต้องแวะซื้อจากฝั่งไทย ไปฝากเมียที่ลาว พี่บอกว่า ที่ฝั่งนู้นหากินยาก ผมก็คิดในใจว่า ก็แม่น้ำโขงเหมือนกัน ทำไมถึงหายาก ใครรู้ช่วยมาบอกผมหน่อยนะครับ ผมไม่กล้าถามพี่เขา
พอมาถึงที่ด่าน ก็เห็นมีคนมารออยู่จำนวนหนึ่ง ระหว่างนี้ก็ไปอาบน้ำตามสบายครับ ตรงนั้นมีห้องน้ำอยู่ ช่วงนี้เราก็ต้องกรอกเอกสารจำพวกใบออกนอกเมือง เก็บอีกข้างที่ไว้สำหรับขาเข้าไว้ด้วย จะช่วยให้เร็วขึ้น เพราะเขาจะได้ไม่ต้องหาประวัติขาออกของเราต่างหากเวลากลับเข้ามา พอถึงเวลาด่านเปิดก็ขึ้นรถเมล์เสียคนละ 20 บาท นั่งไปลงด่านฝั่งลาว เสียค่าธรรมเนียมค่าเข้าอีก 40 บาท จะได้เป็นบัตรคล้ายๆกับบัตรรถไฟฟ้ามา ตอนนั้นผมมีแต่แบงค์ 500 ไทย เจ้าหน้าที่ไม่มีทอน พี่วิศวกรการบินผู้ใจดี ก็เลยออกให้ก่อน พอเดินมาก็จะมีประตูกั้น เราต้องเอาบัตรที่ได้เมื่อกี้ไปเสียบ เหมือน BTS ยังไงอย่างงั้น ออกมาจากด่านก็จะพบกับคนขับรถรับจ้างมากมาย กรูกันเข้ามาเพื่อเสนอราคไปที่นั่นที่นี่ ตอนแรกคุยกับพี่เขาว่าจะนั่งรถเมลล์กันไป แต่พอเราเดินหนีกลุ่มรถรับจ้างไปเรื่อย เขาก็เสนอราคาลดลงเรื่อยๆ จนเราตกลงที่ 40 บาท ไปลงตลาดเช้า นั่งบนรถใช้เวลาประมาณ 20 นาที ก็มาถึงบริเวณตลาดเช้า ซึ่งเต็มไปด้วยรถเมล์สายต่างๆ ก็เลยขอนั่งพักกินกาแฟกันสักหน่อย
รถที่นั่งไปตลาดเช้า
พอแยกจากพี่วิศวกรผู้มีพระคุณแล้ว ผมก็เดินไปหารถไปขนส่งสายใต้ของลาวครับ เพื่อจะเตรียมข้อมูลไว้ก่อน แล้วค่อยไปประมาณเที่ยง ระหว่างนี้ก็จะมีกลุ่มรถรับจ้างเข้ามาคุย พอถามเขาถึงรถไปสายใต้ เขาจะบอกว่าไม่มี ที่นี่มีแต่รถข้ามประทศ อย่าไปเชื่อเด็ดขาดนะครับ มันมีอยู่ ลองเดินไปหารถเขียวๆดูครับ จะมีรถไปสายใต้ พอเจอป้ายหน้ารถ ที่พอจะอ่านได้ว่า “ขนส่งสายใต้” (ภาษาลาวเดาไม่ยากครับ คล้ายๆภาษาไทย) ผมก็เข้าไปคุยกับคนขับถามเกี่ยวกับรถไปฮานอย เขาบอกว่า “โอ้ย มีทั้งวัน ไปได้เลย” ขึ้นรถเลย ผมก็เอะใจ เพราะว่าที่อ่านมามันมีแต่รถนอน แต่ก็ขึ้นไป เผื่อว่าข้อมูลมีการ update เสียค่ารถไปประมาณ 5000 กีบ หรือราวๆ 20 บาท ประมาณครึ่งชั่วโมงก็ถึง ปรากฏว่า ถามไปถามมา รถมันมีแค่ 6 โมงครึ่งเหมือนที่เคยอ่านรีวิวมาอยู่ดี ก็เลยได้ซื้อตั๋วก่อนเวลา ราคา 200,000 กีบ = 800 บาท ถ้ามาซื้อตอนเย็นจะโดนแพงกว่านี้ เพราะเห็นมีคนโดนมาแล้ว แล้วก็จะได้นอนพื้นด้วย
รถที่พาไปสายใต้ครับ สีเขียวๆแบบนี้เลย
ตรงนี้คือขนส่งสายใต้ลาวนะครับ
ตั๋วไปฮานอย พร้อมเวลาออกครับ
รถออกหกโมงเย็น ตอนนั้นเพิ่งจะ 9 โมงเอง “แล้วระหว่างนี้ตรูจะไปอยู่ไหนดีฟระ” ผมก็เลยฝากกระเป๋าใหญ่ไว้ที่รถนั่นแหละครับ ฝากได้ แล้วก็เลยแบกกล้อง และกระเป๋าเป้ นั่งรถกลับเข้าเวียงจันทร์ ไปหาข้าวกิน ตอนกินข้าวก็เลยโทรหาที่บ้านสักหน่อย (ตามถนนใหญ่ๆในเวียงจันทน์ ยังสามารถใช้เครือข่ายในไทยได้ครับ ไม่เสียตัง ไม่ต้องเปิด Roaming ด้วย พี่วิศวกรคนนั้นแอบบอกมา) พออิ่มท้องแล้ว ผมก็ฆ่าเวลาด้วยการไปเที่ยวประตูชัย สถานที่ราชการแถวนั้น แวะไปเดินห้างลาว ใช้เวลาไปเรื่อยๆ ถึง สามโมงครึ่ง ก็แวะไปหาอะไรกินอีกรอบครับ เข้าห้องน้ำเพื่ออาบน้ำ ก่อนจะกลับไปสายใต้ เพราะไม่รู้จะทำอะไร
ประตูชัยที่ลาวครับ
นั่งรอเวลาอยู่จนหกโมง ก็ได้ฤกษ์งามยามดี รถออก และในเวลานั้นเองครับ ผมก็ได้พบกับเพื่อนใหม่ที่ร่วมเดินทางไปยังเส้นทางนี้เหมือนกัน เป็นน้องๆธรรมศาสตร์ 3 คนที่จะไปฮานอย พวกน้องเขาโหดกว่าผมอีกครับ เพิ่งคิดกันได้ว่าจะมา เมื่ออาทิตย์ก่อนหน้านี้ แล้วก็ยังไม่จองโรงแรม ไม่ได้วางแผนอะไร คิดแค่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหน ระหว่างทางเราก็คุยสอบถามแนะนำตัวกัน คุยกันไปจนหลับกันไปบนรถนอน ที่มีที่นอนกระจึ๋งเดียว
บริเวณที่รอรถครับ
คันสีส้มตรงกลางเลยครับ รถของเรา
ที่นั่งครับ เป็นนอนในตัว มีที่ใส่ขาเท่านี้แหละครับ
ผู้ที่มาช้าครับ นอนพื้นไปตามระเบียบ
ตอนที่ 2 http://ppantip.com/topic/31213886/comment9
ตอนที่ 3 http://ppantip.com/topic/31213886/comment11
ตอนที่ 4 http://ppantip.com/topic/31213886/comment12
ตอนที่ 5 http://ppantip.com/topic/31213886/comment13
ตอนที่ 6 พร้อมสรุปค่าใช้จ่าย http://ppantip.com/topic/31213886/comment14