ประชาชนชาวไทยส่วนมาก มักให้ความสำคัญกับคำว่า ประชาธิปไตยมาก
และด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้หวังผลประโยชน์จากประชาชน โดยใช้คำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเชือกชักจูง
ประเทศไทยเราแท้จริงนั้น ได้มีประชาธิปไตยมาเป็นระยะเวลาร่วม 70 ปีแล้ว
แตกต่างจากบางประเทศที่ยังคงเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะยังคงเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นเผด็จการ หรือบางประเทศยังคงฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันอยู่
หากว่าประชาธิปไตยที่กล่าวถึง คือการมีสิทธิ์มีเสียง ลองคิดดูให้ดีกว่าปัจจุบันนี้ กับที่ผ่านมา อย่างไหนมีสิทธิ์มีเสียงมากกว่ากัน การแทรกแซงสถานีโทรทัศน์ การแบนรายการโทรทัศน์ นี่หรือที่เรียกว่าประชาธิปไตย ผมไม่เคยเชื่อว่าคนที่เป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจผูกขาด จะมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้
ทุกอย่างมีการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง จะได้มาเพียงข้อมูล การนำเสนอข่าวสาร ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งต้องการเพียงเท่านั้น
ลองมองดูประเทศที่เจริญแล้วในแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดี
ทางนั้นเขาไม่เคยออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เขาให้ความสำคัญกับอีกสิ่งหนึ่งมากกว่า นั่นคือประเทศชาติ
ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นเป็นอันดับหนึ่ง เขาเข้าใจว่าประชาธิปไตยต้องมีขอบเขต ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สมเด็จพระจักรพรรดิ หรือภายใต้คำว่าประเทศชาติ
หากมีผู้บริหาร หรือนักการเมืองคนใด ที่ทำการทุจริตคอรัปชั่น จะหลุดพ้นจากสภาวะฐานะที่เป็นอยู่นั้นๆ โดยทันที และดำเนินคดีอย่างสูงสุด ด้วยเหตุผลนั่นคือการคดโกงประชาชน
ประชาชนทุกคนจะออกมาต่อต้านกับผู้ที่ทำการคดโกงประเทศที่เขารัก นั่นคือสิ่งที่ผมเห็นในประเทศญี่ปุ่น เพราะคนที่นั่นเขารู้ว่า คนที่คดโกง คือคนที่ไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ และไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อประชาชนนั่นเอง
ส่วนไทยเราในปัจจุบันนี้ ถูกปั่นกระแส ถูกปั่นหัวให้หลงติดอยู่กับคำว่าประชาธิปไตย โดยลืมมองไปว่าแท้จริงแล้วประเทศไทยเรานั้นมีอิสระเสรีมากกว่าอีกหลายๆ ประเทศเสียอีก เราลืมไปว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการคดโกง การทุจริต การคอรัปชั่น คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับมัน
ลองปล่อยวางทุกอย่าง แล้วถามใจตัวคุณเองให้ดี ว่าคุณคิดยังไงกับคนที่คดโกง คุณชอบหรือเปล่า และเชื่อใจคนที่คดโกง โกหกและหลอกลวงหรือเปล่า?
ประชาธิปไตยกับสังคมชาวไทย
และด้วยเหตุนี้ จึงมีผู้หวังผลประโยชน์จากประชาชน โดยใช้คำว่าประชาธิปไตยมาเป็นเชือกชักจูง
ประเทศไทยเราแท้จริงนั้น ได้มีประชาธิปไตยมาเป็นระยะเวลาร่วม 70 ปีแล้ว
แตกต่างจากบางประเทศที่ยังคงเรียกร้องประชาธิปไตย เพราะยังคงเป็นคอมมิวนิสต์ เป็นเผด็จการ หรือบางประเทศยังคงฆ่าล้างเผ่าพันธ์กันอยู่
หากว่าประชาธิปไตยที่กล่าวถึง คือการมีสิทธิ์มีเสียง ลองคิดดูให้ดีกว่าปัจจุบันนี้ กับที่ผ่านมา อย่างไหนมีสิทธิ์มีเสียงมากกว่ากัน การแทรกแซงสถานีโทรทัศน์ การแบนรายการโทรทัศน์ นี่หรือที่เรียกว่าประชาธิปไตย ผมไม่เคยเชื่อว่าคนที่เป็นนักธุรกิจ ทำธุรกิจผูกขาด จะมีความเป็นประชาธิปไตยที่สมบูรณ์ได้
ทุกอย่างมีการแสดงให้เห็นอย่างชัดเจน ว่าสุดท้ายแล้วก็ไม่ได้มาซึ่งประชาธิปไตยที่แท้จริง จะได้มาเพียงข้อมูล การนำเสนอข่าวสาร ที่กลุ่มคนกลุ่มหนึ่งต้องการเพียงเท่านั้น
ลองมองดูประเทศที่เจริญแล้วในแถบเอเชียอย่างญี่ปุ่นเป็นตัวอย่างที่ดี
ทางนั้นเขาไม่เคยออกมาเรียกร้องประชาธิปไตย เขาให้ความสำคัญกับอีกสิ่งหนึ่งมากกว่า นั่นคือประเทศชาติ
ทางญี่ปุ่นจะให้ความสำคัญกับเรื่องการทุจริตคอรัปชั่นเป็นอันดับหนึ่ง เขาเข้าใจว่าประชาธิปไตยต้องมีขอบเขต ไม่ว่าจะอยู่ภายใต้สมเด็จพระจักรพรรดิ หรือภายใต้คำว่าประเทศชาติ
หากมีผู้บริหาร หรือนักการเมืองคนใด ที่ทำการทุจริตคอรัปชั่น จะหลุดพ้นจากสภาวะฐานะที่เป็นอยู่นั้นๆ โดยทันที และดำเนินคดีอย่างสูงสุด ด้วยเหตุผลนั่นคือการคดโกงประชาชน
ประชาชนทุกคนจะออกมาต่อต้านกับผู้ที่ทำการคดโกงประเทศที่เขารัก นั่นคือสิ่งที่ผมเห็นในประเทศญี่ปุ่น เพราะคนที่นั่นเขารู้ว่า คนที่คดโกง คือคนที่ไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ และไม่ได้ตั้งใจทำเพื่อประชาชนนั่นเอง
ส่วนไทยเราในปัจจุบันนี้ ถูกปั่นกระแส ถูกปั่นหัวให้หลงติดอยู่กับคำว่าประชาธิปไตย โดยลืมมองไปว่าแท้จริงแล้วประเทศไทยเรานั้นมีอิสระเสรีมากกว่าอีกหลายๆ ประเทศเสียอีก เราลืมไปว่าเราควรจะให้ความสำคัญกับเรื่องของการคดโกง การทุจริต การคอรัปชั่น คนไทยส่วนใหญ่ยอมรับมัน
ลองปล่อยวางทุกอย่าง แล้วถามใจตัวคุณเองให้ดี ว่าคุณคิดยังไงกับคนที่คดโกง คุณชอบหรือเปล่า และเชื่อใจคนที่คดโกง โกหกและหลอกลวงหรือเปล่า?