สะบายดีกันอีกครั้ง ต่อจากกระทู้ที่แล้วนะคะ
http://ppantip.com/topic/31205052/
หลังจากเที่ยวเวียงจันทน์มาแล้ว เช้าอีกวันเวียงจันทน์ก็ฝนตก อึมครึมมากแต่ไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศไว้ เพราะต้องรีบเดินทางไปวังเวียง โดยติดต่อให้รถมารับที่โรงแรมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย
เริ่มเข้าใกล้วังเวียงแล้ว ท้องฟ้าเริ่มสดใส แสงแดดเริ่มทักทาย สองข้างทางเป็นทุ่งนาสลับกับบ้านเรือน
นั่งรถมา 3 ชั่วโมงเต็ม และแล้วก็เดินทางมาถึงวังเวียง โดยสังเกตได้จากภูเขาหินปูนทรงแปลกตารายล้อมรอบเมืองเล็กๆแห่งนี้
เมื่อหาที่พักและจัดการกับข้าวของได้ ก็ไม่รอช้าที่ออกสำรวจเมืองนี้ จริงๆวังเวียงมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ทั้งเที่ยวถ้ำ เดินป่า พายเรือ ล่องห่วงยาง ปั่นจักรยาน และอื่นๆอีกมากมาย
ใครอยากขึ้นบอลลูมชมวิวเขาก็มีบริการนะ
พายคายักในแม่น้ำซองก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่
กิจกรรมหลายอย่างน่าสนใจทั้งนั้น แต่ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด และกิจกรรมบางกิจกรรมก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเรา ก็ต้องอดหล่ะสิ เลยเลือกที่จะปั่นจักรยานทำความรู้จักกับวังเวียงแทน
วิวแม่น้ำซองจากบนสะพาน
เด็กนักเรียนเลิกเรียนกันแล้ว กำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน ที่นี่จะเห็นเด็กๆใช้จักรยานกันเยอะมาก นับว่าเป็นภาพที่น่ารักเมื่อได้เห็น เป็นการลดมลพิษและได้ออกกำลังกายไปในตัว
ปั่นจักรยานไปได้สักพัก ขาเริ่มล้า พอเจอเนิ่นนี่ถึงกับจูงจักรยานกันเลยทีเดียว จนมาเจอมุมนี้วิวสวยดีแฮะ
บรรยากาศอันเรียบง่ายและไม่วุ่นวายในเมืองวังเวียงยามเย็น
ที่นี่ร้านโรตีเยอะมาก เจอแทบทุกมุมถนน
ช่วงเย็นเปลี่ยนไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินที่ริมแม่น้ำซองดีกว่า
เช้าต่อมาต้องโบกมือบ๊าย บาย วังเวียงเพื่อเดินทางไปหลวงพระบางต่อ เช้านี้อากาศสดใสมาก วิวจากระเบียงห้องพักมองเห็นภูเขาหินปูนสวยแปลกตา
เริ่มออกเดินทางไปหลวงพระบาง ด้วยรถบัสวีไอพี แอร์เย็นฉ่ำ
นี่ก็เพิ่งออกจากวังเวียงมาได้ไม่นาน วิวข้างทางสวยมาก หลับไม่ลง นั่งมองวิวเพลินเลย กดชัตเตอร์รัวมาก
ระหว่างทาง คงเป็นช่วงพักกลางวัน เจอเด็กนักเรียนปั่นจักรยานกันเป็นกลุ่มเลย และก็ดูเก๋มากเมื่อเห็นเด็กๆปั่นจักรยานไปด้วยถือร่มไปด้วย
รถเริ่มไต่ไปตามเขาเรื่อยๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่เขา เจออยู่ 2 โค้ง คือ โค้งซ้าย โค้งขวา
ใช้เวลาเดินทางเดินทางมา 7 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงหลวงพระบางก็ค่ำแล้ว
วอคอินหาที่พักใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าจะเจอที่ถูกใจ เป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆน่ารักราคาประหยัด
ตลาดมืด
แหล่งรวมของกินแถวๆตลาดมืด ขอแอบเรียกซอยนี้ว่าซอยวุ่นวายละกันนะคะ ของกินเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
เดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนในหลวงพระบาง อากาศเริ่มเย็นแล้ว
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในหลวงพระบางกับเวลาตี 5.30 เพื่อมาใส่บาตรข้าวเหนียว
บรรยากาศการใส่บาตรข้าวเหนียวหน้าที่พัก
หลังใส่บาตรข้าวเหนียวเสร็จก็ต่อด้วยการมาตลาดเช้า เพื่อมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง
แล้วก็พลาดไม่ได้กับร้านกาแฟดังอย่างประชานิยม
สายอีกนิดก็เดินชมรอบๆเมือง
พระราชวังหลวงพระบาง
วัดเชียงทอง เป็นสถาปัตยกรรมล้านช้าง ข้างในวัดสวยงามมาก
ช่วงกลางวันซื้อทัวร์ไปเที่ยวน้ำตกกวางสี โดยรถจะพามาส่งที่น้ำตก และให้ใช้เวลาที่น้ำตกนี้ 2 ชั่วโมงค่ะ น้ำตกแห่งนี้ถือว่าสวยงามมาก
และนี่คือไฮไลต์ของการมาเที่ยวน้ำตก เย้ยยย ไม่ใช่ค่ะ
นี่คือหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำตกกัน
หลังกลับจากน้ำตกช่วงเย็นขึ้นไปไหว้พระธาตุพูสีและชมพระอาทิตย์ตก แต่น่าเสียดายที่วันนี้เมฆเยอะมาก ฟ้าไม่เปิดเลย อดเห็นพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิวที่พระธาตุพูสีเลย
ทางขึ้นพระธาตุพูสี
พระธาตุพูสี
วิวจากจุดชมวิวพระธาตุพูสี จะเห็นเมืองหลวงพระบางและแม่น้ำคาน
ฝั่งนี้จะเป็นวิวหลวงพระบางและริมแม่น้ำโขง
แล้วก็จบทริปนี้ค่ะ วังเวียงและหลวงพระบางเป็นเมืองที่น่ารักและมีเสน่ห์สุดๆ ไม่แปลกใจเลยถ้าใครจะตกหลุมรักที่นี่ หรือมาแล้วก็อยากมาเที่ยวอีกครั้ง ส่วนตัวแล้วชอบความเรียบง่าย ไม่วุ่นวายของที่นี่มากๆ ได้มาใช้ชีวิตในแบบช้าๆที่ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเลย ถ้าจะรีบก็คงจะเป็นการเที่ยวที่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดซะมากกว่า การแบ็คแพ็คไปเที่ยวเองในลาว 3 เมืองครั้งนี้ แม้การเดินทางจะลุทักทุเลไปบ้าง เหนื่อย แต่ก็สนุก ได้ใช้เวลากับตัวเองพอสมควรเลย เที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้เหงาอย่างที่คิดนะ ไม่เหงาเลยก็ว่าได้เพราะเราได้รู้จักมิตรภาพใหม่ๆตลอดการเดินทาง ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางกับนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ได้พูดคุยกับชาวบ้าน และได้เรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างมากมาย ถ้าใครที่กำลังคิดที่จะลองไปท่องเที่ยวคนเดียวแต่ยังลังเลอยู่ เราอยากบอกเลยว่าต้องลองสักครั้ง สิบคำบอกเล่าไม่เท่าไปสัมผัสเองนะ แล้วใครที่ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เราแนะนำประเทศลาวนี่พูดเลย
ปิดท้ายด้วยรูปจำปาบุปผาเมืองลาว ในดินแดนล้านช้างค่ะ
แบกเป้ลุยเดี่ยว ท่องเที่ยวไปในวังเวียงและหลวงพระบาง
หลังจากเที่ยวเวียงจันทน์มาแล้ว เช้าอีกวันเวียงจันทน์ก็ฝนตก อึมครึมมากแต่ไม่ได้เก็บภาพบรรยากาศไว้ เพราะต้องรีบเดินทางไปวังเวียง โดยติดต่อให้รถมารับที่โรงแรมแล้วก็ออกเดินทางกันเลย
เริ่มเข้าใกล้วังเวียงแล้ว ท้องฟ้าเริ่มสดใส แสงแดดเริ่มทักทาย สองข้างทางเป็นทุ่งนาสลับกับบ้านเรือน
นั่งรถมา 3 ชั่วโมงเต็ม และแล้วก็เดินทางมาถึงวังเวียง โดยสังเกตได้จากภูเขาหินปูนทรงแปลกตารายล้อมรอบเมืองเล็กๆแห่งนี้
เมื่อหาที่พักและจัดการกับข้าวของได้ ก็ไม่รอช้าที่ออกสำรวจเมืองนี้ จริงๆวังเวียงมีกิจกรรมให้ทำเยอะมาก ทั้งเที่ยวถ้ำ เดินป่า พายเรือ ล่องห่วงยาง ปั่นจักรยาน และอื่นๆอีกมากมาย
ใครอยากขึ้นบอลลูมชมวิวเขาก็มีบริการนะ
พายคายักในแม่น้ำซองก็เป็นอีกหนึ่งกิจกรรมยอดฮิตของที่นี่
กิจกรรมหลายอย่างน่าสนใจทั้งนั้น แต่ด้วยเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัด และกิจกรรมบางกิจกรรมก็ไม่ค่อยเอื้ออำนวยกับคนว่ายน้ำไม่เป็นอย่างเรา ก็ต้องอดหล่ะสิ เลยเลือกที่จะปั่นจักรยานทำความรู้จักกับวังเวียงแทน
วิวแม่น้ำซองจากบนสะพาน
เด็กนักเรียนเลิกเรียนกันแล้ว กำลังปั่นจักรยานกลับบ้าน ที่นี่จะเห็นเด็กๆใช้จักรยานกันเยอะมาก นับว่าเป็นภาพที่น่ารักเมื่อได้เห็น เป็นการลดมลพิษและได้ออกกำลังกายไปในตัว
ปั่นจักรยานไปได้สักพัก ขาเริ่มล้า พอเจอเนิ่นนี่ถึงกับจูงจักรยานกันเลยทีเดียว จนมาเจอมุมนี้วิวสวยดีแฮะ
บรรยากาศอันเรียบง่ายและไม่วุ่นวายในเมืองวังเวียงยามเย็น
ที่นี่ร้านโรตีเยอะมาก เจอแทบทุกมุมถนน
ช่วงเย็นเปลี่ยนไปเดินเล่นชมพระอาทิตย์ตกดินที่ริมแม่น้ำซองดีกว่า
เช้าต่อมาต้องโบกมือบ๊าย บาย วังเวียงเพื่อเดินทางไปหลวงพระบางต่อ เช้านี้อากาศสดใสมาก วิวจากระเบียงห้องพักมองเห็นภูเขาหินปูนสวยแปลกตา
เริ่มออกเดินทางไปหลวงพระบาง ด้วยรถบัสวีไอพี แอร์เย็นฉ่ำ
นี่ก็เพิ่งออกจากวังเวียงมาได้ไม่นาน วิวข้างทางสวยมาก หลับไม่ลง นั่งมองวิวเพลินเลย กดชัตเตอร์รัวมาก
ระหว่างทาง คงเป็นช่วงพักกลางวัน เจอเด็กนักเรียนปั่นจักรยานกันเป็นกลุ่มเลย และก็ดูเก๋มากเมื่อเห็นเด็กๆปั่นจักรยานไปด้วยถือร่มไปด้วย
รถเริ่มไต่ไปตามเขาเรื่อยๆ มองไปทางไหนก็เจอแต่เขา เจออยู่ 2 โค้ง คือ โค้งซ้าย โค้งขวา
ใช้เวลาเดินทางเดินทางมา 7 ชั่วโมง กว่าจะมาถึงหลวงพระบางก็ค่ำแล้ว
วอคอินหาที่พักใช้เวลาพอสมควรเลยกว่าจะเจอที่ถูกใจ เป็นเกสเฮ้าส์เล็กๆน่ารักราคาประหยัด
ตลาดมืด
แหล่งรวมของกินแถวๆตลาดมืด ขอแอบเรียกซอยนี้ว่าซอยวุ่นวายละกันนะคะ ของกินเยอะแยะเต็มไปหมดเลย
เดินชมบรรยากาศยามค่ำคืนในหลวงพระบาง อากาศเริ่มเย็นแล้ว
เริ่มต้นเช้าวันใหม่ในหลวงพระบางกับเวลาตี 5.30 เพื่อมาใส่บาตรข้าวเหนียว
บรรยากาศการใส่บาตรข้าวเหนียวหน้าที่พัก
หลังใส่บาตรข้าวเหนียวเสร็จก็ต่อด้วยการมาตลาดเช้า เพื่อมาสัมผัสวิถีชีวิตของชาวหลวงพระบาง
แล้วก็พลาดไม่ได้กับร้านกาแฟดังอย่างประชานิยม
สายอีกนิดก็เดินชมรอบๆเมือง
พระราชวังหลวงพระบาง
วัดเชียงทอง เป็นสถาปัตยกรรมล้านช้าง ข้างในวัดสวยงามมาก
ช่วงกลางวันซื้อทัวร์ไปเที่ยวน้ำตกกวางสี โดยรถจะพามาส่งที่น้ำตก และให้ใช้เวลาที่น้ำตกนี้ 2 ชั่วโมงค่ะ น้ำตกแห่งนี้ถือว่าสวยงามมาก
และนี่คือไฮไลต์ของการมาเที่ยวน้ำตก เย้ยยย ไม่ใช่ค่ะ นี่คือหนึ่งกิจกรรมที่นักท่องเที่ยวนิยมมาเล่นน้ำตกกัน
หลังกลับจากน้ำตกช่วงเย็นขึ้นไปไหว้พระธาตุพูสีและชมพระอาทิตย์ตก แต่น่าเสียดายที่วันนี้เมฆเยอะมาก ฟ้าไม่เปิดเลย อดเห็นพระอาทิตย์ตกดินบนจุดชมวิวที่พระธาตุพูสีเลย
ทางขึ้นพระธาตุพูสี
พระธาตุพูสี
วิวจากจุดชมวิวพระธาตุพูสี จะเห็นเมืองหลวงพระบางและแม่น้ำคาน
ฝั่งนี้จะเป็นวิวหลวงพระบางและริมแม่น้ำโขง
แล้วก็จบทริปนี้ค่ะ วังเวียงและหลวงพระบางเป็นเมืองที่น่ารักและมีเสน่ห์สุดๆ ไม่แปลกใจเลยถ้าใครจะตกหลุมรักที่นี่ หรือมาแล้วก็อยากมาเที่ยวอีกครั้ง ส่วนตัวแล้วชอบความเรียบง่าย ไม่วุ่นวายของที่นี่มากๆ ได้มาใช้ชีวิตในแบบช้าๆที่ไม่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาเลย ถ้าจะรีบก็คงจะเป็นการเที่ยวที่ต้องเร่งรีบแข่งกับเวลาที่มีอยู่อย่างจำกัดซะมากกว่า การแบ็คแพ็คไปเที่ยวเองในลาว 3 เมืองครั้งนี้ แม้การเดินทางจะลุทักทุเลไปบ้าง เหนื่อย แต่ก็สนุก ได้ใช้เวลากับตัวเองพอสมควรเลย เที่ยวคนเดียวก็ไม่ได้เหงาอย่างที่คิดนะ ไม่เหงาเลยก็ว่าได้เพราะเราได้รู้จักมิตรภาพใหม่ๆตลอดการเดินทาง ได้พูดคุย แลกเปลี่ยนประสบการณ์การเดินทางกับนักท่องเที่ยวเหมือนกัน ได้พูดคุยกับชาวบ้าน และได้เรียนรู้อะไรอีกหลายอย่างมากมาย ถ้าใครที่กำลังคิดที่จะลองไปท่องเที่ยวคนเดียวแต่ยังลังเลอยู่ เราอยากบอกเลยว่าต้องลองสักครั้ง สิบคำบอกเล่าไม่เท่าไปสัมผัสเองนะ แล้วใครที่ไม่รู้จะไปเที่ยวไหน เราแนะนำประเทศลาวนี่พูดเลย
ปิดท้ายด้วยรูปจำปาบุปผาเมืองลาว ในดินแดนล้านช้างค่ะ