การแสดงออกในทางการเมืองทำได้ครับ แต่ไม่ควรใช้ชื่อสถานที่ราชการมาใช้ในทางการเมืองที่เห็นต่าง
เพราะในองค์กร ก็มีความคิดที่แตกต่างกันทั้ง2ฝ่าย
ฝ่ายเห็นด้วยก็ทำหน้าที่ไปปกติ อยู่ข้างใน
แต่ฝ่ายไม่เห็นด้วย กลับออกมายืนที่หน้าอาคาร ใช้สถานที่ราชการในการแสดงออก
ประเทศไทยมี76 จังหวัด กับอีก 1 เขตปกครองพิเศษ (กรุงเทพมหานคร)
มีอำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ 7255 ตำบล 72944 หมู่บ้าน
มีโรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอรวมๆกันเกือบๆ1พันโรง
และมีอนามัยชุมชน สธารณสุขชุมชน อีกมากมาย
แล้วทำไมที่อื่นๆถึงไม่มีภาพแบบนี้ออกมาให้คนทั่วไปได้เห็น
แม้แต่ รพ.ในทางจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรค ปชป.เอง ก็ไม่มีภาพอย่างนี้
แต่ภาพนี้ เป็นภาพ จาก รพ.อำเภอเชียงคาน จ.เลย ซึ่งเป็นอำเภอติดแนวชายแดนไทย-ลาว กลับมีภาพอย่างนี้ออกมา
แสดงว่า ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน เป็นคนไม่เอาไหน มีวิสัยทัศน์สั้น สมองรับการเมืองซีกเดียว
ถึงปล่อยให้บุคลากรในโรงพยาบาล ออกมาทำอย่างนี้
ลองคิดดูว่า พอภาพนี้หลุดออกมาสู่สาธารณชน ต่อไปชาวบ้านที่อยู่ อ.เชียงคาน
ที่มีความคิดในทางการเมืองตรงกันข้ามกัน เขาจะพากันมั่นใจในการไปรักษาที่ รพ.เชียงคาน ได้อย่างไร
เพราะเขาจะคิดว่า ที่นี่คือ โรงพยาบาลของชาว สลิ่ม เข้าไปรักษาตัวแล้วจะรอดกลับออกมาไหมนี่?
แล้วต่อไปใครจะช่วยพัฒนาโรงพยาบาล อ.เชียงคาน ในเรื่องงบประมาณและความร่วมมือต่างๆ
เพราะพวกท่านในภาพนี้ ได้ทำลายคำว่า “ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางในทางการเมือง
และไม่นำชื่อ+สถานที่ราชการ มาใช้ในทางการเมือง”
ชาวบ้านทั้งเสื้อเหลืองและแดง +คนกลางๆ เขาหวังให้หมอ+พยาบาล ได้ช่วยชาวบ้านให้มีสุขภาพดี
นำสติปัญญา ความรู้ไปพัฒนาในทางต่อสู้กับโรคภัย ไม่ได้หวังให้พวกท่านเอาเวลามาหมกมุ่นอยู่กับการเมือง
แล้วบุคคลที่อยู่ในภาพนี้ ชาวบ้านเขาจะเชื่อถือและมั่นใจในการรักษา ดูแล สุขภาพของชาวบ้านได้อย่างไร
เพราะในสมอง+ความคิด มีแต่การเมืองๆ ในแต่ละวัน
ถ้าจะบอก ว่า ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน เป็นคนวิสัยทัศน์สั้น
ปล่อยให้มีภาพอย่างนี้ออกมา สมควรย้ายไปอยู่โรงพยาบาลชายแดนใต้.
แต่.....ก็ไม่สมควรไป เพราะว่า รพ.ทางใต้ ผอ.โรงพยาบาลที่นั่นเขาดีอยู่แล้ว
ไม่มีภาพอย่างนี้ออกมาให้สาธารณชน ได้เห็น
ดังนั้น จึงมีทางเดียว ที่ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน สมควรไป
นั่นก็คือ ไปนั่งตบยุงที่ไหนสักแห่ง มากกว่าจะไปเป็นผู้นำในการพัฒนาองค์กร
รพ.อำเภอเชียงคาน เป็น รพ.ติดแนวชายแดน ที่ว่ากันดารแล้ว
แต่ ความคิดและวัสัยทัศน์ของ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน “กันดารยิ่งกว่า”
*****ภาพ หมอ+พยาบาล รพ.เชียงคาน จ.เลย คลั่งการเมืองถึงขนาดใช้สถานที่ราชการในทางการเมือง*****
การแสดงออกในทางการเมืองทำได้ครับ แต่ไม่ควรใช้ชื่อสถานที่ราชการมาใช้ในทางการเมืองที่เห็นต่าง
เพราะในองค์กร ก็มีความคิดที่แตกต่างกันทั้ง2ฝ่าย
ฝ่ายเห็นด้วยก็ทำหน้าที่ไปปกติ อยู่ข้างใน
แต่ฝ่ายไม่เห็นด้วย กลับออกมายืนที่หน้าอาคาร ใช้สถานที่ราชการในการแสดงออก
ประเทศไทยมี76 จังหวัด กับอีก 1 เขตปกครองพิเศษ (กรุงเทพมหานคร)
มีอำเภอทั้งหมด 878 อำเภอ 7255 ตำบล 72944 หมู่บ้าน
มีโรงพยาบาลประจำจังหวัดและอำเภอรวมๆกันเกือบๆ1พันโรง
และมีอนามัยชุมชน สธารณสุขชุมชน อีกมากมาย
แล้วทำไมที่อื่นๆถึงไม่มีภาพแบบนี้ออกมาให้คนทั่วไปได้เห็น
แม้แต่ รพ.ในทางจังหวัดภาคใต้ ซึ่งเป็นฐานเสียงของพรรค ปชป.เอง ก็ไม่มีภาพอย่างนี้
แต่ภาพนี้ เป็นภาพ จาก รพ.อำเภอเชียงคาน จ.เลย ซึ่งเป็นอำเภอติดแนวชายแดนไทย-ลาว กลับมีภาพอย่างนี้ออกมา
แสดงว่า ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน เป็นคนไม่เอาไหน มีวิสัยทัศน์สั้น สมองรับการเมืองซีกเดียว
ถึงปล่อยให้บุคลากรในโรงพยาบาล ออกมาทำอย่างนี้
ลองคิดดูว่า พอภาพนี้หลุดออกมาสู่สาธารณชน ต่อไปชาวบ้านที่อยู่ อ.เชียงคาน
ที่มีความคิดในทางการเมืองตรงกันข้ามกัน เขาจะพากันมั่นใจในการไปรักษาที่ รพ.เชียงคาน ได้อย่างไร
เพราะเขาจะคิดว่า ที่นี่คือ โรงพยาบาลของชาว สลิ่ม เข้าไปรักษาตัวแล้วจะรอดกลับออกมาไหมนี่?
แล้วต่อไปใครจะช่วยพัฒนาโรงพยาบาล อ.เชียงคาน ในเรื่องงบประมาณและความร่วมมือต่างๆ
เพราะพวกท่านในภาพนี้ ได้ทำลายคำว่า “ข้าราชการต้องวางตัวเป็นกลางในทางการเมือง
และไม่นำชื่อ+สถานที่ราชการ มาใช้ในทางการเมือง”
ชาวบ้านทั้งเสื้อเหลืองและแดง +คนกลางๆ เขาหวังให้หมอ+พยาบาล ได้ช่วยชาวบ้านให้มีสุขภาพดี
นำสติปัญญา ความรู้ไปพัฒนาในทางต่อสู้กับโรคภัย ไม่ได้หวังให้พวกท่านเอาเวลามาหมกมุ่นอยู่กับการเมือง
แล้วบุคคลที่อยู่ในภาพนี้ ชาวบ้านเขาจะเชื่อถือและมั่นใจในการรักษา ดูแล สุขภาพของชาวบ้านได้อย่างไร
เพราะในสมอง+ความคิด มีแต่การเมืองๆ ในแต่ละวัน
ถ้าจะบอก ว่า ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน เป็นคนวิสัยทัศน์สั้น
ปล่อยให้มีภาพอย่างนี้ออกมา สมควรย้ายไปอยู่โรงพยาบาลชายแดนใต้.
แต่.....ก็ไม่สมควรไป เพราะว่า รพ.ทางใต้ ผอ.โรงพยาบาลที่นั่นเขาดีอยู่แล้ว
ไม่มีภาพอย่างนี้ออกมาให้สาธารณชน ได้เห็น
ดังนั้น จึงมีทางเดียว ที่ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน สมควรไป
นั่นก็คือ ไปนั่งตบยุงที่ไหนสักแห่ง มากกว่าจะไปเป็นผู้นำในการพัฒนาองค์กร
รพ.อำเภอเชียงคาน เป็น รพ.ติดแนวชายแดน ที่ว่ากันดารแล้ว
แต่ ความคิดและวัสัยทัศน์ของ ผอ.โรงพยาบาลอำเภอเชียงคาน “กันดารยิ่งกว่า”