--เมื่อดวงตาดับฉับพลัน--

กระทู้สนทนา
หลังจากที่ อ่านกระทู้หลายต่อหลายท่านมาตลอด คราวนี้ผมจะมาเล่า เรื่องเกี่ยวกับ-โรคประสาทตาอักเสบ- ที่เกิดขึ้นกับภรรยาให้ทุกท่านได้อ่านเพื่อเป็นข้อมูลเตือนใจให้หลายๆ ท่านได้ระวังโรคนี้ก่อนจะสายเกินไปครับ

ประมาณต้นปี 2008 ผมกับภรรยากำลังจะคลอดน้องคนแรก ต่างคนก็ต่างดีอกดีใจแต่นั้นเป็นเหตุการณ์เริ่มต้นของ -โรคนี้ –
หลังจากคลอดน้องได้เพียงแค่ 2 เดือนภรรยาเกิดอาการผิดปกติ คือตื่นเช้ามามีอาการมองไม่เห็นภาพส่วนล่างของตาขวา แบบดำสนิททุกคนตกใจว่าเกิดอะไรขึ้น!!! จึงรีบพาออกจากบ้านตอนเข้าไปที่โรงพยาบาลด้านสายตาแถวสุขุมวิท (อโศก) เพื่อรอการตรวจ แต่คิวที่เราได้รับกลับนานเกินไป ทางเราเข้าใจว่าผู้ป่วยเยอะเราได้เพียงแต่รอ แต่อาการภาพที่ดวงตาของภรรยากลับเลวร้ายลงอย่างรวดเร็ว เริ่มเห็นภาพเป็นสีซีเปียจากส่วนที่เหลือด้านบน และเริ่มดับลงเรื่อยๆ จนเป็นสีเทา พอถึงคิวก็ได้พบแพทย์ก็ทำการตรวจเช็ควินิจฉัยคุณหมอบอกให้ฉีดยาชนิดหนึ่งเข้าเส้นเลือดด่วน (ผมไม่เอยชื่อยาแล้วกันกลัวเรียกผิด)แต่ค่ายามีราคาสูงจนผมตั้งตัวไม่ทันเพราะเพิ่งจ่ายค่าคลอดไปพอควร ผมเลยขอคุณหมอไป ร.พ.รามาธิบดี ในวันนั้นเลย เพื่อลดค่าใช้จ่ายขณะนั้นภาพที่ดวงตาแฟนดับสนิทไปแล้ว ผมเริ่มใจไม่ดี ภรรยาผมร้องไห้ตลอดเวลาผมได้แค่ปลอบเท่าที่สามีจะทำได้ ผมโชคดีที่มีเพื่อนของภรรยามาด้วย ผมเลยได้เดินเรื่องต่างๆ ไม่อยากให้เธอร้องไห้คนเดียว ผมพอเข้าใจคนที่เสียดวงตาฉับพลัน ผมก็ต้องอดทนเพื่อไม่ให้เธอเห็นน้ำตาผม เพื่อเป็นกำลังใจที่ดี ต้องแอบไปร้องคนเดียวในห้องน้ำเพราะเก็บควมอดทนไม่ไหว ผมเลยต้องหาวิธีเร่งด่วนเพื่อให้ได้รับการตรวจเช็ค หลังจากนั้นไม่นานก็ได้รับการเช็คอาการ คุณหมอก็ให้ยาตามที่โรงพยาบาลที่แรกเคยบอกไว้ทันที่และเข้าแอดมิดด่วน ค่าใช้จ่ายลดลงบ้างเพราะเป็นโรงพยาบาลรัฐ คุณหมอให้ยาทางเส้นเลือดเหมือนการให้น้ำเกลือ เข้าพักโรงพยาบาล ประมาณ 7 วัน แต่อาการก็ทรงๆ หลังจากออกโรงพยาบาลผมลุ้นว่าจะกลับมามองเห็นแสงไหมช่วงนั้นน้องที่คลอดไม่ได้กินนมแม่เลย เพราะยามีผลต่อเด็กมาก หลังจากนั้น สัก 2 อาทิตย์อาการเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ จนเห็นแสงเห็นภาพ ต่างคนมีความหวัง และรักษาตามหมอนัดปกติ และในที่สุดตาข้างขวาก็กลับมามองเห็นแต่ไม่ชัดมาก ส่วนด่านล่างกลับมืดสนิทซึ่งไม่กลับคืนมา คุณหมอบอกโชคดีมากที่กลับมาบ้าง โรคนี้น้อยคนที่จะเป็นแต่เหตุการณ์นั้นยังไม่จบเท่านี้..ครับ

หลังจากผ่านเหตุการณ์นั้นไปเพียง 3 ปี ใช้ชีวิตอย่างมีความสุข ผมนั่งทำงานอยู่ภรรยาโทรหาบอกว่า--ตาข้างซ้ายมองไม่ชัด--ซึ่งเป็นฝั่งตรงข้ามกับครั้งที่แล้วผมเข้าใจว่าน่าจะเกิดจากการทำงานหนักมากๆ มองคอมนานๆ แต่ผมไม่ประมาทรีบไปหา ภรรยาเริ่มมองเห็นภาพเบลอและมองเห็นไม่ชัดทรุดอย่างรวดเร็วเพียงวันเดียว ด้วยความมีประสบการณ์จากครั้งที่ผ่านมา เลยรีบรุดไปที่โรงพยาบาลรามาทันที ในวันนั้นเลยพบอาจารย์หมอคนเดิมอาจารย์บอกให้เข้า แอดมิดด่วน และให้ยาเหมือนเดิมกลับครั้งที่ผ่านมา คราวนี้มีการตรวจละเอียดมากขึ้น เช็คระบบประสาท ตรวจเลือดเอกซ์เรย์ จนพบข้อบกพร่องทางเส้นประสาทจุดเชื่อมต่อการรับภาพอักเสบ อาจารย์บอกว่าอาการแบบนี้ บางคนอาจหาย บางคนไม่หาย ถ้าหายก็กลับมามองเห็นไม่เหมือนเดิมและยังไม่มีอะไรรักษาให้หายขาดได้ แค่รักษาตามอาการ ส่วนภรรยาผมเป็นประเภทอาการจะกลับมาเมื่อร่างกายอ่อนแอ เครียด หรือตามเวลาของโรค คือ 3 ปี และจะสลับข้างไปมาแต่คราวนี้การกู้ภาพตาขางซ้ายให้กลับมา ผมหวังว่าจะกลับมาเหมือนเดิม เพราะเรามีประสบการณ์ครั้งแรก และรีบไปโรงพยาบาล ผลทีออกมาคือข้างซ้ายกู้ได้ แต่ภาพเหมือนคนสายตาสั้นพอที่จะให้สายตาทั้งสองข้างพยุงกันไปได้บ้าง ข้างขวาชัด แต่มืดด้านล่าง ข้างซ้ายเบลอทั้งดวงตา นับเป็นเหตุการณ์ไม่คาดฝันกับ มนุษย์เงินเดือน คนทำงานออฟฟิคอย่างเราๆ

แต่นั้นมันยังไม่จบครับ...มีต่อ

เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายนที่ผ่านมา หลังจากผ่านมา 3 ปี
ภรรยาโทรมาบอกว่า ตาข้างขวาที่เคยเป็นครั้งที่แรกที่มืดด้านล่าง มองเห็นตัวหนังสือขาด ผมไม่คิดอะไรเลยรีบไปรับทันทีที่ได้ยิน ปิดคอมลางานฉุกเฉินแบบทุกคนในออฟฟิค งงกันไปหมด แต่ผมไม่มีเวลามาอธิบายให้รู้กันหมด ประสบการณ์สอนเรา ผมรีบพาไปโรงพยาบาลทันที เช็คอาจารย์หมอคนเดิม แอดมิด ให้ยาเหมือนเดิม... ตอนนี้อยู่โรงพยาบาลรามา รอดูอาการว่าจะทรุดไหม หรือดีขึ้นไหม..แต่ทุกอย่างต้องอดทนรอ และสู้

เรื่องทั้งหมดนี้ผมขอเพื่อนทุกท่านที่เข้ามาอ่าน อย่าประมาทเพียงแค่คิดว่าเรามองเห็นภาพเบลอ มองเห็นตัวอักษรขาด จากการทำงานหนักอย่าคิดว่าเป็นเรื่องปกติให้รีบไปพบแพทย์ทันที บอกคนใกล้ชิดท่าน บอกคนรักท่านด้วยครับ ท่านอาจจะไม่สายเกินไปที่จะรับการรักษาได้ทันเวลา -----ก่อนที่โลกสีสวยๆ จะกลายเป็นสีดำสนิท------

ผมขอบคุณ นพ.พิศิษฐ์ ปรีชาวัฒน์  ที่ดูแลภรรยามาโดยตลอดครับ

-- พิมพ์ผิดพลาดขออภัยด้วยครับ--
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่