เห็นกระทู้ดีบ้างไม่ดีบ้างเกี่ยวกับตี๋ ก็เลยอยากให้เลือกมองเรื่องราวดีๆของตี๋ มุมดีๆของเด็กคนนี้ที่มีต่อคนรอบข้างทั้งต่อหน้าและลับหลัง แม้ว่าเรื่องที่จะเขียนต่อไปนี้มันไม่มีหลักฐานก็ตาม แต่อยากจะแชร์ให้คนที่รักตี๋ทราบคะ
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนไปส่งตี๋ที่ดอนเมือง คือวันนั้นไปสาย รีบเหยียบเต็มที่ พอไปถึงจะเลี้ยวเข้าที่จอดรถซึ่งเป็นมุมทางลงตรงหัวแถวแท็กซี่ ปรากฏว่าดิฉันก็จะเลี้ยวซ้ายเพื่อลงคะ แต่แท็กซี่ดันจะออกขวา ดิฉันก็เลยต้องหยุดให้แท็กซี่ออก ตอนนั้นก็มองหลังเพราะกลัวรถจะติดเพราะเรา และแล้วรถที่ตามหลังมาก็แซงซ้ายขึ้นมาเพื่อจะเลี้ยวซ้ายลงที่จอดรถ ตอนนั้นก็เคืองว่ารอหน่อยไม่ได้หรอ แซงซ้ายมันไม่โอเคอ่ะ เพราะเราก็จะเลี้ยวเหมือนกัน พอรถคันนั้นขึ้นมาเทียบ เค้าก็หยุดคะ ไม่ได้แซงปาดหน้าเราขึ้นไป เพราะเค้าเห็นแท็กซี่ขวางเราและเค้าเข้าใจแล้วว่าเราหยุดทำไม แต่เป็นรถสี... คันใหญ่ เราก็มองเค้าแต่ติดฟิล์มมืดคะ มองไม่เห็นคนขับ แล้วก็คิดในใจว่าถ้ารีบก็เชิญไปก่อนเลย คันใหญ่ กลัวอ่ะ
พอมองกันเข้าใจ เค้าก็นำเราไป เราก็ขับตาม อุต๊ะ! รถยี่ห้อ.... สี.....ทะเบียน...... เฮ้ย!นี่มันรถของพี่...... รีบโทรฯขึ้นไปถามเพื่อนที่มาถึงดอนเมืองแล้วว่า จำทะเบียนรถพี่....ได้ไหม เพื่อนก็บอกจำไม่ได้แน่ขัด แต่มีเลขนี้..นี้..นี้ ซึ่งมันใช่เลย ก็เลยบอกเพื่อนว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวดูแขนคนที่ยื่นออกมารับบัตรจอดรถว่าใช่พี่....หรือเปล่า ปรากฎว่าแขนขาวมากอ่ะ และคนที่ให้บัตรจอดรถเธอก็มองแล้วมองอีกประดุจว่าเจอดารา ตอนนั้นก็คิดว่า ไม่นะไม่ ไม่อยากขับตาม ไม่อยากจอดรถแล้วเจอกัน ไม่พร้อมอ่ะ
รถคันนั้นรับบัตรแล้วก็เลี้ยวซ้ายไป แต่พอดิฉันรับบัตรเสร็จ คุณ รปภ ก็เป่านกหวีดเรียกให้ดิฉันเลี้ยวขวาและหาที่จอดรถให้อย่างรวดเร็ว เลยรีบขึ้นไปบอกเพื่อนว่าน่าจะใช่ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นคุณชายและพี่...ก็ปรากฏตัว ก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่าใช่...ต้องใช่แน่ๆ ซึ่งแค่นั้นมันก็รู้สึกฟินแล้วว่าทำไมต้องนิสัยดี ที่ไม่แซงซ้ายปาดหน้าป้า ทำไมมีความสามารถทำให้ฟินได้แม้เพียงเสี้ยวนาที และไม่มีใครรู้ (จริงๆจะทำอะไรก็ได้)
คำตอบก็คือ ตี๋เป็นคนดี ดีจากข้างในจริงๆ....
เจมส์ มาร์ งามจากภายในจริงๆ
เมื่อสองสัปดาห์ก่อนไปส่งตี๋ที่ดอนเมือง คือวันนั้นไปสาย รีบเหยียบเต็มที่ พอไปถึงจะเลี้ยวเข้าที่จอดรถซึ่งเป็นมุมทางลงตรงหัวแถวแท็กซี่ ปรากฏว่าดิฉันก็จะเลี้ยวซ้ายเพื่อลงคะ แต่แท็กซี่ดันจะออกขวา ดิฉันก็เลยต้องหยุดให้แท็กซี่ออก ตอนนั้นก็มองหลังเพราะกลัวรถจะติดเพราะเรา และแล้วรถที่ตามหลังมาก็แซงซ้ายขึ้นมาเพื่อจะเลี้ยวซ้ายลงที่จอดรถ ตอนนั้นก็เคืองว่ารอหน่อยไม่ได้หรอ แซงซ้ายมันไม่โอเคอ่ะ เพราะเราก็จะเลี้ยวเหมือนกัน พอรถคันนั้นขึ้นมาเทียบ เค้าก็หยุดคะ ไม่ได้แซงปาดหน้าเราขึ้นไป เพราะเค้าเห็นแท็กซี่ขวางเราและเค้าเข้าใจแล้วว่าเราหยุดทำไม แต่เป็นรถสี... คันใหญ่ เราก็มองเค้าแต่ติดฟิล์มมืดคะ มองไม่เห็นคนขับ แล้วก็คิดในใจว่าถ้ารีบก็เชิญไปก่อนเลย คันใหญ่ กลัวอ่ะ
พอมองกันเข้าใจ เค้าก็นำเราไป เราก็ขับตาม อุต๊ะ! รถยี่ห้อ.... สี.....ทะเบียน...... เฮ้ย!นี่มันรถของพี่...... รีบโทรฯขึ้นไปถามเพื่อนที่มาถึงดอนเมืองแล้วว่า จำทะเบียนรถพี่....ได้ไหม เพื่อนก็บอกจำไม่ได้แน่ขัด แต่มีเลขนี้..นี้..นี้ ซึ่งมันใช่เลย ก็เลยบอกเพื่อนว่าไม่เป็นไรเดี๋ยวดูแขนคนที่ยื่นออกมารับบัตรจอดรถว่าใช่พี่....หรือเปล่า ปรากฎว่าแขนขาวมากอ่ะ และคนที่ให้บัตรจอดรถเธอก็มองแล้วมองอีกประดุจว่าเจอดารา ตอนนั้นก็คิดว่า ไม่นะไม่ ไม่อยากขับตาม ไม่อยากจอดรถแล้วเจอกัน ไม่พร้อมอ่ะ
รถคันนั้นรับบัตรแล้วก็เลี้ยวซ้ายไป แต่พอดิฉันรับบัตรเสร็จ คุณ รปภ ก็เป่านกหวีดเรียกให้ดิฉันเลี้ยวขวาและหาที่จอดรถให้อย่างรวดเร็ว เลยรีบขึ้นไปบอกเพื่อนว่าน่าจะใช่ ประเดี๋ยวเดียวเท่านั้นคุณชายและพี่...ก็ปรากฏตัว ก็เลยค่อนข้างมั่นใจว่าใช่...ต้องใช่แน่ๆ ซึ่งแค่นั้นมันก็รู้สึกฟินแล้วว่าทำไมต้องนิสัยดี ที่ไม่แซงซ้ายปาดหน้าป้า ทำไมมีความสามารถทำให้ฟินได้แม้เพียงเสี้ยวนาที และไม่มีใครรู้ (จริงๆจะทำอะไรก็ได้)
คำตอบก็คือ ตี๋เป็นคนดี ดีจากข้างในจริงๆ....