สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 2
300 พอค่ะ ไม่ต้องหน้าใหญ่ใจโต ใส่ให้สมน้ำสมเนื้อกับรายได้ที่มี
ดิฉันเคยมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 37,000 บาทต่อเดือน บางเดือนเกิน 50,000 บาท
ไม่มีหนี้สินติดตัว ไม่มีลูก ไม่มีภาระ
แต่ดิฉันใส่ซอง 500 บาทถ้าเป็นเพื่อนสนิท
ไม่สนิทเอาไปแค่ 300 บาท
เป็นคนรู้คุณค่าของเงินค่ะ ไม่ชอบอวดควักทีละหลายพันแบบเพื่อนบางคนที่รายได้พอๆกัน
ดิฉันไปงานแต่งงานด้วยค่ะ แค่เสื้อผ้าก็เกือบพันแล้ว ขนาดชุดธรรมดา
งานแต่งงานเป็นงานที่เราไม่ร็จะถอนทุนคืนได้หรือเปล่า เพราะไม่รู้จะได้แต่งงานรึเปล่า
ทำไมต้องเีสียเงินใส่ซองมากมายด้วยค่ะ ไปกินอาหารในงานเขาก็ไม่ได้กินล้างผลาญ
กินนิดๆ หน่อย ไปให้สมเจตนาเจ้าสาวที่อยากบอกใครต่อใครว่าตัวเองมีสามีกะเค้าแล้ว
ชั้นแต่งงานแล้วนะ
สนิทแค่ 500 ไม่สนิทแค่ 300 ค่ะ
ดิฉันเคยมีรายได้ต่อเดือนมากกว่า 37,000 บาทต่อเดือน บางเดือนเกิน 50,000 บาท
ไม่มีหนี้สินติดตัว ไม่มีลูก ไม่มีภาระ
แต่ดิฉันใส่ซอง 500 บาทถ้าเป็นเพื่อนสนิท
ไม่สนิทเอาไปแค่ 300 บาท
เป็นคนรู้คุณค่าของเงินค่ะ ไม่ชอบอวดควักทีละหลายพันแบบเพื่อนบางคนที่รายได้พอๆกัน
ดิฉันไปงานแต่งงานด้วยค่ะ แค่เสื้อผ้าก็เกือบพันแล้ว ขนาดชุดธรรมดา
งานแต่งงานเป็นงานที่เราไม่ร็จะถอนทุนคืนได้หรือเปล่า เพราะไม่รู้จะได้แต่งงานรึเปล่า
ทำไมต้องเีสียเงินใส่ซองมากมายด้วยค่ะ ไปกินอาหารในงานเขาก็ไม่ได้กินล้างผลาญ
กินนิดๆ หน่อย ไปให้สมเจตนาเจ้าสาวที่อยากบอกใครต่อใครว่าตัวเองมีสามีกะเค้าแล้ว
ชั้นแต่งงานแล้วนะ
สนิทแค่ 500 ไม่สนิทแค่ 300 ค่ะ
ความคิดเห็นที่ 34
การที่เราไปงานต่างๆ ก็เพราะไปช่วยงานเขา
ก่อนจะใส่ก็ดูบัตรเชิญเลยครับว่าเขาเชิญไปที่ไหน
เลี้ยงอะไร?
โรงแรมจะคิดเป็นหัว หัวละเท่าใดก็ตามแต่เจ้าภาพจะ
สั่งอาหาร หรือจะคิดเป็นโต๊ะๆ ถ้าเป็นโต๊ะจีนและก็จะคิด
ค่าเครื่องดื่ม จะกินน้อยกินมากโรงแรมก็เก็บต่อหัวเท่าเดิม
และบวกค่าเครื่องดี่มไปอีก หากในบัตรเชิญเขาจัดที่โรงแรม
แล้วใส่ไป สามร้อยตามที่หลายๆความเห็นข้างบนว่ามาถือว่า
น่าเกลียดมาก เพราะไม่ใช่การไปช่วยงาน แต่ไปเบียดเบียนคู่
บ่าวสาว หากเขาจัดที่บ้านเลี้ยงพระตามต่างจังหวัดแล้วช่วย
๓๐๐ ก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าจัดในกรุงเทพฯ ต่อให้โรงแรมเล็กๆ
ยังไงแล้วใส่ต่ำกว่า ๕๐๐ ถือว่าไม่ควรไป ไปเบียดเบียนคู่สมรส
เราไปช่วยงานเขา อย่าไปเบียดเบียนเขา ต่อให้กินน้อยแค่ไหน
ค่าใช้จ่ายก็ไม่น่าต่ำ ๕๐๐ บาทต่อหัว ใส่สามร้อยมันทุเรศไปไม๊??
หากเป็นโรงแรมสี่ห้าดาวในกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายต่อหัวก็เกินพันแล้ว
ไปกินข้าวในศูนย์การค้าก็หลายร้อยบาทแล้ว คิดมาได้ไงไปงานแต่ง
พรรคพวกเพื่อนฝูงใส่แค่สามร้อย ใจจืดใจดำเกินไปหรือเปล่า ในชีวิต
คนๆ นึงจะแต่งงานกี่ครั้ง จะบวชกี่ครั้ง จะตายกี่ครั้ง พิโถ พิถัง คนรุ่นใหม่
มันเห็นแก่ตัวมากๆเลย ไปงานแต่ง ใส่สามร้อยห้าร้อย ใจแคบมากๆเลย
ไม่มีความเมตตา ไม่คิดจะช่วยคู่บ่าวสาวให้ตั้งต้นชีวิตเลย?? น่าอนาถนัก
เขาเชิญไปที่ไหน โรงแรมแบบไหนก็น่าจะคิดออกว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ
เท่าใด ถ้าจะใส่น้อยๆก็อย่าไปเบียดเบียนคู่บ่าวสาวจะดีกว่า
ก่อนจะใส่ก็ดูบัตรเชิญเลยครับว่าเขาเชิญไปที่ไหน
เลี้ยงอะไร?
โรงแรมจะคิดเป็นหัว หัวละเท่าใดก็ตามแต่เจ้าภาพจะ
สั่งอาหาร หรือจะคิดเป็นโต๊ะๆ ถ้าเป็นโต๊ะจีนและก็จะคิด
ค่าเครื่องดื่ม จะกินน้อยกินมากโรงแรมก็เก็บต่อหัวเท่าเดิม
และบวกค่าเครื่องดี่มไปอีก หากในบัตรเชิญเขาจัดที่โรงแรม
แล้วใส่ไป สามร้อยตามที่หลายๆความเห็นข้างบนว่ามาถือว่า
น่าเกลียดมาก เพราะไม่ใช่การไปช่วยงาน แต่ไปเบียดเบียนคู่
บ่าวสาว หากเขาจัดที่บ้านเลี้ยงพระตามต่างจังหวัดแล้วช่วย
๓๐๐ ก็ถือว่าโอเค แต่ถ้าจัดในกรุงเทพฯ ต่อให้โรงแรมเล็กๆ
ยังไงแล้วใส่ต่ำกว่า ๕๐๐ ถือว่าไม่ควรไป ไปเบียดเบียนคู่สมรส
เราไปช่วยงานเขา อย่าไปเบียดเบียนเขา ต่อให้กินน้อยแค่ไหน
ค่าใช้จ่ายก็ไม่น่าต่ำ ๕๐๐ บาทต่อหัว ใส่สามร้อยมันทุเรศไปไม๊??
หากเป็นโรงแรมสี่ห้าดาวในกรุงเทพฯ ค่าใช้จ่ายต่อหัวก็เกินพันแล้ว
ไปกินข้าวในศูนย์การค้าก็หลายร้อยบาทแล้ว คิดมาได้ไงไปงานแต่ง
พรรคพวกเพื่อนฝูงใส่แค่สามร้อย ใจจืดใจดำเกินไปหรือเปล่า ในชีวิต
คนๆ นึงจะแต่งงานกี่ครั้ง จะบวชกี่ครั้ง จะตายกี่ครั้ง พิโถ พิถัง คนรุ่นใหม่
มันเห็นแก่ตัวมากๆเลย ไปงานแต่ง ใส่สามร้อยห้าร้อย ใจแคบมากๆเลย
ไม่มีความเมตตา ไม่คิดจะช่วยคู่บ่าวสาวให้ตั้งต้นชีวิตเลย?? น่าอนาถนัก
เขาเชิญไปที่ไหน โรงแรมแบบไหนก็น่าจะคิดออกว่าค่าใช้จ่ายต่อหัวประมาณ
เท่าใด ถ้าจะใส่น้อยๆก็อย่าไปเบียดเบียนคู่บ่าวสาวจะดีกว่า
แสดงความคิดเห็น
ใส่ซองงานแต่งเท่าไหร่ ไม่ให้น่าเกลียด
ไปงานแต่งงานควรใสซองเท่าไหร่ดี
****ปล.
เงื่อนไข
1.เพื่อนร่วมงาน (ไม่ค่อยสนิทเท่าไหร่)
2.ฝากซองไป (ไม่ได้ไปร่วมงานด้วย)
3.มีหนี้สินส่วนตัวที่ต้องชำระ ราวๆ 6,000