credit : Thailand investment forum
เนื้อหานี้แปลมาจากบทความ “5 Ways Rich People Think Differently From the Rest of Us” ของ Michele Lerner ซึ่งเป็นการสรุปจากหนังสือ “How Rich People Think” ของ Steve Siebold
------
(1) คนทั่วไปเน้นการออม คนรวยเน้นสร้างรายได้ -- ในปี 2012 คนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีรายได้ปีละ $38,000 ถ้าออมได้ 10% สิ้นปีเราก็จะมีเงินเหลือ $3,800 แต่เราจะไม่รวยขึ้นจริง ๆ จัง ๆ ขึ้นมาจากการทำแบบนั้น (เราต้องหารายได้ให้มากขึ้น) ... ความจริงแล้วคนรวยก็ออม แต่เขาเน้นที่การสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นก่อน ซึ่งสัดส่วนของเงินออมจะสูงขึ้นมาก (โดยเฉพาะถ้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่น้อยลง)
(2) คนทั่วไปมองการเริ่มธุรกิจส่วนตัวว่าเป็นความเสี่ยง แต่คนรวย (และคนที่มีโอกาสรวย) จะมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง – คนทั่วไปมองเงินมองด้วยสมการเส้นตรง เช่น สมมติทำงานได้ชั่วโมงละ $X ถ้ายอมทำงานเยอะขึ้น ก็จะได้เงินมากขึ้น แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดี ก็คิดว่าการเรียน MBA จะช่วยให้ได้เงินมากขึ้น (ก็จริง แต่ก็เป็นการมองแบบเส้นตรงเช่นกัน คือให้เวลากับการเรียน เพื่อสุดท้ายจะเอาวุฒิไปต่อรองรายได้ให้มากขึ้น) ... ส่วนคนรวยจะมองที่ไอเดีย โดยเฉพาะไอเดียที่จะช่วยแก้ปัญหา (และตอบโจทย์ความต้องการ) ของผู้คนได้ และทำเงินจากเรื่องเหล่านี้ ... แต่ถึงกระนั้น คนรวยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ไอเดียอย่างไม่ลืมหูลืมหา เขาจะศึกษาความเสี่ยงอย่างดีก่อนที่จะลงมือทำ
(3) คนทั่วไปมองเงินทองด้วยอารมณ์ แต่คนรวยจะมองด้วยเหตุผล – คนทั่วไปมักจะกลัวที่จะขาดทุน/เสียเงิน เมื่อจะทำอะไรใหม่ ๆ แต่คนรวย (และที่มีโอกาสรวย) จะมองเงินว่าเป็นเครื่องมือที่นำมาซึ่งทางเลือกและโอกาส
(4) คนทั่วไปตั้งเป้าหมายอย่างเลื่อนลอย แถมยังผัดวันประกันพรุ่ง ส่วนคนรวยจะตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและยืดมั่นจริงจังกับเส้นตาย – คนทั่วไปอาจลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแบบสะเปะสะปะ แต่คนรวยจะจดจ่อจริงจังอยู่กับธุรกิจเพียงอย่างเดียวที่กำลังปลุกปั้นอยู่ในตอนนั้น และทำทุก ๆ ทาง (ขอให้เป็นทางที่ชอบธรรม) เพื่อให้สำเร็จตามเวลาที่ตั้งใจไว้ (ถ้าทำงานแรกไม่สำเร็จซะที ยอมผัดไปเรื่อย ๆ ก็จะปิดโอกาสในการเริ่มทำงานต่อ ๆ)
(5) คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะที่แท้จริง แต่คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ – ถึงจะมีคนรวยมาก ๆ บางราย ที่แสดงการใช้ชีวิตอย่างสุดหรู (To be fair, อาจจะต่ำกว่าฐานะจริง ๆ ของเขาก็ได้ เช่น มีเงินพันล้านเหรียญ แต่ยังนั่งเฟิร์สคลาส ซึ่งก็หรูแล้วสำหรับคนทั่วไป ส่วนอีกคนมีร้อยล้านเหรียญ ก็มี private แล้ว) ... แต่คนรวยโดยทั่วไป ใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริง ... คนรวยส่วนใหญ่ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด – เพราะเราจะเห็นแต่คนชีวิตของคนรวยบางส่วนที่เขาแสดงให้เห็นต่อสาธารณะ ส่วนคนรวยที่รวยเงียบ ๆ เราก็จะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ไม่ใช่ไม่มีอยู่) จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบ พวกเขาต้องการอิสระทางการเงิน และจะไม่เป็นทาสของสิ่งต่าง ๆ
5 เรื่องที่คนรวยคิดไม่เหมือนกับคนทั่วไป
เนื้อหานี้แปลมาจากบทความ “5 Ways Rich People Think Differently From the Rest of Us” ของ Michele Lerner ซึ่งเป็นการสรุปจากหนังสือ “How Rich People Think” ของ Steve Siebold
------
(1) คนทั่วไปเน้นการออม คนรวยเน้นสร้างรายได้ -- ในปี 2012 คนอเมริกันโดยเฉลี่ยมีรายได้ปีละ $38,000 ถ้าออมได้ 10% สิ้นปีเราก็จะมีเงินเหลือ $3,800 แต่เราจะไม่รวยขึ้นจริง ๆ จัง ๆ ขึ้นมาจากการทำแบบนั้น (เราต้องหารายได้ให้มากขึ้น) ... ความจริงแล้วคนรวยก็ออม แต่เขาเน้นที่การสร้างรายได้ให้เพิ่มขึ้นก่อน ซึ่งสัดส่วนของเงินออมจะสูงขึ้นมาก (โดยเฉพาะถ้าใช้จ่ายเพิ่มขึ้นเป็นสัดส่วนที่น้อยลง)
(2) คนทั่วไปมองการเริ่มธุรกิจส่วนตัวว่าเป็นความเสี่ยง แต่คนรวย (และคนที่มีโอกาสรวย) จะมองเป็นเส้นทางสู่ฐานะที่มั่งคั่ง – คนทั่วไปมองเงินมองด้วยสมการเส้นตรง เช่น สมมติทำงานได้ชั่วโมงละ $X ถ้ายอมทำงานเยอะขึ้น ก็จะได้เงินมากขึ้น แม้แต่ผู้ที่มีการศึกษาดี ก็คิดว่าการเรียน MBA จะช่วยให้ได้เงินมากขึ้น (ก็จริง แต่ก็เป็นการมองแบบเส้นตรงเช่นกัน คือให้เวลากับการเรียน เพื่อสุดท้ายจะเอาวุฒิไปต่อรองรายได้ให้มากขึ้น) ... ส่วนคนรวยจะมองที่ไอเดีย โดยเฉพาะไอเดียที่จะช่วยแก้ปัญหา (และตอบโจทย์ความต้องการ) ของผู้คนได้ และทำเงินจากเรื่องเหล่านี้ ... แต่ถึงกระนั้น คนรวยก็ไม่ได้กระโดดเข้าใส่ไอเดียอย่างไม่ลืมหูลืมหา เขาจะศึกษาความเสี่ยงอย่างดีก่อนที่จะลงมือทำ
(3) คนทั่วไปมองเงินทองด้วยอารมณ์ แต่คนรวยจะมองด้วยเหตุผล – คนทั่วไปมักจะกลัวที่จะขาดทุน/เสียเงิน เมื่อจะทำอะไรใหม่ ๆ แต่คนรวย (และที่มีโอกาสรวย) จะมองเงินว่าเป็นเครื่องมือที่นำมาซึ่งทางเลือกและโอกาส
(4) คนทั่วไปตั้งเป้าหมายอย่างเลื่อนลอย แถมยังผัดวันประกันพรุ่ง ส่วนคนรวยจะตั้งเป้าหมายที่ชัดเจนและยืดมั่นจริงจังกับเส้นตาย – คนทั่วไปอาจลองทำอะไรหลาย ๆ อย่างแบบสะเปะสะปะ แต่คนรวยจะจดจ่อจริงจังอยู่กับธุรกิจเพียงอย่างเดียวที่กำลังปลุกปั้นอยู่ในตอนนั้น และทำทุก ๆ ทาง (ขอให้เป็นทางที่ชอบธรรม) เพื่อให้สำเร็จตามเวลาที่ตั้งใจไว้ (ถ้าทำงานแรกไม่สำเร็จซะที ยอมผัดไปเรื่อย ๆ ก็จะปิดโอกาสในการเริ่มทำงานต่อ ๆ)
(5) คนทั่วไปใช้ชีวิตเกินฐานะที่แท้จริง แต่คนรวยใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะ – ถึงจะมีคนรวยมาก ๆ บางราย ที่แสดงการใช้ชีวิตอย่างสุดหรู (To be fair, อาจจะต่ำกว่าฐานะจริง ๆ ของเขาก็ได้ เช่น มีเงินพันล้านเหรียญ แต่ยังนั่งเฟิร์สคลาส ซึ่งก็หรูแล้วสำหรับคนทั่วไป ส่วนอีกคนมีร้อยล้านเหรียญ ก็มี private แล้ว) ... แต่คนรวยโดยทั่วไป ใช้ชีวิตต่ำกว่าฐานะที่แท้จริง ... คนรวยส่วนใหญ่ (แต่ไม่ใช่ทั้งหมด – เพราะเราจะเห็นแต่คนชีวิตของคนรวยบางส่วนที่เขาแสดงให้เห็นต่อสาธารณะ ส่วนคนรวยที่รวยเงียบ ๆ เราก็จะไม่มีโอกาสได้เห็น แต่ไม่ใช่ไม่มีอยู่) จะไม่ไหลไปตามกระแสวูบวาบ พวกเขาต้องการอิสระทางการเงิน และจะไม่เป็นทาสของสิ่งต่าง ๆ