ก่อนอื่น จขกท ขอบอกว่าเพิ่งสมัครพันทิป สดๆซิงๆ แต่ชอบเข้ามาสิง เก็บข้อมูล
ก่อนไปญี่ปุ่น ก็มีมาแอบดูข้อมูลในห้องบลูวันล่ะหลายๆชม.ครับ
ผิดพลาดประการใด แนะนำติชมได้นะครับ อยากได้ข้อมูลอะไร หลังไมค์มาคุยได้ ยินดีตอบครับ
ผมจะขอโพสตารางเวลาที่ผมทำให้ดูก่อนนะครับ เผื่อใครจะเอาไปใช้ได้
ไม่ได้ถึงกับชะโงกทัวร์ แต่ผมเป็นพวกสนใจยืนดูไม่กี่อย่าง
ไม่ได้พินิจพิจารณาไปทุกอย่าง (เลือกที่รัก มักที่ชังว่างั้นเถอะ) เลยทำเวลาได้ค่อนข้างโอเค
อย่างเช่นตอนไปมกดกโลก ผมไปยืนดูแต่ต้นไม้ 555 โอ้ย ทำไมสูงให้แบบนี้ แต่คนอื่นไปดูวัด ความงามการแกะสลักอะไรแบบนี้อะคับ
**แต่เตือนไว้ว่า** ใครจะไปแบบผม นอนน้อยนะครับ ประมาณ 6 ชม.เห็นจะได้ และอาศัยหลับบนรถไฟ รสบัสเอา
พอถึงสถานที่เที่ยวต่างๆ ก็ไม่เพลียนะครับ กระดี้กระด้า คือนอนน้อย แต่ไม่เหนื่อย ไม่เพลียเลย ขนาดฝนตก 2 วันแรก
และขอเตือนอีกว่า ต้องตั้งนาฬิกาปลุกดีๆนะครับ เดี๋ยวจะนั่งเลย
เช่นไปเกียวโต 3 ชม. ถึง 10 โมง
ตอน 9.45 ต้องตั้งปลุกไว้เลย ตื่นมาเตรียมตัว เช็คของ เตรียมลงรถ เพราะประตูรถไฟ เปิดไม่นานนะครับ
มาเริ่มกันเลยครับ
Fri 25 OCT Bangkok-Narita-Odaiba
6.00 เครื่องออกจากสนามบบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน United Airline
14.15 ถึงนาริตะ แลก JR Pass นั่ง N'ex เข้าไปชินจุกุครับ (ตอนแลก Pass ก็จองชินคันเซ็นสำหรับวันไป เกียวโต และ นิกโก้ ไว้ด้วยครับ)
16.00 ถึงสถานีชินจุกุ (จอง Romance Car ไปฮาโกเน่ครับ คนล่ะเจ้ากับ JR) เช็คอินเข้าโรงแรม Shinjuku Washington Hotel
18.00 ออกไปโอไดบะ จุดหมายคือ Oedo Onsen
19.00 ถึง Oedo Onsen เปลี่ยนเป็นยูกาตะ เดินเที่ยวงานเหมือนหลุดเข้ามาสมัยเอโดะ ไปแช่ออนเซ็นให้สบายตัว ออกมากินข้าว
22.30 กลับโรงแรม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Sat 26 OCT Tokyo-Kamakura-Yokohama
7.00 ออกมาตลาดปลาซึกิจิ
8.00 ถึงตลาดปลา ลัลลา กินซูชิ กินซาชิมิ เดินซื้อผลไม้ องุ่นอร่อยมว๊ากกกก
10.00 ออกมาอาซาคุสะ
10.30 ถึงอาซาคุสะ ลัลล้า ถ่ายรูป เดินกินขนม ช้อปปิ้งถนนก่อนเข้าวัด ไหว้พระ ขอพร
12.00 ไปกินร้านลุงปลาไหล ตามรอยคุณ Skybox อร่อยมว๊ากกกก
13.00 ไป Kamakura
14.00 ถึง Kamakura ต่อรถไฟไปลง Gora เดินเล่นวัด ฮาเสะเดระ ไหว้เจ้าแม่กวนอิม เดินไปอีกหน่อย ไหว้พระใหญ่ไดบุสึ
16.30 กลับมาถึงสถานี Kamakura ไปโยโกฮาม่าต่อกันเลยฮู้ จุดหมายคือ Sea Paradise
18.00 ถึง Sea Paradise ได้บัตรราคาพิเศษรอบดึก เดินเล่นดูปลา หมีขั้วโลก แพนกวิน ดูโชว์แมวน้ำ โลมา ไปจับโลมา
22.00 กลับชินจุกุ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Sun 27 OCT Hakone นั่งกระเช้า กินไข่ดำ นั่งเรือโจรสลัด
8.00 จากสถานี้ชินจุกุ ขึ้น Romance Car ไป Hakone-Yumoto (ถ้านั่ง JR มาต้องต่อรถมาสถานี Hakone มา Hakone-Yumoto อีกที)
แนะนำให้หยิบแผนที่ Hakone มาด้วยที่ Information center ตรงที่ซื้อตั๋ว Romance Car มีภาษาไทย ใช้ประโยชน์ได้มาก
9.30 ถึง Hakone-Yumoto รีบข้ามมารางฝั่งตรงข้าม เพื่อนั่งรถรางต่อมา ขึ้นไปบนฮาโกเน่กัน (ใครไม่รีบ ยืนตลอดทางนะ เพราะรถรางคัน
เล็กๆ และคนแน่นมว๊ากก) แต่ก่อนถึงฮาโกเน่ ขอแวะ The Hakone Open-Air Museum กันก่อน
10.45 ลงสถานี Chokoku-no-Mori และเดินอีก 100 m ก็จะถึง The Hakone Open-Air Museum
The Hakone Open-Air Museum กว้างมาก เดินกัน 1.30 กันเลยทีเดียว มีที่ให้แช่น้ำร้อนเท้าแก้เมื่อยด้วย
มีผลงานของ Picasso กว่า 300 ชิ้นให้ชม อลังการฝุดๆ
12.30 ไปขึ้นกระเช้าไปกินไข่ดำกัน นั่งต่อมาจากสถานี Chokoku-no-Mori อีกสถานีเดียว
13.30 ว้าว วิวสวยมาก นั่งซัก 10 กว่านาที ถึงที่กินไข่ดำแล้ว ไม่ได้ขึ้นไปดูถึงที่เค้าต้มไข่ เพราะมันเหม็น กลัวกลิ่นติด แต่ซื้อไข่กินไป 5 ฟอง
15.00 กว่าจะช้อป ซื้อของฝาก กว่าจะแกะไข่กิน ถึงเวลาขึ้นกระเช้าลงไปทะเลสาบนั่งเรือ
15.30 ถึงเรือโจรสลัดแว้ว นั่งเรือ ชมวิว อากาศก็เย็น วิวสวย บรรยากาศดีชะมัด
16.15 ถึงท่าเรือ ต่อรถบัสกลับไปสถานี Hakone- Yumoto (วันที่ไปรถติดมาก แนะนำว่าถ้าเห็นแววรถติด ควรเปลี่ยนไปขึ้นสถานีรถราง
ที่ใกล้ที่สุด แล้วนั่งต่อไปสถานีรถไฟ จะไวกว่า)
18.00 ถึง Hakone-Yomoto นั่งกลับไปชินจุกุ
19.30 ถึงชินจุกุ ใครเหนื่อยกลับโรงแรม ใครไม่เหนื่อยเดินเที่ยวต่อ ผมไป Akihabara ไป Ikuburo ไปกินรางเม็งข้อสอบกันต่อ ยัน 5 ทุ่ม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Mon 28 OCT Kyoto-Osaka
6.00 ถึงชินจุกุแต่เช้า นั่ง JR ต่อไปสถานี Tokyo เพื่อไปขึ้น Shinkansen ไปเกียวโต
6.40 ไปเกียวโตโดย Shinkansen Hikari 2.30 นาทีถึงเกียวโต ใครจะซื้อเบนโตะไปกินบนรถไฟ ซื้อเลย อร่อยและมีให้เลือกมากกว่าบนรถ
10.20 ถึงเกียวโต ซื้อตั๋วรถบัสสำหรับ 1 วันกันเลย 500 เยน แล้วก็นั่งบัสที่ท่า D1 สาย 100 202 206 207 ไปวัดน้ำใสกัน
ลงป้าย Ginkakuji (ใครจะใช้รถไฟก็ได้ ตามสะดวก)
11.00 ถึงป้าย Ginkakuji ใช้กำลังขาเดินขึ้นเนินไปอีกนิดหน่อยก็ถึงบนวัด ระหว่างทางมีร้านค้าของกระจุกกระจิกมากมาย
11.30 ถึงวัดน้ำใส เดินเล่น ไหว้พระ ถ่ายรูป อยู่ที่นี่ก็ประมาณ 2 ชม.
13.30 ออกมาจากวัดน้ำใส ไปกินร้านชาเขียว 300 ปีกันก่อน โดยนั่งรถเมล์ไปลงสถานีตรงหน้า Kyoto Metropolis Hall หรือใครถนัดรถไฟ ใช้
รถไฟ (ผมเลือกรถไฟ ซื้อเพิ่ม เพราะคิดว่ารถเมล์กลัวเวลาไม่ทันไปที่อื่น)
14.30 กว่าจะหาพิกัดร้านเจอ กว่าจะเดินถึงร้านชาเขียว นั่งพักที่ร้านซึมซับบรรยากาศความเป็นเกียวโต โดนร้านสูบไป 2 ชม. บร๊ะเจ้า!
16.30 ไปที่อื่นไม่ทันแล้ว โดนร้านชาเขียวดูด ตอนแรกจะไปศาลเจ้าจิ้งจอก Y-Y เลยกลับไปสถานีรถไฟเกียวโต ไป Osaka กันต่อ
17.00 นั่งจากเกียวโตไปโอซาก้า ใช้เวลา 15 นาทีเท่านั้นเอง
17.15 ต่อรถจาก Shin-Osaka ไป Numba โดยรถไฟใต้ดิน (ถ้าใช้ JR จะอ้อม และไกลมาก) เดินเที่ยว ช้อป กินทาโกะยากิร้านดัง
แล้วกลับมา Shin-Osaka ให้ทัน 20.20 นะ เพราะรถกลับไป Tokyo จะหมดซะก่อน
19.45 ออกจาก Numba มา Shin-Osaka
20.20 ออกจาก Shin-Osaka ขึ้น Shinkansen เที่ยวสุดท้ายกลับมาโตเกียว ใช้เวลา 2.45 ชั่วโมง
23.00 ถึงโตเกียว ต่อรถไฟสาย Yamanote ไปชินจุกุ กลับโรงแรม นอนนนนน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Tue 29 OCT Nikko
6.00 มาถึงชินจุกุ ขึ้นรถไฟไปที่ Okayama เพื่อนั่ง Shinkansen ไป Utsunomiya และไป Nikko
7.30 นั่งยาวมาจนถึง Utsunomiya เมืองแห่งเกี๊ยวซ่า คาดว่าร้านเกี๊ยวซ่าชื่อดังนอกสถานียังไม่เปิด เลยไว้กินตอนขากลับ
นั่ง Local Line มา Nikko เลยยยยย ระหว่างทางใบไม้แดงมีกระหร่อมกระแหล่ม สวยมากกกกกกกก
7.45 ถึงนิกโก้ ไม่รู้คิดไปเองไหม อากาศหนาวเย็นกว่าในโตเกียว ชอบๆ ได้ใจมาก ซื้อ Nikko pass Yumoto-Onsen แพงสุด 3000 เยน
(ใครจะซื้อแบบ 2700 เยนก็ได้ไปแค่โซนน้ำตกก็ได้ แต่ จขกท กะว่าจะไปออนเซ็นเอ้าดอร์ข้างบนด้วย ได้ใจสุดๆ ไม่ผิดหวัง)
แล้วเดินขึ้นไปทางขวาของสถานีรถไฟอีกนิด จะเจอสถานีรถเมล์โทบุ กินซาลาเปาทอดร้านด้านนอกสถานี อร่อยกว่าเจ้าที่อาซาคุซะอีก
กินข้าวเติมพลัง มีร้านคิตตี้ด้วย
8.15 ขึ้นรถบัสถึงสะพาน Shinkyo ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เดินเล่นถ่ายรูป แล้วข้ามถนนไป World Heritage กันเลยยยย
9.00 เดินให้เมื่อยกันเล็กน้อย ก็จะถึง World Heritage ที่กว้างใหญ่ไพศาล อลังการงานสร้าง ต้นไม้ต้นบะเอ้กมาก ขนลุก
ใบไม้แดงก็เยอะกว่าข้างล่างมาก
12.00 เดินไปเลย 3 ชม. กว้าง ใหญ่ สวย เกินบรรยาย
12.30 ลงมานั่งบัสต่อไปนั่งกระเช้าชมวิวน้ำตกเคง่อน ปล.ใครคิดว่าจะนั่งกระเช้าขากลับ อดนะ เพราะมันเป็นวันเวย์ แต่ส่วนตัวถ้าใครคิดว่า
จะไปน้ำตกอยู่แล้ว ให้ไปเลย เพราะกระเช้าแค่ขึ้นไปดูวิว แล้วนั่งลงมาแค่นั้น
14.00 เสียเวลาไปกับการต่อคิวกระเช้าไป-กลับ 1 ชม. ขึ้นไปออนเซ็นต่อเลยล่ะกัน ไม่ดูล่ะน้ำตกเคง่อน หรือทะเลาสาบ เพราะเห็นจากบน
กระเช้าแล้ว และได้ข่าวว่ามันมืดเร็วซะด้วย
15.00 นั่งขึ้นไปสถานีสุดท้ายอีก 45 นาที จะถึง Yumoto-Onsen บนนี้ใบไม้แดงสวย แดงแจ้ด แดง แด้ง แดง วิวก็สวย สวยไปหมด
16.00 เดินหาที่แช่ออนเซ็น ฟ้าเริ่มมืด ได้มาที่นึงเป็นเรียวกังอยู่ข้างหลังๆหน่อย ลืมถามชื่อ แต่เค้าบอกว่าคนไทยมาบ่อย
ค่าเข้าคนล่ะ 1000 เยน O_o ถูกจัง บ่อเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ ได้กลิ่นก็รู้เลย น้ำไม่ใส มีตะกรันเกาะตามท่อที่น้ำไหล รู้เลยว่าแร่ธาตุเน้นๆ
มีทั้ง Indoor Outdoor แต่ช่วงที่เจ้าของกระทู้แช่ไม่ค่อยมีคน เลยถ่ายรูปมาฝากได้ ตอนนี้ 16.30 ฟ้ามืดสนิท
17.30 ออกมาจากออนเซ็น นั่งรถบัสกลับไป สถานีรถไฟ Nikko ยาวเลย 1.30 ชม.
19.00 นั่งจาก Nikko ไป Utsunomiya
19.30 ถึง Utsunomiya กินเกี๊ยวซ่านอกสถานี โอ้ย อร่อย คนเดียวเบิ้ลไป 2 กล่อง อุ๊บส์
20.30 กลับชินจุกุโดยชินคันเซ็นตามเส้นทางเดิม Utsunamika - Okayama - Shinjuku
22.00 กลับโรงแรม จัดกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าเช้าวันพรุ่งนี้ นอนพักผ่อน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Wen 30 OCT Tsukiji SkyTree Narita
6.00 ตื่นนอนมาเช็คเอ้าเลย ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วไปสถานีชินจุกุ ไปตลาดปลาอีกรอบ ติดใจปลาดิบ
และหาซื้อผลไม้กลับไทยด้วย สตรอเบอร์รี่ องุ่น ลูกพีช อร่อยยยยย ฟิน
6.40 ถึงซึกิจิ ต่อแถวกินปลาดิบ ร้าน Sushi Dai คิวยาววววววมว๊ากก อะไรกัน เช้าขนาดนี้
8.00 กว่าจะถึงคิว เลยเบิ้ลไป 2 ชุดเต็มๆ สะจายยย กว่าจะกินเสร็จ เดินซื้อผลไม้ต่อ
ปล.องุ่นพวงล่ะ 900 เยน ชาเขียวมัทฉะผง 3000 เยน แนะนำ เพราะมัน อร่อยมว๊ากกกก และถูกกว่าไทยเกินครึ่ง
9.30 ไป Sky Tree
10.00 ถึง Sky Tree เดินเล่น ช้อปปิ้ง ข้างล่าง ปล. ร้าน 100% Chocolate Cafe ช๊อกกาแลตเย็น/ร้อน อร่อยมว๊ากกกก อยู่ชั้น 4 นะ
12.00 ออกมาจาก Sky Tree กลับไปชินจุกุ จอง N'ex กลับไปนาริตะเลย แล้วไปเอากระเป๋าที่โรงแรม กลับมาที่สถานีนั่ง N'ex ไปนาริตะ
15.00 ถึงนาริตะ เช็คอิน โหลดกระเป่า เดินเล่น ข้างนอกแปปนึง เดินเข้าเกต เดินเล่น Duty Free ซื้อของฝาก รอ Boarding Time
18.10 ขึ้นเครื่องกลับไทย โดยสายการบิน United Airline
23.20 ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
**แก้ไขเพิ่มข้อควรระวังในการทำตามทริปนี้** 11/06/2013 4.46 pm
ปล.ภาพและวีดีโอในกระทู้นี้ ถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Note II ทั้งหมดนะครับ ผมมือสมัครเล่น แหะๆ
วันแรก 6 วัน 5 คืน แห่งความประทับใจ โตเกียว - เกียวโต - โอซาก้า - ฮาโกเน่ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - นิกโก้ (หัดรีวิว)
====>
http://ppantip.com/topic/31196104
วันที่ 2 PP-Kung รีวิว โตเกียว - เกียวโต - โอซาก้า - ฮาโกเน่ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - นิกโก้ 6 วันแห่งความประทับใจ - วันที่ 2
=====>
http://ppantip.com/topic/31196555
[CR] 6 วัน 5 คืน แห่งความประทับใจ โตเกียว - เกียวโต - โอซาก้า - ฮาโกเน่ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - นิกโก้ (หัดรีวิว)
ก่อนไปญี่ปุ่น ก็มีมาแอบดูข้อมูลในห้องบลูวันล่ะหลายๆชม.ครับ
ผิดพลาดประการใด แนะนำติชมได้นะครับ อยากได้ข้อมูลอะไร หลังไมค์มาคุยได้ ยินดีตอบครับ
ผมจะขอโพสตารางเวลาที่ผมทำให้ดูก่อนนะครับ เผื่อใครจะเอาไปใช้ได้
ไม่ได้ถึงกับชะโงกทัวร์ แต่ผมเป็นพวกสนใจยืนดูไม่กี่อย่าง
ไม่ได้พินิจพิจารณาไปทุกอย่าง (เลือกที่รัก มักที่ชังว่างั้นเถอะ) เลยทำเวลาได้ค่อนข้างโอเค
อย่างเช่นตอนไปมกดกโลก ผมไปยืนดูแต่ต้นไม้ 555 โอ้ย ทำไมสูงให้แบบนี้ แต่คนอื่นไปดูวัด ความงามการแกะสลักอะไรแบบนี้อะคับ
**แต่เตือนไว้ว่า** ใครจะไปแบบผม นอนน้อยนะครับ ประมาณ 6 ชม.เห็นจะได้ และอาศัยหลับบนรถไฟ รสบัสเอา
พอถึงสถานที่เที่ยวต่างๆ ก็ไม่เพลียนะครับ กระดี้กระด้า คือนอนน้อย แต่ไม่เหนื่อย ไม่เพลียเลย ขนาดฝนตก 2 วันแรก
และขอเตือนอีกว่า ต้องตั้งนาฬิกาปลุกดีๆนะครับ เดี๋ยวจะนั่งเลย
เช่นไปเกียวโต 3 ชม. ถึง 10 โมง
ตอน 9.45 ต้องตั้งปลุกไว้เลย ตื่นมาเตรียมตัว เช็คของ เตรียมลงรถ เพราะประตูรถไฟ เปิดไม่นานนะครับ
มาเริ่มกันเลยครับ
Fri 25 OCT Bangkok-Narita-Odaiba
6.00 เครื่องออกจากสนามบบินสุวรรณภูมิ โดยสายการบิน United Airline
14.15 ถึงนาริตะ แลก JR Pass นั่ง N'ex เข้าไปชินจุกุครับ (ตอนแลก Pass ก็จองชินคันเซ็นสำหรับวันไป เกียวโต และ นิกโก้ ไว้ด้วยครับ)
16.00 ถึงสถานีชินจุกุ (จอง Romance Car ไปฮาโกเน่ครับ คนล่ะเจ้ากับ JR) เช็คอินเข้าโรงแรม Shinjuku Washington Hotel
18.00 ออกไปโอไดบะ จุดหมายคือ Oedo Onsen
19.00 ถึง Oedo Onsen เปลี่ยนเป็นยูกาตะ เดินเที่ยวงานเหมือนหลุดเข้ามาสมัยเอโดะ ไปแช่ออนเซ็นให้สบายตัว ออกมากินข้าว
22.30 กลับโรงแรม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Sat 26 OCT Tokyo-Kamakura-Yokohama
7.00 ออกมาตลาดปลาซึกิจิ
8.00 ถึงตลาดปลา ลัลลา กินซูชิ กินซาชิมิ เดินซื้อผลไม้ องุ่นอร่อยมว๊ากกกก
10.00 ออกมาอาซาคุสะ
10.30 ถึงอาซาคุสะ ลัลล้า ถ่ายรูป เดินกินขนม ช้อปปิ้งถนนก่อนเข้าวัด ไหว้พระ ขอพร
12.00 ไปกินร้านลุงปลาไหล ตามรอยคุณ Skybox อร่อยมว๊ากกกก
13.00 ไป Kamakura
14.00 ถึง Kamakura ต่อรถไฟไปลง Gora เดินเล่นวัด ฮาเสะเดระ ไหว้เจ้าแม่กวนอิม เดินไปอีกหน่อย ไหว้พระใหญ่ไดบุสึ
16.30 กลับมาถึงสถานี Kamakura ไปโยโกฮาม่าต่อกันเลยฮู้ จุดหมายคือ Sea Paradise
18.00 ถึง Sea Paradise ได้บัตรราคาพิเศษรอบดึก เดินเล่นดูปลา หมีขั้วโลก แพนกวิน ดูโชว์แมวน้ำ โลมา ไปจับโลมา
22.00 กลับชินจุกุ
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Sun 27 OCT Hakone นั่งกระเช้า กินไข่ดำ นั่งเรือโจรสลัด
8.00 จากสถานี้ชินจุกุ ขึ้น Romance Car ไป Hakone-Yumoto (ถ้านั่ง JR มาต้องต่อรถมาสถานี Hakone มา Hakone-Yumoto อีกที)
แนะนำให้หยิบแผนที่ Hakone มาด้วยที่ Information center ตรงที่ซื้อตั๋ว Romance Car มีภาษาไทย ใช้ประโยชน์ได้มาก
9.30 ถึง Hakone-Yumoto รีบข้ามมารางฝั่งตรงข้าม เพื่อนั่งรถรางต่อมา ขึ้นไปบนฮาโกเน่กัน (ใครไม่รีบ ยืนตลอดทางนะ เพราะรถรางคัน
เล็กๆ และคนแน่นมว๊ากก) แต่ก่อนถึงฮาโกเน่ ขอแวะ The Hakone Open-Air Museum กันก่อน
10.45 ลงสถานี Chokoku-no-Mori และเดินอีก 100 m ก็จะถึง The Hakone Open-Air Museum
The Hakone Open-Air Museum กว้างมาก เดินกัน 1.30 กันเลยทีเดียว มีที่ให้แช่น้ำร้อนเท้าแก้เมื่อยด้วย
มีผลงานของ Picasso กว่า 300 ชิ้นให้ชม อลังการฝุดๆ
12.30 ไปขึ้นกระเช้าไปกินไข่ดำกัน นั่งต่อมาจากสถานี Chokoku-no-Mori อีกสถานีเดียว
13.30 ว้าว วิวสวยมาก นั่งซัก 10 กว่านาที ถึงที่กินไข่ดำแล้ว ไม่ได้ขึ้นไปดูถึงที่เค้าต้มไข่ เพราะมันเหม็น กลัวกลิ่นติด แต่ซื้อไข่กินไป 5 ฟอง
15.00 กว่าจะช้อป ซื้อของฝาก กว่าจะแกะไข่กิน ถึงเวลาขึ้นกระเช้าลงไปทะเลสาบนั่งเรือ
15.30 ถึงเรือโจรสลัดแว้ว นั่งเรือ ชมวิว อากาศก็เย็น วิวสวย บรรยากาศดีชะมัด
16.15 ถึงท่าเรือ ต่อรถบัสกลับไปสถานี Hakone- Yumoto (วันที่ไปรถติดมาก แนะนำว่าถ้าเห็นแววรถติด ควรเปลี่ยนไปขึ้นสถานีรถราง
ที่ใกล้ที่สุด แล้วนั่งต่อไปสถานีรถไฟ จะไวกว่า)
18.00 ถึง Hakone-Yomoto นั่งกลับไปชินจุกุ
19.30 ถึงชินจุกุ ใครเหนื่อยกลับโรงแรม ใครไม่เหนื่อยเดินเที่ยวต่อ ผมไป Akihabara ไป Ikuburo ไปกินรางเม็งข้อสอบกันต่อ ยัน 5 ทุ่ม
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Mon 28 OCT Kyoto-Osaka
6.00 ถึงชินจุกุแต่เช้า นั่ง JR ต่อไปสถานี Tokyo เพื่อไปขึ้น Shinkansen ไปเกียวโต
6.40 ไปเกียวโตโดย Shinkansen Hikari 2.30 นาทีถึงเกียวโต ใครจะซื้อเบนโตะไปกินบนรถไฟ ซื้อเลย อร่อยและมีให้เลือกมากกว่าบนรถ
10.20 ถึงเกียวโต ซื้อตั๋วรถบัสสำหรับ 1 วันกันเลย 500 เยน แล้วก็นั่งบัสที่ท่า D1 สาย 100 202 206 207 ไปวัดน้ำใสกัน
ลงป้าย Ginkakuji (ใครจะใช้รถไฟก็ได้ ตามสะดวก)
11.00 ถึงป้าย Ginkakuji ใช้กำลังขาเดินขึ้นเนินไปอีกนิดหน่อยก็ถึงบนวัด ระหว่างทางมีร้านค้าของกระจุกกระจิกมากมาย
11.30 ถึงวัดน้ำใส เดินเล่น ไหว้พระ ถ่ายรูป อยู่ที่นี่ก็ประมาณ 2 ชม.
13.30 ออกมาจากวัดน้ำใส ไปกินร้านชาเขียว 300 ปีกันก่อน โดยนั่งรถเมล์ไปลงสถานีตรงหน้า Kyoto Metropolis Hall หรือใครถนัดรถไฟ ใช้
รถไฟ (ผมเลือกรถไฟ ซื้อเพิ่ม เพราะคิดว่ารถเมล์กลัวเวลาไม่ทันไปที่อื่น)
14.30 กว่าจะหาพิกัดร้านเจอ กว่าจะเดินถึงร้านชาเขียว นั่งพักที่ร้านซึมซับบรรยากาศความเป็นเกียวโต โดนร้านสูบไป 2 ชม. บร๊ะเจ้า!
16.30 ไปที่อื่นไม่ทันแล้ว โดนร้านชาเขียวดูด ตอนแรกจะไปศาลเจ้าจิ้งจอก Y-Y เลยกลับไปสถานีรถไฟเกียวโต ไป Osaka กันต่อ
17.00 นั่งจากเกียวโตไปโอซาก้า ใช้เวลา 15 นาทีเท่านั้นเอง
17.15 ต่อรถจาก Shin-Osaka ไป Numba โดยรถไฟใต้ดิน (ถ้าใช้ JR จะอ้อม และไกลมาก) เดินเที่ยว ช้อป กินทาโกะยากิร้านดัง
แล้วกลับมา Shin-Osaka ให้ทัน 20.20 นะ เพราะรถกลับไป Tokyo จะหมดซะก่อน
19.45 ออกจาก Numba มา Shin-Osaka
20.20 ออกจาก Shin-Osaka ขึ้น Shinkansen เที่ยวสุดท้ายกลับมาโตเกียว ใช้เวลา 2.45 ชั่วโมง
23.00 ถึงโตเกียว ต่อรถไฟสาย Yamanote ไปชินจุกุ กลับโรงแรม นอนนนนน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Tue 29 OCT Nikko
6.00 มาถึงชินจุกุ ขึ้นรถไฟไปที่ Okayama เพื่อนั่ง Shinkansen ไป Utsunomiya และไป Nikko
7.30 นั่งยาวมาจนถึง Utsunomiya เมืองแห่งเกี๊ยวซ่า คาดว่าร้านเกี๊ยวซ่าชื่อดังนอกสถานียังไม่เปิด เลยไว้กินตอนขากลับ
นั่ง Local Line มา Nikko เลยยยยย ระหว่างทางใบไม้แดงมีกระหร่อมกระแหล่ม สวยมากกกกกกกก
7.45 ถึงนิกโก้ ไม่รู้คิดไปเองไหม อากาศหนาวเย็นกว่าในโตเกียว ชอบๆ ได้ใจมาก ซื้อ Nikko pass Yumoto-Onsen แพงสุด 3000 เยน
(ใครจะซื้อแบบ 2700 เยนก็ได้ไปแค่โซนน้ำตกก็ได้ แต่ จขกท กะว่าจะไปออนเซ็นเอ้าดอร์ข้างบนด้วย ได้ใจสุดๆ ไม่ผิดหวัง)
แล้วเดินขึ้นไปทางขวาของสถานีรถไฟอีกนิด จะเจอสถานีรถเมล์โทบุ กินซาลาเปาทอดร้านด้านนอกสถานี อร่อยกว่าเจ้าที่อาซาคุซะอีก
กินข้าวเติมพลัง มีร้านคิตตี้ด้วย
8.15 ขึ้นรถบัสถึงสะพาน Shinkyo ไม่ไกลจากสถานีรถไฟมาก เดินเล่นถ่ายรูป แล้วข้ามถนนไป World Heritage กันเลยยยย
9.00 เดินให้เมื่อยกันเล็กน้อย ก็จะถึง World Heritage ที่กว้างใหญ่ไพศาล อลังการงานสร้าง ต้นไม้ต้นบะเอ้กมาก ขนลุก
ใบไม้แดงก็เยอะกว่าข้างล่างมาก
12.00 เดินไปเลย 3 ชม. กว้าง ใหญ่ สวย เกินบรรยาย
12.30 ลงมานั่งบัสต่อไปนั่งกระเช้าชมวิวน้ำตกเคง่อน ปล.ใครคิดว่าจะนั่งกระเช้าขากลับ อดนะ เพราะมันเป็นวันเวย์ แต่ส่วนตัวถ้าใครคิดว่า
จะไปน้ำตกอยู่แล้ว ให้ไปเลย เพราะกระเช้าแค่ขึ้นไปดูวิว แล้วนั่งลงมาแค่นั้น
14.00 เสียเวลาไปกับการต่อคิวกระเช้าไป-กลับ 1 ชม. ขึ้นไปออนเซ็นต่อเลยล่ะกัน ไม่ดูล่ะน้ำตกเคง่อน หรือทะเลาสาบ เพราะเห็นจากบน
กระเช้าแล้ว และได้ข่าวว่ามันมืดเร็วซะด้วย
15.00 นั่งขึ้นไปสถานีสุดท้ายอีก 45 นาที จะถึง Yumoto-Onsen บนนี้ใบไม้แดงสวย แดงแจ้ด แดง แด้ง แดง วิวก็สวย สวยไปหมด
16.00 เดินหาที่แช่ออนเซ็น ฟ้าเริ่มมืด ได้มาที่นึงเป็นเรียวกังอยู่ข้างหลังๆหน่อย ลืมถามชื่อ แต่เค้าบอกว่าคนไทยมาบ่อย
ค่าเข้าคนล่ะ 1000 เยน O_o ถูกจัง บ่อเป็นน้ำแร่ธรรมชาติ ได้กลิ่นก็รู้เลย น้ำไม่ใส มีตะกรันเกาะตามท่อที่น้ำไหล รู้เลยว่าแร่ธาตุเน้นๆ
มีทั้ง Indoor Outdoor แต่ช่วงที่เจ้าของกระทู้แช่ไม่ค่อยมีคน เลยถ่ายรูปมาฝากได้ ตอนนี้ 16.30 ฟ้ามืดสนิท
17.30 ออกมาจากออนเซ็น นั่งรถบัสกลับไป สถานีรถไฟ Nikko ยาวเลย 1.30 ชม.
19.00 นั่งจาก Nikko ไป Utsunomiya
19.30 ถึง Utsunomiya กินเกี๊ยวซ่านอกสถานี โอ้ย อร่อย คนเดียวเบิ้ลไป 2 กล่อง อุ๊บส์
20.30 กลับชินจุกุโดยชินคันเซ็นตามเส้นทางเดิม Utsunamika - Okayama - Shinjuku
22.00 กลับโรงแรม จัดกระเป๋า เตรียมเช็คเอ้าเช้าวันพรุ่งนี้ นอนพักผ่อน
-------------------------------------------------------------------------------------------------------------------
Wen 30 OCT Tsukiji SkyTree Narita
6.00 ตื่นนอนมาเช็คเอ้าเลย ฝากกระเป๋าไว้ที่โรงแรม แล้วไปสถานีชินจุกุ ไปตลาดปลาอีกรอบ ติดใจปลาดิบ
และหาซื้อผลไม้กลับไทยด้วย สตรอเบอร์รี่ องุ่น ลูกพีช อร่อยยยยย ฟิน
6.40 ถึงซึกิจิ ต่อแถวกินปลาดิบ ร้าน Sushi Dai คิวยาววววววมว๊ากก อะไรกัน เช้าขนาดนี้
8.00 กว่าจะถึงคิว เลยเบิ้ลไป 2 ชุดเต็มๆ สะจายยย กว่าจะกินเสร็จ เดินซื้อผลไม้ต่อ
ปล.องุ่นพวงล่ะ 900 เยน ชาเขียวมัทฉะผง 3000 เยน แนะนำ เพราะมัน อร่อยมว๊ากกกก และถูกกว่าไทยเกินครึ่ง
9.30 ไป Sky Tree
10.00 ถึง Sky Tree เดินเล่น ช้อปปิ้ง ข้างล่าง ปล. ร้าน 100% Chocolate Cafe ช๊อกกาแลตเย็น/ร้อน อร่อยมว๊ากกกก อยู่ชั้น 4 นะ
12.00 ออกมาจาก Sky Tree กลับไปชินจุกุ จอง N'ex กลับไปนาริตะเลย แล้วไปเอากระเป๋าที่โรงแรม กลับมาที่สถานีนั่ง N'ex ไปนาริตะ
15.00 ถึงนาริตะ เช็คอิน โหลดกระเป่า เดินเล่น ข้างนอกแปปนึง เดินเข้าเกต เดินเล่น Duty Free ซื้อของฝาก รอ Boarding Time
18.10 ขึ้นเครื่องกลับไทย โดยสายการบิน United Airline
23.20 ถึงสุวรรณภูมิโดยสวัสดิภาพ
**แก้ไขเพิ่มข้อควรระวังในการทำตามทริปนี้** 11/06/2013 4.46 pm
ปล.ภาพและวีดีโอในกระทู้นี้ ถ่ายจากกล้อง Samsung Galaxy Note II ทั้งหมดนะครับ ผมมือสมัครเล่น แหะๆ
วันแรก 6 วัน 5 คืน แห่งความประทับใจ โตเกียว - เกียวโต - โอซาก้า - ฮาโกเน่ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - นิกโก้ (หัดรีวิว)
====> http://ppantip.com/topic/31196104
วันที่ 2 PP-Kung รีวิว โตเกียว - เกียวโต - โอซาก้า - ฮาโกเน่ - คามาคุระ - โยโกฮาม่า - นิกโก้ 6 วันแห่งความประทับใจ - วันที่ 2
=====> http://ppantip.com/topic/31196555